bc

ทางเลือกของนักบุญหญิง

book_age18+
340
FOLLOW
1K
READ
mystery
rebirth/reborn
like
intro-logo
Blurb

เรือนผมสีบลอนด์ทองของเอวาสยายไปบนที่นอน ที่หลังเปลือยเปล่าของเธอนั้นชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ ผ้าคลุมผมและชุดนักบุญของเธอถูกกระชากออกไปกองที่พื้น เธอยกมือขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงที่น่าอายออกมา

ดวงตาทั้งสองข้างของเธอรื้นไปด้วยน้ำตา

เขาก้มลงมาจูบซับน้ำตาให้เธอ สัมผัสที่อ่อนโยนของเขาทำให้เอวารู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย เขายังคงส่งมอบความหฤหรรษ์ให้เธอจากจุดที่เชื่อมต่อกัน

เอวาพยายามลืมตาขึ้นมามองใบหน้าเขา แต่ทว่าฤทธิ์ของไวน์องุ่นที่เธอดื่มฉลองในวันขอพรพระเจ้านั้นทำให้ดวงตาของเอวาพร่ามัว

เขาโอบกอดเธอแน่น ทุกสัมผัสที่เขามอบให้มันช่างอ่อนหวานและอ่อนโยนจนเอวาแทบจะหลอมละลายภายใต้ร่างของเขา

“…เอวา”

เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ เพื่อจะบอกกล่าวแก่เธอว่าเขารู้สึกดีเพียงใด เอวายื่นมือขึ้นไปโน้มใบหน้าเขาลงมาก่อนจะจุมพิตเขาเบาๆ

เขายังคงตามใจเธออย่างว่าง่าย เธออยากทำเช่นใดกับร่างกายเขาก็ย่อมได้ เขาไม่แม้แต่จะขัดใจเธอ

เอวากอดรับความอบอุ่นที่เขามอบให้เธอ…ครั้งแล้วครั้งเล่า

ถึงแม้เธอจะมองเห็นใบหน้าเขาเลือนรางทว่าสัมผัสที่เขามอบให้เธอ…เอวาสัมผัสได้อย่างชัดเจน

ค่ำคืนที่หวานล้ำขอเอวาผ่านไปอย่างช้าๆ จวนเจียนจะขาดใจ

“พรึบ!!!”

เอวาเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว เธอก้มมองภายใต้ผ้าห่มสีขาว

ไม่ได้….ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น….

เอวาเหลือบมองไปข้างเตียง เธอเอาผ้าห่มห่อตัวเพื่อเดินลงมาหยิบเสื้อผ้าไปใส่ เอวายกชุดนักบุญของเธอขึ้นมา

ด้านหลังขาดวิ่นจนผ้าที่เย็บไว้แทบจะแยกออกจากกัน….

ส่วนกระโปรงด้านในของเธอถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแทบจะไม่เหลือซาก

“…..”

เอวายกมือขึ้นตบที่หน้าผากตัวเอง ความรู้สึกปวดเอวและส่วนล่างนั้น…มันแสนจะชัดเจน

เมื่อคืนเธอคงเสียตัวให้ใครสักคน…..

รอบๆ ห้องนี้ไม่มีใครอยู่ เอววามองไปที่นาฬิกา

ใช่แล้วตอนนี้เวลาสิบโมงกว่า เธอหายไปทั้งคืนเช่นนี้ ป้ามาธ่าน่าจะบิดหูเธอขาดทันทีที่เอวากลับไปที่โบสถ์

ใจเย็นๆ เอวา ตอนนี้สิ่งที่ต้องคิดเป็นอันดับแรกคือ….เธอจะใส่ชุดอะไรออกไปจากห้องนี้กัน

เอวาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าไม้ สถานที่นี้เธอมาค่อนข้างบ่อย

ที่นี่คือโรงแรมเอเลฟีน่า…โรงแรมที่หรูหราที่สุดในจักรวรรดิ

เอวามาปราสาทพรให้ผู้จัดการโรมแรมบ่อยๆ เขาให้ค่าตอบแทนเอวาในราคาที่สูง เพราะที่พักที่นี่ราคาแพงลิบลิ่ว

เอวาชะงัก!

เธอหวังลึกๆ ว่าชายคนเมื่อคืน….เขาคงจะจ่ายค่าโรงแรมแล้วใช่ไหมนะ…..เธอคงไม่ซวยถึงขนาดที่เสียตัวแล้วยังต้องมาออกค่าโรงแรมอีก

เอวาเปิดตู้เสื้อผ้าออก ปรากฏเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำแขวนไว้อย่างเป็นระเบียบ เอวาคว้าเสื้อเชิ้ตและกางเกงมาใส่ เธอพับขากางเกงขึ้นเพื่อให้สะดวกกับการก้าวเดิน

หลังจากจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเอวาก็เปิดประตูออกไปด้านนอก ก่อนออกไปเธอไม่ลืมหยิบเศษซากชุดนักบุญของเธอออกมาด้วย

ที่นี่เป็นชั้นบนสุด..ไม่ค่อยมีใครขึ้นมาพักเพราะค่าห้องชั้นบนจะแพงที่สุด เอวารีบวิ่งลงบันไดของพนักงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอผู้คนด้านล่างด้วย

“อ้าว!..เอวา?”

เธอหันไปมองเสียงเรียกก็พบกับเจน

“สภาพเช่นนั้นคืออะไรกัน…ท่านนักบุญ”

เจนอมยิ้มให้เอวา

เอวาหลับตาพร้อมทั้งหมวดคิ้ว

“….อย่าบอกใคร”

เจนหัวเราะ เจนและเอวาเติบโตด้วยกันมาในบ้านเด็กกำพร้า เอวาคือเพื่อนสาวคนเดียวของเธอ อีกทั้งเมื่อคืนคนที่ชวนเอวาไปกินไวน์องุ่นจนเมาก็คือเจนเอง

“เอวา…เดินออกมาจากห้องไหน?”

เอวาเม้มปาก

“ช่างมันเถอะ”

เจนยกมือขึ้นท้าวเอว เธอเริ่มมองเพื่อนสนิทด้วยอารมณ์โมโหนิดๆ

“จะช่างมันได้ยังไงเอวา!…ดูสภาพเจ้าก่อน คอแดงเถือกเช่นนี้…คงไม่ได้ทำไปแค่รอบเดียวหรอกนะ!!!”

เอวายกมือขึ้นปิดปากเจน

“เจน…เมื่อคืนข้าเมา..เลยมองหน้าเขาไม่ชัด”

“เช่นนั้นเจ้าก็บอกมาว่าเจ้าออกมาจากห้องไหน…ข้าสามารถตรวจชื่อของแขกที่เข้าพักให้ได้”

เอวาเม้มปาก

“เจนตรวจชื่อแล้วยังไง…เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าก็จำไม่ค่อยได้ จะไปบังคับให้เขามารับผิดชอบข้าเหรอ เกิดเจ้าโวยวายให้เขามารับผิดชอบข้าแล้วเขาเป็นคนที่มีภรรยาอยู่แล้วล่ะ ชีวิตข้าจะไม่ยิ่งเลวร้ายไปกว่านี้เหรอ?”

เจนถอนหายใจ พอเธอนึกตามที่เอวาพูดมานั้นก็มีเหตุผล

“เช่นนั้นเจ้ารีบไปก่อนป้ามาธ่าจะฆ่าเจ้า”

เอวารีบวิ่งทันทีที่เจนกล่าวจบ เธอปีนกำแพงเข้าทางข้างโบสถ์ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องนอนตัวเองเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดนักบุญหญิง โชคดีที่ชุดนี้ปิดขึ้นไปถึงคอ ไม่งั้นถ้าคนอื่นเห็นคงตอบคำถามกันไม่หวาดไม่ไหวแน่

เอวาเดินไปยังห้องสวดภาวนา…ทว่าไม่มีคนอยู่สักคน

เธอรับวิ่งไปที่ห้องโถงใหญ่เสียงพูดคุยกันเซ็งแซ่ นักบุญส่วนใหญ่อยู่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ เอวาใช้ถังน้ำมารองก่อนที่เธอจะปีนไปแอบดูที่หน้าต่าง

ท่านนักบุญริกเกอร์ผู้ดูแลโบสถ์กำลังกล่าวกับนักบุญที่อยู่ในห้องโถง

“เพราะฉะนั้นทางพระราชวังจึงให้เราส่งนักบุญที่มีพลังรักษาเข้าร่วมกับกองทัพเพื่อไปออกรบในครั้งนี้”

เอวาขมวดคิ้ว ออกรบงั้นเรอะ!! ให้ตายเถอะ

เธอหวังอย่างยิ่งว่าท่านนักบุญริกเกอร์คงจะไม่ส่งผู้หญิงไปหรอก ใช่ไหม?

“คนแรกที่จะเป็นหัวหน้าของนักบุญที่เดินทางไปครั้งนี้ คือ เอวา”

“…..”

“เอวา…รีบออกมา!!”

เอวาคิดว่าเธอยังคงไม่สร่างเมา ไม่สร่างเมาแน่ๆ เหล้าองุ่นของเจนฤทธิ์ช่างแรงข้ามวันข้ามคืน

“เอวา!!!”

เอวาที่มองท่านนักบุญริกเกอร์ที่หน้าต่าง เธอรู้สึกเสียวๆ ที่สันหลัง เอวาหันหลังไปมองด้านหลังก็พบกับ ป้ามาธ่า ที่ยืนถือไม้เรียวมองเธออยู่

“…เอวา…ยังไม่รีบเข้าไปอีก!!!”

เสียงของป้ามาธ่าที่เรียกเธอทำให้ทั้งห้องโถงใหญ่มองมาที่หน้าต่างที่เอวายืนอยู่

นี่มัน….วันซวยอะไรของเธอกัน!!

เอวาเดินคอตกไปหาท่านนักบุญริกเกอร์

“คนต่อไป……”

เอวารู้สึกว่าหูของเธออื้อจนไม่ได้ยินเสียงของท่านริกเกอร์ที่เรียกชื่อนักบุญคนอื่นเลย

chap-preview
Free preview
1.ค่ำคืนที่ชัดเจนในความทรงจำ
เรือนผมสีบลอนด์ทองของเอวาสยายไปบนที่นอน ที่หลังเปลือยเปล่าของเธอนั้นชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ ผ้าคลุมผมและชุดนักบุญของเธอถูกกระชากออกไปกองที่พื้น เธอยกมือขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงที่น่าอายออกมา ดวงตาทั้งสองข้างของเธอรื้นไปด้วยน้ำตา เขาก้มลงมาจูบซับน้ำตาให้เธอ สัมผัสที่อ่อนโยนของเขาทำให้เอวารู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย เขายังคงส่งมอบความหฤหรรษ์ให้เธอจากจุดที่เชื่อมต่อกัน เอวาพยายามลืมตาขึ้นมามองใบหน้าเขา แต่ทว่าฤทธิ์ของไวน์องุ่นที่เธอดื่มฉลองในวันขอพรพระเจ้านั้นทำให้ดวงตาของเอวาพร่ามัว เขาโอบกอดเธอแน่น ทุกสัมผัสที่เขามอบให้มันช่างอ่อนหวานและอ่อนโยนจนเอวาแทบจะหลอมละลายภายใต้ร่างของเขา “…เอวา” เขากระซิบเรียกเธอซ้ำๆ เพื่อจะบอกกล่าวแก่เธอว่าเขารู้สึกดีเพียงใด เอวายื่นมือขึ้นไปโน้มใบหน้าเขาลงมาก่อนจะจุมพิตเขาเบาๆ เขายังคงตามใจเธออย่างว่าง่าย เธออยากทำเช่นใดกับร่างกายเขาก็ย่อมได้ เขาไม่แม้แต่จะขัดใจเธอ เอวากอดรับความอบอุ่นที่เขามอบให้เธอ…ครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงแม้เธอจะมองเห็นใบหน้าเขาเลือนรางทว่าสัมผัสที่เขามอบให้เธอ…เอวาสัมผัสได้อย่างชัดเจน ค่ำคืนที่หวานล้ำขอเอวาผ่านไปอย่างช้าๆ จวนเจียนจะขาดใจ “พรึบ!!!” เอวาเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างรวดเร็ว เธอก้มมองภายใต้ผ้าห่มสีขาว ไม่ได้….ใส่เสื้อผ้าสักชิ้น…. เอวาเหลือบมองไปข้างเตียง เธอเอาผ้าห่มห่อตัวเพื่อเดินลงมาหยิบเสื้อผ้าไปใส่ เอวายกชุดนักบุญของเธอขึ้นมา ด้านหลังขาดวิ่นจนผ้าที่เย็บไว้แทบจะแยกออกจากกัน…. ส่วนกระโปรงด้านในของเธอถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแทบจะไม่เหลือซาก “…..” เอวายกมือขึ้นตบที่หน้าผากตัวเอง ความรู้สึกปวดเอวและส่วนล่างนั้น…มันแสนจะชัดเจน เมื่อคืนเธอคงเสียตัวให้ใครสักคน….. รอบๆ ห้องนี้ไม่มีใครอยู่ เอววามองไปที่นาฬิกา ใช่แล้วตอนนี้เวลาสิบโมงกว่า เธอหายไปทั้งคืนเช่นนี้ ป้ามาธ่าน่าจะบิดหูเธอขาดทันทีที่เอวากลับไปที่โบสถ์ ใจเย็นๆ เอวา ตอนนี้สิ่งที่ต้องคิดเป็นอันดับแรกคือ….เธอจะใส่ชุดอะไรออกไปจากห้องนี้กัน เอวาเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าไม้ สถานที่นี้เธอมาค่อนข้างบ่อย ที่นี่คือโรงแรมเอเลฟีน่า…โรงแรมที่หรูหราที่สุดในจักรวรรดิ เอวามาปราสาทพรให้ผู้จัดการโรมแรมบ่อยๆ เขาให้ค่าตอบแทนเอวาในราคาที่สูง เพราะที่พักที่นี่ราคาแพงลิบลิ่ว เอวาชะงัก! เธอหวังลึกๆ ว่าชายคนเมื่อคืน….เขาคงจะจ่ายค่าโรงแรมแล้วใช่ไหมนะ…..เธอคงไม่ซวยถึงขนาดที่เสียตัวแล้วยังต้องมาออกค่าโรงแรมอีก เอวาเปิดตู้เสื้อผ้าออก ปรากฏเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงขายาวสีดำแขวนไว้อย่างเป็นระเบียบ เอวาคว้าเสื้อเชิ้ตและกางเกงมาใส่ เธอพับขากางเกงขึ้นเพื่อให้สะดวกกับการก้าวเดิน หลังจากจัดแจงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางเอวาก็เปิดประตูออกไปด้านนอก ก่อนออกไปเธอไม่ลืมหยิบเศษซากชุดนักบุญของเธอออกมาด้วย ที่นี่เป็นชั้นบนสุด..ไม่ค่อยมีใครขึ้นมาพักเพราะค่าห้องชั้นบนจะแพงที่สุด เอวารีบวิ่งลงบันไดของพนักงาน เพื่อหลีกเลี่ยงการเจอผู้คนด้านล่างด้วย “อ้าว!..เอวา?” เธอหันไปมองเสียงเรียกก็พบกับเจน “สภาพเช่นนั้นคืออะไรกัน…ท่านนักบุญ” เจนอมยิ้มให้เอวา เอวาหลับตาพร้อมทั้งหมวดคิ้ว “….อย่าบอกใคร” เจนหัวเราะ เจนและเอวาเติบโตด้วยกันมาในบ้านเด็กกำพร้า เอวาคือเพื่อนสาวคนเดียวของเธอ อีกทั้งเมื่อคืนคนที่ชวนเอวาไปกินไวน์องุ่นจนเมาก็คือเจนเอง “เอวา…เดินออกมาจากห้องไหน?” เอวาเม้มปาก “ช่างมันเถอะ” เจนยกมือขึ้นท้าวเอว เธอเริ่มมองเพื่อนสนิทด้วยอารมณ์โมโหนิดๆ “จะช่างมันได้ยังไงเอวา!…ดูสภาพเจ้าก่อน คอแดงเถือกเช่นนี้…คงไม่ได้ทำไปแค่รอบเดียวหรอกนะ!!!” เอวายกมือขึ้นปิดปากเจน “เจน…เมื่อคืนข้าเมา..เลยมองหน้าเขาไม่ชัด” “เช่นนั้นเจ้าก็บอกมาว่าเจ้าออกมาจากห้องไหน…ข้าสามารถตรวจชื่อของแขกที่เข้าพักให้ได้” เอวาเม้มปาก “เจนตรวจชื่อแล้วยังไง…เมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้นข้าก็จำไม่ค่อยได้ จะไปบังคับให้เขามารับผิดชอบข้าเหรอ เกิดเจ้าโวยวายให้เขามารับผิดชอบข้าแล้วเขาเป็นคนที่มีภรรยาอยู่แล้วล่ะ ชีวิตข้าจะไม่ยิ่งเลวร้ายไปกว่านี้เหรอ?” เจนถอนหายใจ พอเธอนึกตามที่เอวาพูดมานั้นก็มีเหตุผล “เช่นนั้นเจ้ารีบไปก่อนป้ามาธ่าจะฆ่าเจ้า” เอวารีบวิ่งทันทีที่เจนกล่าวจบ เธอปีนกำแพงเข้าทางข้างโบสถ์ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องนอนตัวเองเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเป็นชุดนักบุญหญิง โชคดีที่ชุดนี้ปิดขึ้นไปถึงคอ ไม่งั้นถ้าคนอื่นเห็นคงตอบคำถามกันไม่หวาดไม่ไหวแน่ เอวาเดินไปยังห้องสวดภาวนา…ทว่าไม่มีคนอยู่สักคน เธอรับวิ่งไปที่ห้องโถงใหญ่เสียงพูดคุยกันเซ็งแซ่ นักบุญส่วนใหญ่อยู่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ เอวาใช้ถังน้ำมารองก่อนที่เธอจะปีนไปแอบดูที่หน้าต่าง ท่านนักบุญริกเกอร์ผู้ดูแลโบสถ์กำลังกล่าวกับนักบุญที่อยู่ในห้องโถง “เพราะฉะนั้นทางพระราชวังจึงให้เราส่งนักบุญที่มีพลังรักษาเข้าร่วมกับกองทัพเพื่อไปออกรบในครั้งนี้” เอวาขมวดคิ้ว ออกรบงั้นเรอะ!! ให้ตายเถอะ เธอหวังอย่างยิ่งว่าท่านนักบุญริกเกอร์คงจะไม่ส่งผู้หญิงไปหรอก ใช่ไหม? “คนแรกที่จะเป็นหัวหน้าของนักบุญที่เดินทางไปครั้งนี้ คือ เอวา” “…..” “เอวา…รีบออกมา!!” เอวาคิดว่าเธอยังคงไม่สร่างเมา ไม่สร่างเมาแน่ๆ เหล้าองุ่นของเจนฤทธิ์ช่างแรงข้ามวันข้ามคืน “เอวา!!!” เอวาที่มองท่านนักบุญริกเกอร์ที่หน้าต่าง เธอรู้สึกเสียวๆ ที่สันหลัง เอวาหันหลังไปมองด้านหลังก็พบกับ ป้ามาธ่า ที่ยืนถือไม้เรียวมองเธออยู่ “…เอวา…ยังไม่รีบเข้าไปอีก!!!” เสียงของป้ามาธ่าที่เรียกเธอทำให้ทั้งห้องโถงใหญ่มองมาที่หน้าต่างที่เอวายืนอยู่ นี่มัน….วันซวยอะไรของเธอกัน!! เอวาเดินคอตกไปหาท่านนักบุญริกเกอร์ “คนต่อไป……” เอวารู้สึกว่าหูของเธออื้อจนไม่ได้ยินเสียงของท่านริกเกอร์ที่เรียกชื่อนักบุญคนอื่นเลย เสื้อผ้าของเอวาถูกเตรียมใส่กระเป๋าไว้โดยป้ามาธ่า เอวาถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะยื่นมือไปรับกระเป๋านั้นมา ป้ามาธ่ายื่นห่อข้าวที่เตรียมไว้ให้เอวา “กลับมา…อย่างปลอดภัยละกันเจ้าน่ะ!!” เอวาพยักหน้าเบาๆ ถัดจากป้ามาธ่าคือเจนที่ยืนร้องไห้อยู่ “เจน…หุบปากซะ!!!” ป้ามาธ่าหันไปดุเจน “เอวา…ข้าอยากจะบอกเจ้าว่าข้าจะดูแลโคลว์เป็นอย่างดีชนิดที่ว่ายุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยล่ะ” เอวามองค้อนไปที่เจน โคลว์คือชายหนุ่มที่เป็นที่หมายปองของสตรีในหมู่บ้านรวมทั้งเอวาและเจน เขารับราชการเป็นอัศวินของตระกูลดยุคแลงค์ตั้น ตระกูลที่สูงส่งและมีชื่อเสียง ใบหน้าที่หล่อเหลาบวกกับความเป็นสุภาพบุรุษของเขาทำให้สาวๆ ในเมืองต่างก็หมายปองโคลว์มาเป็นคู่ชีวิต “ถือซะว่า…ข้าต่อให้เจ้าแล้วกัน” “โป๊ก!!!” ป้ามาธ่าใช้พัดที่ถืออยู่ตีไปที่หัวของเจนและเอวา “ให้ตายเถอะ!! พวกเจ้าเป็นสตรี มากล่าวถึงบุรุษเช่นนี้เหมาะสมแล้วเรอะ!!!” เอวายื่นมาลูบหัวตัวเองเบาๆ “เจ็บนะป้ามาธ่า…วันก่อนตอนที่คณะอัศวินมาที่โบสถ์ข้ายังเห็นป้าออกไปยืนแถวหน้าสุดเพื่อต้อนรับหัวหน้าอัศวินริชาร์ดเลย” ป้ามาธ่าหน้าแดง เธอยกมือขึ้นเตรียมจะตีเจนอีกครั้ง แต่เจนวิ่งหนีไปก่อน “อ๊ากกก…พอข้าพูดความจริงป้าก็รับไม่ได้!!” เอวาหัวเราะเสียงใส ป้ามาธ่าและเจนวิ่งไล่กันไปจนถึงหน้าโบสถ์ “ท่านนักบุญหญิงเอวาใช่ไหมครับ…ท่านดยุคแลงค์ตั้นให้ข้ามารับคณะท่านนักบุญครับ” อัศวินผู้นั้นยื่นมือมาถือกระเป๋าเสื้อผ้าให้เอวา เขามีผิวสีแทนจากการตากแดด ใบหน้าดูคมเข้มตามแบบฉบับของชายชาตรี เอวามองเขาแล้วยกยิ้มให้ เอซหน้าแดงทันทีที่สบตาของเอวา สตรีเบื้องหน้ามีผิวขาวราวกับหิมะ ดวงตากลมโตรับกับจมูกโด่งเป็นสัน ปากอมชมพูที่เชิดขึ้นเพื่อรับกับใบหน้าเรียวยาวของเธอ สตรีตรงหน้าคือสาวงามชนิดที่ว่าหาได้ยากผู้หนึ่ง “ท่านชื่อ?” “ข้าชื่อเอซีล่า มามัวร์ เรียกว่าเอซก็ได้ครับ” เอวาพยักหน้า “ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ…ท่านอัศวินเอซ” เอซนึกขอบคุณที่เขานั้นมีผิวสีคล้ำมันทำให้เวลาที่เขาหน้าแดงคนอื่นมองไม่ออก เขาพานักบุญหญิงและนักบวชชายอีกสามคนขึ้นรถม้าเพื่อไปเตรียมตัวที่คฤหาสแลงค์ตั้น รถม้าจอดที่หน้าประตูขนาดใหญ่ คฤหาสน์สีขาวกว้างสุดลูกหูลูกตา มีพ่อบ้านท่าทางใจดีมายืนต้อนรับเอวา “พวกเราจัดห้องไว้ให้แล้วครับท่านนักบุญหญิง มื้อเย็นท่านดยุคจะลงมารับประทานอาหารเย็นด้วย ขอท่านนักบุญหญิงเตรียมตัวให้พร้อมครับ” เอวาพยักหน้า มีสาวใช้นำทางเธอไปยังเรือนรับรองด้านหลัง ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายสอง เอวาเกิดรู้สึกเบื่อจึงขออนุญาตพ่อบ้านเพื่อจะไปชมสวนดอกไม้ด้านหลัง ตระกูลแลงค์ตั้นนั้นร่ำรวยมหาศาล ท่านแกรนด์ดัชเชสของตระกูลเป็นน้องสาวขององค์จักรพรรดิ ส่วนท่านแกรนด์ดยุคเป็นแม่ทัพใหญ่ นำทัพออกรบชนะศึกทุกครั้ง จนได้ฉายาว่าตระกูลแลงค์ตั้นคือเสือดำที่ยากแก่การโค่นล้ม พวกเขามีบุตรชายหนึ่งคน ชื่อว่าออสติน ข่าวลือของออสตินคือเขาเป็นคนตายด้าน….บุรุษ…ที่นกเขาไม่ขัน… ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มต้นข่าวลือนี้ พอรู้ตัวอีกที….ชื่อของดยุคออสตินก็โด่งดังในชั่วข้ามคืน เขาแต่งภรรยาทั้งหมดสี่คนแล้ว….ภรรยาทั้งสี่ของออสตินล้วนหย่ากับเขาด้วยเหตุผลเดียวกัน คือ…นกเขาของออสตินนั้นหลับสนิทและปลุกไม่ตื่น….. เอวาคิดว่าแต่ละคนล้วนแล้วแต่คงจะมีเหตุผลของตัวเอง ออสตินเองก็คงน่าเห็นใจเพราะเขาเป็นถึงท่านดยุค หากตรงนั้นใช้การไม่ได้ เรื่องทายาทและผู้สืบทอดคงจะเป็นปัญหาแน่ๆ เอวาเดินมาหยุดที่แปลงดอกทิวลิปสีแดงสด เธอนั่งลงที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ สวนดอกไม้นี้มีดอกไม้หลากหลายชนิด แต่ละชนิดล้วนแล้วแต่มีราคาแพงระยิบ ทิวลิปดอกหนึ่งราคาราวสามเหรียญทอง เธอไปปราสาทพรได้เงินวันละ ห้าเหรียญทอง เธอปราสาทพรทั้งวัน จะซื้อดอกทิวลิปได้เพียงดอกครึ่งเท่านั้น…. ความจนนี่…น่ากลัวเหมือนกันแฮะ ถ้าถอนดอกทิวลิปทั้งแปลงนี้ไปขายคงได้เงินมหาศาล…..ไม่ได้นะเอวา!!! ขโมยของมีโทษถึงตัดมือ…เธอจะไม่มีมือสวยๆ เอาไว้กุมหน้าสุดหล่อของโคลว์นะ เอวารู้สึกเขินอายทุกครั้งที่นึกถึงหน้าโคลว์ เขาทำงานในคฤหาสน์แห่งนี้นี่นา…จะมีพรหมลิขิตแบบเดินไปจ๊ะเอ๋กันไหมน้า~~ เอวาล้มตัวนอนลงบนพื้นหญ้า “โป๊ก!!” เอวารีบดีดตัวขึ้นทันทีที่หัวเธอไปกระแทกกับอะไรสักอย่างบนพื้น เธอยกมือมากุมหัวที่เริ่มปูดบวม “ใคร!!..กล้ารบกวนการนอนของข้า” เอวาเงยหน้าไปมอง เธอเห็นว่ามีชายคนหนึ่งนอนลงด้านหลังต้นไม้ที่เธอนั่งอยู่ เขายกมือขึ้นมากุมหน้าผากที่บวมแดง “ขะ…ขอโทษค่ะ…ข้าไม่รู้ว่ามีคนนอนอยู่” เขาลุกขึ้นเสยผมดำสนิทที่ปกหน้าผากก่อนจะมองเธอด้วยสายตาโกรธแค้น “เจ้าเป็นใคร?” “ข้าชื่อเอวาค่ะ…เป็นนักบุญหญิงที่จะออกไปร่วมรบกับท่านดยุคแลงค์ตั้น” หางตาเขากระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินเธอเอ่ยชื่อ เอวาถือวิสาสะขยับเข้าไปหาเขา เธอยกมือขึ้นท้าวกับต้นไม้ส่วนอีกมือแตะที่หน้าผากเขา เธอร่ายเวทย์รักษาให้เขา มีลมสายหนึ่งพัดผ่านเขาไป พอรู้ตัวอีกทีก็ไม่รู้สึกเจ็บที่แผลแล้ว “พรืด!!…” มือที่ยันต้นไม้ไว้ของเอวาเกิดลื่น…เอวาพยายามคว้าต้นไม้ไว้แต่เธอก็คว้าได้แต่เพียงอากาศ “ตุบ!!!” เอวาล้มตัวไปทับเขา หน้าของเธอกระแทกที่หน้าอกแกร่งของเขาอย่างจัง เอวารู้สึกว่าเธอได้ยินเสียงดัง ก็อก!! ดังก้องอยู่ในหู “!!!!” กลิ่น….กายของเขา!!!! เอวาไม่มีทางลืมกลิ่นนี้ได้เด็ดขาด กลื่นที่เธอสูดดมตอนที่เธอซบแนบอิงอกแกร่งของเขาโดยไร้ซึ่งสิ่งปิดกั้น เอวาเงยหน้ามองที่ใบหน้าของเขา ถึงจะเลือนลาง ทว่ามีความคล้ายกับชายในความทรงจำของเธออยู่หลายส่วน ไม่ผิดแน่!!! เขาคือชายที่มีค่ำคืนอันหอมหวานรัญจวนใจกับเธอ เอวาไม่มีทางลืมอกแกร่งที่เธอซบและลูบคลำตอนนั้นได้ “แหมะ!!…” เลือดสีแดงสด….ไหลลงมาจากจมูกของเอวา “!!!!” ชายเบื้องหน้าก็ตกใจพอๆ กับที่เอวาตกใจ เขารีบหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าไปซับเลือดที่กำลังไหลลงมาจากจมูกของเธอ เอวาหลับตาลง….เธอไม่แน่ใจว่าเลือดที่ไหลออกมาทางจมูกนี้….ไหลเพราะว่าจมูกเธอกระแทกหรือเพราะว่าเธอนึกถึงเรือนร่างอันเปลือยเปล่าของเขาในคืนนั้นกันแน่!!!!

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ชะตารักพยัคร้าย

read
2.1K
bc

สร้างเนื้อสร้างตัวในยุคจีนโบราณ

read
15.2K
bc

ขอโทษที...ชาตินี้ผมเกิดมาเป็นไอดอล

read
1K
bc

1969 ซินซินไม่ใช่ดาวหายนะ

read
1.7K
bc

เมื่อฉันหลงรักตัวร้ายในนิยายสยองขวัญ

read
1K
bc

เมื่อฉันทะลุมิติไปอยู่ในโลกของสัตว์

read
1K
bc

ชีวิตที่สองของเทพโอสถสาวผู้ทรนง

read
1.2K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook