ผลัวะ ผลัวะ ตุบ ตุบ ตับ ตับ
เสียงการต่อสู้ แอมแปร์ เมื่อเธอโดนเจ้าของเรือแจ๋วที่เธอจ้างให้พาเธอข้ามฝ้ากไปตลาดฝั่งนู่น มันพาเธอเลี้ยวเข้ามาข้างป่าแล้วก็เอามีดจี้เธอเดินเข้ามา แอมแปร์เมื่อเห็นว่าท่าไม่ดีแล้วเธอก็เลยจัดการแม่ไม้มวยไทยใส่ไปจนคอของเ**กแจวเรือ เล่นเอาจนสลบคาทีน โดยที่ทีนเธอยังคาอยู่ที่ใบหน้าของแป๊ะ หมื่นหาญที่ตามมาว่าจะช่วยตอนนี้เขาได้แต่ยืนอึ้งอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ผู้หญิงที่ทุกคนบอกว่าเธอเป็นบ้า แต่พอเขามาเห็นตอนนี้หมื่นหาญถึงกับอึ้งอ้าปากค้างเลย
แป๊ะ แป๊ะ
“ ถุ่ย มึงรู้จักไหมศิษย์เอกบัวขาว อ่ะ “ แอมแปร์ เธอถุยน้ำลายใส่หน้าของอาแป๊ะโรคจิตรจากนั้น เธอก็พูดเป็นภาษาของคนในยุคเธอ เมื่อพูดจบเธอก็เดินออกมากะว่าจะแจวเรือข้ามฝั่งมาเอง แต่ระหว่างที่เธอเดินจะมาที่เรือหมื่นหาญที่แอบดูเหตุการณ์อยู่ในพุ่มไม้ก็ออกมาแสดงตัวทันที
“ เดี๋ยว เจ้า นี้เจ้าเป็นบ้าจริงหรือไม่ “ หาญ เดินเข้ามาดักหน้าพร้อมกับเอ๋ยถามออกมาด้วยสีหน้างุนงง เพราะเธอดูเหมือนไม่ใช่คนบ้า มะลิเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็หันควับไปมองก่อนจะรู้ว่าเจ้าของร่างเคยตราหน้าเขาไว้ว่าวันหนึ่ง อีตาบ้านี้จะต้องเป็นผัวเธอวันหนึ่ง เมื่อเธอรู้แล้วว่าอีตานี้เป็นใครเธอก็มองหน้าเขาด้วยท่าทางไม่พอใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างกับว่าเธอไม่อยากเสวะนากับผู้ชายคนนี้ด้วย
“ ปล่อย ใครท่านว่าข้าเป็นบ้าเพียงแค่ข้าทำตัวแบบนั้นพวกท่านทุกคนก็พากันว่าข้าเป็นบ้า “ มะลิ เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับสลัดมือออกจากแขนของชายหนุ่ม หมื่นหาญเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็ขมวดคิ้วหนามองหน้าหญิงสาวพร้อมกับใช้ความคิดว่า มันก็จริงอย่างที่แม่หญิงคนนี้พูดเพราะทุกคนเมื่อเห็นเธอแต่งตัวและก็เดินไปเดินมาไม่พูดไม่จา ถ้าเธอจะพูดเธอก็จะพูดคนเดียวหรือไม่ก็ด่าคนที่ด่าเธอ เมื่อเขาคิดได้แบบนั้นเขาก็เลยคิดได้ว่าเรื่องที่เธอพูดก็เป็นจริง
“ อื้ม ก็จริงอย่างที่เจ้าพูดนั้นแหละ “ หมื่นหาญ พูดออกมาอย่างเห็นด้วย แอมแปร์เมื่อแขนเรียวของเธอบวกกับที่เธอไม่อยากเสียเวลาหาเงินของเธออีกต่อไปแล้วเธอก็เลยทำท่าจะเดินมาที่เรือเพราะของประทินผิวที่เธอจะเอาไว้ขายอยู่บนเรือนั้นหมด หมื่นหาญเมื่อเห็นว่าหญิงสาวรีบเดินออกมาเขาก็เดินตามมาทันที ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
“ เดี๋ยวก่อน นี้คืออันใดกัน แล้วเหตุใดเจ้าถึงจักไปฝั่งนู่นเจ้าไม่รู้รึว่าฝั่งนู่น หญิงผู้ดีเขาไม่ไปกัน “ หมื่นหาญ พูดออกมาด้วยสีหน้าแปลกใจว่าเธอจักไปฝั่งนู่นทำไม แอมแปร์ถึงแม้ว่าเธอจะอยู่ในร่างของหญิงโบราณแต่เธอเป็นหญิงยุคใหม่เธอก็เลยขมวดคิ้วอแล้วก็พูดออกมาในขณะที่เธอนั่งอยู่บนเรือเตรียมจะพายเรือไป
“ ก็ข้าไม่ใช่หญิงผู้ดีนี่นา แล้วอีกอย่างข้าจะไปไหนมาไหนมันเรื่องอะไรของท่านด้วยมิทราบ ข้ากับท่านเราสองคนไม่รู้จักกันและก็ไม่ได้เป็นอะไร ท่านจะมาห่วงข้าด้วยเหตุใด “ มะลิ พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งอย่างเป็นปกติ หมื่นหาญเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็พูดอะไรไม่ออก เมื่อมะลิเห็นว่าชายหนุ่มไม่พูดอะไรต่อเธอก็เลยแจวเรือออกมา และก็ข้ามไปฝั่งที่ มีทั้งชาวจีน ชาวตะวัน มีทั้งโรงฝิ่น โรงน้ำชา และก็โรงชำเรา ( ซ่อง) นี้แหละเหตุผลที่เธอต้องไปขายที่นั้นเท่านั้น
“ ข้าไหว้เจ้าคะ ข้าอยากมาติดต่อขายของที่นี้ท่านจะอณุญาติข้าได้หรือไม่เจ้าคะ “ แอมแปร์ พูดถูกๆผิดๆแต่ก็พูดด้วยรอยยิ้ม เฒ่าแก่ชาวจีนเมื่อได้ยินแบบนั้นเขาก็ขมวดคิ้วหนามองเธอด้วยความสงสัยเพราะเธอหน้าตาดีเหมือนหญิงผู้ดีแต่ว่าเครื่องแต่งกายของนางดันเป็นเครื่องแต่งกายของบ่าว อาแป๊ะเจ้าของโรงน้ำชาในตลาดท่าเรือแห่งนี้เมื่อได้ยินว่าเธอจะมาเสนอสินค้าให้ แต่เขาก็เสียดายเพราะแม่นางที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้สวยมาก เมื่อคิดเสียดายแผนร้ายก็เกิดขึ้นทันที
“ เอามาให้อั๊วะลูสิ ว่าแต่อะไรรึที่ลื้อเอามาเสนอขาย “ อาแป๊ะ ถามหญิงสาวออกมาพร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ แอมแปร์มีหรืจะกลัว ถ้ามีคนเหี้ยมาแล้วเธอจะไม่เหี้ยตอบ ดังนั้นเธอรู้ดีว่าอาแป๊ะที่เธอมาคุยเรื่องซื้อขายอยู่นี้ถ้าเธอตีตลาดแตกเธอจะขายของดีที่สุดเพราะผู้หญิงทั้งไทยและเทศ ต่างก็อยู่ในมือของเขาเยอะ
“ นี้เจ้าคะเครื่องประทินผิว และก็เครื่องสำอางเจ้าคะ “ แอมแปร์ เธอเอาตะกร้าห่อผ้าเครื่องประทินผิวยื่นให้อาแป๊ะทันที เมื่ออาแป๊ะ แตะตะกร้าเขาก็เรียกให้ลูกน้องที่นั่งอยู่ตรงนั้นเรียกให้มาจับตัวเธอเพื่อจะเอามาขาย
“ เฮ้ย จับตัวอีเอาเข้ามาในโรงชำเราของอั๊วะ “ อาแป๊ะ เจ้าเล่ห์เมื่อจับตะกร้าเสร็จแล้วเขาก็เรียกให้ลูกน้องของตัวเองเข้ามาจัดการหญิงสาวทันที แอมแปร์ที่ตั้งท่าอยู่แล้วเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็จัดการเตะฝาดหางจระเข้ทันที จนเ**กหางเปียยาวล้มลงไปกองสลบอยู่ที่พื้น
ผลัวะ
“ อ๊ากกกกก “ เสียงของคนที่โดนเตะก้านคอล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมกับร้องออกมา ก่อนจะสลบเมื่อเ**กเฝ้าซ่องอีกสามคนเห็นแบบนั้นก็ทำท่าทางเลิ่กลักอย่างกับว่า จะเอายังไงกับมะลิดี
“ ว่าไง ไ*****กผมเปี้ยจะมองอีกนานไหม เข้ามาสิข้าขี้เกรียจรอแล้วข้าจักได้ขายของ COME ON BOY “ มะลิเรียกให้แมงดาผมเปียเข้ามาจัดการกับเธอ เพราะเธอไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้ เมื่ออยู่ๆมีหญิงสาวชาวยสยามลุกขึ้นมาต่อยตีกับผู้ชายทุกคนก็เลยต่างก็มามุงดูอย่างสนใจ
“ ย๊ากกกกกก “ แมงดาเฝ้าซ่องเมื่อถูกท่าแบบนั้นก็ปี่เข้าหาหญิงสาวด้วยความเร็วกะว่าจะเอาเธอให้ตาย หมายจะเอาชีวิตเธอเพราะปากเธอช่างดีเหลือเกิน แอมแปร์ราชินีพริ้ตตี้ที่ผ่านมาแล้วทุกการต่อสู้ด้วยความที่ต้องไปพีเซ็นงานที่ลูกค้าจ้างไม่ว่าจะเป็นค่ายมวย สนามยิงปืน สถานที่การต่อสู้ต่างๆเลยทำให้เจ้าของชอบการทำงานของเธอก็เลยมีแมมเบอร์ต่างๆให้เธอด้วยความที่เป็นคนรักสุขภาพเลยทำให้เธอไปตามที่ลูกค้าเชิญ ก็เลยจัดการเตะสวนเข้าไปที่หน้าท้องของแมงดาอย่างแรงเธอก็กระว่าเอทีเดียวจอดเช่นเดียวกัน
ผลัวะ
“ โอ๊ะ อุ๊ อ๊ะ “ เสียงหน้าแข่งของแอมแปร์ เตะเข้าที่ท้องแกร่งของชายหนุ่มอย่างแรงเต็มเหนี่ยว เล่นเอาชายหนุ่มถึงกับลงไปนอนกองกับพื้น พร้อมกับร้องเจ็บออกมาอย่างโหยหวน เมื่ออีกสองแมงดาเห็นท่าไม่ดีแล้วเขาก็เลยวิ่งรวมพลังกันวิ่งปี่เข้าหาหญิงสาวอย่างเร็วและแรง แอมแปร์ ที่ตั้งหลักอยู่แล้วเมื่อชายทั้งสองวิ่งเข้ามาพร้อมกันแบบนั้นเธอก็จัดการ จัดท่าหนุมารกวาดลานวัด เตะตัดขาของชายหนึ่งคนแล้วก็จัดการลุกขึ้นยืนในท่าย่อเข่าแล้วก็จัดหมัดที่กำไว้สองข้างต่อยเข้าที่ปลายคางของชายหนึ่งคนเล่นเอาเขาลงไปนอนสลบกองกับพื้น ก่อนจะเข้าไปซ้ำเพื่อปิดฉากด้วยความรวดเร็ว และก็หันมาจัดการชายที่ยังไม่สลบเธอก็เข้าไปจัดการซัดหมัดเข้าที่ทัดดอกไม้เล่นเอาชายหนุ่มลงไปสลบกับพื้น จากนั้นทุกอย่างก็จบลงอย่างรวดเร็วชาวบ้าน ชาวเรือทั้งหญิงทั้งชายที่ยืนมองดูเหตุการณ์ต่างก็มองดูพร้อมกับอ้าปากค้างอย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีแม่หญิงที่ไหนกล้ามาต่อยตีกับผู้ชายที่หน้าซ่อง เมื่อแอมแปร์จัดการชายทั้ง4คนลงไปเฝ้าพระอิทร์เรียบร้อยแล้ว เธอก็ทำท่าจะเดินปี่เข้าหาอาแป๊ะ แต่แล้วเธอก็ต้องหยุดเท้าของเธอในทันที
“ เกิดเหตุอันใด ทำไมพวกเจ้าถึงได้มามุ่งดูอันใด ไปๆ แยกย้ายกันไปทำมาหากิน ไป “ เสียงเข้มของใครบางคนที่กำลังขี่ม้าเข้ามาเมื่อเห็นชาวบ้านที่มามุงดูอะไรกันอย่างกับว่ามีเหตุการณ์อันหน้าตื่นเต้น เรียกง่ายๆถ้าเป็นสมัยเธอก็เรียกว่าไทยมุงนั้นแหละ เมื่อชาวบ้านได้ยินเสียงเข้มของท่านหมื่น ก้อนคำ ผู้ที่ได้รับมอบมายให้มาคุมท่าและก็ดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายด้วยความที่เป็นศูนย์รวมทั้งสายเทา สายดำ และก็ชาวต่างชาติอยู่กันเยอะเลยทำให้ต้องจัดกำลังเฝ้าระวังอย่างเคล็งคัด
“ เปล่าขอรับท่านหมื่นไม่มีอะไรขอรับ “ อาแป๊ะ เจ้าของโรงชำเรา โรงฝิน โรงนำชา โรงเหล้า ที่อยู่ในสถานที่นี้ได้ยกมือไหว้แล้วก็ก้มหน้าพร้อมกับปฏิเสธออกมา แอมแปร์เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็กอดอกยิ้มเยาะเหมือนกับว่า ถ้าเขาไม่ยอมรับสินค้าของเธองานนี้เธอจัดเขาหนักอย่างแน่ เมื่อชายหนุ่มเห็นหญิงสาวที่ยืนหันหลังให้ ด้วยความสงสัยหมื่นก้อนคำก็เลยขมวดคิ้วหนามองแผ่นหลังหญิงสาวด้วยความฉงลว่าทำไมเธอถึงไม่หันหน้ามาทำความเคารพเขา ทั้งที่เธอเป็นแค่หญิงขณิกาเท่านั้น
“ แม่หญิงเหตุใดเจ้าจึงไม่หันหน้ามา ทำความเคารพข้า “ เสียงเข้มดุดันของชายหนุ่มที่อยู่บนหลังม้าตวาดเสียงดังลั้น แอมแปร์เมื่อได้ยินเสียงดุดันนั้นเธอก็สะดุ้งตัวโดยนก่อนจะค่อยๆหันหน้ามา หมื่นก้อนคำเมื่อได้เห็นหน้าหญิงสาวที่งามอย่างกับนางฟ้าแบบนั้นเขาถึงกับอึ้งอ้าปากค้างจนแทบตกจากหลังม้า เลยทีเดียวแอมแปร์เมื่อเห้นแบบนั้นเธอก็หันมาส่งยิ้มให้ชายหนุ่มก่อนจะเปลี่ยนเป้นก้มหน้าลง แต่ระหว่างที่เธอกำลังจะอ้าปากพูดเธอก็ต้องหยุดฉะงักเพราะเสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามาสวนเธอสะก่อน
“ พ่อก้อน อย่าเอาเรื่องเอาราวกับนางเลย นางเป็นหญิงบ้าวิประราดที่ฝั่งทางนู่น นางไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใดดอก ข้าว่าเจ้าอย่าถือสาหาความกับนางเลย นางเป็นหญิงวิตประราด “ เสียงของหมื่นหาญ ที่อยู่บนหลังม้า ดูท่าจะรีบมาเกินเพราะดูจากเหงื่อที่ไหล่ออกมาเต็มหน้า เมื่อแอมแปร์ได้ยินแบบนั้นเธอก็เงยหน้าก่อนจะเท้าสะเอวมองชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง เมื่อหาญเห็นท่าทางแบบนั้นของหญิงสาวก็เข้าทางเข้าเลย ชายหนุ่มก็ยิ้มออกมาทางมุมปากก่อนจะพูดออกมา
“ นั้นไงเจ้าเห็นหรือไม่ ว่าที่ข้าพูดเป็นความจริง “ หาญพูดออกมาพร้อมกับยิ้มมองหน้าของหมื่นก้อนคำ สหายของหาญ และเข้ม ก้อนคำเมื่อเห็นท่าทางหน้าเอ็นดุของนางที่แก่นแก้วไม่เหมือนหญิงสาวทั่วไปทำเขาก็อดขำอย่างรู้สึกเอ็นดูนางไม่ได้ แต่ก็แอบแปลกใจเมื่อหันมาทางด้านข้างจะเจอกับชายเฝ้าซ่องที่นอนกองอยู่กับพื้นอยู่4คน หาญ เข้ม เมื่อเห็นสายตาของก้อนคำหันไปมองชายที่กองกับพื้น หาญ เข้ม เมื่อเจอแบบนั้นก็มองอย่างแปลกใจว่าเกิดอันใดขึ้นชายทั้ง4คนถึงได้นอนกองอยู่ตรงนั้น หาญที่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นก็หันมามองหน้าหญิสาวที่ตอนนี้มองมาทางหาญด้วยสายตาออ้นวอนแล้วก็พยักหน้าเหมือนกับบอกเขาว่าเป็นเธอเองที่ทำ หาญเมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็รีบพูดขึ้นมาเพื่อไม่ให้เพื่อนสนใจคนที่นอนกองอยู่ที่พื้นทันที
“ พวกเจ้าอย่าไปสนใจเลย พวกมันคงเมาแล้วก็มีเรื่องกันเองนั้นแหละ “ หาญ พูดเรียกความสนใจจากสหาย เมื่อสองหนุ่มได้ยินแบบนั้นก็หายสงสัยเพราะที่นี้มีเรื่องบ่อย ถ้าไม่แย่งผู้หญิง ก็กินเหล้าชกต่อยกัน จากนั้นทั้งสามก็ขี่ม้าออกมาจากจุดเกิดเหตุโดยไม่ได้เอาเรื่องอันใดกับใคร โดยมีหาญมองกลับหลังหันมามองหญิงสาว แอมแปร์เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มหวานอย่างขอบคุณก่อนจะโบกมือเหมือนกับบายๆชายหนุ่ม หาญ เมื่อเห็นแบบนั้นเขาก็ถลึ่งตาใส่หญิงสาวก่อนจะหันไปยิ้ม อย่างนึกขำความซ่าของหญิงสาว