ออสตินใช้มือทั้งสองข้างของเขายันไปที่เตียง เขากักขังเอวาไว้ในอ้อมกอดเขา
“ท่านนักบุญหญิง….ท่านจะเริ่ม…รักษาข้ายังไง”
เอวาหน้าแดง ตอนนี้ชุดคลุมอาบน้ำช่วงบนของออสตินนั้นแหวกออก ทำให้กล้ามท้องแกร่งปรากฏต่อสายตาเอวาอีกครั้ง
“…..ท่านดยุคคะ….ข้าว่าท่านควรจะ…เอ่อ….ถะ…ถอยออกห่างไปก่อน”
เอวาใช้มือดันไหล่ของออสตินเอาไว้
ออสตินยกมือขึ้นมาจับที่ปลายผมของเอวา เขาจูบที่ปลายผมนั้นเบาๆ
เขาอยากจะจูบตั้งแต่เส้นผม…ไปจนถึงปลายเท้าของเธอ ทุกส่วนบนร่างกายเล็กนั้นๆ ดึงดูดเขาอย่างน่าประหลาด
ข่าวลือเรื่องส่วนล่างของเขาแพร่ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็เป็นเรื่องโด่งดังไปทั่วจักรพรรดิ
ออสตินไม่ได้คิดว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องปมด้อย หรือว่าเรื่องน่าอาย
เขาเติบโตมาด้วยครอบครัวที่ท่านพ่อบูชารักท่านแม่สุดหัวใจ
ส่วนท่านแม่ก็คลั่งรักท่านพ่ออย่างหนัก บรรยากาศยามที่ท่านพ่อและท่านแม่อยู่ด้วยกันราวกับมีแสงแดดอุ่นๆ สาดแสงออกมา ยังกับว่าบนโลกนี้มีเพียงท่านพ่อและท่านแม่เท่านั้น
ในคราแรกออสตินคิดว่าเขาคงจะมีน้องมากมายเต็มคฤหาสน์ แต่ทว่าหลังจากที่ท่านพ่อเห็นท่านแม่คลอดเขาออกมาด้วยความเจ็บปวดเจียนตาย
ท่านพ่อจึงหายาสมุนไพรที่ทำให้ตัวเองเป็นหมัน เพื่อที่ท่านแม่จะไม่ต้องเจ็บปวดเจียนตายกับการคลอดลูกอีก
เขา….คิดว่าการจะมีค่ำคืนที่ลึกซึ้งกับใครสักคนหนึ่ง
มันต้องมีองค์ประกอบหลัก…คือความรัก
นกเขาของเขานั้นปกติดี….มันยังคงตื่นทุกเช้า แต่ทว่ากับสตรีที่เขาไม่ได้สนใจหรือว่าไม่ได้ชอบ มันจะไม่ตื่นขึ้นมาแม้จะทำเช่นไรก็ตาม
เอวา…….ออสตินยกยิ้ม
เธอคงจะจำเขาไม่ได้…..แต่ทว่าภาพของสตรีตัวเล็กแก้มพองๆ นั้นยังคงตราตรึงใจของออสตินมาจนถึงทุกวันนี้
………
ออสตินในวัยสิบเจ็ดเขาออกไปร่วมรบกับท่านพ่อแต่เขาพลาดท่าโดนธนูที่อาบด้วยสมุนไพรพิษยิง เขาใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการขี่ม้าหลบหนีเข้าไปในป่า พิษที่อาบอยู่บนดอกธนูช่างร้ายแรง ดวงตาจะปิดลงให้ได้ เรี่ยวแรงของเขาที่จะนั่งบนหลังม้าก็หมดลง
ออสติน…ร่วงลงจากหลังม้า
เขา….ค่อยๆ ลืมตาขึ้นเพราะกลิ่นอาหารที่ลอยเข้าจมูก
“แค่ก…แค่ก”
มีมือขาวๆ ยื่นแก้วน้ำมาให้เขา ออสตินยื่นมือไปรับก่อนจะยกน้ำนั้นขึ้นดื่ม
“…ฟื้นแล้ว…หรือคะ?”
เขาหันไปตามเสียง….ใบหน้าของสตรีที่งดงามปานนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ปรากฏอยู่เบื้องหน้า เธอสวมชุดนักบุญสีขาวบริสุทธิ์ ดวงตากลมโตนั้นมองมาที่เขาด้วยสายตาเป็นห่วง
“…ท่านหลับไปตั้งสามวัน”
“เจ้าช่วยข้าไว้?”
เธอพยักหน้าก่อนจะยื่นช้อนมาจ่อที่ปากเขา ในช้อนคือโจ๊กที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นชวนให้ลิ้มลอง
ออสตินอ้าปากกินโจ๊กที่เธอส่งมาให้ เขาคิดว่ารสชาติคงจะอร่อมเหมือนกลิ่นหอมที่ลอยมาปะทะจมูก
…….เค็ม….ปี๋
ออสตินกลืนโจ๊กลงคออย่างยากลำบาก
“อร่อยไหมคะ…ข้าพึ่งทำครั้งแรก…ข้าทำตามที่ป้ามาธ่าสอนทุกขั้นตอนเลยค่ะ”
ใบหน้างามนั้นยิ้มให้เขาอย่างภูมิใจ….
“อื้ม..อร่อย…”
“เช่นนั้นก็ดีเลย ข้าต้มไว้สองหม้อ ท่านก็ทานให้มากหน่อย…นอนหลับไปตั้งหลายวัน”
ออสตินฝืนยิ้มให้กับ….ตัวเอง
หากกินหมดหม้อนั้น….ต่อมรับรสเขาอาจจะพังทลายลง…..
“แผลท่าน…หายดีแล้วค่ะ…วางใจได้เลย แต่ภายในอาจจะยังบาดเจ็บอยู่ขอให้ท่านพักอีกสักสองวัน”
ออสตินพยักหน้า…..เขาพึ่งสังเกต บนร่างกายเขา….
สวมเพียงชุดที่ทอด้วยฝ้ายราคาถูก……
“อ๋อ..ข้าไปเจอท่านในป่า ชุดของท่านเบื้องเลือด ข้าจึงถือวิสาสะเปลี่ยนชุดให้ท่าน วางใจข้า….มองเพียงนิดเดียวเท่านั้น….ขอท่านอย่าถือสา”
ใบหน้าเล็กๆ ของนางขึ้นเป็นสีแดงน้อยๆ
“ดาบของข้า…..”
“….พอดีท่านถูกพิษของเผ่าทางเหนือถึงแม้ข้าจะร่ายเวทย์รักษาให้ทว่ารักษาได้เพียงภายนอก…พิษแพร่กระจายเข้าสู่ภายใน….ข้าต้องไปซื้อสมุนไพรซึ่งสมุนไพรนี้มันก็แพงมาก…..”
ออสตินหลับตาลง เขายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ
“หวังว่าเจ้าคงไม่เอาดาบข้าไปขาย…”
“ใช่….ข้าขายดาบท่านไปแล้ว….”
ดาบสุริยันจรัสแสง….ดาบที่ตีขึ้นโดยนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวรรดิ…..เขาได้รับดาบนี้มาจากท่านลุงที่เป็นองค์จักรพรรดิในวันบรรลุนิติภาวะ
นาง…..กล้าเอาของล้ำค่าในชีวิตเขาไปขาย!!!!
ให้ตายเถอะ!!!! ออสตินกัดฟัน
“ข้าจะกลับบ้าน…”
เธอยกมือขึ้นมาคว้าข้อมือเขาไว้
“ท่านยังไม่หายดีค่ะ….หากเดินทางหรือว่าขี่ม้าตอนนี้จะต้องกระทบกระเทือนภายในแน่”
ออสตินหลับตา พยายามสงบสติอารมณ์อีกครั้ง เธอประคองเขาลงไปนอนลงบนเตียง
“ท่านจะกินโจ๊ก…อีกไหมคะ”
“ข้าจะนอน!!!”
เธอเม้มปาก ก่อนจะเก็บแก้วน้ำและถ้วยไปล้าง
เขามองไปรอบๆ บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเล็กๆ ไม่มีการกั้นห้องใดๆ ทั้งนั้น มีเตียงนอนอยู่มุมห้อง ถัดไปเป็นโต๊ะกินข้าวและห้องครัว
“…ที่นี่…เป็นบ้านเจ้า?”
“จะเรียกว่าบ้านคงไม่ถูกนัก…ที่นี่เป็นที่พักของอาจารย์ข้าค่ะ…ไม่ต้องกังวลเรื่องคนที่ทำร้ายท่านนะคะ…จะไม่มีใครหาที่นี่พบเพราะข้าร่ายเวทลวงตาไว้แล้วค่ะ”
ออสตินหลับตาลง ความง่วงโจมตีเขาอีกครั้ง
ยามกลางคืนที่เงียบสงัด ออสตินค่อยๆ ลืมตาขึ้น เขาดันตัวเองลุกขึ้นนั่งก่อนจะมองไปรอบๆ
เธอ…นอนหลับอยู่ที่พื้น…
มีความรู้สึกอบอุ่นสายหนึ่งพาดผ่านหัวใจของเขา ออสตินลุกขึ้นไปช้อนตัวเธอขึ้นมานอนบนเตียง เขาเดินไปที่หน้าเตาไฟ ก่อนจะเทโจ๊กหม้อนั้นทิ้ง สภาพในครัวเลวร้ายกว่าที่เขาคิด เธอคงจะทำอาหารไม่เป็นจริงๆ
เขาเหลือบไปมองมือเธอ ก็พบรอยมีดบาดสามสี่รอยที่นิ้วทั้งสองข้าง
ออสตินยกยิ้ม เธอและเขาต่างก็ไม่รู้จักกันทำไมเธอทำเพื่อเขาขนาดนี้กันนะ?
เขาคว้ามันฝรั่งมาปอกเปลือกก่อนจะเอาไปหั่นอย่างคล่องแคล่ว มีเนื้อกวางตากแห้งแขวนไว้ที่หน้าต่าง ออสตินนำเนื้อกวางและมันฝรั่งมาผัดรวมกัน ก่อนจะปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาล
เขาตักใส่จานก่อนจะเดินไปปลุกสตรีที่กำลังหลับอยู่
“เฮ้!!!”
ออสตินเขย่าตัวเธอ เธอยกมือขึ้นมาขยี้ตาน้อยๆ ออสตินก้มลงไปอุ้มเธอมานั่งที่เก้าอี้ แววตาของเธอมีอาการตกใจน้อยๆ
“กินสิ”
“ท่านทำเองเหรอคะ?”
ออสตินยักไหล่ก่อนจะตักผัดเนื้อกวางไปจ่อที่ปากเธอ เธอมองหน้าเขาอย่างแปลกใจก่อนจะอ้าปากกิน
“อื้อ…อร่อยมาก!!!”
ออสตินยิ้มน้อยๆ
“เจ้า…ไม่กลับบ้านรึไง?”
เธอทำหน้าเศร้า ก่อนจะถอนหายใจ
“ข้าหนีออกมาจากโบสถ์….”
ออสตินเลิกคิ้วขึ้น
“โจนาธานเขามาขอซื้อตัวข้าไปเป็นภรรยาคนที่สามของเขา….”
ราวกับมีบางอย่างมาจุกที่คอของออสติน เขามองเธอที่ทำหน้าเศร้าด้วยความสงสาร
“แล้วคนที่โบสถ์ว่ายังไง?”
“ตระกูลของโจนาธานเป็นถึงท่านเคาน์ พ่อของเขาก็บริจาคให้โบสถ์มหาศาล…ท่านผู้ดูแลโบสถ์ไม่มีทางกล้าขัดใจเขาหรอกค่ะ…..ท่านผู้ดูแลเป็นคนดีมากๆ เขาเองก็ไม่อยากบังคับข้า…แต่อำนาจของโจนาธานนั้นยิ่งใหญ่มาก…หากข้าปฏิเสธก็จะทำให้ท่านผู้ดูแลลำบากใจ”
“เจ้าคิดจะอยู่ที่นี่ตลอดไปรึไง…”
“เรื่องนี้ข้าก็ยังคิดไม่ออก…แต่ว่าข้าไม่มีทางไปเป็นเมียเก็บของโจนาธานแน่นอนค่ะ”
เขา….แอบสงสารเธออยู่ลึกๆ ในใจ
เธอเองก็ช่วยเขาให้รอดพ้นจากความตาย….เขาควรจะช่วยเหลือเธอกลับไปบ้าง แต่ทว่าการช่วยเหลือเธอในครั้งนี้เขาต้องได้ประโยชน์ไปด้วยถึงจะคุ้มค่า
“เจ้า…..ยังบริสุทธิ์ใช่ไหม”
เธอหน้าแดงก่อนจะมองที่เขาอย่างตกใจ
“ชนชั้นสูงมีธรรมเนียมปฏิบัติอยู่อย่างเคร่งครัด….พวกเขาจะไม่รับสตรีที่ไม่ถือพรหมจรรย์เข้าตระกูล”
เหมือนเขาจะเห็นดวงตาของเธอเป็นประกาย เธอยกยิ้มก่อนจะขอบคุณเขา
“แล้ว…เจ้าจะเอายังไงต่อ?”
“ข้าจะไปที่หมู่บ้านค่ะ…ข้ามีเพื่อนผู้ชายอยู่เยอะ เพียงแค่ข้าเอ่ยปากพวกเขาน่าจะยอมช่วย”
ออสตินรู้สึกราวกับมีหินก้อนใหญ่ทุ่มใส่หัวเขาอย่างแรง เธองดงามเช่นนี้แม้ไม่เอ่ยปากใครๆ ต่างก็ต้องอยากครอบครองเธอทั้งนั้น!! เขาหลับตาลงก่อนจะถอนหายใจ
“…..ข้าไง”
เธอมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ข้าไง….เจ้าจะลำบากไปที่หมู่บ้านทำไมกัน…ข้าช่วยเจ้าได้นะ”
“ข้าว่า….ท่านยังไม่หายจากอาการ….”
“เจ้าช่วยชีวิตข้า….ให้ข้าได้ตอบแทนเจ้าเถอะ….วางใจไม่ได้รบกวนอะไรข้าเลย….ข้า…ยินดีช่วย”