บทที่ 13

1602 Words
“เป็นอะไรจ๊ะติ่งเพื่อนรัก เห็นทำคิ้วย่น หูตก หน้าเหี่ยวบอกบุญไม่รับตั้งแต่เช้ายันเที่ยง” ชฎาพรทนมองหน้าตรีภพในโหมดนี้ไม่ไหวเลยชะโงกหน้าข้ามโต๊ะมาถาม “คนนะยะไม่ใช่หมา” “ติ่งพูดเองน้า” ชฎาพรทำท่าล้อเลียน “แล้วตกลงเป็นอะไร ท้องผูก อึไม่ออก อาหารไม่ย่อยหรือยังไงฮึ” “เปล่า” “แล้วเจ๊ติ่งเป็นอะไรล่ะครับ ผมก็เห็นอย่างที่พี่พรว่า” ธนัชชัยก็กระโดดเข้ามาร่วมวงเม้าธ์ด้วยคน “ก็ไม่ยังไง แค่มีลางสังหรณ์ไม่ค่อยดี” “เรื่องอะไรกันนะ ที่ทำให้ตรีภพคนเก่งกังวลได้ขนาดนี้” “ก็เรื่องยายจ๋าน่ะสิ คราวนี้นางกลับบ้านนานกว่าทุกที ฉันสังหรณ์แปลกๆ ว่าจะต้องเกิดเรื่องแน่ๆ” ชฎาพรถอนใจแทบจะพร้อมๆ กับหนุ่มน้อยธนัชชัย “น่าสงสารยายจ๋านะ มันเป็นเด็กดี๊เด็กดี ไม่รู้ทำไมต้องมีแม่เลี้ยงแบบนั้นด้วย” “แกก็เบาๆ หน่อยยายพร ยังไงเขาก็เป็นน้าแท้ๆ ของยายจ๋ามัน เห็นว่าเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่สิบขวบได้มั้ง” “เฮอะ ! เลี้ยงเพราะไม่มีทางเลือกน่ะสิไม่ว่า อยากได้ผัวพี่นี่ ก็ต้องรับลูกเขาไว้นั่นแหละ เห็นยายจ๋าเป็นลูกเป็นหลานหรือเป็นเด็กรับใช้รองมือรองเท้าก็ไม่รู้” “จริงครับเจ๊ๆ ตอนผมสิบขวบยังทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่เห็นพี่จ๋าเคยเล่าว่าตอนนั้นรับผิดชอบงานในบ้านทุกอย่างจนไปโรงเรียนไม่ทันสักวัน ค่าขนมก็ไม่ได้ ถูกแม่เลี้ยงริบหมด ต้องไปรับจ้างล้างจานเป็นค่าข้าวกลางวันบ่อยๆ” “นั่นแหละ ยายจ๋ามันถึงโตมาเป็นคนขี้สงสาร เรื่องอาหารการกินก็เหมือนกัน ไม่ว่าอะไรก็จับยัดเข้าปากได้หมด พี่ไม่เห็นยายจ๋ามันจะเคยติร้านไหนว่าทำไม่อร่อยสักร้าน จนคนอื่นเขาหาว่าเป็นพวกลิ้นจระเข้หมดแล้ว” พนักงานขาเม้าธ์ยังคงพูดถึงหญิงสาวอีกคนที่ไม่ได้อยู่ในที่นี้ต่อไปอีกนิดหน่อย โดยที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งเก็บข้อมูลอยู่เงียบๆ ‘มิน่า วันก่อนเธอถึงได้ทำแบบนั้น’ ชฎาพร ตรีภพ ธนัชชัย หรือแม้แต่คุณสายสวาทมองการมาทำงานวันแรกหลังจากลาพักร้อนไปหนึ่งสัปดาห์เต็มของจินดาหลาด้วยสายตาอาทร “ไอ้จ๋ามันเป็นแบบนี้อีกแล้วอ่าแก” เสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นใกล้หู และคนตอบก็กระซิบกลับไปเช่นกัน “ปล่อยไปก่อนเถอะยายพร สักวันสองวันก็คงกลับมาเป็นปกติแหละ” จินดาหลากลับมาทำงานตามปกติโดยมีความจริงบางอย่างเหมือนชนักที่คอยปักหลังให้คิดถึงอยู่เสมอ นั่นคือเวลาแห่งอิสรภาพของเธอเหลืออยู่เพียงหกเดือนเท่านั้น “นี่นัด” “อะไรเหรอครับพี่จ๋า” หนุ่มน้อยรีบขานรับอย่างไว เมื่อนี่แทบจะเป็นประโยคแรกที่จินดาหลาพูดออกมาในวันนี้ “ช่อดอกไม้แห้งที่อยู่บนโต๊ะพี่นี่ใครมาลืมไว้เหรอ” “อ๋อ ไม่ใช่ใครลืมไว้หรอกครับ คุณหมื่นเขาเอามาให้พี่จ๋าน่ะ” เห็นสาวรุ่นน้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจชฎาพรเลยแทรกขึ้นมา “เห็นคุณหมื่นกับคุณดลบอกว่าก่อนที่จ๋าจะลาพักร้อนไปเจอโจรวิ่งราวกระเป๋านี่ เช้าวันรุ่งขึ้นคุณหมื่นเขาเลยซื้อดอกไม้มาปลอบขวัญน่ะ” หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะขึ้นมากะทันหัน เกิดมายังไม่เคยมีใครให้ดอกไม้เป็นช่อขนาดนี้เลย ถึงตอนนี้มันจะเหี่ยวแห้งจนแทบมองไม่เห็นเค้าความสวยงามหอมหวน แต่จินดาหลามั่นใจว่าก่อนหน้านี้มันต้องสวยมากแน่ๆ “ทำไมแกต้องหน้าแดงด้วยยะยายจ๋า” “แดงที่ไหน ไม่มี้” เธอรีบปฏิเสธทันควัน ถึงจะรู้ตัวว่าหน้าร้อนวูบวาบๆ สูบฉีดเลือดขึ้นมาหล่อเลี้ยงเกินความจำเป็นก็ตาม “แดงจริงด้วยเจ๊ติ่ง พี่พร” ธนัชชัยที่อยู่ใกล้กว่าใครเออออห่อหมกไปด้วย เมื่อเห็นว่าจริงอย่างที่พี่ๆ คนอื่นว่า “นี่ถ้าฉันไม่รู้มาก่อนว่าแกชอบคุณดลนะ ต้องคิดว่าแกแอบปลื้มคุณหมื่นอยู่แน่ๆ เลยยายจ๋า” จินดาหลาขมวดคิ้วมุ่น เธอไม่อยู่ออฟฟิศแค่ไม่กี่วันทำไมถึงมีเรื่องให้เซอร์ไพร์สได้ตลอด “จ๋าเนี่ยนะคะชอบคุณดล ?” นิ้วชี้ของเธอชี้เข้าหาตัวเอง “ไม่ต้องมาทำไขสือ คุณหมื่นเป็นคนเล่าเองเลยนะเรื่องนี้” “คุณหมื่นพูด ? เอ่อ... เขาว่ายังไงบ้างเหรอคะ” แล้วทุกคนก็ช่วยกันเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นหรืออีกนัยหนึ่งก็คือเรื่องที่เธอถูกนินทานั่นเองให้ฟัง จินดาหลาเลยถึงบางอ้อก็ตอนนี้เอง เธอไม่ได้นึกโกรธหรือเคืองเจ้าโจรเด็กที่สร้างเรื่องให้คนอื่นเข้าใจผิด แต่ขำนับหมื่นมากกว่าที่เข้าใจเป็นตุเป็นตะไปได้ขนาดนั้น ส่วนดลวัฒน์ก็ไม่รู้จะมองเธอแบบไหนไปแล้ว เดี๋ยวว่างๆ ต้องหาเวลาไปขอเคลียร์กับเขาให้รู้เรื่องสักที... ก่อนที่ใครบางคนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ “นั่น คุณธนา คุณดล คุณหมื่นออกมาจากห้องประชุมพอดีเลย” เสียงของเจ๊ติ่งทำให้เธอรีบเอาช่อดอกไม้แห้งมาซุกไว้ใต้โต๊ะ ทั้งที่ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องทำอย่างนั้น หรือเธออาจจะกลัวเจ้าของช่อดอกไม้มาเอามันคืนละมั้ง และขณะเดียวกันเธอกลับไม่กล้าหันไปมองด้านหลังเหมือนอย่างที่ทำประจำตอนมีคนเปิดประตูเข้ามาในแผนกนี้ เพราะโต๊ะทำงานของเธออยู่ใกล้ประตูที่สุด แต่เธอหันหลังให้กับประตู จินดาหลาเหมือนได้ยินก้อนเนื้อที่เต้นได้ในอกดังตึกๆ เหมือนจะกระดอนออกมาเพียงเพราะตื่นเต้นเมื่อรู้ว่ามีคนบางคนเดินเข้ามา... และชายหนุ่มทั้งสามก็เดินผ่าน ตรงไปยังห้องกระจกด้านใน แค่เห็นแผ่นหลังกว้างใหญ่ห่อหุ้มด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดแทบไม่ต่างจากผิวของคนใส่นัก ก็ช่วยดึงความกล้าของเธอออกมาได้ “เดี๋ยวจ๋าไปยกน้ำมาให้พวกคุณธนานะคะ” มือนึงถือถาดส่วนอีกมือเคาะเบาๆ ไปที่ประตูเพื่อขออนุญาตเข้าไปด้านใน เจ้านายของเธอและเพื่อนอีกสองคนคงกำลังคุยกันเรื่องงาน เพราะพวกเขาแทบไม่ได้สนใจว่ามีผู้มาใหม่เข้ามา นอกจากถกเถียงกันหน้าดำหน้าแดงอยู่ เธอวางแก้วน้ำเย็นสามแก้วลงในตำแหน่งของแต่ละคน ก่อนจะเตรียมออกไปเงียบๆ... เอาจริงๆ แค่ได้เห็นเขาใกล้ๆ เธอก็ชื่นใจและมีกำลังใจทำงานต่อทั้งวันแล้ว “ขอบคุณนะครับคุณจ๋า” แต่พอได้ยินเสียงนุ่มทุ้มแสนใจดีของบางคน ที่ไม่ว่ากี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปีก็ยังไม่เคยเปลี่ยน หัวใจที่แห้งแล้งเหี่ยวเฉาของเธอก็ชุ่มชื้นขึ้นมาทันตาเห็น “ไม่เป็นไรค่ะคุณหมื่น หน้าที่จ๋าอยู่แล้ว” นับหมื่น สิงหโชติเดชา เป็นคนอ่อนโยน ใจดี และที่สำคัญเขาละเอียดอ่อนไม่ว่ากับเรื่องอะไรก็ตาม ไม่แปลกสักนิดที่ใครต่อใครต่างหลงใหลได้ปลื้มในตัวเพื่อนสนิทของเจ้านายกันทั้งบริษัท แล้วอย่างนี้จะให้เธอกล้าหวังอะไรได้ แค่ปีละสองถึงสามครั้งที่ชายหนุ่มลงมาจากเมืองเหนือ และบังเอิญส่งยิ้มให้เธอเหมือนอย่างที่เขาก็ทำอย่างนี้กับทุกคน ไม่ต้องพิเศษ ไม่ต้องเป็นคนสำคัญ เธอก็มีความสุขที่สุดและรอคอยโอกาสนี้มาตลอด “เดี๋ยวเย็นนี้กลับด้วยกันนะครับ คอนโดผมกับที่พักคุณจ๋าอยู่ซอยเดียวกัน” “เอ่อ... ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ จ๋าไม่อยากรบกวนคุณหมื่น” เขามักจะแสดงน้ำใจแบบนี้เสมอ ก็บอกแล้วว่านับหมื่นเป็นผู้ชายที่ละเอียดอ่อนมาก “กลับกับผมได้นั่งรถไปกับใครบางคนด้วยนะครับ” นับหมื่นเงยหน้าจากแก้วน้ำที่หยิบยกไปจิบแล้วเหลือบมองดลวัฒน์ “เดี๋ยวพรุ่งนี้กูจะไปซื้อรถใหม่” ดลวัฒน์สวนกลับ เขาละรำคาญไอ้เพื่อนหน้ายิ้มนี่เต็มทน ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมามันล้อเขาทุกวัน “คุณหมื่นเข้าใจผิดแล้วนะคะ จ๋าไม่ได้...” “ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณจ๋าไม่ต้องเขิน ไอ้หน้าหนวดเพื่อนผมมีสาวมาปลื้มเยอะ ผมชินซะแล้ว ส่วนตัวมันเองก็ทำเล่นตัวตลอดเวลา คุณจ๋าก็ควรชินเหมือนกันนะครับ” ขาทั้งสองข้างของจินดาหลารีบพาตัวเองออกมาจากห้องกระจกของเจ้านายโดยไว เมื่ออยู่ตรงนั้นก็มีแต่เรื่องให้อับอาย นอกจากจะไม่มีใครฟังว่าเธอไม่ได้หลงใหลได้ปลื้มในตัวดลวัฒน์ นับหมื่นยังคิดว่าเธอขัดเขิน ขี้อายซะอีกนี่ ... แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธไปอีกครั้งหรอกว่าจะไม่กลับกับพวกเขา เพราะเสียงผู้หญิงในหัวร้องบอกมาว่า ‘ช่างประไร ได้อยู่ใกล้เขาอีกหน่อย ฟินนาเล่จะตาย’ และเธอก็เห็นจริงดังนั้น เวลาแห่งอิสระภาพของเธอเหลืออยู่แค่หกเดือนไม่ขาดไม่เกินนับจากนี้แล้วนี่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD