5

1791 Words
วาดิมยิ้มบางๆให้กับคนอื่นที่เข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆที่ทำอยู่เผื่อว่าจะได้ร่วมลงทุนกันบ้าง บางคนที่มีอายุหน่อยก็แนะนำลูกสาวให้รู้จักเผื่อว่าสองครอบครัวจะได้เป็นทองแผนเดียวกัน เขาคือผู้ชายที่มีสถานะทางสังคมที่ดีมาก การศึกษาดี โสดสนิทไร้คนรู้ใจ เคยมีอดีตคู่หมั้นแต่จบกันไม่ดีและหลายคนรู้ว่าเรื่องนี้ใครผิด เรื่องเงินทองมีอยู่มากมายพอจะใช้สบายๆไปทั้งชีวิตและมีความสามารถโดดเด่นหลายด้าน นั่นคือสิ่งที่คนอื่นรู้ ไม่มีใครรู้ว่าเขามีนกน้อยในกรงทอง “คุณวาดิมจะกลับเลยรึเปล่าครับ?” “อืม ยังไม่ต้องส่งใครตามสอดแนมเพลงขวัญตอนนี้หรอก ฉันว่ามันน่าจะรู้ตัวและเตรียมตัวรออยู่แล้ว ฉันยังไม่อยากเสียลูกน้องไปแบบโง่ๆอีกครั้ง” “แต่ว่าคุณเพลงขวัญอาจจะหายตัวไปนะครับ” “เพลงขวัญเป็นแค่หมากตัวหนึ่ง ฉันว่าคนบงการมันอยู่ใกล้ๆเรานี่แหละวี ถ้าหากฉันตายมันก็จะเป็นคนที่ได้ผลประโยชน์ทุกอย่าง หลังจากพ่อแม่ฉันตายมีอะไรอีกไหมที่ฉันยังไม่รู้ห่ะวี?” “ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ จำได้แค่ช่วงนั้นคุณท่านเครียดมากและมีเรื่องกับอีกคน แต่ตามหลักฐานที่หาได้คุณธีรัชไม่ได้เป็นคนทำนะครับ ทุกอย่างออกมาชัดว่ามันถูกใส่ร้ายมาโดยตลอด จริงๆแล้วผมว่ามันก็น่าจะเป็นแค่หมากตัวหนึ่งเหมือนกัน แต่อีกไม่นานมันก็น่าจะเปิดเผยตัวแล้วแหละครับ” “อืม” เขาพยักหน้าตอบง่ายๆแล้วหันไปมองคนสูงวัยที่เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีมาก นั่นคือลุงโฬมเป็นเพื่อนสนิทของพ่อแม่เขาเองแหละ ตั้งแต่พ่อแม่เสียไปก็มีลุงโฬมคอยดูแลเงียบๆเสมอ “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะวาดิม เป็นไงบ้างห่ะ แล้วนี่เจอเพลงขวัญรึเปล่า?” “เจอครับ แต่มันไม่มีอะไรไปต่อได้อีกแล้ว” “ลุงว่าเราควรจะหาแฟนสักคนได้แล้วนะ” “เรื่องแบบนี้จะหาง่ายๆได้จากที่ไหนล่ะครับลุง ผมกำลังจะกลับแล้วขอตัวก่อนนะ” “เดินทางดีๆล่ะ” วาดิมเดินออกมานอกงานด้วยความสบายใจ แล้วนั่งรถกลับบ้านพักทันทีด้วยความอบอุ่นใจยิ่งกว่าเพราะคิดถึงเด็กแสบมาก รชาชอบแกล้งตลอดเวลา ปากดี อวดเก่งและน่ารักเกินกว่าใครเลย หลังจากเดินทางมาเกือบชั่วโมงก็มาถึงบ้านพักส่วนตัวและเดินเข้าไปในบ้านกวาดสายตามองหาเด็กแสบ “คุณวาดิมคุณวีมาทางนี้เร็ว” น้ำเสียงหวานตะโกนเรียกดังลั่นบ้านเชียว “มาแปลกนะครับวันนี้” วีบ่นเบาๆด้วยความสงสัย “นั่นสิ แปลกจนไม่น่าไว้วางใจ” วาดิมตอบกลับ ห้องครัวที่ไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไรในตอนนี้เละเทะมาก สภาพเหมือนผ่านสงครามมาอย่างหนักหน่วงทั้งที่ไม่ใช่เลย เด็กแสบยืนยิ้มกว้างแล้วเปิดเตาอบออกมาให้เห็นว่าทำอะไร คุกกี้ขนาดน่ารักที่ค่อนข้างไหม้เกรียมมาก! เขาเหมือนจะเห็นชะตากรรมของตัวเองแล้วสิว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ วีถอนหายใจเบาๆก่อนจะยิ้มแห้งให้กับเขาเช่นกัน “ชิมสิ” “ไม่ยักรู้ว่าทำเป็นด้วย” “พึ่งทำครั้งแรกค่ะ งั้นฉันป้อนคุณวาดิมนะ” เธอหยิบคุกกี้น่ารักขึ้นมาแล้วป้อนเขาทันทีด้วยความชอบใจมากและลุ้นนิดหน่อยว่ารสชาติจะอร่อยไหม นี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำคุกกี้เลยนะ แถมสูตรก็ค่อนข้างง่ายมาก “เป็นไงคะ?” “อร่อย” “งั้นกินเยอะๆล่ะ เดี๋ยวฉันเอาใส่กล่องไว้ให้” วีถอนหายใจอีกครั้งแล้วหยิบคุกกี้ชิ้นที่ดูเหมือนจะสภาพดีที่สุดมากินด้วยความหวั่นใจ แต่มันแข็งมาก! คุกกี้ที่ไหม้น้อยที่สุดแข็งเหมือนเอาหินมาทำอย่างนั้นแหละ เขาเลยเอาเข้าปากไปทั้งชิ้นแล้วอมอยู่แป๊บหนึ่งให้เนื้อคุกกี้ละลายพอจะเคี้ยวได้ รสชาติพูดได้เลยว่าขมมาก เนื้อหยาบๆเหมือนผสมแป้งไม่ค่อยดี แทบจะไร้กลิ่นเนยนมเลย รสชาติแบบนี้ห่างไกลจากคำว่าอร่อยไปหลายร้อยเท่า แล้วกลืนลงคอพร้อมกับหยิบน้ำมาดื่มทันทีไม่งั้นมีติดคอตายแน่นอนและถอนหายใจอีกครั้งด้วยความหนักใจ แบ่งคุกกี้ให้คนละกล่องเลยเหรอ คุณวาดิมกินได้เพราะรัก ส่วนเขาไม่ไหวจริงๆ “อร่อยไหมวี?” “คุณวาดิมว่าไง ผมก็ว่างั้น” “งั้นเอาไปกินทั้งสองกล่องเลยไหมฉันยกให้” “อย่าเลยครับผมเกรงใจ” “งั้นก็…เอาไปกล่องหนึ่ง” “ผมไม่ค่อยกินขนมครับ เชิญคุณวาดิมเถอะ” “เอาไปแบ่งลูกน้องก็ได้” “อย่าลงโทษลูกน้องโหดขนาดนั้นเลยครับคุณวาดิม” วาดิมจำใจต้องหอบคุกกี้ของเด็กแสบขึ้นห้องทำงานแล้วจับมือเธอไปด้วยกัน วันนี้แม่บ้านรายงานว่าเธอตื่นมาตอนเที่ยงและไม่ได้ทำอะไรนอกจากคลุกตัวอยู่ในครัวเพื่อหัดทำอาหาร แต่ไม่ว่าจะกี่เมนูล้วนกินไม่ได้ ขนาดต้มไข่ยังทำให้หม้อไหม้ได้เลย ส่วนคุกกี้นี้น่าจะเป็นอันที่ดีที่สุดของวันแล้วแหละ เขาก็ไม่อยากจะเสียน้ำใจเด็กที่ผีเข้าผีออกแบบนี้เลยต้องรับมากินคนเดียวทั้งสองกล่องเลย แต่ถ้าวีแบ่งไปสักกล่องคงจะดี “ต่อไปไม่ต้องทำเองให้ลำบากหรอก เธอสั่งเอาก็ได้” “ทำไมล่ะ?” “เดี๋ยวเหนื่อย” “เฮ้อ…ฉันเคยลองทำเค้กวันเกิดด้วยนะ” “จริงเหรอรชา!?” “แต่ครัวไหม้อะ! หลังจากวันนั้นก็ไม่มีใครยอมให้เข้าครัวอีกเลย พอมาอยู่ที่นี่เลยอยากลองทำ” อันนี้เขาไม่แปลกใจนะ เขาก็ไม่อยากให้เธอเข้าครัวเหมือนกัน หลังจากเก็บคุกกี้ทั้งสองกล่องแล้วก็เดินไปที่ห้องของรชาแล้วเปิดประตูเข้าไป เด็กแสบกำลังจะเล่นเกมอีกแล้วแถมยังกวักมือเรียกประหนึ่งว่าเขาคือเพื่อนวัยเดียวกันทั้งที่เขาอายุมากกว่าถึงสิบปีเชียวนะ เกมพวกนี้เขาก็ไม่เคยเล่นมาก่อนเพราะไม่ได้มีเวลาว่างมากขนาดนั้นพอจะสนใจ “มีอะไร?” “เติมเกมให้หน่อยสิ” “ยังไง?” “ก็ตัดกับบัตรคุณวาดิมไง เดี๋ยวฉันให้เงินคืน” “บัตรเครดิตตัวเองก็มี” “ขืนใช้แม่ได้รู้พอดีสิว่าอยู่ที่ไหน” “โอเค งั้นรอฉันแป๊บหนึ่งนะ” เขามองเกมที่เธอเล่นอยู่ไม่กี่วินาทีก็เดินกลับห้องเพื่อหยิบบัตรเครดิตของตัวเองส่งให้รชาไปใช้ในการเติมเกม เธอหนีออกจากบ้านมาอยู่กับเขาเลยต้องปกปิดร่องรอยทุกอย่างเพื่อให้พ่อแม่สืบหาที่อยู่ไม่ได้ จะว่าไปเธอก็เป็นที่ฉลาดมากจนอยากจะทดสอบอะไรเล็กน้อย “ไปเล่นน้ำกันไหม?” “อีกสิบนาที” “โอเค” เธอนั่งเหยียดขายาวพิงเตียงเพื่อเล่นเกมได้อย่างสนุกจนแทบเป็นประสาท ส่วนคุณวาดิมหยิบโทรศัพท์มาอ่านอะไรไม่รู้แล้วนอนตักของเธอไปด้วย ก่อนที่เขาจะวางโทรศัพท์ลงแล้วมือใหญ่โอบกอดเอวและใบหน้าแทบจะแนบชิดกับหน้าท้องกันอยู่แล้ว เธอรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นและแววตาที่มองกันตลอดเวลา แก่แล้วยังมาอ้อนเหมือนเด็กไปได้ ไม่เจียมตัวเลย “กอดแน่นเกินไปมันอึดอัด!” “ใกล้จบรึยัง?” “อื้ม” “เธอติดเกมมากเลยนะ” “ก็ไม่มีเพื่อนนี่ ตอนอยู่ที่บ้านจะเล่นกับใครก็เล่นไม่ได้ฉันเลยเล่นเกมแทนไง” “ท่าทางจะเหงามาก” “อื้ม สามปีมาแล้วนะที่ไม่ได้ออกจากบ้าน นี่เป็นครั้งแรกก็ต้องเอาให้คุ้มที่อุตส่าห์หนีออกมาได้” “อยู่กับฉันตลอดไปเลยได้ไหม?” “บ้าเหรอ!” “เธอก็รู้นี่ว่าฉันรู้สึกยังไง” “ผ่านมาตั้งสามปีแล้วนะ” “ฉันยังรู้สึกเหมือนเดิม พอดีว่าฉันเป็นคนมั่นคงมาก” เธอพยักหน้าตอบส่งๆแล้วเล่นต่ออีกนิดก็จบพอดี ครั้งนี้เธอชนะ! จากนั้นก็วางโทรศัพท์ลงแล้วมีคนมาจับมือเอาไว้แถมยังบีบเบาๆเหมือนนวดให้อีกด้วย คุณวาดิมชอบทำอะไรรุ่มร่ามกับเธอตลอดเลย เมื่อสามปีก่อนเธอยังเด็กกว่านี้เขาก็ชอบมากวน มาแหย่ แถมขอให้ไปหาทุกวัน บางวันเธอก็แอบไปนอนกลางวันที่บ้านต้นไม้กับเขา บางคืนก็ไปค้างด้วย เขาเคยบอกว่าอยากอยู่กับเธอตลอดไปในคืนที่เรานอนดูดาวด้วยกันและวันนั้นเขาก็จับมือเธอไปจูบแผ่วเบาซ้ำๆเหมือนกลัวว่าจะชักหนี สามปีที่แล้วเขาคือคนธรรมดาที่น่ารัก ตอนนี้คือคนแก่ที่น่าแกล้ง “หายปวดมือรึยัง?” “อื้ม” “ไปเล่นน้ำกันแล้วค่อยมากินอาหารค่ำด้วยกัน” “ฉันอยู่ด้วยแบบนี้คนอื่นจะรู้ไหมอะ?” “ทุกอย่างเก็บเป็นความลับ ฉันไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องเธอเด็ดขาด ฉันไม่ยอมให้ใครมาแย่งเธอไปง่ายๆหรอกนะรชา รู้บ้างไหมว่าฉันหวงเธอมากขนาดไหน” “อย่าโอเวอร์สิ!” “เชื่อเถอะน่าว่าฉันหวงเธอที่สุด รอบๆตัวฉันมันอันตรายมาตลอดตั้งแต่เด็กจนฉันชินไปมันแล้ว เพราะงั้นฉันจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเธอได้เด็ดขาด” “ทำอย่างกับแตะต้องฉันได้ง่ายๆงั้นแหละ ไปเล่นน้ำกันเถอะคุณวาดิม” สระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่มีแค่เราสองคนเล่นอยู่ด้วยความสนุกมาก เขาลองท้ารชาว่ายน้ำแล้วปรากฏว่าเธอว่ายน้ำเร็วมาก ดำน้ำได้นานพอสมควร แถมยังประสาทสัมผัสไวชนิดที่ของตกยังไม่ทันถึงพื้นก็รับได้ หรือแม้แต่มีบางอย่างผิดแปลกไปก็รู้ตัวในทันที สัญชาตญาณพวกนี้ต้องถูกฝึกมาเท่านั้น น่าสงสัยคือใครฝึกเธอ ใครสอนเธอและเธอทำอะไรได้มากกว่านี้รึเปล่า ยิ่งเห็นแบบนี้ยิ่งหลงใหลมากขึ้น คงโงหัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD