“ไปไหนวะ” ธารายืนดูคนงานของร้านขายวัสดุก่อสร้างยกถังสีขึ้นรถ แต่พอหันมาก็ไม่เห็นคะนิ้งแล้ว ในรถก็ไม่มี
“ไม่เห็นหน้าหนูแป๊บเดียว ก็คิดถึงหนูแล้วล่ะสิ” ธาราหันไปมองคนหน้าระรื่นปนทะเล้น
“แล้วจะไปไหนทำไมไม่บอก ปล่อยทิ้งไว้นี่เลยเสียดีมั้ง”
“หนูไปซื้อนี่มา พี่กินไหม” คะนิ้งให้ธาราดูถุงผลไม้ในมือข้างหนึ่ง มีทั้งมะม่วง ฝรั่ง สับปะรด ยื่นชิ้นมะม่วงที่ตนกัดกินแล้วไปจ่อปากคนตัวสูงที่มองนิ่งติดดุ
“ไปขึ้นรถได้แล้ว”
“หนูว่าหนูก็ไม่ดื้อนะ ทำไมพี่ชอบดุจัง หรือว่าหนูไม่น่ารัก แต่หนูว่าหนูก็น่ารักนะ พี่ดูสิ หนูน่ารักไหม” คะนิ้งเขย่งปลายเท้า ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าของธารา หันหน้าไปทางซ้าย หันหน้าไปทางขวา ให้เขาสำรวจใบหน้าของเธอ ใบหน้าเนียนใส แก้มสีชมพูระเรื่อ นัยน์ตาเป็นประกายไร้เดียงสา แพขนตางอนยาว คิ้วโค้งเรียวสวย จมูกโด่งเชิดรั้น ปากอิ่มสีชมพู…
“จะไปขึ้นรถได้ยัง หรืออยากอยู่ที่นี่” คนตัวสูงรู้สึกถึงความผิดปกติของหัวใจ อัตราการเต้นที่ระรัวราวกับเด็กหนุ่มเพิ่งหัดมีความรัก ความรัก… ธารารีบดึงสติตัวเอง พูดจบก็เดินไปเปิดประตูรถแล้วเข้าไปนั่ง และสตาร์ทรถทันที
“พี่จะทิ้งหนูจริงๆ เหรอ พี่!! พี่รอหนูด้วย” คะนิ้งหน้าตาตื่นเมื่อรถเคลื่อนตัวไปข้างหน้า รีบวิ่งไปดักหน้ารถ และเมื่อรถจอดนิ่งก็รีบวิ่งไปเปิดประตูขึ้นรถ
“นี่พี่จะทิ้งหนูจริงๆ เหรอ” คะนิ้งเชิดปากถามอย่างเคืองๆ มีอาการเหนื่อยหอบให้เห็น แต่ธาราก็เลือกที่จะเงียบ เท้าเหยียบขันเร่งจนมิด รถพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
“เฮ้ยพี่ ขับให้ช้ากว่านี้หน่อยได้ไหม” คะนิ้งรีบคาดเข็มขัดนิรภัย มือจับยึดที่จับเหนือประตูรถ แต่ก็ไม่ทีท่าว่าความเร็วของรถจะลดลงเลย
“อุ๊บ…” ทันทีที่รถหยุดนิ่งเมื่อถึงโรงเรียน คะนิ้งรีบเปิดประตูลงจากรถ พุ่งตัวไปที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ แล้วอาเจียนออกมาชนิดหมดไส้หมดพุง
“เมารถก็ไม่บอก” ธาราว่าอย่างขำๆ แต่ก็ยังมีน้ำใจลูบหลังให้เด็กสาว
“เพราะพี่นั่นแหละ ขับรถให้มันดีๆ ไม่ได้ไง” คะนิ้งเสียงแหวใส่คนตัวสูง ธาราไม่ได้นึกกลัวเจ้าแมวน้อยที่ขู่ฟ่อๆ นี้เลย
“อ่ะน้ำ” ธารายื่นขวดน้ำดื่มให้คะนิ้งได้ล้างปาก
“แกล้งหนู แล้วก็มาเอาใจหนู นิสัย”
“นิสัย?” ธาราเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม
“หนูพูดได้ไหม”
“ก็พูดมาสิ”
“นิสัยเลว” ธาราไม่ได้สะทกสะท้านกับคำด่าทอของคะนิ้ง แต่กลับรู้สึกขบขันเสียมากกว่า
“หนูว่ายังจะยิ้มอีก”
“พี่ก็ไม่เคยบอกว่าพี่เป็นคนดี เพราะฉะนั้นก็อยู่ให้ห่างพี่เข้าไว้นะเด็กน้อย” ธาราบอกชัดถ้อยชัดคำ ดวงตาคมกริบดูดุดัน แต่กลับดึงดูดให้คะนิ้งจ้องมองลึกเข้าไปในแววตานั้น ในความรู้สึกของเด็กสาวมันช่างน่าค้นหา และเป็นเขาเองที่ต้องหลบเลี่ยงสายตาของเธอ
“คะนิ้งเป็นอะไร” ต้นน้ำเห็นหน้าที่ซีดเซียวของน้องสาวก็นึกเป็นห่วง
“น้องมึงเมารถ มึงมาแล้วก็ดูแลน้องมึงไปละกัน กูยกสีลงจากรถก่อน” ธาราบอกแล้วเดินไปทันที
“ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นจะเมารถ”
“ก็เพื่อนพี่น่ะสิ ขับรถอย่างกับรถไฟเหาะ หนูนึกว่าจะตกเขาตายไม่ได้เจอหน้าพี่ต้นน้ำแล้ว” คะนิ้งฟ้องพี่ชายอย่างมีจริตมารยา ออดอ้อนออเซาะเป็นเด็กน้อย แต่สายตาจับจ้องไปยังคนตัวสูง เป็นจังหวะที่เขาเหลือบตามองเธอพอดี ธาราเห็นความดื้อดึงดัน บ่งบอกถึงความไม่ยอมแพ้ และมันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นเหยื่อที่ถูกเลือก
“ปกติธารามันขับรถดีนะ…แล้วนี่ดีขึ้นยัง ไปนั่งพักข้างในก่อน” ต้นน้ำรู้ฝีมือการขับรถของเพื่อนดี แต่ก็พอจะเดาได้ว่าคงถูกก่อกวนใจอะไรเข้าเป็นแน่ถึงได้ขับรถฉวัดเฉวียนเร็วดั่งรถไฟเหาะอย่างที่แม่น้องสาวตัวดีว่า
“พี่ต้นน้ำหยิบถุงผลไม้หน้ารถให้หนูด้วย”
“เออๆ พี่หยิบตามไปให้” ได้ยินดังนั้นคะนิ้งก็เดินตัวปลิวไป
“มึงอย่าถือสาคะนิ้งเลยนะเว้ย คะนิ้งยังเด็ก แล้วก็เป็นเด็กเอาแต่ใจด้วย”
“กูไม่ได้อะไร น้องมึงก็เหมือนน้องกู แต่น้องมึงนี่สิมาขอกูเป็นแฟน”
“แล้วมึงตอบคะนิ้งว่าไง” ต้นน้ำมีสีหน้าตกใจ ไม่คิดว่าคะนิ้งจะใจกล้าบ้าดีเดือดขอธาราเป็นแฟน
“อย่างที่บอกเลย น้องมึงก็เหมือนน้องกู”
“เออ กูลืมไป ว่ามึงชอบคนแก่”
“คนแก่เชี้ยไร”
“ก็ตอน ม.4 ไง ที่มึงไปจิจ๊ะกับพี่ ม.6” ตามประสาวัยรุ่นก็มีจีบสาวบ้างทั้งเพื่อนรุ่นเดียวกัน รุ่นน้อง หรือแม้แต่รุ่นพี่
“แต่กูว่ามึงนี่ละที่แก่ ใครเขาพูดเรื่องอดีตกัน ยกถังสีเข้าไปเลย เนี่ยน้องมึงหยิบมาทั้งนั้น” ธาราชี้ให้ดูกระป๋องสีสารพัดสีที่คะนิ้งหยิบมา
“อ๋อ เห็นพูดๆ อยู่ตอนมา ว่าจะโชว์ฝีมือวาดรูปบนผนังให้เด็กๆ”
คะนิ้งวาดรูปตัวการ์ตูนน่ารักๆ ลงบนผนังห้องสมุดที่ทาสีไว้แล้ว เก่งเหมือนที่ปากพูด
“Knock Knock Knock Knock Knock Knock Knock Knocking on your heart…” คะนิ้งออกลีลาเต้นตามคลิปวีดีโอที่กำลังเป็นกระแสในแอพพลิเคชัน Tiktok อย่างน่ารักสดใสต่อหน้าธารา
“คะนิ้ง!” ต้นน้ำเสียงดุปรามน้องสาว คะนิ้งทำหน้ายู่แล้วกลับไปวาดรูปบนกำแพงต่อ
“คะนิ้งแม่งน่ารักว่ะ จริงไหมวะธารา” น่านยิ้มขำความน่ารักแบบกวนๆ ของคะนิ้ง
“น่ารักไปทิ้งอ่ะดิ”
“มาแล้วจ้า ที่พูดออกมาก็เพื่อตัวเองทั้งนั้น ก็เพิ่งเข้าใจว่าเธอ just have some fun ไม่รู้สนุกไหม…” ไม่ทันไรคะนิ้งก็หน้าระรื่นเข้ามาหาธาราอีกครั้ง แล้วทั้งร้องลิปซิงค์ทั้งเต้นต่อหน้าเขา
“ไปเล่นที่อื่นไป ไปไกลๆ” ธาราเน้นเสียงคำว่าไปไกลๆ ด้วยสีหน้าดุขึง
“แฟนอ่ะ” คะนิ้งสะบัดหน้าพรืดอย่างแสนงอน เดินกระทืบเท้ากลับไปวาดรูปต่อ แต่ก็มิวายหันมาทำหน้าทะเล้นใส่ธารา
“น้องมึงนี่เป็นเอามากนะ” ธาราหันไปว่าเอากับต้นน้ำ แต่คนเป็นพี่ชายของเด็กสาวกลับยิ้มขบขัน ไหวไหล่เบาๆ
“คะนิ้งยังเด็กอยู่ มึงจะไปถือสาน้องทำไม” น่านรู้สึกเอ็นดูความน่ารักสดใสของคะนิ้ง แต่ก็ไม่ได้คิดเป็นอื่น มองเป็นน้องสาวคนหนึ่ง
“คะนิ้งนี่แฟนตัวยงเพจหนีพ่อเที่ยวมึงเลยนะเว้ย กดไลก์ทุกโพสต์” ต้นน้ำบอกสิ่งที่ธาราไม่น่าจะรู้
“เหรอวะ กูไม่เห็นรู้”
“ก็โปรไฟล์ที่เป็นรูป Devil ไง” ธาราจำโปรไฟล์นี้ได้ดี เพราะจะกดไลท์ กดแชร์ คอมเมนต์ ทุกครั้งที่เขาโพสต์รูปภาพหรือข้อความลงเพจเฟซบุ๊ก… Devil Never Cry