ชญานีอึ้งเล็กน้อย ทำตาเลิ่กลั่กอย่างมีพิรุธ หากจะบอกเหตุผลที่แท้จริงไป มีหวังคริสคงจะหัวเราะเยาะหาว่าเธอบ้าเป็นแน่
“ก็เพราะ...คืนนั้นฉันเมายังไงล่ะ ถ้ารู้ว่าคุณเป็นคนนิสัยแบบนี้คงจะไม่ยอม...”
“ยอมเป็นเมียฉันใช่ไหมล่ะ แล้วเป็นไงได้เป็นเมียฉันแล้วรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม” คริสโน้มตัวลงไปดึงร่างบอบบางขึ้นมานั่งบนตัก
“ว้าย! จะทำอะไรเนี่ย ปล่อยฉันนะ”
“อย่าดิ้น เดี๋ยวก็จับทำเมียซะตรงนี้เลย”
ตอนนี้ชญานีนั่งบนตักเขา วางมือทั้งสองข้างไว้ตรงช่วงไหปลาร้า ก้มหน้าลงเล็กน้อยเพราะไม่อยากจ้องมองสายตาคมคู่นั้น คริสโอบกอดแผ่นหลังบางไว้อย่างแนบแน่น สำรวจมองดวงหน้าสวยอย่างสนใจ ในขณะที่หัวใจยังคงเต้นแรงอย่างคาดเดาอารมณ์ตัวเองไม่ถูก
“ถามจริง ๆ ฉันเหมือนนักฆ่าตรงไหนอ่ะ อะไรทำให้คุณมั่นใจขนาดนั้น”
คำถามของเธอทำให้คริสฉุกคิดทันที เธอคนนี้มีความเป็นกุลสตรี ไม่มีความแข็งกระด้างเลยสักนิด ร่างกายอ่อนแอบอบบางเหมือนผู้หญิงทั่วไป แววตาที่มองมานั้นอาจจะดูแข็งกร้าวในบางครั้ง แต่ทว่าเขากลับมองว่ามันเป็นธรรมชาติของคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้
“นี่ไง สิ่งที่ทำให้ฉันเชื่อว่าเป็นเธอ”
คริสเปิดภาพในมือถือให้ดู เห็นแล้วชญานีก็ขมวดคิ้วมองอย่างพินิจพิจารณา แม้ว่าหญิงสาวในภาพจะสวมใส่ชุดคล้ายกับเธอมาก แต่ไม่ได้เห็นหน้าอย่างชัดเจนขนาดนั้น แล้วคนพวกนี้เอาความมั่นใจมาจากไหน
“แค่ภาพนี้นะที่ทำให้คุณคิดว่าเป็นฉัน ฉันจะบอกให้เอาบุญนะ ชุดแบบนี้ใครก็หาซื้อได้ทั้งนั้น มองยังไงก็ไม่เหมือนฉันเลยสักนิด”
“ว่าแล้วยังไงก็ต้องปากแข็ง” กล่าวจบก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ชญานีจึงผละใบหน้าออกห่าง
“คุณจะทำอะไร”
“ก็จูบไงล่ะ”
“ฉันไม่ให้จูบ”
“อย่าดื้อสิวะ” เขากอดร่างเธอไว้อย่างแนบแน่น โน้มใบหน้าเข้ามาจูบจนสำเร็จ บดเบียดริมฝีปากบางอย่างดูดดื่ม ส่งปลายลิ้นเข้าไปตวัดเลียอย่างบ้าคลั่ง จนร่างบอบบางอ่อนระทวยยอมนั่งนิ่ง ๆ ไปจนกว่าเขาจะพอใจ
“จะ...จะฆ่ากันรึไงยะ ไม่คิดจะให้หายใจหายคอหน่อยเลยเหรอ”
“ก็ใครอยากให้เธอปากแข็งล่ะ ฉันจะทำให้มันอ่อนเอง”
“ตั้งแต่เกิดฉันไม่เคยเห็นใครหื่นเท่าคุณมาก่อนเลย”
“ตั้งแต่เกิดฉันก็ไม่เคยเจอผู้หญิงที่หน้าด้านไร้ยางอายอย่างเธอ”
“คุณนี่มัน...” เธอทำหน้าบูดบึ้ง จ้องมองเขาอย่างโกรธแค้น
“อะไร! จะทำอะไรฉันงั้นเหรอ”
ชญานีไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าเขาแล้ว ได้แต่ก้มหน้าลงมองที่แผงอกแกร่ง พยายามระงับอารมณ์โกรธให้เพลาลง ทว่าคริสกลับยิ้มอย่างพอใจ ไม่ยอมคลายอ้อมกอดสักที ปล่อยให้หัวใจของตัวเองเต้นไม่เป็นจังหวะอยู่อย่างนั้น
“คุณคริสคะ” จู่ ๆ สาวใช้ก็เดินเข้ามาหา ชญานีพยายามจะลงจากตักเขา แต่ทว่าอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย จึงได้แต่ซบหน้าลงบนแผงอกแกร่งเพราะรู้สึกอายเหลือเกิน
“มีอะไร”
“คุณพิมพ์ให้เอาเสื้อผ้ามาให้คุณนีค่ะ”
ได้ยินอย่างนั้นชญานีจึงหันหลังไปมอง ก็พบว่าสาวใช้ชาวไทยคนหนึ่ง ยืนถือกล่องเสื้อผ้าเอาไว้
“ปล่อยฉันก่อนได้ไหม อายจะแย่อยู่แล้ว”
“ไม่ปล่อย คนอย่างเธออายเป็นด้วยเหรอ”
“วางไว้ตรงนั้นล่ะ” คริสสั่ง
“ค่ะ”
“ฝากขอบคุณป้าพิมพ์ด้วยนะคะ”
“ค่ะคุณนี”
เมื่อสาวใช้คนนั้นออกไปแล้ว ชญานีก็หันไปทำหน้าดุให้คนที่เอาแต่ใจอย่างคริส เห็นหน้ากวน ๆ นั่นก็ทำให้เธอแทบอยากจะฆ่าให้ตายเสียตอนนี้
“คุณมันหน้าด้านที่สุด”
“ขอบใจที่ชม คนระดับฉันถ้าไม่หน้าด้าน คงไม่มาอยู่ถึงจุดนี้ได้หรอก” ว่าแล้วก็โน้มใบหน้าเข้ามาหอมแก้ม
ฟอด!!
“คนที่มีพร้อมอย่างคุณ ฉันไม่นึกเลยว่าจะมีปมด้อยเรื่องแม่ตัวเอง”
“นี่เธอ! บอกแล้วไงว่าห้ามพูดถึงเรื่องแม่ฉันอีก” ได้ยินเรื่องแม่ก็ทำให้ชายหนุ่มอารมณ์เปลี่ยนขึ้นมาทันที
“ฉันถามจริง ๆ ทำไมคุณดูเหมือนไม่ชอบแม่ตัวเองเลย เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ เล่าให้ฉันฟังได้ไหม”
“ไม่!”
“ฉันอยากช่วยให้คุณกับป้าพิมพ์เข้าใจกันจริง ๆ นะ จากที่ฉันได้คุยกับป้าพิมพ์มา ท่านเป็นคนจิตใจดี ถึงแม้ว่าพวกคุณจะหาว่าฉันเป็นนักฆ่าอะไรนั่น แต่ท่านก็ยังช่วยเหลือทำกับข้าวให้ฉันกินอีกด้วย เห็นอย่างนี้แล้วคนที่ไม่มีแม่อย่างฉันรู้สึกอิจฉามากเลยล่ะ” เห็นแก่ความมีน้ำใจของพิมพ์ผกา เธออยากช่วยให้สองแม่ลูกเข้าใจกันให้มากกว่านี้ แม้ไม่รู้ชะตากรรมตัวเองในบ้านหลังนี้ก็ตาม
ดูเหมือนว่าวันนี้คำพูดของชญานี จะมีผลต่อความคิดของชายหนุ่ม ดูจากสีหน้าก็รู้ว่าคริสมีเรื่องเข้าใจผิดในตัวมารดา และเธอจะต้องรู้ให้ได้ว่ามันคือเรื่องอะไร
“ไม่ต้องแสร้งทำเป็นคนดีหรอก ฉันรู้ว่าควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ไม่มีลูกคนไหนไม่รักแม่ตัวเองหรอก จำคำพูดของฉันไว้ให้ขึ้นใจด้วย”
“โอเค ๆ ฉันจำขึ้นใจแล้ว ตอนนี้ปล่อยฉันได้หรือยังล่ะ คุณไม่รู้สึกหนักบ้างเลยเหรอ”
“ยกตัวเธอขึ้นกระแทกเป็นชั่วโมงฉันยังเคยทำมาแล้ว แค่นี้มันไม่ทำให้ฉันรู้สึกอะไรหรอก”
“ถึงยังไงฉันก็หนีไปจากที่นี่ไม่ได้อยู่แล้ว ฉันขออะไรบางอย่างได้ไหมคะคุณคริส” เจ้าหล่อนพยายามแสดงความเป็นมิตร เพื่อให้ชายหนุ่มตายใจ
“เธอจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย” เขาหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ
“ฉันไม่ได้มาไม้ไหนทั้งนั้น แค่อยากขอร้องว่าอย่าขังฉันเลยนะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องเดือดร้อนให้คุณแน่นอน และจะพิสูจน์ให้คุณรู้ว่าฉันไม่ใช่คนที่พวกคุณคิด”
“แล้วทำไมฉันต้องทำอย่างที่เธอร้องขอด้วยล่ะ”
“พูดอย่างนี้แสดงว่าคุณกลัวฉันจะลอบทำร้ายใช่ไหม คนอย่างคุณกลัวเป็นด้วยเหรอ”
“ใครบอกว่าฉันกลัว ฉันแค่ไม่ไว้ใจ”
“ให้โอกาสฉันพิสูจน์ตัวเองสักครั้งเถอะนะ ปกติฉันไม่เคยง้อผู้ชายคนไหนเลย คุณคือคนแรกรู้ไหม” ทั้งชีวิตเธอไม่เคยยอมผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น แต่เขาคือคนแรกที่เธอต้องยอมแทบทุกอย่าง มันคือความจำยอมหรือทางทีอาจจะ...เต็มใจก็ไม่ค่อยแน่ใจกับตัวเองเหมือนกัน
คริสตกหลุมพรางหญิงสาวเข้าอย่างจัง เขาจ้องหน้าเธอตาไม่กะพริบ ราวกับอยู่ในห้วงแห่งความเสน่หาจนถอนตัวไม่ขึ้น หลุดจากภวังค์แล้วชายหนุ่มก็ให้คำตอบ
“ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าธาตุแท้เธอเป็นยังไง ฉันจะยอมให้โอกาสเธอพิสูจน์ตัวเอง แต่ถ้าเล่นตุกติกเธอรู้ใช่ไหมว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง”
“ฉันมั่นใจว่ามันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่นอนค่ะ” เป็นครั้งแรกที่ชญานียิ้มออกมาให้เขาเห็นในบ้านหลังนี้ รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาทำให้ชายหนุ่มเคลิ้มอย่างลืมตัว รู้สึกตัวอีกทีก็รีบผลักร่างบางให้ออกห่าง ก่อนจะรีบเดินออกไปอย่างไม่พูดไม่จาใด ๆ ทำเอาชญานีถึงกับยืนขมวดคิ้วมองตามหลังอย่างงุนงง
“นอกจากเป็นพวกบ้ากามแล้ว ยังเป็นไบโพล่าอีกเหรอเนี่ย” กล่าวกับตัวเองเบา ๆ แล้วทำหน้าล้อเลียนลับหลัง หลังจากนั้นยืนยิ้มอยู่เพียงลำพัง ที่ได้ก็มีโอกาสใช้ชีวิตเป็นอิสระในบ้านหลังนี้ โดยไม่ต้องถูกขังอยู่ในห้องตลอดเวลาแล้ว