9

1867 Words
เธอนอนซบอกเขาฟังเสียงหัวใจที่เต้นแรงมากกว่าปรกติ ก่อนจะเงยหน้าแล้วขยับไปจูบปากเขาแผ่วเบาให้ใจสั่นเล่นหนักกว่าเดิม เธอขยับไปหอมแก้มอีกฟอดใหญ่พอผละออกมาอีกทีคนแก่ก็หน้าแดงก่ำเลย แต่ใครจะคิดล่ะว่าเขาจะเขินกันง่ายๆด้วยเรื่องแค่นี้ ทีเมื่อคืนเล่นงานเธอหนักขนาดนั้นไม่เห็นว่าจะเขินอะไรเลยสักนิด เขาเอาแต่ตอกย้ำว่าเราเป็นผัวเมียกัน ห้ามเธอทิ้งเขาไปไหนและบอกว่ารักซ้ำๆไม่หยุด เธอไม่อยากทิ้งเขาไปเลยถ้าไม่จำเป็น แต่อนาคตใครจะรู้ได้ล่ะ เราออกมาด้วยกันตามลำพังและเธอแต่งตัวค่อนข้างมิดชิดพอสมควร คุณวาดิมบอกด้วยว่าเพื่อนเขาอยู่ที่นี่และนัดเจอกันเพื่อจะพูดคุยเรื่องงานนิดหน่อย เธอก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปด้วยทำไมเหมือนกันเพราะเรื่องงานมันค่อนข้างเป็นความลับและส่วนตัวมาก อีกเรื่องที่รู้คือเพื่อนสนิทของเขามีอยู่สองคน แต่ว่าคนหนึ่งตายไปแล้วจากอุบัติเหตุรถคว่ำเมื่อสองปีก่อน เขาเพื่อนน้อยกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะ เธอไม่มีเพื่อนเลย “นี่ภาคินเพื่อนฉันเอง นี่รชาเมียของฉัน” “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณภาคิน” “ยินดีที่ได้รู้จักเหมือนกันครับ ว่าแต่ไปจีบกันตอนไหนทำไมไม่เห็นมีใครรู้เลยล่ะ?” “ไม่ได้จีบค่ะ คุณวาดิมลักพาตัวฉันมา” “รชา!!” “ไอ้วาดิมมึงทำเหี้ยอะไรเนี่ย!” “เรื่องมันยาวเดี๋ยวเล่าให้ฟังทีหลัง” “ฉันให้ พอดีเห็นแล้วมันเหมาะกับเธอดี” ภาคินหยิบช่อดอกไม้เล็กๆที่แวะซื้อมากะทันหันเพราะเพื่อนบอกว่าจะพาคนสำคัญมาให้รู้จัก แต่ใครจะคิดล่ะว่าเพื่อนจะพาเมียมาแนะนำ! ดูจากหน้าตาก็รู้แล้วว่าเด็กมากกว่าหลายปี ท่าทางเหมือนจะแสบใช่ย่อยด้วยนะ แล้วการแต่งตัวที่เรียบร้อยซะจนมองแทบไม่เห็นผิวหนังขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ชอบแต่งตัวแบบนี้เอง หรือเพื่อนมันบังคับให้แต่งตัวแบบนี้เพราะความหวงกันแน่ เขายังสงสัยว่าเพื่อนไปมีเมียตอนไหน มันลักพาตัวจริงๆเหรอ “คุยกันได้ใช่ไหม?” ภาคินถามก่อนเพราะเรื่องมันค่อนข้างสำคัญมากพอสมควร แล้วเพื่อนก็พยักหน้าแบบไม่สนใจหรอก ตอนนี้มันเอาแต่จ้องเมียเด็กที่กำลังนั่งตาแป๋วกินขนมอยู่ “คนใกล้ตัวพ่อแม่มึงแน่นอนถึงรู้ทุกอย่างขนาดนั้น” “นอกจากโฬมแล้วก็นึกถึงใครไม่ออกเลยว่ะ” “แล้วน้องสาวแม่ของมึงล่ะ?” “น้าเซญ่าน่ะเหรอ…กูแทบไม่เคยเห็นเลย จำได้ว่าเคยเจอแค่ครั้งเดียวตอนงานศพของพ่อแม่แล้วก็หายหัวไปเลย แต่ก็พอได้ข่าวว่าแต่งงานมีผัวเป็นเจ้าของบ่อนพนัน” “นั่นเป็นคนที่น่าจะได้ผลประโยชน์จากมึงมากที่สุดไม่ใช่เหรอวะ?” “ก็มีส่วน แล้วงานวันนั้นมึงไปกับใคร?” “คนเดียว พอดีไม่มีเมีย” “แล้ว…” “ยังหรอก ชาติหน้าจะได้ไหมยังไม่รู้เลย” รชานั่งกินขนมเงียบๆแล้วฟังเรื่องที่พวกเขาคุยกันเกี่ยวกับการถูกลอบทำร้ายอย่างหนักในช่วงหลัง ปัญหาที่เกิดขึ้นมาประมาณสิบกว่าปีนับตั้งแต่พ่อแม่และคนรอบตัวค่อยๆตายไป คุณวาดิมเครียดเรื่องนี้มากพอสมควรและมองมาทางเธอบ่อยครั้ง เขาเป็นห่วงเธอมากแต่ว่าเธอไม่มีอะไรให้เป็นห่วงหรอก ลำพังการอยู่กับเขายังแทบไม่มีใครรู้เลยด้วยซ้ำ เรื่องการถูกลอบทำร้ายยิ่งเป็นไปได้ยากมากเพราะเธออยู่ที่บ้านตลอดเวลาตามที่เราตกลงกัน ถ้าหากว่าเธอต้องการจะออกไปไหนก็ต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้นที่พาไปได้ คนอื่นไม่มีสิทธิ์ คนเดียวที่เขาควรห่วงคือตัวเองมากกว่า เธอไม่เป็นอะไรหรอก เวลาผ่านไปนานมากพอสมควรกว่าเราจะกลับบ้าน คุณวาดิมซื้อขนมให้ค่อนข้างเยอะมาก ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆก็เยอะเกินไป ส่วนเรื่องชุดที่จะใส่ในวันนั้นทางร้านจะนำมาส่งในตอนเช้าวันที่ออกงาน เขาพาเธอไปเลือกเครื่องประดับแต่ว่าเธอไม่ค่อยสนใจเท่าไร คุณวาดิมเลยเลือกทั้งหมดให้เอง อันที่จริงเขาไม่น่าจะถามเธอนะ สุดท้ายเขาก็เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเดิม “กลับบ้านแล้วจะได้พักสักที เธออยากแวะซื้ออะไรไหม?” “ไม่ค่ะ คุณวาดิมว่าดอกกุหลาบนี้เหมาะกับฉันไหม?” “ไม่!” “ทำไมล่ะ!?” “ชอบมากเหรอดอกไม้ช่อนี้?” “ก็…สวยดีนี่ คุณภาคินเลือกเก่งเหมือนกันนะคะ กุหลาบสีแดงสดช่อเล็กพอดีมือเลย” “แต่ฉันไม่ชอบให้เธอสนใจมากกว่าฉัน!” “แค่ชอบดอกไม้มันผิดด้วยเหรอ!?” “ชอบแค่ฉันคนเดียวสิ!” เขาหยิบดอกไม้ที่ภาคินเป็นคนให้แล้วเมียดันชอบมากเกินไปจนไม่สนใจกัน เขาโยนมันออกนอกรถทันทีด้วยความหงุดหงิดมากที่เมียสนใจดอกไม้นี้มากเกินไป ตอนเลือกของด้วยกันก็ไม่เอาอะไรสักอย่างทั้งที่เขาอยากซื้อให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ ชุดที่เลือกใส่ไปงานยังเป็นแบบเกาะอกแทนที่จะเอาชุดอื่นที่ปกปิดมากกว่านั้น เมียใครใครก็หวงทั้งนั้นแหละ ยิ่งเป็นเมียเด็กคนนี้ เขายิ่งโคตรหวง “แก่แล้วไบโพล่า!” “ฉันหึงต่างหาก!” “กับดอกไม้นี่นะ คุณวาดิมยังสติดีอยู่ไหมเนี่ย!?” เขาหันมองเมียตัวเล็กที่ปากดีใส่แบบไม่สนใจอะไรเลย เพียงแค่เธออ้าปากจะพูดอีกครั้งก็ถูกปิดด้วยปากของเขาทันที จูบหนักหน่วงเต็มไปด้วยความหึงหวงแบบที่เด็กอย่างเธอไม่เข้าใจและผู้ใหญ่อย่างเขาก็ไม่มีความสามารถมากพอจะควบคุมมันได้ด้วย เขาผละออกมาพร้อมกับยกมือประคองใบหน้าสวยเชิดรับและจูบไปอีกครั้งอย่างดูดดื่มปนเร่าร้อน เขาล่ะอยากจะเปลี่ยนรถคันนี้ให้เป็นห้องนอนของเราจริงๆ อยากจับเธอขังเอาไว้จริงๆเลย เธอจะได้สนใจเขาแค่คนเดียวเท่านั่น “พอแล้ว!!” “อย่าทำให้ฉันหึงแบบนี้อีก!” “คุณทำตัวเองทั้งนั้นแหละ! แก่แล้วคิดมากคิดเยอะ หึงบ้าอะไรแม้กระทั่งดอกไม้ห่ะ!?” เขาขับรถออกไปทันทีเพราะไม่อยากจะเถียงกับเด็กที่ไม่เคยเข้าใจอะไรสักอย่างเลยทั้งที่เขาชัดเจนตลอดมา ขนาดเรามีอะไรกันแล้วรชายังดูเหมือนไม่แคร์ทั้งที่นั่นเป็นครั้งแรกของเธอ คนที่แคร์เหมือนจะมีแค่เขาคนเดียว ไม่รู้สิว่าทำไมถึงรู้สึกว่าหัวใจของเด็กคนนี้ถูกปิดล็อคเอาไว้ไม่ให้ใครแตะต้องได้ มันช่างต่างกับเขาที่ยกให้เธอไปแบบหักห้ามไม่ได้ ขนาดความจริงปรากฏว่าถูกหลอกทุกอย่างตลอดสองเดือนกว่าที่อยู่ด้วยกันก็ยังรักมั่นคงเหมือนเดิม หรือปัจจุบันที่แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยนอกจากชื่อ อายุและหนีออกจากบ้านที่เป็นเกาะออกมา เขาไม่ได้ปิดบังเรื่องอะไรเธอเลย เธอปิดบังเขาทุกอย่างในชีวิต น่าน้อยใจ ในระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านก็แอบมองเมียที่ไม่ได้สนใจกันสักเท่าไร เธอกดโทรศัพท์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและถอนหายใจสามครั้งเห็นจะได้มั้ง ก่อนจะหันมองเขาเหมือนมีเรื่องที่ต้องตัดสินใจและมีเขาอยู่ในเรื่องนั้นด้วย แววตากลมโตมองเพียงไม่ถึงนาทีก็หันไปมองข้างทาง เขาขับรถไปต่ออีกนิดหนึ่งและกลับยูเทิร์นก่อนจะจอดที่หน้าร้านขายดอกไม้แห่งหนึ่ง “อยู่ในรถแป๊บหนึ่งนะ” “จะไปไหนเหรอ?” “ไปหาของที่เธอน่าจะชอบ” “ของเหรอ?” “อื้ม ไม่เกินสิบนาทีฉันจะกลับมา ห้ามดื้อห้ามซนและห้ามลงจากรถเด็ดขาด เข้าใจไหม?” “โอเค แวะซื้อน้ำร้านนั้นให้ด้วยสิ เอาน้ำแตงโมปั่นนะ” เขาพยักหน้าแล้วยิ้มกว้างให้กับเด็กน่ารักที่ไม่ถามอะไรมาก จากนั้นก็ลงจากรถและไม่ลืมมองรอบๆด้วยความรวดเร็วเพราะช่วงนี้เขาถูกสะกดรอยตามบ่อยมาก การที่ห้ามเธอลงจากรถก็เพื่อไม่ต้องการให้ใครเห็นทั้งนั้นแหละ ส่วนวันนี้ที่ไปซื้อของก็ไม่มีคนแอบตามมาเลยเบาใจพอจะผ่อนคลายไปกับช่วงเวลาความสุขที่เรามีกันและกัน เขาเดินไปสั่งน้ำแตงโมปั่นสองแก้วทันที ก่อนจะเดินเข้าร้านดอกไม้เพื่อเลือกดอกไม้ที่เธอน่าจะชอบบ้าง สิ่งแรกที่ทำให้ตัดสินใจคือดอกกุหลาบสีชมพูและสีขาวจัดเข้าช่อขนาดกลางพอดีมือเด็ก คิดถึงสีหน้าของรชาออกเลยว่าดีขนาดไหน เธอชอบดอกไม้ ในขณะเดียวกันรชากำลังพิมพ์ข้อความคุยกับพี่ชายที่ต้องการเจอเธอด่วนในคืนนี้และห้ามใครรู้เด็ดขาด การหนีออกจากบ้านคุณวาดิมไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเธอหรอก แต่สิ่งที่พี่ชายต้องการคือให้เธอพกอาวุธไปด้วยเผื่อจำเป็นต้องใช้ นั่นเลยเป็นคำตอบชัดว่าพี่ชายนัดเธอไปหาเพื่อให้ช่วยงานที่ไม่น่ายากหรอก พี่น่าจะอยากสอนเธอมากกว่าเพราะทุกครั้งที่ได้ออกจากบ้านก็มักจะสอนให้เรียนรู้การทำงานตลอด ในอนาคตพี่ชายจะเป็นนายใหญ่ของเกาะนั้น ส่วนเธอคือปรึกษาข้างตัวพี่ชาย แค่คิดก็ขี้เกียจแล้ว “เป็นอะไรหน้ามุ้ยเชียว” “คุณ…ดอกไม้!!” “ฉันให้” “ขอบคุณค่ะ คุณวาดิมน่ารักที่สุดเลย” “ก็…” ยัยเด็กแสบรับดอกไม้ไปไม่พอแถมยังหอมแก้มเขาอีก ฉิบหายเถอะ! หัวแทบหยุดเต้น!! เขาพยายามเก็บอาการไม่ให้แสดงออกว่าเขินมากขนาดไหนกับการกระทำเล็กน้อยของเธอ แต่ว่าตอนนี้หน้าร้อนผาวไปหมดแล้ว ลมหายใจเหมือนขาดหายไปยังไงก็ไม่รู้สิ เขารู้สึกเหมือนว่าตอนนี้ทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวยกเว้นเธอคนเดียวที่หันมายิ้มกว้างให้พร้อมกับดวงตาพราวระยับสวยจนแทบช็อค ชอบเวลานี้จังเลย เธอสนใจแค่เขาคนเดียว “คุณวาดิมหน้าแดงนะ ข้างนอกร้อนเหรอ?” “อื้ม ร้อนมาก” “มิน่าล่ะถึงไม่ให้ฉันลงไป รีบกลับบ้านดีกว่าค่ะ ฉันจะจัดของที่ซื้อมาเองห้ามใครมายุ่งนะ ฉันอยากมีเวลาจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองเงียบๆ” “หวงของขนาดนั้นเลยเหรอ?” “ใช่ค่ะ” “ตามใจ แต่ว่าฉันจะช่วยนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD