พิษรักลวงหลอก
ตอนที่ 7 พี่ชอบไอรีน
โจ๊กธรรมดาที่แค่กดน้ำร้อนเติมใส่พร้อมทานก็สามารถทำให้ช่วยบรรเทาอาการแฮงค์เรียกสติสัมปชัญญะกลับมาได้บ้าง ฉันเองก็ไม่รู้ว่ากินโจ๊กร้อนๆจะช่วยได้ สำหรับฉันเมาแฮงค์ก็แค่หลับแค่นั้น
“ กินผลไม้รสเปรี้ยวจะช่วยให้หายแฮงค์นะ ” พี่กันต์เอ่ยพร้อมยกผลไม้มาวางบนโต๊ะหลังจากที่ทานโจ๊กกันเสร็จ
“ พี่เป็นหมอเหรอ รู้เรื่องเยอะจัง ”
“ นี่ชมหรือด่าพี่นะ ”
“ รีนเห็นพี่รู้ไปหมดทุกอย่าง ”
“ งั้นพี่คิดว่าเป็นคำชมแล้วกัน ทุกอย่างมันเรียนรู้จากตัวเราเองไง พี่แฮงค์ พี่เมา พี่ก็ศึกษาเรียนรู้ว่ากินอันนั้น ดื่มอันนี้มันจะดีขึ้น บทเรียนในชีวิตประจำวันไง ” พี่กันต์เอ่ยตอบฉันพร้อมกับปอกผลไม้ใส่จานไปด้วย
แค่คำพูดธรรมดา ไม่ต้องปรุงแต่งท่าทางกิริยา ไม่ต้องเสริมเติมแต่งมาก แต่กลับทำให้ฉันละสายตาจากเขาไม่ได้เลย เขาดูมีเสน่ห์ละมุนมากอย่างบอกไม่ถูก
“ ผ้าเช็ดตัว ของใช้ที่พอจะใช้ได้ ตามสบายเลย พี่วางไว้ตรงนี้นะ ส่วนเสื้อผ้าเลือกในตู้ได้เลย ” พี่กันต์เอ่ยพร้อมบอกถึงของใช้ส่วนตัวที่เขาเตรียมไว้ให้
“ แล้วพี่จะไปไหนคะ ? ”
“ พี่จะไปอาบน้ำอีกห้องนึง ไอรีนจะได้เป็นส่วนตัวไม่อึดอัดไง ”
“ ห้องเพื่อนพี่เหรอ ? ”
“ เปล่า…ห้องพี่เอง มีสองห้องน่ะ ไอรีนนอนห้องนี้ได้เลย ”
“ ………… ”
“ ขาดเหลืออะไรบอกพี่เลยนะ พี่อยู่ห้องติดกันแค่มีกำแพงกั้นแค่นั้นเอง ไม่ต้องเกรงใจ คิดว่าเป็นห้องตัวเองเลย ”
“ ขอบคุณนะพี่ ”
“ เปลี่ยนจากคำขอบคุณ เป็นบอกฝันดีพี่ได้ไหม ” คำพูดของพี่กันต์ทำฉันใจสั่น รอยยิ้มที่อมยิ้มให้ฉันมันทำให้ฉันเลิ่กลั่ก
“ ฝันดีค่ะ ”
“ ฝันดีเช่นกันคับ ”
ฉันหยิบของใช้ที่พี่กันต์วางไว้เข้าห้องน้ำเลย ทำไมฉันต้องใจเต้นแรงกับพี่กันต์ทุกทีเลยนะ ฉันเห็นเงาตัวเองในกระจกที่ฉันกำลังยิ้มเขอะเขินอยู่ ไม่ใช่หรอกเขาแค่มีมารยาท เขาไม่ได้คิดอะไรหรอก ฉันอย่ามโนคิดไปเองสิ
พี่กันต์ไม่ได้เข้ามาในห้องนี้อีกจริงๆ เขาให้ฉันได้มีเวลาส่วนตัว ไม่ละลาบละล้วงจนฉันอึดอัด ตู้เสื้อผ้าของเขามักจะมีสีโทนดำเทาเกือบทั้งตู้ ฉันได้แค่เสื้อก็เป็นชุดเดรสไปในตัวแล้ว ต้องมานอนเตียงคนที่เพิ่งรู้จักแค่ไม่กี่ชั่วโมง มันรู้สึกแปลกๆดีนะ
เช้าฉันตื่นเพราะกลิ่นหอมลอยตลบอบอวลลอยมาแตะจมูก กลิ่นของข้าวผัดร้อนๆที่ฉันพอจะเดาได้ พี่กันต์ในชุดผ้ากันเปื้อนยืนอยู่หน้าเตา กำลังโชว์ลีลาทำอาหาร ฉันมองแผ่นหลังของเขา ผู้ชายทำอาหารมันดูละมุนดีนะ จนทำฉันเผลอแอบยิ้มออกมา
“ สวัสดีตอนเช้าคับ ” พี่กันต์หันกลับมาหาฉัน เขาต้อนรับฉันด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจแต่เช้า ทำฉันต้องยิ้มพยักหน้าเบาๆให้เขาแก้เขิน
“ พี่รู้ได้ไงว่ารีนตื่นแล้ว ”
“ มีคนแอบมองพี่อยู่หนิ ”
“ …………… ” ฉันพยายามบ่ายเบี่ยงอาการเขอะเขินนี้ แต่กลับยิ่งทำให้ฉันเก็บอาการไว้ไม่อยู่
“ พี่ไม่แกล้งแล้ว ไปนั่งรอเลยคับ ใกล้จะเสร็จแล้ว ”
ข้าวผัดสองจานพร้อมน้ำซุบไว้ซดโล่งคอถูกเสิร์ฟตรงหน้าฉัน นี่ฉันกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารรึเปล่านะ ทำอาหารเก่ง เป็นพ่อครัวตัวยงขนาดนี้ แต่ทำไมถึงยังโสด
“ พี่ไม่มีแฟนจริงเหรอคะ? ”
“ ทำไมล่ะ พี่ดูเป็นคนขี้โกหกเหรอ ”
“ เปล่า รีนแค่เห็นพี่นิสัยดี แถมอายุก็เยอะแล้ว แต่ทำไมถึงยังโสดอยู่ ”
“ พี่ยังไม่เจอคนที่ใช่ ”
“ คำตอบดูพระเอกยังไงไม่รู้นะคะ พี่เป็นเกย์เหรอคะ ”
“ ดูออกเหรอคับ? ” พี่กันต์เลื่อนหน้ามาใกล้ฉัน พร้อมสายตาทะเล้น ยิ่งข้าวของในห้องเขาไม่มีของใช้ที่เข้าข่ายของผู้หญิงมาค้างเลยด้วย ห้องหอก็สะอาดสะอ้านเนี๊ยบมากหรือว่าเรด้าของฉันคิดถูก
“ พี่เป็นใช่ไหม? ”
“ จะบ้าเหรอ พี่ชายแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ พี่ชอบผู้หญิงคับ ” เขาหัวเราะคิกคักชอบใจที่แกล้งฉันได้
“ ใครจะไปรู้ล่ะ เห็นพี่ไม่มีแฟนหนิ ”
“ พี่รอไอรีนอยู่มั้งคับ ”
“ !!! ”
พี่กันต์หมายถึงอะไร แววตาและน้ำเสียงของเขามันดูจริงจังไปหมด ฉันตีความหมายของประโยคนี้เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย เขาบอกรอฉัน หมายถึงเขาแอบชอบฉันอย่างนั้นเหรอ หรือเขาแต่พูดหมาหยอกไก่กันนะ แต่ประโยคนี้ของเขาทำฉันไม่กล้าสบตาเขาเลย
ติ้งงงงงง~~~
“ รีนขอรับสายนะคะ ”
เสียงโทรศัพท์มือถือของฉันที่ดังขึ้น ทำให้ฉันหลุดพ้นจากภวังค์ความเขอะเขินคิดฟุ้งซ่านไปชั่วขณะ พี่กันต์พยักหน้าให้ฉันเชิงตามสบาย เขาเก็บจานข้าวแล้วเดินออกไปจากห้อง ฉันมองตามหลังเขาที่เขาเป็นสุภาพบุรุษมาก
“ ค่ะพี่หน่อย ”
ปลายสายคือพี่หน่อยเลขาของฉัน ไม่ใช่สิต้องบอกว่าเป็นของเมฆาต่างหาก ฉันไม่เข้าบริษัทจนเลขาต้องตาม ฉันหาข้ออ้างที่จะไม่เข้าบริษัททั้ง 3 วันที่เมฆาไม่อยู่ ฉันฝากงานพี่หน่อยให้ดูแล แต่เขาก็ทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ
( พี่จะให้หมอเข้าไปตรวจอาการคุณไอรีนนะคะ )
“ รีนเป็นภูมิแพ้ นอนพักสักสามสี่วันก็หาย ”
( ถ้าคุณไอรีนไม่สบาย ท่านประธานจะไม่พอใจพี่ได้นะคะ ที่ไม่ดูแลคุณไอรีนให้ดี )
“ งั้นพี่ก็ไปบอกเขาว่ารีนไม่ตายง่ายๆหรอกค่ะ ”
เมฆามีอำนาจเหนือทุกคน ทุกคนจึงต้องมีอำนาจเหนือฉันอย่างงั้นเหรอ ฉันนั่งอยู่ที่ระเบียงอารมณ์ที่กำลังมีรอยยิ้มตอนนี้มันได้ดิ่งลงไปอีกแล้ว บุหรี่ไฟฟ้าในกระเป๋าถูกยกออกมาใช้งาน ควันโขมงที่ออกมามันกำลังช่วยให้ฉันผ่อนคลาย
“ ไอรีนสูบด้วยเหรอ? ” ฉันที่คิดฟุ้งซ่านจนไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าของพี่กันต์ที่เข้ามา ฉันรีบปิดบุหรี่ไฟฟ้าเก็บไว้ตามเดิม
“ ขอโทษที่เสียมารยาทที่ห้องพี่ ”
“ ไม่เป็นไร พี่แค่ไม่ยักรู้ว่าไอรีนสูบด้วย ”
“ รีนมักสูบบุหรี่ไฟฟ้าเวลาเครียดๆน่ะค่ะ ”
“ อยากเล่าให้พี่ฟังไหม พี่รับฟังได้นะ ” คำพูดแบบนี้ฉันแทบไม่ค่อยได้ยินจากใคร มันทำให้ใจฉันชื้นมาก
“ พี่เคยได้ยินคำว่า ชีวิตเรา เราไม่ใช่เจ้าชีวิตไหมคะ ” ฉันเลือกที่จะเอ่ยบอกพี่กันต์ออกไป ฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัย สบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆเขา
“ เข้าใจสิ ชีวิตที่คนอื่นขีดเส้นตายเลือกไว้ให้ เราไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง มันเป็นอะไรที่แย่สิ้นดี ”
“ ………….. ” ฉันมองพี่กันต์ที่เอ่ยออกมา เขามองออกไปนอกระเบียง แววตาของเขามีแฝงความรู้สึกที่เหมือนกับฉัน ราวกับว่าเขากำลังพบเจอปัญหาชีวิตเหมือนฉันอย่างนั้นเหรอ
“ ไอรีนไม่ใช่คนเดียวที่เจอเรื่องแย่ๆนะ พี่ก็เป็นอีกคนที่เจออยู่ เราเป็นเพื่อนกันนะ ”
“ ……….… ” ฉันพูดไม่ออก ฉันไม่รู้เลยว่าพี่กันต์ก็เจอเรื่องราวทำนองเดียวกับฉัน พี่กันต์จับมือฉันไว้ สายตาที่เราสบมองกันมันทำให้ฉันอบอุ่นมาก
“ อยู่ข้างๆพี่ได้ไหม ”
“ ??? ”
“ พี่อยากดูแลหัวใจไอรีน ”
“ พะ…พี่หมายถึงอะไร? ” เขาทำฉันเลิ่กลั่กสับสนกับคำพูดของเขาที่ฉันตีความหมายเตลิดออกไปหมดแล้ว
“ พี่ชอบไอรีน ”
“ !!!! ”