เอวากำลังนั่งนิ่งๆ บนรถม้า….ข้างกันคือซีโน่ที่กำลังมองไปยังเบื้องหน้า
เดม่อนยังคงสะกดสายตาของนักบุญทั้งสองไว้ มือทั้งสองข้างของเอวาถูกมัดติดกัน ส่วนมือของซีโน่ถูกมัดติดกับหน้าต่างรถม้า
…..เพราะว่าเขาพยายามโน้มตัวไปหาเดม่อนครั้งแล้วครั้งเล่า
ในสายตาของเดม่อน….เขารู้สึกว่าตัวเองปวดหัวกับนักบุญทั้งสองเป็นอย่างมาก….ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกของเขาการที่เขามีผิวสีแทนทำให้สตรีในราชอาณาจักรลิธีนาดูถูกว่าเขาเป็นคนชั้นต่ำและไม่มีใครชายตามองเขา
เขาแปลกใจเล็กน้อยที่ในแววตาของท่านนักบุญทั้งสองมีความหลงใหลซ่อนอยู่ ท่านนักบุญหญิงที่มีใบหน้างดงามนั้นชื่อว่าเอวา ใบหน้าที่งดงามจนสะกดสายตาของผู้พบเห็นนั้น….ทำให้เดม่อนรู้สึกจั๊กจี้ที่หัวใจเล็กน้อย
ส่วนนักบุญซีโน่เขาไม่เคยพบเห็นบุรุษที่งดงามเท่านี้มากก่อน ผิวขาวราวกับหยกชั้นดีขนตาแพรยาว ใบหน้าที่งดงามราวกับสตรีนั้น….คงจะสะกดใจผู้พบเห็นได้ไม่ยากเย็น
“ท่านโจร….ข้าเมื่อยได้โปรดแกะเชือกให้ข้าเถอะ…ข้าไม่มีทางหนีเด็ดขาดข้าสัญญา”
ซีโน่เริ่มบ่น มือของเขาห้อยอยู่กับหน้าต่าง การเดินทางด้วยรถม้าที่แสนโคลงเคลงนี้ทำให้เขาเมื่อยขบและรู้สึกเวียนหัว
เอวา….กำลังประเมินสถานการณ์ในใจ….โจรป่ารูปหล่อนี้…ไม่แม้แต่จะทำร้ายเธอ….เช่นนั้น…เขาคงเป็นทหารรับจ้างที่ได้รับการจ้างวานมาลักพาตัวเธอ
เอวารู้สึกว่าโจรผู้นี้ไม่ได้น่ากลัว…ในตอนลักพาตัวเธอมาจากขบวนทหาร เขาก็พยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ…ที่สำคัญเขาไม่ได้ฆ่าใครเลย….
เดม่อนมองไปที่เอวา เขามองสายตาคมกริบที่เธอจ้องมองมาทางเขาเงียบๆ
….สตรีผู้นี้คงจะไม่ได้มีดีแค่ใบหน้าสินะ
เขาแสยะยิ้ม
“อย่ายิ้มแบบนั้นได้ไหมท่านโจร…มันทำให้ข้ายิ่งหลงไปกับท่าน”
“….” เอวามองที่ซีโน่ก่อนจะถอนหายใจ
เธอได้แต่หวังลึกๆ ว่าสหาย…คงจะมีความระแวดระวังอันตรายและกำลังหาทางหนีอยู่….
“ท่านจะพาเราไปไหนคะ?”
เดม่อนเหลือบมองที่เอวา เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงก่อนจะหันออกไปมองวิวที่ด้านนอกหน้าต่างรถม้า
“….วางใจที่ที่ข้าจะพาท่านไป…นักบุญเปรียบเสมือนสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่แรงกล้า จะไม่มีใครทำร้ายพวกท่านแม้แต่ปลายเล็บแน่นอน”
เอวามองไปที่เดม่อนอีกครั้ง เขามีแววตาที่สงบและเย่อหยิ่ง
ชายผู้นี้….ไม่ใช่คนเลว….แต่ทว่าก็ไม่ใช่คนที่เธอสมควรจะไว้วางใจ….
เอวาหัวเราะ เธอลุกขึ้นก่อนจะไปนั่งลงข้างๆ เขา
“….หากที่นั่นน่ากลัว….ข้าเพียงแต่หวังว่าจะมีท่านอยู่เคียงข้าง” เอวายกยิ้ม
เดม่อนมองเอวาด้วยหางตาก่อนจะเหลือบไปมองวิวด้านนอกต่อ
สตรีผู้นี้…..ฉลาดว่าที่คิดเอาไว้ เธอคงคิดว่าเขาอาจจะลุ่มหลงในรูปลักษณ์ของเธอเช่นคนอื่นที่ผ่านมา….
“….หึ…”
ในคราแรกเขาไม่ได้สนใจสตรีที่มีดีแค่ใบหน้า….แต่ทว่าตอนนี้เขาชักจะเริ่มสนใจเธอแล้วสิ เดม่อนหันไปยิ้มให้เอวา….
“นี่มองหน้ากันแบบนั้นหมายความว่ายังไงห๊ะ!!! บนรถนี้มีข้าอยู่ด้วยนะ ไม่ได้อยู่กันสองคน!!!”
ซีโน่เริ่มโวยวาย เขายิ่งเมื่อยๆ อยู่
ชายหญิงตรงหน้ายังมานั่งจีบกันอีก!!!!
……..
ออสตินรู้สึกว่า…..เขากำลังอยากจะฆ่าใครสักคน…..
ทหารที่คุ้มกับขบวนนักบุญล้วนแล้วแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนักหนาอะไรมากมาย แต่ทว่าดันไม่มีใครปกป้องเอวาไว้ได้…
“ท่านดยุค…ข้าพยายามห้ามท่านนักบุญแล้ว….แต่ท่านนักบุญทั้งสองยินยอมตามโจรนั้นไป…อึก!!!”
ออสตินถีบเข้าไปที่อกของเซอร์ปานีหัวหน้าทหารที่คุ้มกันขบวนนักบุญ เขาค่อยๆ ชักดาบออกมา แล้วจ่อที่คอของเซอร์ปานี
“….หาร่องรอยให้พบ….ทุกๆ หนึ่งชั่วโมงถ้าไม่ได้ข่าวท่านนักบุญข้าจะฆ่าพวกเจ้าทีละคน”
เซสรู้สึกว่าวันนี้เจ้านายของเขาดูน่ากลัวกว่าทุกวัน ไอสังหารที่แผ่ออกมาทำให้เหล่าทหารกลัวจนตัวสั่น บรรยากาศตึงเครียดไปหมด
“ข้าขออาสาไปตามหาท่านนักบุญทั้งสองด้วยครับ”
ชายผมสีทองเจิดจ้าและสว่างไสวนั่งคุกเข่า รูปลักษณ์ที่สตรีเห็นเป็นต้องตกตะลึง ชายผู้ครองใจสตรีน้อยใหญ่แทบจะทั้งจักรวรรดิ
“เซอร์โคลว์? ….ดี….ไปตามหานักบุญทั้งสองให้พบ”
โคลว์ก้มหัวทำความเคารพออสติน ก่อนจะพาทหารมาประชุมและเริ่มแยกย้ายกันออกไป
ออสตินหลับตาลง….เขาเดินไปกระโดดขึ้นหลังม้า
“ท่านดยุคครับ…ท่านรอฟังข่าวอยู่ที่นี่…”
เซสพยายามวิ่งไปห้ามแต่ก็ไม่ทันแล้ว ออสตินควบม้าออกไปอีกทาง เขาได้แต่ถอนหายใจ
ท่านนักบุญหญิงเอวา….กับท่านดยุคจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาเป็นแน่….
“นี่!!!”
เซสหันไปมองก็พบกับสตรีผู้หนึ่ง
“ได้ข่าวเอวาบ้างรึยังคะ…..ข้าเป็นเพื่อนนาง…ได้โปรดบอกทีว่านางปลอดภัย”
เซสมองไปที่สตรีผู้นั้น ตัวของเธอกำลังสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว….
“….เรายังไม่ได้ข่าวของท่านนักบุญเลยครับ….โปรดวางใจ ดยุคออสตินออกตามหาท่านนักบุญทั้งสองด้วยตัวเอง…”
เจนรู้สึกว่าขาของเธอราวกับจะยืนไม่อยู่ เธอทรุดลงนั่งกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง เอวาคือสหายคนสนิทที่เติบโตด้วยกันมา ส่วนซีโน่ก็เป็นเพื่อนคนสำคัญของเธอเช่นกัน
เมื่อทราบข่าวเธอก็รีบว่าจ้างรถม้าให้มาส่งที่ค่ายทหาร ได้แต่หวังในใจระหว่างทางมาว่าพอเธอมาถึงจะได้ทราบข่าวดีว่าพบเอวากับซีโน่แล้ว
ทว่าความหวังของเธอนั้นพังทลายลง…ตอนนี้ยังไม่ได้ข่าวใดๆ ของเพื่อนทั้งสองเลย
เซสก้มลงไปพยุงเจนให้ลุกขึ้นก่อนที่เขาจะพาเธอไปนั่ง
“…ใจเย็นๆ ก่อนครับ”
กลิ่นหอมอ่อนๆ จากเซสนั้นลอยเข้ามาในจมูกเธอ เจนเช็ดน้ำตาก่อนจะมองชายเบื้องหน้าให้ชัด เมื่อครู่เธอมัวแต่เสียใจเลยไม่ทันได้มองใบหน้าเขา
….พระเจ้า….ชายคนนี้เท่ระเบิดไปเลย!!!
เสียงม้ากำลังวิ่งมา พอเจนหันไปมองก็พบกับชายที่เธอเฝ้าฝันถึง
โคลว์? …..ให้ตายนี่มันอะไรกัน…..
เจนรู้สึกว่าตาเธอกำลังพร่ามัวกับความหล่อ…..
“ท่านสามารถพักอยู่ที่นี่ก่อนได้นะครับ….ข้าจะเตรียมที่พักให้”
“….อ้อ…ค่ะ…ไม่ทราบว่าท่านชื่อ?”
“…เรียกข้าว่าเซสเถอะครับ”
“ข้าชื่อเจน…ค่ะ….”
เซสยิ้มให้เจนน้อยๆ ก่อนจะยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาค่อยๆ เช็ดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนตามใบหน้า
ของเจน
เจนมองเซสอย่างหลงใหล….ให้ตายเธอกำลังลืมห่วงเพื่อนเพราะชายเบื้องหน้า!!!!
…………
เอวาค่อยๆ ลืมตาขึ้น ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่บนรถม้าแล้ว ความรู้สึกสุดท้ายคือมีผ้ามาปิดที่จมูกเธอก่อนที่เธอจะสลบไปพอเธอก้มมองที่ตัวเอง ตอนนี้เธอไม่ได้สวมชุดนักบุญแล้ว เธอกำลังสวมเดรสตัวยาวสีชมพูอ่อน ผมที่เธอถักเปียไว้ด้านหลังก่อนหน้านี้ ในตอนนี้ปล่อยสลายลงพร้อมกับจัดลอนอย่างสวยงาม
เอวามองไปที่กระจกที่สะท้อนใบหน้าสตรีงดงาม….ใบหน้าที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ กลับขับความงามของเธอออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“ท่านนักบุญ…ตื่นแล้วหรือคะ”
สาวใช้เข้ามาในห้องพร้อมกับเดินมาจัดแต่งทรงผมเธออีกครั้ง
“งดงาม….สมกับเป็นผู้ถือครองพลังศักดิ์สิทธิ”
“ที่นี่….ที่ไหนคะ..”
“ที่นี่คือพระราชวังลิธีนาค่ะ….อีกเดี๋ยวงานเลี้ยงต้อนรับก็จะเริ่มขึ้น…ขอเชิญท่านนักบุญลงไปด้านล่างเถอะค่ะ”
เอวามองไปที่หน้าต่าง ตอนนี้เป็นเวลามืดแล้ว….ข่าวคราวการหายตัวของเธอคงจะไปถึงหูของท่านดยุคออสติน ถึงแม้ความหวังจะริบหรี่แต่เธอก็ยังหวัง…ว่าเขาจะมาช่วย
“แล้วเพื่อนของข้า?”
“ท่านซีโน่อยู่กับองค์รัชทายาทค่ะ”
สาวใช้ยกยิ้ม เอวารู้สึกว่าหางตาของเธอกำลังกระตุกอยู่
ขอให้อย่ามีอะไรที่ไม่ดี…เกิดขึ้นกับซีโน่ด้วยเถอะ….