งานรีวิวบ้านจัดสรรพผ่านไปด้วยดี ซึ่งในตอนค่ำได้มีนัดสังสรรค์ทีมงาน และบรรดาเพื่อนของไอโซนัท ทางครอบครัวของยศให้ฟีฟ่าไปคนเดียว ทีแรกยศก็ไม่อยากให้ไปแต่ฟีฟ่าขอร้องจนยศใจอ่อน เมื่อฟีฟ่ามาในงานก็พบกับความตื่นตาตื่นใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาในงานสังคมอีกระดับหนึ่ง
“น้องฟีฟ่ามาพอดีเลย เดี๋ยวพี่จะแนะนำเพื่อนพี่ให้รู้จัก”ไอโซนัทจับมือของฟีฟ่าและดึงมาหาเพื่อนๆของเขา ซึ่งมีแต่คนระดับลูกหลานไอโซร้อยล้านถึงพันล้านบางคนหมื่นล้าน
“น้องฟีฟ่าหวัดดีพี่เขาซิ เพื่อนพี่ทั้งนั้นเลย”
“สวัสดีครับ”ฟีฟ่ายกมือไหว้ ยิ้มแบบฝืนๆเพราะการแต่งตัวแต่ละคนหรูหรามาก ทั้งตัวมีแต่แบรนด์เนม ส่วนฟีฟ่ามองตัวเองก็เสื้อผ้าขึ้นห้างเหมือนกัน แค่หลักพันเท่านั้นไม่ถึงหมื่นถึงแสนอย่างเพื่อนไอโซนัท
“น้องฟีฟ่าน่ารักสมคำบอกเล่าของนายจริงๆ”เพื่อนคนหนึ่งของไอโซนัทพูดขึ้น
“แน่นอนอยู่แล้ว”ไอโซนัทกอดคอฟีฟ่าไว้
“แล้วน้องฟีฟ่าทำงานอะไรเหรอครับ”
“น้องเขาเป็นบรรณารักษ์ที่ห้องสมุดในมหาวิทยาลัยน่ะ”ไอโซนัทตอบแทน
“พี่ก็นึกว่าน้องฟีฟ่าทำธุรกิจ หรือ ไม่ก็ช่วยคุณพ่อทำธุรกิจ แต่เป็นบรรณารักษ์ก็ดีน่ะ ได้อยู่กับนักศึกษาจึงทำให้ฟีฟ่าหน้าเด็กเหมือนนักศึกษาไปด้วยเลย”
“ครับ”ฟีฟ่ายิ้มอย่างเดียว
“คุณพ่อคุณแม่น้องฟีฟ่าทำงานอะไรครับ”เพื่อนคนหนึ่งของนัทถามฟีฟ่า
“คุณพ่อน้องฟีฟ่าเป็นโค้ชว่ายน้ำทีมชาติน่ะ อดีตก็เป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติเหมือนกัน ส่วนคุณแม่น้องฟีฟ่าเป็นแม่บ้าน”ไอโซนัทตอบแทนอีกครั้ง
“พี่ก็นึกว่าพ่อของน้องนัททำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง แต่ก็ดีไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก”
“ไม่รับผิดชอบอะไร มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่กว่าพวกเราอีกนะ เราแค่ทำเพื่อตัวเองแต่พ่อของฟีฟ่าทำเพื่อประเทศชาติ”ไอโซนัทหันหน้ามายิ้มให้ฟีฟ่า ซึ่งฟีฟ่าก็ยิ้มฝืนๆอีกครั้ง
“ทำไมน้องฟีฟ่าไม่พูดกับพวกเราเลยล่ะ”
“น้องฟีฟ่าเป็นคนไม่คอยพูด”ไอโซนัทพูดแทนอีก
“นัทนายน่ะแย่งน้องฟีฟ่าพูดหมด เราไม่แย่งนายหรอก แหมหวงของเล่นคนใหม่เหลือเกิน”เพื่อนไอโซนัทคนหนึ่งพูดขึ้น
“ไม่ใช่ของเล่นนะ นายพูดดีดีคนนี้เราจริงจัง”ไอโซนัทมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
“ล้อเล่นนะ พูดแค่นี้ทำเป็นจริงจังไปได้”
“เรื่องแบบนี้มาล้อเล่นไม่ได้นะ เรากับฟีฟ่าเสียหายรู้ไหม”
“โอเค เราขอโทษนายก็แล้วกัน ใครจะไปแย่งนายไม่ใช่สเปคเราเลย”
ฟีฟ่าฟังคำพูดของเพื่อนไอโซนัท ใจของเราสั่นไหวอยากจะหนีหายออกไปจากที่นี่ ฟีฟ่าคิดว่าไม่น่ามาให้คนดูถูกเหยียดหยามเลย แต่เขาก็เข้าใจและซึ้งในน้ำใจของไอโซนัท ที่พยายามแก้ต่างและพูดแทนเขาทุกอย่าง
“ฟีฟ่าอย่าไปสนใจพวกนี้เลยนะ พวกมันก็พูดไปเรื่อยๆนั่นแหละ”
“ใช่ พวกพี่ก็พูดไปเรื่อยตามภาษาของพวกเรา น้องฟีฟ่าอย่าโกรธพวกพี่เลยนะ”
“ครับ”ฟีฟ่ายิ้มฝืนๆ
“เอ่อ นัทได้ข่าวว่านายจะทำบ้านจัดสรรเฟสใหม่นี่ โครงการนี้ทำที่ไหนเหรอ”
“ที่ต่างจังหวัด เป็นที่ดินของน้องฟีฟ่านั่นแหละ”
“ว้าวฟีฟ่ามีที่ดินด้วย”เพื่อนไอโซนัทมีท่าทีตกใจ
“ที่ดินของพ่อครับ”
“เห็นแบบนี้พ่อของฟีฟ่าเป็นเศรษฐีที่ดินเชียวนะ”ไอโซนัทพูดขึ้นเพื่อให้ฟีฟ่าดูดีขึ้นมาหน่อย
“คราวนี้ครอบครัวน้องฟีฟ่าก็เป็นเศรษฐีใหม่แล้วซิเนาะ”
“พวกนายพูดจาไม่น่าฟังอีกแล้วนะ”ไอโซนัทเริ่มมีสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก
“เอาล่ะ พวกเราไม่คุยเรื่องของน้องฟีฟ่ากันแล้ว”
“ดี แล้วนายล่ะได้ข่าวว่าจะสร้างคอนโดเฟสใหม่ไม่ใช่เหรอ”ไอโซนัทถามเพื่อนของเขา
“จริง เรากำลังหาทำเลอยู่ ว่าแต่น้องฟีฟ่ามีที่ดินแถวกรุงเทพหรือไม่ก็ชานเมืองไหม”
“มีครับ แต่ไม่พอสร้างคอนโดหรอก”
“ทำไมมีน้อยจัง”
“นายจะถามซอกแซกน้องฟีฟ่าอะไรนักหนา”
“เอาล่ะพอแหละ เรามาคุยเรื่องธุรกิจของเราดีกว่า เราจะชวนนายร่วมหุ้นคอนโดด้วย นายสนใจที่จะทำร่วมลงทุนกับเราไหม”
“น่าสนใจดีนะ แต่ก็ยังไม่มีทีนี่”
“มีแล้ว แต่มันต้องใช้เงินทุนเยอะไง ถ้าสองคนนี่ก็พอไหว”
“น่าสนใจดีนะ”
ไอโซนัทและเพื่อนต่างคุยเรื่องธุรกิจจบจากเรื่องนี้ ต่อเรื่องอื่นทันทีโดยไม่มีเวลาให้ฟีฟ่าเลยแม้แต่น้อย ฟีฟ่าเลยอยากจะหนีออกไปจากที่นี่ เขาจึงลุกเพื่อที่จะเข้าไปในห้องน้ำ
“ฟีฟ่าขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
“ฮือ”ไอโซนัทแค่พยักหน้า
ฟีฟ่าเดินมาเรื่อยๆเข้าไปในห้องน้ำ และเขาก็ได้ยินเสียงคนสองคน ที่เข้าห้องน้ำตามมาทีหลังเขาพูดคุยกันเสียงดัง
“นายว่าเด็กใหม่ของพี่นัทคนนี้เป็นไงบ้าง”
“พูดถึงหน้าตาก็น่ารักดีนะ แต่จนไปหน่อย”
“จนแต่พี่นัทเขารักนี่”
“ฐานะมันต่างกันเกินไป”
“แต่เราว่าพี่นัทคงจะเล่นๆมากกกว่า สุดท้ายเขาก็ต้องหาคนที่ฐานะใกล้เคียงกัน”
“เราก็ว่างั้นแหละ ถ้าเราเป็นน้องน่ะ เราไม่มาให้อายหรอก พวกเพื่อนพี่นัทชอบดูถูกคนจะตาย ขนาดพวกเรารวยกว่าน้องเขาตั้งเยอะ ยังไม่วายถูกนินทราเลย แถมไม่อยากคบกับพวกเราอีก แต่พี่นัทเขาดีไม่ถือตัว”
“มัวแต่เม้าท์ออกไปข้างนอกกันเถอะ ไปดูตลกน้องคนนั้นดีกว่า แต่เมื่อกี้ไม่เห็นนี่ไม่รู้ไปไหน”
“จะไปไหนได้คงอยู่แถวๆนี้แหลไปกันเถอะ”
เมื่อสองคนนั้นออกจากห้องน้ำไปแล้ว ฟีฟ่าจึงออกมาด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วนจิตใจอย่างหนัก ฟีฟ่าจึงรีบล้างมือและออกไปที่งาน ตอนแรกเขาจะเข้าไปหาไอโซนัท แต่ที่นั่งไม่เหลือว่างไว้สำหรับเขาแล้ว ฟีฟ่าจึงตัดสินใจที่จะหนีออกไปจากงานนี้ เพราะเขาคิดว่าขืนอยู่ก็คงเป็นตัวตลกอย่างสองคนนั้นที่อยู่ในห้องน้ำว่าไว้จริงๆ
