วันที่ฟีฟ่ารอคอยก็มาถึง วันที่เข้าต้องไปดูที่ดินกับไอโซนัทเพียงสองคน แต่แล้วความฝันนั้นได้พังทลาย เพราะยศพ่อของเขาให้ไนท์ไปเป็นเพื่อน
“พ่อฟีฟ่าไปคนเดียวก็ด้ ทำไมต้องให้ไนท์ไปด้วยล่ะ”
“จะไปสองคนได้ไง ที่ดินของเราอยู่ไกล กว่าจะกลับมาก็มืดค่ำแล้ว มีไอ้ไนท์ไอด้วยพ่อจะได้วางใจ”
“พี่นัทก็ไปด้วยนี่ครับ”
“พ่อไม่ค่อยคุ้นเคยกับเขาสักเท่าไร พ่อไม่อยากให้ไปกันสองคน พ่อพูดคำไหนก็ต้องเป็นคำนั้น ถ้าเชื่อพ่อทุกอย่างจะดีเอง”
“ก็ได้ครับพ่อ”
“นั่นไงคุณนัทของลูกมาแล้ว”หนิงแม่ของฟีฟ่าพูดขึ้นทันที ที่เห็นรถของหรูของไอโซนัทขับเข้ามาภายในบ้าน
“แล้วไหนคนดีของพ่อล่ะ ยังไม่เห็นมาเลย”ฟีฟ่ามองหาไนท์
“มาแล้วครับ ผมรออยู่ที่ประตูรั้วข้างบ้าน รอให้ไอโซนัทมาก่อนผมค่อยมาโชว์ตัว”ไนท์เดินยิ้มร่ามาหาฟีฟ่า
“นกรู้”ฟีฟ่าพูดขึ้นลอยๆ
“สวัสดีครับคุณอาทั้งสองและน้องฟีฟ่าด้วยนะ”ไอโซนัทยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เราไปกันเลยไหมน้องฟีฟ่า ผมขออนุญาตพาฟีฟ่าไปด้วยนะครับคุณอา”
“เดี๋ยวก่อน อีกคนยังไม่มาเลย”ยศพูดขึ้น
“ใครอีกล่ะ”ฟีฟ่าเสียงสูงนิดนึง
“คนขับรถซิ”
“ก็พี่นัทไง”
“คุณนัทเขาไม่ชำนาญทางหรอก พ่อเตรียมคนขับรถไว้แล้ว เขาเป็นลูกชายคนที่พ่อรู้จัก”
“ใครกันอีกครับพ่อ”
“โน้นมาแล้ว”
ทุกสายตามองรถบิ๊กไบค์คันงาม ที่กำลังแล่นเข้ามาจอดในบ้าน เพียงชายหนุ่มบิ๊กไบค์ถอดหมวกกันน็อคออก ฟีฟ่าถึงกับอุทาน
“ช่างกัน”
“ใช่ช่างกัน ถ้ามีช่างซ่อมไปด้วยพ่อจะได้วางใจ ความปลอดภัยของลูก”ยศยิ้ม แต่ไอโซนัทหน้าบอกบุญไม่รับ แต่ต้องรีบเปลื่ยนเป็นรับบุญทันที
“ว่าไงคุณนัท ไปกันหลายๆคนจะได้ปลอดภัย มีอะไรคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
“ครับ คุณอารอบคอบมากเลยครับ สงสัยจะห่วงและหวงลูกชายมาก”
“ใช่ อามีลูกชายคนเดียวต้องดูแลอย่างดี”
“หวัดดีคุณอา”ช่างกันเพียงแต่พูดเขาไม่ได้ยกมือไหว้ยศ
“มากันครบแล้ว ถ้างั้นก็ไปกันได้เลย เอารถของพ่อไป”ไอโซนัทมองตามนิ้วมือของยศ ซึ่งเขาก็เห็นรถสี่ประตู ที่พร้อมสมบุกสมบันอย่างที่ยศบอกไม่มีผิดเพี้ยน
“ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวจะสายไปกว่านี้”ยศยื่นกุญแจรถให้ช่างกัน
ช่างกันรับกุญแจรถมาไว้แล้วรีบเดินไปเปิดประตู และเข้าไปในรถทันที ส่วนฟีฟ่าเดินหน้าบูดขึ้นฝั่งตรงข้ามช่างกัน ไอโซนัทจะนั่งข้างหลังฟีฟ่า แต่ไม่ทันเพราะไนท์รีบขึ้นมานั่งก่อน เขาไอโซนัทเลยต้องไปนั่งหลังคนขับ
“ถ้าออกนอกตัวกรุงเทพ มึงบอกกูด้วยนะว่าไปทางไหน”
“นึกว่ารู้ทางแล้วซะอีก แบบนี้มาเป็นคนขับรถได้อย่างไง”ไอโซนัทพูดเสียงราบเรียบ
“ต้องถามพ่อฟีฟ่าดูซิ ทำไมให้กูขับรถให้พวกมึงนั่ง”
“พูดก็ไม่เพราะ”ไอโซนัทบ่นพึมพำ
“ถ้าทนฟังไม่ได้ก็เอาอะไรอุดหูซะ”
“เอาทิชชูไหม”ไนท์หยิบทิชชูให้ไอโซนัท
“เงียบทั้งหมดเลย จะพูดอะไรกันนักหนา”ฟีฟ่าทนฟังอยู่นาน จนเขารู้สึกรำคาญที่สามหนุ่มพูดคุยกันเรื่องไร้สาระ
“อยากจะเห็นที่ดินของพ่อพี่ฟีฟ่าแล้วซินะ ว่าแต่อยู่ไกลไหมครับพี่ฟีฟ่า”ไนท์พยายามที่จะชวนฟีฟ่าพูดคุย
“ก็”ฟีฟ่ายังไม่ทันพูดอะไร
“ถามมาได้มันก็ต้องไกลซิ”ช่างกันพูดเสียงห้วน
ไอโซนัทแอบยิ้มเพราะถูกใจในคำตอบของช่างกัน เพราะเขายังหมั่นไส้ไนท์ยังไม่หายที่เอาทิชชูยื่นให้เขา
“ก็ไม่รู้นี่ครับ ผมก็ต้องถามพี่ฟีฟ่าซิ พี่ช่างซ่อมตอบแทนทำไม มีหน้าที่ขับรถก็ขับไป”
“กูชื่อกัน”ช่างกันพูดห้วนๆ
“ผมไม่ได้ถามชื่อพี่ซักหน่อย และก็ไม่อยากรู้จักด้วย”
“มึงจำไว้นะ ถ้ารถมึงสียอย่ามาซ่อมอู่กูก็แล้วกัน”
“ผมเรียนอยู่ครับ ผมไม่มีรถหรอก ถ้าผมเรียนจบก็คงจะไปอยู่ที่อื่น เพราะแถวนี้มลภาวะเป็นพิษ”
“ไอ้ไอโซ มึงว่าไง ไอ้หน้าอ่อนบอกมึงเป็นมลภาวะเป็นพิษ”
“ว่าช่างไม่ใช่เหรอ ไม่เกี่ยวกับผมซักหน่อย”
“เกี่ยวซิ ก็มึงนั่งอยู่ข้างๆไอ้หน้าอ่อนนี่ มันก็ต้องเป็นมึงอยู่แล้ว”ช่างกันแอบหัวเราะนิดดๆ
“ผมชื่อไนท์ ไม่ใช่ไอ้หน้าอ่อน”
“ใครถามมึง”
“ผมอยากตอบ”
“กูไม่อยากฟัง”
“หาอะไรอุดหูซิ”
“มึงพูดแบบนี้หาเรื่องเหรอไอ้หน้าอ่อน”ช่างกันเบรกรถกะทันหัน
“โอ๊ย จะทะเลาะอะไรกันอยู่นั่นแหละ น้องไนท์ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ช่างก็เหมือนกัน น้องไนท์มันยังเด็กอยู่ แล้วช่างก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไปต่อล้อต่อเถียงกับเด็กมันทำไม”
“ออกรับแทน สงสัยชอบเด็ก”ช่างกันพูดขึ้น
“ใครๆก็ชอบกินเด็กๆทั้งนั้นแหละจะได้เป็นอมตะ กินรุ่นเดียวกันอายุสั้นลง”ฟีฟ่าหันไปมองช่างกัน
“กินรุ่นเดียวกันอายุสั้น ถ้ากินแก่กว่านี่แก่ตามเลยใช่ไหม”ช่างกันหัวเราะ
“คนแก่หนังเหนียวกินยาก ”ไนท์ชำเลืองมองไอโซนัท
“ถ้าเจอคนแก่แบบมีคุณภาพ คุณสมบัติพร้อม สบายไปตลอดชาติ ถ้าไปได้เด็ก กว่าจะโตเราแก่ก่อน เผลอๆต้องสอนทุกเรื่อง และอีกอย่างถ้าเจอพวกชาวเกาะ ถึงกับหมดเนื้อหมดตัวได้เลยนะ ถ้าได้รุ่นเดียวแต่หน้าแก่เกินวัย เดินไปไหนเขานึกว่าเป็นลุงกับหลาน”
“พอ หยุดพูดทุกคนเลย”ฟีฟ่าหันหลังไปมองไนท์กับไอโซนัท และหันกลับมามองช่างกัน ที่เขาอยากจะตบบ้องหูซะที เพราะทำหน้าทำตากวนประสาทฟีฟ่าอย่างมาก
เมื่อคลื่นอารมณ์ของสามหนุ่มสงบลง ฟีฟ่าค่อนข้างสบายหูและสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ฟีฟ่านั้นแอบเคืองพ่อของเขาอยู่ไม่นอน ที่เลือกคนมาด้วยล้วนเคยโต้ฝีปากกันมาอยู่หลายครั้ง แต่ฟีฟ่าก็ได้แต่ทำใจเพราะเขาไม่เคยขัดใจพ่อของเขาแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งสี่คนนั่งเงียบจนมาถึงที่หมายปลายทาง ซึ่งพื้นที่กว้างประมาณสิบไร่ อยู่ชานเมืองแต่เป็นชานเมืองในจังหวัดที่ค่อนข้างใหญ่
“ถึงแล้วครับ พี่นัท” ฟีฟ่าหันหลังไปมองไอโซนัท
“ขนาดดูจากในรถที่ดินยังสวยขนาดนี้เลย เดี๋ยวพี่ต้องรีบลงไปดูแล้วแหละ”ไอโซนัทลงจากรถทันที ส่วนฟีฟ่าก็รีบลงตามไปติดๆ
“พ่อหนุ่มตาทิพย์”ช่างกันพูดขึ้นหลังจากไอโซนัทลงจากรถ แต่ยังไม่ทันได้ปิดประตู
“อาจจะหูทิพย์ด้วยก็ได้นะช่างกัน ระวังเขาได้ยินหรอก”
“ยุ่งอะไรด้วยพ่อปากทิพย์”
“ไม่ได้ยุ่งหรอกเตือนต่างหาก”
“ก่อนที่จะเตือนคนอื่น น่าจะเตือนตัวเองก่อนไหม เป็นแค่นักศีกษา งานการยังไม่ได้ทำ จะเอาอะไรไปสู้เขา ดูโน้นกระหนุงกระหนิงเชียว”
“แต่อย่างน้อยผมก็หน้าอ่อนกว่าช่างก็แล้วกัน ไม่ได้หน้าไปก่อนวัยอย่างใครบางคน”
“ปากดีนะมึงน่ะ”
“เชิญช่างพล่ามไปคนเดียวก่อนเถอะ เอ่อ ใช่สิ เป็นแค่คนขับรถก็ต้องนั่งรอเจ้านายอยู่ในรถเดี๋ยวผมลงไปดูที่ดินกับพี่ฟีฟ่าก่อนนะครับ”
ไนท์รีบลงจากรถทันที ปล่อยให้ช่างกันอ้าปากค้างเพราะกำลังจะด่าไนท์ต่อ แต่ก็ไมทันการณ์ เขาจึงต้องลงตามไปดูด้วยอีกคน ทั้งๆที่เขาก็ไม่ได้ใคร่สนใจอยากรู้อยากเห็นแม้แต่น้อย
ไอโซนัทยืนเคียงคู่กับฟีฟ่าอย่างกับคู่รัก ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนแรง ไอโซนัทชี้มือไปทางซ้ายทางขวาตรงหน้า ส่วนฟีฟ่าก็มองตามอย่างยินดี ไนท์เดินลงมาจากรถและได้เห็นภาพตรงหน้าเขารู้สึกจุกที่หัวใจ ตอนแรกไนท์ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับฟีฟ่า แค่แกล้งฟีฟ่าเล่นเฉยๆเพราะฟีฟ่ามีความน่ารักใสๆ แต่ในช่วงเวลานี้ความคิดที่จะแกล้งเปลื่ยนเป็นความรู้สึกดีๆและแอบหวง ที่ฟีฟ่าอยู่ใกล้ชิดไอโซนัทมากจนเกินไป
ในส่วนของช่างกันยืนมองไนท์ ที่กำลังมองไอโซนัทกับฟีฟ่า เขาพลางคิดไปว่าไอ้เด็กนี่น่าจะแอบชอบฟีฟ่าอย่างแน่นอน แต่ความรู้สึกนั้นได้แปรเปลื่ยนตามภาพตรงหน้า ที่ไอโซนัทกับฟีฟ่ายืนเคียงข้างกันอย่างกับคู่รัก ในระยะแรกกันค่อนข้างจะรำคาญฟีฟ่าที่ดูหน้าหวาน ท่าทางไม่เหมือนชายแท้อย่างเขา แต่เมื่อได้ใกล้ชิดและเจอบ่อยๆ ความรู้สึกนั้นได้จางหายไปหมด แต่กลับได้ความรู้สึกเอ็นดูรักใคร่ในความใสของฟีฟ่ามาแทน ยิ่งท่าเดินทางการยิ้มและพูดจา ที่มองไปทางไหนก็น่ารักไปหมด ช่างกันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าความคิดนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรและตอนไหนที่เขาเผลอใจไปแอบชอบฟีฟ่า