ความแค้นที่กำลังคุกกรุ่นอยู่ภายในไม่สามารถทำให้มารดาควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
“แม่...แม่ครับ แม่ใจเย็นก่อนนะครับ” ภูมิพัฒน์พยายามเตือนสติมารดาเมื่อเห็นว่ารถกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วจนน่าหวาดเสียว
“...” ตรีเนตรได้แต่นั่งเงียบ สายตาจับจ้องไปยังถนนเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมาย
“แม่ครับ ผมกลัว แม่...”
“...”
“แม่ ไฟแดง!!”
โครม!
เสียงของเขาถูกกลืนหายไปทันทีเมื่อรถขับมาถึงสี่แยกที่มีไฟแดงปรากฏอยู่เบื้องหน้า ซึ่งปกติรถจะต้องชะลอรถเพื่อเตรียมจอด แต่ตรีเนตรกลับเหยียบคันเร่งพารถคู่ใจขับทะยานไปเบื้องหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันที่รถบรรทุกขนาดใหญ่อีกแยกหนึ่งขับสวนมาพอดิบพอดี
สติกลับคืนมาอีกครั้งแต่มันก็สายเกินไปเสียแล้ว เมื่อฟอจูนเนอร์ที่เธอขับมาชนเข้ากับรถบรรทุกเข้าอย่างจัง จนเกิดแรงกระแทกเสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณ
ภูมิพัฒน์หลับตาลงแน่นรับรู้ถึงแรงกระแทกมหาศาลก่อนที่รถจะถูกเหวี่ยงกลิ้งไปบนพื้นถนนอีกหลายตลบ กระจกรถที่ถูกระแทกกระเด็นกระดอนไปทุกทิศทุกทางบ้างก็บาดเข้ากับแขนและใบหน้าของเขาจนเป็นทางยาว เลือดที่ไหลจากบาดแผลบริเวณคิ้วลงมาปิดดวงตาที่ค่อย ๆ ดับลงช้า ๆ จนในที่สุดเขาก็ไม่ได้สติอีกเลย
ผ่านไปกว่าหลายชั่วโมง กว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างช่วยกันนำร่างของทั้งสองออกมาอย่างยากลำบากท่ามกลางฝนที่ยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ภูมิพัฒน์มีแค่แผลบาดจากเศษกระจกบาดตามร่างกายเท่านั้นเพราะเขาคาดเข็มขัดนิรภัย แต่ทว่าร่างที่เจ้าหน้าที่กำลังนำออกมาในภายหลังเป็นเพียงแค่ร่างไร้วิญญาณเท่านั้น
ใบหน้าของตรีเนตรที่มีเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่วถูกสายฝนที่ตกลงมาซะล้างออกจนหมด ทว่าบาดแผลตามร่างกายที่แหลกเหลวจนไม่เหลือเค้าโครงความงามเหมือนแต่ก่อนยังคงเห็นชัดเจน
“คุณแม่ ตื่นสิครับ แม่ไม่อยู่แล้วผมจะอยู่กับใคร ฮือ ๆ ” ภูมิพัฒน์นั่งร้องไห้แทบจะขาดใจอยู่ในอ้อมกอดของบิดาภายใต้ร่มสีดำคันใหญ่ ฝนเม็ดใหญ่ที่ตกลงมาไม่ทำให้รู้สึกหนาวร่างกายแต่อย่างใด แต่มันกลับเป็นความเหน็บหนาวที่กำลังกัดกินใจรู้สึกเจ็บปวดจนแทบจะตายตามมารดาไปอีกคน
“ใจเย็น ๆ นะตาภูมิ แกยังมีพ่ออยู่อีกทั้งคน แม่แกเขาไปสบายแล้ว” ภาคินสวมกอดบุตรชายไว้เพื่อจะปลอบใจ ทว่าภูมิพัฒน์กลับกระชากมือหนาของบิดาออกอย่างนึกรังเกียจ
“ไม่ต้องมาแตะตัวผม เพราะพ่อคนเดียวทำให้แม่ต้องเป็นแบบนี้” บุตรชายตวาดลั่นแข่งกับสายฝน ดวงตาวาวโรจน์จ้องมองหน้าบิดาสลับกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังอย่างโกรธแค้น
ถ้าบิดาไม่ใจร้าย อรกมลไม่เล่นด้วย แม่ของเขาก็ไม่ต้องมาจบชีวิตเพราะความมักง่ายของคนสองคนแบบนี้หรอก
ปี๊น
เสียงแตรรถตรงประตูหน้าบ้านดังขึ้น ชดช้อยรีบถลาไปคว้ารีโมทเพื่อเปิดประตูรั้วออกทันทีก่อนจะรีบไปตามสาวใช้อีกสองคนเพื่อมาช่วยขนกระเป๋าของเจ้านายคนใหม่หลังจากที่ภาคินออกไปรับตั้งแต่รุ่งสาง
ภูมิพัฒน์ตื่นจากห้วงความคิดรีบละสายตาจากรูปมารดาที่อยู่ในมือปรี่ออกไปหาบิดาที่กำลังขนกระเป๋าใบใหญ่ลงจากรถทันที ท่ามกลางบรรดาสาวใช้และผู้มาเยือนคนใหม่ต่างจ้องมองร่างสูงของเขาเป็นตาเดียว
“คุณภูมิ สวัสดีค่ะ” อรกมลกล่าวทักทายบุตรชายของสามีในอนาคตของเธออย่างเป็นมิตร
“มาทางไหนกลับไปทางนั้นเลย ไอ้พวกสกปรก อย่าเข้ามาเหยียบบ้านฉัน” ภาคินตะลึงงันเมื่อเห็นบุตรชายยกมือขึ้นชี้หน้าอรกมลหมายจะเอาเรื่อง เป็นตายร้ายดียังไงเขาก็ไม่มีวันยอมให้ผู้หญิงสกปรกคนนี้เข้าไปในบ้านเขาเด็ดขาด
“แกเป็นบ้าอะไรฮะตาภูมิ!” เสียงบิดาตะคอกกลับพยายามฉุดรั้งมือที่ชี้ไปยังอรกมลลง ไม่คิดไม่ฝันว่าภูมิพัฒน์จะกล้าหักหน้าเขาถึงขนาดนี้
“คุณแม่เสียยังไม่ทันไร นี่คุณพ่อกล้าพามันเข้าบ้านแล้วเหรอครับ!” ภูมิพัฒน์หันมาถามบิดาเสียงเข้มในมือยังถือรูปมารดาไว้แน่น
“แกใจเย็นก่อนได้มั้ย แล้วก็ช่วยหัดเกรงอกเกรงใจน้าอรเข้าบางถึงอย่างไรเขาก็ต้องเข้ามาเป็นคุณนายในบ้านหลังนี้ มาเป็นแม่เลี้ยงแกอยู่แล้ว”
“ไม่! ผมไม่ยอมให้ผู้หญิงชั้นต่ำแบบนี้เข้ามาแทนที่คุณแม่แน่...ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ออกไปให้หมด ออกไป!”
เพี้ยะ!
เพล้ง!
ภาคินฟาดฝ่ามือลงใบบนใบหน้าของบุตรชายอย่างเหลืออดด้วยความพลั้งมือจนร่างสูงล้มลงไปนั่งอยู่บนพื้น รูปมารดาที่เขาใช้ดูต่างหน้าตกลงไปบนพื้นจนแตกไม่เหลือชิ้นดี
“คุณใจเย็น ๆ ก่อนเถอะค่ะ มันอาจจะเร็วเกินไป ให้เวลาคุณภูมิเธอสักหน่อยเถอะนะคะ” เมื่อเห็นว่าภาคินกำลังจะเข้าไปหาบุตรชายอีกครั้ง อรกมลจึงรีบถลาไปจับแขนของเขาไว้ทันที เพราะแค่นี้ว่าที่ลูกเลี้ยงของเธอก็เจ็บปวดทั้งกายและใจมากพออยู่แล้ว
“พ่อใจร้าย! ผมเกลียดพ่อ!”
“ตายจริง คุณหนูไม่ควรพูดแบบนั้นนะคะ” ชดช้อยรีบเข้าไปโอบกอดคุณหนูของเธอไว้ด้วยเกรงว่าจะถูกภาคินดุอีกครั้ง “คุณท่านอย่าถือโทษโกรธคุณหนูเลยนะคะ ป้าขอร้อง”
“ถ้าแกไม่อยากเห็นหน้าคุณอรเขานัก ฉันก็จะส่งแกไปเรียนต่างประเทศ จะได้ไม่ต้องมาเจอหน้ากัน เตรียมตัวให้พร้อมฉันจะส่งแกไปให้เร็วที่สุด” เสียงทรงอำนาจของบิดาดังขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะภาคินจะพาร่างเน่งน้อยของอรกมลพร้อมกับอิงตะวันผู้เป็นน้องสาวเดินหายเข้าไปในบ้าน
การตัดสินใจส่งบุตรชายไปยังที่ไกล ๆ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการไล่แต่อย่างใดหากแต่การได้ไปอยู่ต่างที่บวกกับระยะเวลาอาจจะทำให้ภูมิพัฒน์ทำใจขึ้นมาได้บ้างก็เท่านั้น