3. 2วัน2คืน /2

1644 Words
ออสตินใช้มือทั้งสองข้างของเขายันไปที่เตียง เขากักขังเอวาไว้ในอ้อมกอดเขา “ท่านนักบุญหญิง….ท่านจะเริ่ม…รักษาข้ายังไง” เอวาหน้าแดง ตอนนี้ชุดคลุมอาบน้ำช่วงบนของออสตินนั้นแหวกออก ทำให้กล้ามท้องแกร่งปรากฏต่อสายตาเอวาอีกครั้ง “…..ท่านดยุคคะ….ข้าว่าท่านควรจะ…เอ่อ….ถะ…ถอยออกห่างไปก่อน” เอวาใช้มือดันไหล่ของออสตินเอาไว้ ออสตินยกมือขึ้นมาจับที่ปลายผมของเอวา เขาจูบที่ปลายผมนั้นเบาๆ เขาอยากจะจูบตั้งแต่เส้นผม…ไปจนถึงปลายเท้าของเธอ ทุกส่วนบนร่างกายเล็กนั้นๆ ดึงดูดเขาอย่างน่าประหลาด ข่าวลือเรื่องส่วนล่างของเขาแพร่ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็เป็นเรื่องโด่งดังไปทั่วจักรพรรดิ ออสตินไม่ได้คิดว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องปมด้อย หรือว่าเรื่องน่าอาย เขาเติบโตมาด้วยครอบครัวที่ท่านพ่อบูชารักท่านแม่สุดหัวใจ ส่วนท่านแม่ก็คลั่งรักท่านพ่ออย่างหนัก บรรยากาศยามที่ท่านพ่อและท่านแม่อยู่ด้วยกันราวกับมีแสงแดดอุ่นๆ สาดแสงออกมา ยังกับว่าบนโลกนี้มีเพียงท่านพ่อและท่านแม่เท่านั้น ในคราแรกออสตินคิดว่าเขาคงจะมีน้องมากมายเต็มคฤหาสน์ แต่ทว่าหลังจากที่ท่านพ่อเห็นท่านแม่คลอดเขาออกมาด้วยความเจ็บปวดเจียนตาย ท่านพ่อจึงหายาสมุนไพรที่ทำให้ตัวเองเป็นหมัน เพื่อที่ท่านแม่จะไม่ต้องเจ็บปวดเจียนตายกับการคลอดลูกอีก เขา….คิดว่าการจะมีค่ำคืนที่ลึกซึ้งกับใครสักคนหนึ่ง มันต้องมีองค์ประกอบหลัก…คือความรัก นกเขาของเขานั้นปกติดี….มันยังคงตื่นทุกเช้า แต่ทว่ากับสตรีที่เขาไม่ได้สนใจหรือว่าไม่ได้ชอบ มันจะไม่ตื่นขึ้นมาแม้จะทำเช่นไรก็ตาม เอวา…….ออสตินยกยิ้ม เธอคงจะจำเขาไม่ได้…..แต่ทว่าภาพของสตรีตัวเล็กแก้มพองๆ นั้นยังคงตราตรึงใจของออสตินมาจนถึงทุกวันนี้ ……… ออสตินในวัยสิบเจ็ดเขาออกไปร่วมรบกับท่านพ่อแต่เขาพลาดท่าโดนธนูที่อาบด้วยสมุนไพรพิษยิง เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการขี่ม้าหลบหนีเข้าไปในป่า พิษที่อาบอยู่บนดอกธนูช่างร้ายแรง ดวงตาจะปิดลงให้ได้ เรี่ยวแรงของเขาที่จะนั่งบนหลังม้าก็หมดลง ออสติน…ร่วงลงจากหลังม้า เขา….ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพราะกลิ่นอาหารที่ลอยเข้าจมูก “แค่ก…แค่ก” มีมือขาวๆ ยื่นแก้วน้ำมาให้เขา ออสตินยื่นมือไปรับก่อนจะยกน้ำนั้นขึ้นดื่ม “…ฟื้นแล้ว…หรือคะ?” เขาหันไปตามเสียง….ใบหน้าของสตรีที่งดงามปานนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เธอสวมชุดนักบุญสีขาวบริสุทธิ์ ดวงตากลมโตนั้นมองมาที่เขาด้วยสายตาเป็นห่วง “…ท่านหลับไปตั้งสามวัน” “เจ้าช่วยข้าไว้?” เธอพยักหน้าก่อนจะยื่นช้อนมาจ่อที่ปากเขา ในช้อนคือโจ๊กที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นชวนให้ลิ้มลอง ออสตินอ้าปากกินโจ๊กที่เธอส่งมาให้ เขาคิดว่ารสชาติคงจะอร่อมเหมือนกลิ่นหอมที่ลอยมาปะทะจมูก …….เค็ม….ปี๋ ออสตินกลืนโจ๊กลงคออย่างยากลำบาก “อร่อยไหมคะ…ข้าพึ่งทำครั้งแรก…ข้าทำตามที่ป้ามาธ่าสอนทุกขั้นตอนเลยค่ะ” ใบหน้างามนั้นยิ้มให้เขาอย่างภูมิใจ…. “อื้ม..อร่อย…” “เช่นนั้นก็ดีเลย ข้าต้มไว้สองหม้อ ท่านก็ทานให้มากหน่อย…นอนหลับไปตั้งหลายวัน” ออสตินฝืนยิ้มให้กับ….ตัวเอง หากกินหมดหม้อนั้น….ต่อมรับรสเขาอาจจะพังทลายลง….. “แผลท่าน…หายดีแล้วค่ะ…วางใจได้เลย แต่ภายในอาจจะยังบาดเจ็บอยู่ขอให้ท่านพักอีกสักสองวัน” ออสตินพยักหน้า…..เขาพึ่งสังเกต บนร่างกายเขา…. สวมเพียงชุดที่ทอด้วยฝ้ายราคาถูก…… “อ๋อ..ข้าไปเจอท่านในป่า ชุดของท่านเบื้องเลือด ข้าจึงถือวิสาสะเปลี่ยนชุดให้ท่าน วางใจข้า….มองเพียงนิดเดียวเท่านั้น….ขอท่านอย่าถือสา” ใบหน้าเล็กๆ ของนางขึ้นเป็นสีแดงน้อยๆ “ดาบของข้า…..” “….พอดีท่านถูกพิษของเผ่าทางเหนือถึงแม้ข้าจะร่ายเวทย์รักษาให้ทว่ารักษาได้เพียงภายนอก…พิษแพร่กระจายเข้าสู่ภายใน….ข้าต้องไปซื้อสมุนไพรซึ่งสมุนไพรนี้มันก็แพงมาก…..” ออสตินหลับตาลง เขายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ “หวังว่าเจ้าคงไม่เอาดาบข้าไปขาย…” “ใช่….ข้าขายดาบท่านไปแล้ว….” ดาบสุริยันจรัสแสง….ดาบที่ตีขึ้นโดยนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิ…..เขาได้รับดาบนี้มาจากท่านลุงที่เป็นองค์จักรพรรดิในวันบรรลุนิติภาวะ นาง…..กล้าเอาของล้ำค่าในชีวิตเขาไปขาย!!!! ให้ตายเถอะ!!!! ออสตินกัดฟัน “ข้าจะกลับบ้าน…” เธอยกมือขึ้นมาคว้าข้อมือเขาไว้ “ท่านยังไม่หายดีค่ะ….หากเดินทางหรือว่าขี่ม้าตอนนี้จะต้องกระทบกระเทือนภายในแน่” ออสตินหลับตา พยายามสงบสติอารมณ์อีกครั้ง เธอประคองเขาลงไปนอนลงบนเตียง “ท่านจะกินโจ๊ก…อีกไหมคะ” “ข้าจะนอน!!!” เธอเม้มปาก ก่อนจะเก็บแก้วน้ำและถ้วยไปล้าง เขามองไปรอบๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเล็กๆ ไม่มีการกั้นห้องใดๆ ทั้งนั้น มีเตียงนอนอยู่มุมห้อง ถัดไปเป็นโต๊ะกินข้าวและห้องครัว “…ที่นี่…เป็นบ้านเจ้า?” “จะเรียกว่าบ้านคงไม่ถูกนัก…ที่นี่เป็นที่พักของอาจารย์ข้าค่ะ…ไม่ต้องกังวลเรื่องคนที่ทำร้ายท่านนะคะ…จะไม่มีใครหาที่นี่พบเพราะข้าร่ายเวทลวงตาไว้แล้วค่ะ” ออสตินหลับตาลง ความง่วงโจมตีเขาอีกครั้ง ยามกลางคืนที่เงียบสงัด ออสตินค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขาดันตัวเองลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปรอบๆ เธอ…นอนหลับอยู่ที่พื้น… มีความรู้สึกอบอุ่นสายหนึ่งพาดผ่านหัวใจของเขา ออสตินลุกขึ้นไปช้อนตัวเธอขึ้นมานอนบนเตียง เขาเดินไปที่หน้าเตาไฟ ก่อนจะเทโจ๊กหม้อนั้นทิ้ง สภาพในครัวเลวร้ายกว่าที่เขาคิด เธอคงจะทำอาหารไม่เป็นจริงๆ เขาเหลือบไปมองมือเธอ ก็พบรอยมีดบาดสามสี่รอยที่นิ้วทั้งสองข้าง ออสตินยกยิ้ม เธอและเขาต่างก็ไม่รู้จักกันทำไมเธอทำเพื่อเขาขนาดนี้กันนะ? เขาคว้ามันฝรั่งมาปอกเปลือกก่อนจะเอาไปหั่นอย่างคล่องแคล่ว มีเนื้อกวางตากแห้งแขวนไว้ที่หน้าต่าง ออสตินนำเนื้อกวางและมันฝรั่งมาผัดรวมกัน ก่อนจะปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาล เขาตักใส่จานก่อนจะเดินไปปลุกสตรีที่กำลังหลับอยู่ “เฮ้!!!” ออสตินเขย่าตัวเธอ เธอยกมือขึ้นมาขยี้ตาน้อยๆ ออสตินก้มลงไปอุ้มเธอมานั่งที่เก้าอี้ แววตาของเธอมีอาการตกใจน้อยๆ “กินสิ” “ท่านทำเองเหรอคะ?” ออสตินยักไหล่ก่อนจะตักผัดเนื้อกวางไปจ่อที่ปากเธอ เธอมองหน้าเขาอย่างแปลกใจก่อนจะอ้าปากกิน “อื้อ…อร่อยมาก!!!” ออสตินยิ้มน้อยๆ “เจ้า…ไม่กลับบ้านรึไง?” เธอทำหน้าเศร้า ก่อนจะถอนหายใจ “ข้าหนีออกมาจากโบสถ์….” ออสตินเลิกคิ้วขึ้น “โจนาธานเขามาขอซื้อตัวข้าไปเป็นภรรยาคนที่สามของเขา….” ราวกับมีบางอย่างมาจุกที่คอของออสติน เขามองเธอที่ทำหน้าเศร้าด้วยความสงสาร “แล้วคนที่โบสถ์ว่ายังไง?” “ตระกูลของโจนาธานเป็นถึงท่านเคาน์ พ่อของเขาก็บริจาคให้โบสถ์มหาศาล…ท่านผู้ดูแลโบสถ์ไม่มีทางกล้าขัดใจเขาหรอกค่ะ…..ท่านผู้ดูแลเป็นคนดีมากๆ เขาเองก็ไม่อยากบังคับข้า…แต่อำนาจของโจนาธานนั้นยิ่งใหญ่มาก…หากข้าปฏิเสธก็จะทำให้ท่านผู้ดูแลลำบากใจ” “เจ้าคิดจะอยู่ที่นี่ตลอดไปรึไง…” “เรื่องนี้ข้าก็ยังคิดไม่ออก…แต่ว่าข้าไม่มีทางไปเป็นเมียเก็บของโจนาธานแน่นอนค่ะ” เขา….แอบสงสารเธออยู่ลึกๆ ในใจ เธอเองก็ช่วยเขาให้รอดพ้นจากความตาย….เขาควรจะช่วยเหลือเธอกลับไปบ้าง แต่ทว่าการช่วยเหลือเธอในครั้งนี้เขาต้องได้ประโยชน์ไปด้วยถึงจะคุ้มค่า “เจ้า…..ยังบริสุทธิ์ใช่ไหม” เธอหน้าแดงก่อนจะมองที่เขาอย่างตกใจ “ชนชั้นสูงมีธรรมเนียมปฏิบัติอยู่อย่างเคร่งครัด….พวกเขาจะไม่รับสตรีที่ไม่ถือพรหมจรรย์เข้าตระกูล” เหมือนเขาจะเห็นดวงตาของเธอเป็นประกาย เธอยกยิ้มก่อนจะขอบคุณเขา “แล้ว…เจ้าจะเอายังไงต่อ?” “ข้าจะไปที่หมู่บ้านค่ะ…ข้ามีเพื่อนผู้ชายอยู่เยอะ เพียงแค่ข้าเอ่ยปากพวกเขาน่าจะยอมช่วย” ออสตินรู้สึกราวกับมีหินก้อนใหญ่ทุ่มใส่หัวเขาอย่างแรง เธองดงามเช่นนี้แม้ไม่เอ่ยปากใครๆ ต่างก็ต้องอยากครอบครองเธอทั้งนั้น!! เขาหลับตาลงก่อนจะถอนหายใจ “…..ข้าไง” เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “ข้าไง….เจ้าจะลำบากไปที่หมู่บ้านทำไมกัน…ข้าช่วยเจ้าได้นะ” “ข้าว่า….ท่านยังไม่หายจากอาการ….” “เจ้าช่วยชีวิตข้า….ให้ข้าได้ตอบแทนเจ้าเถอะ….วางใจไม่ได้รบกวนอะไรข้าเลย….ข้า…ยินดีช่วย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD