วาดิมยิ้มบางๆให้กับคนอื่นที่เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆที่ทำอยู่เผื่อว่าจะได้ร่วมลงทุนกันบ้าง บางคนที่มีอายุหน่อยก็แนะนำลูกสาวให้รู้จักเผื่อว่าสองครอบครัวจะได้เป็นทองแผนเดียวกัน เขาคือผู้ชายที่มีสถานะทางสังคมที่ดีมาก การศึกษาดี โสดสนิทไร้คนรู้ใจ เคยมีอดีตคู่หมั้นแต่จบกันไม่ดีและหลายคนรู้ว่าเรื่องนี้ใครผิด เรื่องเงินทองมีอยู่มากมายพอจะใช้สบายๆไปทั้งชีวิตและมีความสามารถโดดเด่นหลายด้าน
นั่นคือสิ่งที่คนอื่นรู้
ไม่มีใครรู้ว่าเขามีนกน้อยในกรงทอง
“คุณวาดิมจะกลับเลยรึเปล่าครับ?”
“อืม ยังไม่ต้องส่งใครตามสอดแนมเพลงขวัญตอนนี้หรอก ฉันว่ามันน่าจะรู้ตัวและเตรียมตัวรออยู่แล้ว ฉันยังไม่อยากเสียลูกน้องไปแบบโง่ๆอีกครั้ง”
“แต่ว่าคุณเพลงขวัญอาจจะหายตัวไปนะครับ”
“เพลงขวัญเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ฉันว่าคนบงการมันอยู่ใกล้ๆเรานี่แหละวี ถ้าหากฉันตายมันก็จะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์ทุกอย่าง หลังจากพ่อแม่ฉันตายมีอะไรอีกไหมที่ฉันยังไม่รู้ห่ะวี?”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ จำได้แค่ช่วงนั้นคุณท่านเครียดมากและมีเรื่องกับอีกคน แต่ตามหลักฐานที่หาได้คุณธีรัชไม่ได้เป็นคนทำนะครับ ทุกอย่างออกมาชัดว่ามันถูกใส่ร้ายมาโดยตลอด จริงๆแล้วผมว่ามันก็น่าจะเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเหมือนกัน แต่อีกไม่นานมันก็น่าจะเปิดเผยตัวแล้วแหละครับ”
“อืม” เขาพยักหน้าตอบง่ายๆแล้วหันไปมองคนสูงวัยที่เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีมาก นั่นคือลุงโฬมเป็นเพื่อนสนิทของพ่อแม่เขาเองแหละ ตั้งแต่พ่อแม่เสียไปก็มีลุงโฬมคอยดูแลเงียบๆเสมอ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะวาดิม เป็นไงบ้างห่ะ แล้วนี่เจอเพลงขวัญรึเปล่า?”
“เจอครับ แต่มันไม่มีอะไรไปต่อได้อีกแล้ว”
“ลุงว่าเราควรจะหาแฟนสักคนได้แล้วนะ”
“เรื่องแบบนี้จะหาง่ายๆได้จากที่ไหนล่ะครับลุง ผมกำลังจะกลับแล้วขอตัวก่อนนะ”
“เดินทางดีๆล่ะ”
วาดิมเดินออกมานอกงานด้วยความสบายใจ แล้วนั่งรถกลับบ้านพักทันทีด้วยความอบอุ่นใจยิ่งกว่าเพราะคิดถึงเด็กแสบมาก รชาชอบแกล้งตลอดเวลา ปากดี อวดเก่งและน่ารักเกินกว่าใครเลย หลังจากเดินทางมาเกือบชั่วโมงก็มาถึงบ้านพักส่วนตัวและเดินเข้าไปในบ้านกวาดสายตามองหาเด็กแสบ
“คุณวาดิมคุณวีมาทางนี้เร็ว” น้ำเสียงหวานตะโกนเรียกดังลั่นบ้านเชียว
“มาแปลกนะครับวันนี้” วีบ่นเบาๆด้วยความสงสัย
“นั่นสิ แปลกจนไม่น่าไว้วางใจ” วาดิมตอบกลับ
ห้องครัวที่ไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไรในตอนนี้เละเทะมาก สภาพเหมือนผ่านสงครามมาอย่างหนักหน่วงทั้งที่ไม่ใช่เลย เด็กแสบยืนยิ้มกว้างแล้วเปิดเตาอบออกมาให้เห็นว่าทำอะไร คุกกี้ขนาดน่ารักที่ค่อนข้างไหม้เกรียมมาก! เขาเหมือนจะเห็นชะตากรรมของตัวเองแล้วสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ วีถอนหายใจเบาๆก่อนจะยิ้มแห้งให้กับเขาเช่นกัน
“ชิมสิ”
“ไม่ยักรู้ว่าทำเป็นด้วย”
“พึ่งทำครั้งแรกค่ะ งั้นฉันป้อนคุณวาดิมนะ” เธอหยิบคุกกี้น่ารักขึ้นมาแล้วป้อนเขาทันทีด้วยความชอบใจมากและลุ้นนิดหน่อยว่ารสชาติจะอร่อยไหม นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำคุกกี้เลยนะ แถมสูตรก็ค่อนข้างง่ายมาก
“เป็นไงคะ?”
“อร่อย”
“งั้นกินเยอะๆล่ะ เดี๋ยวฉันเอาใส่กล่องไว้ให้”
วีถอนหายใจอีกครั้งแล้วหยิบคุกกี้ชิ้นที่ดูเหมือนจะสภาพดีที่สุดมากินด้วยความหวั่นใจ แต่มันแข็งมาก! คุกกี้ที่ไหม้น้อยที่สุดแข็งเหมือนเอาหินมาทำอย่างนั้นแหละ เขาเลยเอาเข้าปากไปทั้งชิ้นแล้วอมอยู่แป๊บหนึ่งให้เนื้อคุกกี้ละลายพอจะเคี้ยวได้ รสชาติพูดได้เลยว่าขมมาก เนื้อหยาบๆเหมือนผสมแป้งไม่ค่อยดี แทบจะไร้กลิ่นเนยนมเลย รสชาติแบบนี้ห่างไกลจากคำว่าอร่อยไปหลายร้อยเท่า แล้วกลืนลงคอพร้อมกับหยิบน้ำมาดื่มทันทีไม่งั้นมีติดคอตายแน่นอนและถอนหายใจอีกครั้งด้วยความหนักใจ
แบ่งคุกกี้ให้คนละกล่องเลยเหรอ
คุณวาดิมกินได้เพราะรัก ส่วนเขาไม่ไหวจริงๆ
“อร่อยไหมวี?”
“คุณวาดิมว่าไง ผมก็ว่างั้น”
“งั้นเอาไปกินทั้งสองกล่องเลยไหมฉันยกให้”
“อย่าเลยครับผมเกรงใจ”
“งั้นก็…เอาไปกล่องหนึ่ง”
“ผมไม่ค่อยกินขนมครับ เชิญคุณวาดิมเถอะ”
“เอาไปแบ่งลูกน้องก็ได้”
“อย่าลงโทษลูกน้องโหดขนาดนั้นเลยครับคุณวาดิม”
วาดิมจำใจต้องหอบคุกกี้ของเด็กแสบขึ้นห้องทำงานแล้วจับมือเธอไปด้วยกัน วันนี้แม่บ้านรายงานว่าเธอตื่นมาตอนเที่ยงและไม่ได้ทำอะไรนอกจากคลุกตัวอยู่ในครัวเพื่อหัดทำอาหาร แต่ไม่ว่าจะกี่เมนูล้วนกินไม่ได้ ขนาดต้มไข่ยังทำให้หม้อไหม้ได้เลย ส่วนคุกกี้นี้น่าจะเป็นอันที่ดีที่สุดของวันแล้วแหละ เขาก็ไม่อยากจะเสียน้ำใจเด็กที่ผีเข้าผีออกแบบนี้เลยต้องรับมากินคนเดียวทั้งสองกล่องเลย
แต่ถ้าวีแบ่งไปสักกล่องคงจะดี
“ต่อไปไม่ต้องทำเองให้ลำบากหรอก เธอสั่งเอาก็ได้”
“ทำไมล่ะ?”
“เดี๋ยวเหนื่อย”
“เฮ้อ…ฉันเคยลองทำเค้กวันเกิดด้วยนะ”
“จริงเหรอรชา!?”
“แต่ครัวไหม้อะ! หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครยอมให้เข้าครัวอีกเลย พอมาอยู่ที่นี่เลยอยากลองทำ”
อันนี้เขาไม่แปลกใจนะ
เขาก็ไม่อยากให้เธอเข้าครัวเหมือนกัน
หลังจากเก็บคุกกี้ทั้งสองกล่องแล้วก็เดินไปที่ห้องของรชาแล้วเปิดประตูเข้าไป เด็กแสบกำลังจะเล่นเกมอีกแล้วแถมยังกวักมือเรียกประหนึ่งว่าเขาคือเพื่อนวัยเดียวกันทั้งที่เขาอายุมากกว่าถึงสิบปีเชียวนะ เกมพวกนี้เขาก็ไม่เคยเล่นมาก่อนเพราะไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นพอจะสนใจ
“มีอะไร?”
“เติมเกมให้หน่อยสิ”
“ยังไง?”
“ก็ตัดกับบัตรคุณวาดิมไง เดี๋ยวฉันให้เงินคืน”
“บัตรเครดิตตัวเองก็มี”
“ขืนใช้แม่ได้รู้พอดีสิว่าอยู่ที่ไหน”
“โอเค งั้นรอฉันแป๊บหนึ่งนะ” เขามองเกมที่เธอเล่นอยู่ไม่กี่วินาทีก็เดินกลับห้องเพื่อหยิบบัตรเครดิตของตัวเองส่งให้รชาไปใช้ในการเติมเกม เธอหนีออกจากบ้านมาอยู่กับเขาเลยต้องปกปิดร่องรอยทุกอย่างเพื่อให้พ่อแม่สืบหาที่อยู่ไม่ได้ จะว่าไปเธอก็เป็นที่ฉลาดมากจนอยากจะทดสอบอะไรเล็กน้อย
“ไปเล่นน้ำกันไหม?”
“อีกสิบนาที”
“โอเค”
เธอนั่งเหยียดขายาวพิงเตียงเพื่อเล่นเกมได้อย่างสนุกจนแทบเป็นประสาท ส่วนคุณวาดิมหยิบโทรศัพท์มาอ่านอะไรไม่รู้แล้วนอนตักของเธอไปด้วย ก่อนที่เขาจะวางโทรศัพท์ลงแล้วมือใหญ่โอบกอดเอวและใบหน้าแทบจะแนบชิดกับหน้าท้องกันอยู่แล้ว เธอรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นและแววตาที่มองกันตลอดเวลา
แก่แล้วยังมาอ้อนเหมือนเด็กไปได้
ไม่เจียมตัวเลย
“กอดแน่นเกินไปมันอึดอัด!”
“ใกล้จบรึยัง?”
“อื้ม”
“เธอติดเกมมากเลยนะ”
“ก็ไม่มีเพื่อนนี่ ตอนอยู่ที่บ้านจะเล่นกับใครก็เล่นไม่ได้ฉันเลยเล่นเกมแทนไง”
“ท่าทางจะเหงามาก”
“อื้ม สามปีมาแล้วนะที่ไม่ได้ออกจากบ้าน นี่เป็นครั้งแรกก็ต้องเอาให้คุ้มที่อุตส่าห์หนีออกมาได้”
“อยู่กับฉันตลอดไปเลยได้ไหม?”
“บ้าเหรอ!”
“เธอก็รู้นี่ว่าฉันรู้สึกยังไง”
“ผ่านมาตั้งสามปีแล้วนะ”
“ฉันยังรู้สึกเหมือนเดิม พอดีว่าฉันเป็นคนมั่นคงมาก”
เธอพยักหน้าตอบส่งๆแล้วเล่นต่ออีกนิดก็จบพอดี ครั้งนี้เธอชนะ! จากนั้นก็วางโทรศัพท์ลงแล้วมีคนมาจับมือเอาไว้แถมยังบีบเบาๆเหมือนนวดให้อีกด้วย คุณวาดิมชอบทำอะไรรุ่มร่ามกับเธอตลอดเลย เมื่อสามปีก่อนเธอยังเด็กกว่านี้เขาก็ชอบมากวน มาแหย่ แถมขอให้ไปหาทุกวัน บางวันเธอก็แอบไปนอนกลางวันที่บ้านต้นไม้กับเขา บางคืนก็ไปค้างด้วย เขาเคยบอกว่าอยากอยู่กับเธอตลอดไปในคืนที่เรานอนดูดาวด้วยกันและวันนั้นเขาก็จับมือเธอไปจูบแผ่วเบาซ้ำๆเหมือนกลัวว่าจะชักหนี
สามปีที่แล้วเขาคือคนธรรมดาที่น่ารัก
ตอนนี้คือคนแก่ที่น่าแกล้ง
“หายปวดมือรึยัง?”
“อื้ม”
“ไปเล่นน้ำกันแล้วค่อยมากินอาหารค่ำด้วยกัน”
“ฉันอยู่ด้วยแบบนี้คนอื่นจะรู้ไหมอะ?”
“ทุกอย่างเก็บเป็นความลับ ฉันไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องเธอเด็ดขาด ฉันไม่ยอมให้ใครมาแย่งเธอไปง่ายๆหรอกนะรชา รู้บ้างไหมว่าฉันหวงเธอมากขนาดไหน”
“อย่าโอเวอร์สิ!”
“เชื่อเถอะน่าว่าฉันหวงเธอที่สุด รอบๆตัวฉันมันอันตรายมาตลอดตั้งแต่เด็กจนฉันชินไปมันแล้ว เพราะงั้นฉันจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเธอได้เด็ดขาด”
“ทำอย่างกับแตะต้องฉันได้ง่ายๆงั้นแหละ ไปเล่นน้ำกันเถอะคุณวาดิม”
สระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่มีแค่เราสองคนเล่นอยู่ด้วยความสนุกมาก เขาลองท้ารชาว่ายน้ำแล้วปรากฏว่าเธอว่ายน้ำเร็วมาก ดำน้ำได้นานพอสมควร แถมยังประสาทสัมผัสไวชนิดที่ของตกยังไม่ทันถึงพื้นก็รับได้ หรือแม้แต่มีบางอย่างผิดแปลกไปก็รู้ตัวในทันที สัญชาตญาณพวกนี้ต้องถูกฝึกมาเท่านั้น น่าสงสัยคือใครฝึกเธอ ใครสอนเธอและเธอทำอะไรได้มากกว่านี้รึเปล่า
ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งหลงใหลมากขึ้น
คงโงหัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