ตอนที่ 5 มีแผน

1333 Words
หญิงสาวเอเชียรูปร่างหน้าตาสวยเดินเข้าไปในคฤหาสน์หรูอย่างมาดมั่น ตั้งใจจะเข้าไปพบกับผู้เป็นเจ้านาย หลังจากภารกิจลอบสังหารคริสไม่เป็นผลสำเร็จ “สวัสดีค่ะนายท่าน” ชายหนุ่มรูปงามตามฉบับหนุ่มละติน ละสายตาจากหน้าจอมือถือ เงยหน้าขึ้นมองผู้เข้ามาใหม่ แม้ว่าแผนการครั้งนี้จะไม่เป็นผลสำเร็จ แต่ทว่าเจ้าตัวกลับไม่คิดจะต่อว่าเธอเลยสักนิด “มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิยูเมโกะ” “ขอบคุณค่ะ” เจ้าหล่อนหย่อนก้นลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม นั่งหลังตรงจัดระเบียบร่างกายได้เป็นอย่างดี สมกับที่ถูกฝึกมาเพื่อเป็นนักฆ่าโดยตรง ยูเมโกะ เป็นเด็กกำพร้าชาวญี่ปุ่น ที่ถูกบิดาของลูคัสนำมาชุบเลี้ยงให้เป็นนักฆ่าตั้งแต่ยังเด็ก จนทำให้เธอมีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าผู้หญิงทั่วไป บางทีอาจจะมากกว่าผู้ชายหลาย ๆ คนด้วยซ้ำ “ฉันได้ยินข่าวว่าพวกมันจับตัวไปผิดคนงั้นเหรอ” “ใช่ค่ะ คืนนั้นขณะที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไป กลับมีสาวไทยคนหนึ่งเข้าไปหามันก่อน เป็นความบังเอิญที่เธอแต่งตัวคล้ายกับฉัน เลยทำให้พวกมันเข้าใจผิด แต่นายท่านไม่ต้องกังวลนะคะ ถึงยังไงฉันก็จะหาทางกำจัดมันให้ได้” “ขอบใจเธอมากที่ทุ่มเทมาโดยตลอด แต่ไอ้คริสมันเป็นคนฉลาด มีลูกน้องเก่ง ๆ หลายคนเธอเองก็ต้องระวังตัวด้วยล่ะ” “ค่ะนายท่าน” “ช่วงนี้เธอไปพักผ่อนก่อนละกัน รอให้เรื่องมันซาลงสักพักแล้วค่อยไปจัดการใหม่ เดี๋ยววันนี้ฉันจะเลี้ยงข้าวเธอเป็นการตอบแทน ให้สมกับความทุ่มเทในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา” “ขอบคุณค่ะนายท่าน” หลังจากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกับอีกสักพัก เกี่ยวกับแผนการลอบสังหารคู่อริ ก่อนจะปิดท้ายของวันนั้น ด้วยการทานอาหารมื้อพิเศษสองต่อสอง *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-* วันนี้ชญานีไม่ได้ถูกขังไว้ในห้องเหมือนเช่นเคย เอเดนเป็นคนไขกุญแจพาเธอลงมาหาคริสที่ห้องนั่งเล่น โดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะกลั่นแกล้งอะไรอีก สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือต้องอดทน และพยายามมองโลกในแง่ดีให้ได้มากที่สุด เผื่อว่าความเป็นคนดีจะช่วยให้พวกเขาตาสว่าง และยอมปล่อยเธอไปจากที่แห่งนี้เสียที “วันนี้จะแกล้งอะไรฉันอีกล่ะ” “นั่งก่อนสิ” ได้ยินอย่างนั้นชญานีก็นั่งลงบนโซฟา มองหน้าเขารอฟังคำประกาศิตอย่างตั้งใจ แต่ทว่าคริสส่งสัญญาณทางสีหน้า สั่งให้เธอลงไปนั่งที่พื้น “เป็นอะไรของคุณ ตะคริวกินคอหรือไง” “ลงไปนั่งที่พื้น” “จะบ้าเหรอ ฉันไม่ใช่คนรับใช้ของคุณนะ” “ฉันกำลังเมื่อยเท้า นวดเท้าให้หน่อยสิ” “ไม่! ฉันไม่เคยนวด แล้วก็นวดไม่เป็นด้วย” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง “นวดไม่เป็นก็ต้องนวด ไม่งั้นก็ขึ้นไปนาบกับฉันข้างบน เลือกเอา” ชายหนุ่มยักคิ้ว ยิ้มมุมปากอย่างเป็นต่อ กระดิกเท้ารออย่างผู้ชนะ “ก็ได้ ๆ” เจ้าหล่อนเหลือบตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ นั่งขัดสมาธิลงบนพื้น นำเท้าของคริสมาวางไว้บนตักอย่างรังเกียจ “ให้มันดี ๆ หน่อย” “ก็คนมันไม่เคยนี่นา จะให้ถูกใจเหมือนหมอนวดได้ยังไงกัน ถ้าเมื่อยมากก็ไปที่ร้านนวดเลยสิ” “ไปทำไมในเมื่อมีคนคอยนวดให้อยู่แล้ว” “คอยดูเถอะถ้าฉันทนไม่ไหวเข้าสักวัน จะเผาที่นี่ไม่ให้เหลือแม้แต่ซากเลย” มือก็นวดเท้าไป ตาก็ถลึงมองเขาไปด้วย “ก็ลองดูสิ ถ้าเธอทำอย่างนั้นฉันจะให้ลูกน้องทุกคนของฉัน ต่อคิวยัดเยียดความเป็นผัวให้เธอจนกว่าจะขาดใจตาย” “โรคจิต คิดแต่เรื่องใต้สะดือ สักวันเถอะจะตายก็เพราะเรื่องใต้สะดือ” เจ้าหล่อนเบะปากด้วยความหมั่นไส้ ก้มหน้าลงไปนวดเท้าให้เขาต่อ “คนอย่างฉันไม่ตายเพราะเรื่องนี้หรอก แต่คนที่จะตายเพราะเรื่องใต้สะดือคงเป็นเธอมากกว่านะ โดนของใหญ่ ๆ อย่างนี้ทุกวัน อีกไม่นานคงจะช้ำในตายก็เป็นได้” ว่าแล้วก็หัวเราะยกใหญ่ จ้องมองดวงหน้าสวยอยู่ดี ๆ ก็รู้สึกแปลก ๆ หัวใจเต้นแรงเอาซะดื้อ ๆ แถมยังหลงใหลความมีเสน่ห์ของเธอเสียอย่างนั้น จนต้องสะบัดหน้าหนี เพื่อระงับอารมณ์ที่มันไม่ควรจะเกิดขึ้น “โรคจิต” เธอเงยขึ้นมาแลบลิ้นใส่หน้า เหลือบตามองอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเห็นความน่ารักที่แสดงออกมา “เธอไม่น่ามาเป็นนักฆ่าเลยจริง ๆ” เขาเปรยออกมาอย่างไม่รู้ตัว สายตาคมจ้องมองเธออย่างเสน่หา ชญานีเงยหน้าขึ้นมาหมายใจจะต่อว่าเขาอีกครั้ง แต่ทว่าเมื่อสบตากันแล้วกลับนั่งนิ่ง สายตาคมคู่นั้นจริงจังจนรู้สึกแปลก ๆ ต้องหลุบตาลงมองที่เท้าแทน “ก็ฉันไม่ได้เป็นอย่างที่พวกคุณเข้าใจ ไม่รู้จะพูดยังไงให้เชื่อแล้ว” “มีอะไรจะพิสูจน์ให้ฉันเชื่อล่ะ” “ถ้าพูดไปแล้วคุณจะเชื่อฉันเหรอ” “ก็ลองพูดมาก่อนสิ บางทีฉันอาจจะเชื่อก็ได้” “แค่คำว่าบางที มันก็ชัดเจนแล้วว่าไม่เชื่อ ไม่อยากพูดให้เปลืองน้ำลายหรอก” “พูดมาเถอะฉันอยากรู้ว่าเธอจะเก่งการแต่งเรื่องมากแค่ไหน” ชายหนุ่มยกยิ้มราวกับต้องการหยอกเด็กเสียอย่างนั้น “ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะถือซะว่าสีซอให้ควายฟังละกัน เผื่อว่าบางทีคุณอาจจะคิดอะไรได้บ้าง ฉันเกิดและเติบโตที่เมืองไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดแม่ของคุณนั่นล่ะ (เธอเน้นเสียงคำว่าแม่) ช่วงสมัยเรียนมอปลายพ่อกับแม่ฉันเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเลยทำให้ต้องเป็นเด็กกำพร้า” “หลังจากนั้นก็ย้ายไปฝึกการเป็นนักฆ่ากับไอ้ลูคัสใช่ไหม” “หุบปากไปเลย ฉันพูดยังไม่จบ” เจ้าหล่อนถลึงตามองเขาอย่างเสียอารมณ์ “โอเค ๆ พล่ามต่อไปเลย” คริสนั่งเอนหลังกอดอกมองอย่างตั้งใจ “หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว ก็เข้าทำงานที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แต่ก็รู้สึกว่าชีวิตมันน่าเบื่อ ไม่มีอะไรดีขึ้น เลยตัดสินใจมาตายเอาดาบหน้าที่นี่พร้อมกับเพื่อน ทำงานในร้านอาหารไทยได้สักพักก็เอาเงินเก็บที่มีอยู่มาเปิดร้านขายเครื่องประดับอยู่มาจนถึงตอนนี้ และที่ซวยที่สุดในชีวิตก็คือการได้เจอกับคุณในผับวันนั้น จนทำให้ฉันต้องมาอยู่ในสภาพนี้ไง” เธอเล่าประวัติตัวเองอย่างย่อให้เขาฟัง เผื่อจะทำให้เขาเริ่มเชื่อบ้าง แปะๆ ๆ “เล่าเรื่องโคตรเก่ง จนฉันแทบจะเชื่อเลยอ่ะ เธอนี่เก่งทุกด้านเลยจริง ๆ” “ไม่ต้องพูดประชดหรอก ฉันรู้ว่าถึงยังไงคุณก็ไม่มีทางเชื่อหรอก” “รู้แล้วก็ดี จะได้ไม่ต้องหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ” “แล้วคุณจะขังฉันไว้ในคฤหาสน์หลังนี้อีกนานแค่ไหน” “ก็ไม่รู้สินะ อาจจะหนึ่งเดือน หรือหนึ่งปี หรือตลอดชีวิตมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้น จนกว่าฉันจะได้รู้ความจริงจากปากเธอ ว่าไอ้ลูคัสมันมีแผนการอะไรบ้าง” “มีแผนกำลังจะฆ่าคุณไง เรื่องนี้คุณเองก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ พอใจกับคำตอบรึยัง ยัดเยียดความเป็นนักฆ่าให้ฉันได้สมใจอยากคุณแล้วสินะ” “แล้วทำไมวันนั้นถึงได้เข้ามาหาฉันก่อนล่ะ ผู้ชายในผับก็มีตั้งเยอะแยะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD