รวิดาจิกมือกับบ่ากว้างของถิ่น ร้องครางด้วยความกระสันเสียว เธอเกลียดตัวเองที่ใจอ่อนกับเขาเสียทุกครั้ง และเธอก็เกลียดตัวเองที่นิยมชมชอบบทรักอันร้อนแรงของเขาด้วย
ถิ่นช้อนสะโพกผายของเธอขึ้นจากพื้นโต๊ะก่อนจะพาเธอมานั่งทาบทับบนตักแกร่ง
“เป็นไง เสียวไหม” เขากระซิบถามในขณะขบเม้มใบหูเล็กๆ ของเธอเบาๆ
“อื้ม...” เธอร้องครางเสียงสั่นระริก ตอดรัดท่อนเนื้อของเขาเป็นจังหวะ จนได้ยินเสียงครางฟืดฟาดจากริมฝีปากหนา และสีหน้าเหยเกด้วยความเสียวซ่านจากเขา
“เธอนี่มันสุดยอดจริงๆ” เขาขยำสะโพกผายของเธอหนักๆ ครางกับการตอดรัดและความคับแน่นที่ได้รับ
รวิดาตัวสั่นเกร็งกระตุกอยู่บนตักแกร่งของเขา เธอเสร็จสมคาร่างของเขาอย่างรุนแรง
“ป้อนฉันสิ” เขาปรารถนาที่จะให้เธอป้อนอาหารเขาด้วยปาก อาหารในค่ำคืนนั้นจึงเต็มไปด้วยความวาบหวามจนถึงเวลาเข้านอน
รวิดารีบตื่นขึ้นมาจัดโน่นจัดนี่เอาไว้ให้ถิ่นในห้องน้ำ ทั้งผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟันที่บีบยาสีฟันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว และที่โกนหนวดรวมถึงน้ำยาโกนหนวดด้วย
แม้ไม่เป็นที่ปรารถนา แต่เธอก็อยากดูแลเขาให้ดีที่สุด จนกว่าจะไม่มีโอกาสได้ดูแลเขาอีก
รวิดาเดินลงมาด้านล่างเพื่อช่วยงานในห้องครัว แม้จะไม่เป็นที่ต้องการ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจว่าใครจะพูดยังไง ขอแค่เธอได้หยิบจับงานในบ้านเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ไม่เช่นนั้นคงจะฟุ้งซ่านเป็นแน่
“โหย... สบาย นอนตื่นกี่โมงก็ได้ ได้นอนในห้องนายก็แบบนี้แหละ ความจริงไม่ต้องเอาหน้ารีบลุกมาทำโน่นทำนี่หรอก น่าจะนอนออดอ้อนนายต่อไป” ป้าวรรณาเจ้าประจำที่มักชอบจิกกัดเธออยู่เรื่อยเอ่ยขึ้นในทันทีที่เห็นหน้ากัน รวิดาไม่ได้สนใจนัก เธอเร่งทำอาหารเช้าให้ถิ่นก่อนที่เขาจะตื่นนอน
“ดูสิจ๊ะป้า คนอะไรหน้าด้านหน้าทนเสียจริง โดนว่าขนาดนี้ยังทนได้” สาลิกาเบะปากใส่รวิดาเมื่อหญิงสาวยกสำรับอาหารเช้าออกมาตั้งโต๊ะให้เจ้านายหนุ่ม ในขณะที่วรรณาหงุดหงิดใจไม่น้อยที่เห็นรวิดาทำเป็นเฉยเมย ทำโน่นทำนี่ปรนนิบัติถิ่นผู้เป็นเจ้านายหนุ่มอย่างเอาหน้า
เนื่องด้วยถิ่นสั่งเอาไว้ว่าให้รวิดาเป็นคนจัดการอาหารเช้าให้เขา เธอรู้ว่าเขาแค่ไม่อยากให้เธอว่าง อยากให้ทำงานทุกอย่างให้คุ้มกับหนี้สินที่พี่ชายโกงเขาไป แต่สำหรับเธอแล้ว การได้ดูแลเขาคือความสุขสุดยอดในชีวิตของคนแอบรัก
“มันก็ต้องหน้าด้านสิ มันอยากจะจับนาย พี่มันก็สารเลวโกงเงินไปหน้าด้านๆ ยังทิ้งน้องสาวเอาไว้ให้อ่อยนายอีก” ป้าวรรณาพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ด้วยว่าใครๆ รู้ดีว่าวรรณานั้นหมายหมั้นปั้นมือให้ลูกสาวของตนคือวนิดาได้เป็นนายหญิงของที่นี่ ถ้าไม่มีรวิดาทุกอย่างก็คงจะง่ายขึ้น อีกไม่นานวนิดาจะกลับมาแล้ว นางจะต้องจัดการเขี่ยรวิดาออกไปให้พ้นทาง
ถิ่นเดินลงมาจากชั้นบนพอดิบพอดีกับที่รวิดานำอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ เธอก้มงุดเล็กน้อยที่เผลอสบตากับเขา ในขณะที่ถิ่นเดินมาทรุดนั่งที่เก้าอี้ตรงหัวโต๊ะ
รวิดารินกาแฟดำให้เขาในทันที ถิ่นมองอาหารเช้าตรงหน้าก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน
“วันนี้เธอทำอะไร” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงกระด้าง คนไม่ชอบกินขนมหรือของจุกจิกในตอนเช้า นอกจากกาแฟดำหรือข้าวต้มร้อนๆ สักถ้วย นึกไม่ชอบใจความจุ้นจ้านของเธอนัก ที่จัดอาหารอย่างอื่นนอกเหนือจากที่เขาอยากกิน
“วันนี้รวิทำขนมปังไส้สับปะรดค่ะเฮีย วันก่อนรวิลองเอาสับปะรดมากวนทำไส้ดู รู้สึกว่ามันอร่อยดี” เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อเห็นสีหน้าไม่พึงใจของเขา
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบกินของหวาน” เขาเลื่อนจานนั้นออก ก่อนจะหันไปตักข้าวต้มรับประทานแทน
ข้าวต้มปลาสูตรของรวิดาเขาเคยกินบ่อยๆ ตอนที่พี่ชายของเธอยังป้วนเปี้ยนอยู่ในชีวิตของเขา เธอเป็นคนที่ทำอาหารเก่งและทำกับข้าวอร่อยด้วย เขารู้ข้อนี้ดี
จำได้ว่าเธอเคยบอกเขาว่าอยากเรียนต่อด้านอาหาร ในตอนนั้นเขาก็คิดว่าเธอก็ควรเรียนด้านนี้เพราะมีความสามารถ เธอมักจะมาป้วนเปี้ยนอยู่ในครัวกับแก้วตา ว่าที่เจ้าสาวของเขา ทำโน่นทำนี่ให้ เวลานั้นเขารู้สึกว่าเธอน่ารักน่าเอ็นดู แต่ในเวลานี้เขารู้สึกว่าเธอขวางหูขวางตาไปหมด
ความทรงจำในอดีตที่ผุดขึ้นมาทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไม่น้อย เพราะอดีตเขาเคยเอ็นดูรวิดามาก มากเสียจนไม่คิดว่าเขาจะเกลียดเธอได้ลง
ถิ่นนั่งมองสายฝนจากริมหน้าต่างในบ้านพักคนงานด้วยความรู้สึกหลากหลาย วันนี้ฝนตกหนักซึ่งมันไม่ใช่ฤดูฝนเหมือนช่วงปลายปี แต่มันกลับเป็นต้นปีที่ควรจะเป็นฤดูร้อนเสียมากกว่า
เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางนี้ จากที่เขาเคยเอ็นดูจะกลายเป็นการทำร้ายเธออย่างที่สุด
ถิ่นมองขนมปังไส้สับปะรดที่ยังคงส่งกลิ่นหอมกรุ่นแตะจมูก เขาไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงหยิบมันติดมือมาด้วย ในขณะที่คนทำหน้าม่อยเดินหนีหายไป และเขาก็ไม่ปรารถนาจะเรียกใช้เธอเหมือนเช่นเคย
ถิ่นไม่เคยคิดว่าเขาจะอยากกินขนมหวานชิ้นใดในโลกนี้ เพราะไม่ชอบกินมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่การหยิบขนมปังไส้สับปะรดของรวิดารับประทานเข้าไปทำให้เขาต้องหยิบชิ้นต่อไปขึ้นมากินอีก
มันไม่ได้หวานจนเกินไป และรสชาติค่อนข้างแหลมคม ไม่เปรี้ยวโดด หวานโดดหรือทำให้รู้สึกเลี่ยนเลยสักนิด
ขนมปังของเธอกรอบและหอมมากๆ เขานึกอยากรู้ว่าเธอทำเองหรือซื้อสำเร็จรูปมา
เสียงตะกุกตะกักที่ดังอยู่นอกประตูทำให้เขาหยิบขนมปังไส้สับปะรดค้าง มองคนที่วิ่งเข้ามาในบ้านพักอย่างตกตะลึง
“แค่ก ๆ ๆ” ถิ่นถึงกับสำลักเมื่อเห็นว่าเธอจ้องมองมือของเขา หลักฐานคาปากคามือว่าเขาเผลอกินขนมปังของเธอเข้าไป
ร่างน้อยของรวิดาเปียกปอนไปหมด ในมือถือปิ่นโตเถาใหญ่ที่เขารู้ดีว่าในนั้นบรรจุอาหารรสชาติอร่อยเอาไว้มากมายด้วยว่าเธอนั้นทำอาหารได้หลากหลายแม้จะอายุแค่สิบแปด แต่ก็ชอบเข้าครัวทำโน่นทำนี่ไม่หยุดมือ
“เฮียจะกินอาหารกลางวันเลยไหมคะ” เธอเอ่ยถามอย่างเก้อๆ เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงของเขา ไม่แน่ใจว่าเขาโกรธเคืองอะไรเธออีก
“ก็กินสิ นี่มันเที่ยงแล้วไม่เห็นรึ” น้ำเสียงของเขาดูแข็งกระด้างเย็นชา เธอเห็นว่าเขาผลักขนมปังไส้สับปะรดทิ้งไปข้างๆ นั่นทำให้รวิดาเดาว่าเขาคงลองชิมมันและหงุดหงิดกับรสชาติไม่เอาไหนของมันเป็นแน่
นั่นทำให้เธอเสียความมั่นใจไปเยอะมาก เพราะปกติแล้วเธอมั่นใจในรสมือของตัวเองไม่น้อย
“เดี๋ยวรวิจะรีบไปจัดกับข้าวใส่จานให้เฮียเดี๋ยวนี้ค่ะ” เธอรีบกุลีกุจอเดินไปจัดอาหารจากปิ่นโตใส่จานให้เขา
เขาอาจจะกำลังโมโหหิวก็เป็นได้ เพราะเธอมาช้ากว่าทุกวัน รวิดาจึงเร่งมือจัดอาหารให้เร็วที่สุด
“อุ๊ย!” เธออุทานเบาๆ เมื่อเขาสอดมือเข้ามาจากทางด้านหลัง สัมผัสเข้ากับทรวงอกอวบอิ่มของเธอ
“เฮียคะ อย่าค่ะ”
“เธอกล้าปฏิเสธฉันอย่างนั้นเหรอ เสื้อผ้าของเธอเปียกไปหมด จะอยู่แบบเปียกๆ แบบนี้หรือไง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เขากระซิบถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า กดริมฝีปากกับแก้มนุ่มของเธอเบาๆ หญิงสาวย่นคอหนีด้วยความเสียวซ่านระคนจั๊กจี้
มือน้อยจำต้องละออกจากปิ่นโตเถาใหญ่ เมื่อเขาช้อนสะโพกของเธอขึ้นไปนั่งบนโต๊ะตัวเล็กๆ ในห้องครัวกว้าง ไม่นานโต๊ะตัวน้อยก็ลั่นเอี๊ยดอ๊าดบ่งบอกได้ถึงกิจกรรมอันร้อนแรงของคนทั้งคู่
รวิดาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ยามที่เขาปล่อยร่างของเธอเป็นอิสระ เธอกลับไปจัดอาหารจากปิ่นโตใส่จานให้เขาอีกครั้ง ทำท่าจะเดินจากไปเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะรับประทานอาหาร แต่มือหนาของเขารั้งข้อมือของเธอเอาไว้ กระตุกเพียงครั้งเดียว ร่างของเธอก็นั่งมาบนตักแกร่งเรียบร้อยแล้ว