ฟีฟ่าค่อยๆออกจากประตูรั้วที่บ้านของไอโซนัท และเดินเลาะตามไหล่ทางไปเรื่อยๆ ใจของฟีฟ่าตอนนี้ซอกซ้ำอย่างหนักหน่วง เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าสังคมที่เขาอยากจะเข้าไปนั้น มันไม่น่าอภิรมย์อย่างที่เขาคิดไว้
ในระหว่างทางที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆไหน เสียงรถบี๊กไบค์ที่แล่นมาจากด้านหลัง และจอดดักหน้าฟีฟ่า เขาตกใจรีบเดินหันหลังกลับ เพื่อที่จะไปบ้านไอโซนัท เพราะเขาคิดว่าที่นั่นก็น่าจะปลอดภัยกว่า
“จะไปไหนพึ่งออกมาไม่ใช่เหรอ”ฟีฟ่าคุ้นเสียงนี้เขาจึงหันหน้ามามอง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับช่างกันเปิดกระจกหมวกกันน็อค
“นายมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไง”ฟีฟ่ามีท่าทีสงสัย
“ก็พ่อของมึงนั่นแหละ วานให้กูตามมึงมา และก็เป็นจริงดังที่พ่อมึงพูดไว้”
“พูดอะไร”
“ก็พูดว่ามึงอยู่ที่นี่ไม่จบงานหรอก เพราะสังคมนี้มันคนละระดับกับพวกเรา อย่างมึงต้องระดับกูนี่แหละ”
“นายก็คนละระดับกับเราเหมือนกันนั่นแหละ”
“พออยู่กับกูนี่ปากดี พออยู่กับพี่นัทนี่ เงียบเป็นเป่าสาก”
“ช่างกัน”
“ฟีฟ่า”
“เรียกทำไม”
“ก็เรียกมึงขึ้นรถไง”
“ไม่ขึ้นจะเดินกลับเอง”
“ไม่เชื่อหรอก อาจจะรอรถหรูมารับ แต่เขาคงไม่มาแล้วแหละ”
“เราไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย อย่ามาดูถูกเรานะ”
“ถ้าไม่อยากให้กูดูถูกมึง ถ้างั้นมึงก็ขึ้นรถกูเดี๋ยวนี้”
“ก็ได้”ฟีฟ่าเดินมาใกล้ๆที่รถช่างกัน
ช่างกันหยิบหมวกอีกใบมาสวมใสที่ศีรษะของฟีฟ่า ช่างกันมองใบหน้าของฟีฟ่าที่นับวันยิ่งน่ารักในความรู้สึกของเขา
“เวลามึงใส่หมวกก็น่ารักดีเหมือนกัน”
“ไม่ต้องบอกหรอก ใครๆเขาก็ชมกันทั้งนั้นแหละ”
“ไม่หลงตัวเองเลยนะ”
“หลงตัวเองดีกว่าหลงคนอื่น”
“มาหลงกูบ้างก็ดีนะ”
“ฝันไปเถอะ”
“ก็เหมือนมึงนั่นแหละที่หลงไอโซนั่น”
“เพลี้ยะ”
“มึงตีกูทำไม กูพูดเรื่องจริงนี่”
“เพลี้ยะ”ฟีฟ่าฟาดไปที่แขนของช่างกัน
“ไม่มีใครเคยตีกูอย่างนี้นะมึงเป็นคนแรก อย่างงั้นมึงก็ต้องเป็นผู้ชายคนแรกที่กูจูบมึง”ช่างกันจับศีรษะของฟีฟ่าไว้ แล้วประกบปากของฟีฟ่า
ฟีฟ่าผลักร่างของช่างกันให้ออกห่างจากตัวเขา ฟีฟ่าใช้มือเช็ดปากตรงที่ช่างกันประทับรอยไว้
“เป็นไงอยากตีกูดีนัก”
“เราจะฟ้องพ่อเรา”
“เชิญเรื่อง กูจะได้ไปขอมึงด้วยเลย”
“ใครเขาจะให้ขอ”
“ก็กูจะขอไง”
“หยุด ไม่อยากฟัง พาเรากลับบ้านเดี๋ยวนี้”
ฟีฟ่าเดินไปรอที่ข้างรถ สักพักช่างกันก็ขึ้นคร่อมหน้ารถ ส่วนฟีฟ่าขึ้นคร่อมตามหลัง
“กอดเอวกูไว้แน่นๆนะ”
“ไม่กอด”
“ถ้าไม่กอดเดี๋ยวกูจะลงไปจูบมึงอีก”
ฟีฟ่ากอดเอวช่างกันทันที ส่วนช่างกันก็สตาร์ทรถออกไปอย่างเร็ว ใจของช่างกันตอนนี้มีความสุขมาก ยิ่งร่างของฟีฟ่ากระทบหลังเขาบ่อยๆ ช่างกันอยากยืดเวลานี้ให้นานออกไป เขาจึงขับรถวนมาวนไป เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดสัมผัสฟีฟ่าอย่างนี้ตลอดไป