Love Song 04
“ขออาบน้ำก่อนได้ไหมอ่ะ” ฉันถามเลิฟเมื่อเลิฟจอดรถที่หน้าบ้านฉัน ส่วนเพื่อนคนอื่นๆอาสาไปซื้อของมาจัดปาร์ตี้กันส่วนฉันโดนไล่ให้กลับมารอที่บ้าน ไม่เข้าใจจริงๆนะทำไมเพื่อนๆถึงได้ทำเหมือนฉันเป็นเด็กจนบางทีรู้สึกว่าพวกเขามองฉันเป็นน้องแทนที่จะมองเป็นเพื่อนซะอีก
“ได้ ตอนนี้พวกนั้นยังไม่มาเราขอเข้าไปรอในบ้านได้ไหม แต่ถ้าไม่สะดวกเราก็จะรอที่นี่ๆแหละ” เลิฟบอก
“คิดอะไรมาก เข้าไปข้างในได้วันนี้พี่เราอยู่”
“ขอบคุณครับ” เลิฟบอกก่อนเราทั้งสองจะลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน เลิฟอาสาถือกระเป๋าให้แม้จะปฏิเสธแต่เขาก็ยังคงทำหน้ามึนแล้วถือให้
“ซอง”
“คะ?”
“ตอนนี้ยังไม่มีแฟนใช่ไหม” อะไรของเขากัน
“ยังไม่มี ทำไมเหรอ?” ฉันถามกลับ
“เปล่าหรอก รีบอาบน้ำนะเผื่อพวกนั้นมากันก่อน”
“โอเค เอ่อเดี๋ยวบอกพี่ลงมาคุยเป็นเพื่อนนะ” ฉันบอกเลิฟก่อนจะรีบเดินขึ้นบนชั้นสองของบ้านก่อนเข้าห้องตัวเองฉันก็เดินไปเคาะที่ห้องพี่เต้เพื่อที่จะให้ลงไปนั่งเป็นเพื่อนเลิฟเจ้าตัวงัวเงียเดินออกจากห้องทันทีเมื่อได้ยินฉันบอก สองคนนี้เคยเจอกันบ้างแล้วเห็นคุยกันถูกคอเชียวล่ะ ฉันรีบเข้าไปอาบน้ำจัดการตัวเองเพราะกลัวว่าเพื่อนจะรอนาน
“มีอะไรก็ลองถามลองคุยดู ซองมันพูดไม่เก่งก็จริงแต่ถ้าทำให้มันเชื่อใจได้มันจะพูดทุกอย่างเลย”
“ผมพยายามอยู่ครับ”
“อือ ลองคุยกันดูถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนั่นไงมาแล้ว ฝากดูแลด้วยนะ”
“ได้ครับ”
ระหว่างที่กำลังเดินลงบันไดก็ได้ยินเสียงพี่เต้กับเลิฟคุยกันแต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าพวกเขากำลังคุยเรื่องอะไรกันแน่ พอเห็นฉันเดินเข้าไปพี่เต้ก็ลุกขึ้นพรางยกมือปิดปากหาว
“ถ้าดื่มเยอะแล้วกลับไม่ไหวโทรบอกกพี่นะเดี๋ยวเดินออกไปรับ พี่ขอไปนอนก่อน” พี่เต้ยกมือลูบผมฉันเบาๆก่อนจะเดินเลยไป ส่วนเลิฟก็ลุกขึ้นแล้วเข้ามาจับมือฉันก่อนจะพาเดินออกจากบ้าน
“ไม่จับมือก็ได้” *เราเป็นแค่เพื่อนกันนะ* ท้ายประโยคฉันได้แต่พดในใจ เพราะเมื่อไหร่ที่พูดแบบนี้เขาก็จะงอนถ้าหนักหน่อยก็จะโกรธเลยกว่าจะง้อได้นี่เป็นอาทิตย์
“อยากจับ” สั้นๆง่ายตามสไตล์คุณเลิฟนี่แหละค่ะ ฉันเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อเพราะดูแล้วเขาไม่มีทางปล่อยแน่ๆ เลิฟเปิดประตูให้ก่อนจะปล่อยมือ
“พวกนั้นบอกว่าจะย่างเนื้ออ่ะ ถ้าอยากทานอย่างอื่นก็บอกเราเข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ” ฉันตอบ
“ปะไปกัน เพื่อนน่าจะรอกันแล้วล่ะ” เลิฟบอกมาก่อนจะเคลื่อนรถ เรามาถึงสนามหญ้าบ้านต้นเพื่อนๆก็กำลังเตรียมของปาร์ตี้กัน
“ไปไหน” ฉันที่กำลังจะเดินไปในตัวบ้านเพื่อที่จะเข้าไปในครัวก็ต้องชะงักเมื่อเลิฟจับมือแล้วถามขึ้นเสียงดัง แต่ไม่ได้ดุ
“ไปในครัวค่ะ”
“ระวังด้วย” เลิฟบอกสั้นๆฉันพยักหน้าก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านของต้น เสียงเพื่อนฉันคุยกันดังออกมาแต่ด้วยความซุ่มซ่ามทำให้ฉันที่วิ่งเข้าไปในบ้านลื่นแล้วไถลหน้าผากชนขาโต๊ะเสียงดังปึ้ก! ทำให้เพื่อนที่อยู่ในครัววิ่งออกมาดู
“เฮ้ย! ไปทำอะไรตรงนั้นน่ะ” ดาวร้องถามปนเสียงหัวเราะ แต่ก็วิ่งเข้ามาประคองฉันให้ลุกขึ้น อ่า มึนเหมือนกันนะเนี่ย
“แดงเลยอ่ะ ฮาๆๆ อะไรจะรีบขนาดนั้น” ตูนพูดก่อนจะเดินไปเปิดดูตามตู้ต่างๆก่อนจะยื่นยาหม่องมาให้ อย่างกับบ้านตัวเองเลย
“เอาไปให้เลิฟทายาให้เลย พวกเรามือเปื้อน อ้อตรงนี้เสร็จแล้วรอข้างนอกเลยนะไม่ต้องเข้ามาแล้วเดี๋ยวได้แผลอีก” ดาวบอกและก็ยังขำอยู่ ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องครัว ด้านนอกพวกผู้ชายกำลังจัดโต๊ะและตั้งเตาเลิฟยืนอยู่ข้างๆอาร์มเหมือนพวกเขากำลังคุยอะไรกันอยู่ฉันเลยไม่กล้าที่จะเดินเข้าไปแต่อาร์มก็หันมาเจอซะก่อนและเขาก็สะกิดบอกเลิฟ เลิฟยิ้มก่อนจะกวักมือให้ฉันเดินเข้าไปหา
“โดนอะไร” เลิฟหรี่ตามองดุๆ ฉันเลยยื่นยาหม่องในมือให้เขาไป
“วิ่งแล้วล้มมันไถลไปชนขาโต๊ะ” ฉันเล่าให้เลิฟฟังคนตัวโตกว่าส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆมือก็ทายาหม่องที่หน้าผากให้
“อ๊ะ เจ็บ”
“ซน อยู่นิ่งๆเลย”
“ก็มันเจ็บ เลือดออกไหม” ฉันยกมือแตะๆตรงที่เจ็บแต่เลิฟก็ตีมือเบาๆและจับมือลง
“ไม่มีเลือดแต่โนมาก อะเสร็จแล้วนั่งอยู่นี่เลยนะเพื่อนเอาของออกมาแล้วเดี๋ยวเข้าไปเอาของให้” เลิฟบอก
“แต่เราอยากช่วย”
“อือ เข้าไปกับเรามา” เลิฟบอกก่อนจะจูงมือฉันเดินเข้าไปในบ้าน จับมือขนาดนี้อย่าหวังเลยว่าเขาจะปล่อยให้ฉันห่างเพราะเขาจะสวมบทเป็นคุณพ่อยังไงล่ะ
“มันบอกยัง” ตูนถามเลิฟเมื่อเห็นเราทั้งสองคนเดินเข้าไปในห้องครัว
“บอกแล้ว ซนมากอ่ะเพื่อนเธอ” ถ้าจะว่าให้ขนาดนี้นะ ตีฉันเลยเถอะ ชิ จะงอนแล้วนะ ทำไมต้องชอบดุด้วยนี่มันเป็นอุบัติเหตุนะไม่มีใครคิดหรอกว่ามันจะเกิดขึ้นน่ะ
“ทำหน้าหงอยอีกแล้ว” ตูนว่าขำๆมือก็ยกจานเนื้อมายื่นให้
“ทำไมต้องว่าเราด้วยล่ะ มันเป็นอุบัติเหตุนะ” ฉันบอกตูนก่อนจะมองเลิฟงอนๆ รายนั้นแค่หัวเราะเท่านั้น
“ก็ซน บอกแล้วไงว่าให้ระวังหรือไม่ฟังกันเลย”
“ก็ฟังแต่มันลื่นอ่ะ มันตั้งตัวไม่ทัน โอ๊ย ไม่เอาแล้วไม่คุยด้วยแล้วมีแต่คนดุ” ฉันถือจานเนื้อเดินออกจากห้องครัวพรางพึมพำอย่างงอนๆ ทุกคนชอบดุจริงๆนะ แต่ดุบ่อยก็คงจะเป็นเลิฟนี่แหละ ต่อหน้าคนอื่นไม่เท่าไหร่หรอกแต่ถ้าอยู่ด้วยกันสองคนนะ อย่าพูดถึงเลยเราเคยบ่นตั้งแต่คอนโดจนถึงบ้านฉันก็มีอ่ะ
“ไหงทำหน้างั้นอ่ะ”ดาวทักขึ้นเมื่อฉันเดินเข้าไปใกล้
“โดนบ่นมา” ฉันบอกเพื่อนไปงอนๆ ดาวหัวเราะอย่างเอ็นดู
“ก็เขาเป็นห่วงไงเลยบ่น แล้วนี่เจ็บมากไหมโนอยู่เลยอ่ะ”
“เจ็บ มันปวดด้วยอยากกลับไปนอนแล้ว”
“เดี๋ยวๆๆ ไม่ใช่ละ” ดาวว่าพรางหัวเราะอย่างรู้ทัน
“ก็ได้ๆ” จากนั้นก็ยืนย่างเนื้อช่วยดาว
“ทำไมตูนยังไม่ออกมาล่ะ ซองทำหน้าที่” ตาลบอก แต่ให้ตายสิ ฉันเดินวนไปมาหลายรอบแล้วนะพวกนี้ตั้งใจจะแกล้งฉันใช่ไหมถึงได้บอกให้เดินไปมาหลายรอบแบบนี้
“ซองเอาแก้วมาให้ด้วยได้ไหม” อาร์มตะโกนบอก
“ได้สิ รอแปบนะ” ฉันบอกเพื่อนก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านเพื่อที่จะเข้าไปตามตูนและเอาแก้วฉันเดินเข้าไปใกล้ห้องครัวเรื่อยๆแต่ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกใจหวิวๆแปลกๆชอบกล
“ก็คบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ” เสียงนี้ของเลิฟนี่ คบอย่างนั้นเหรอ
“อือ ก็คบอยู่แต่ยังไม่กล้าบอกเพื่อนเลย” เสียงตูน?
“เราว่าพวกนั้นเข้าใจอยู่หรอก ไม่อึดอัดเหรอที่อยู่แบบนี้ไม่เหนื่อยเหรอเราเหนื่อยเหมือนกันนะ...”
อ่า นี่พวกเขาคบกันเหรอ เลิฟกับตูนแอบคบกันเหรอ ฉันเดินถอยห่างจากห้องครัวก่อนจะเดินกลับไปยังด้านนอกฉันเดินเข้าไปหาอาร์มก่อนจะแกล้งถามเสียงปกติ
“เมื่อกี้จะเอาอะไร เราคุยกับปลาทองเลยลืม”
“โอ๊ย ปวดหัวเลยงานนี้แก้วครับเพื่อน ปะๆไปด้วยกันนี่แหละ” อาร์มลุกยืนก่อนจะเดินนำไปที่ห้องครัว ฉันเดินตามเข้าไปด้วยเพราะกลัวว่าเพื่อนจะสงสัยเอา
“นี่ไงปลาทองอ่ะ เมื่อกี้เราคุยกันด้วยนะเลยลืมว่านายฝากเอาอะไร ฮาๆๆๆ” ฉันดึงมือให้อาร์มดูตู้ปลาทองขนาดใหญ่
“ต่อไปถ้าจะไปเอาของแต่อยากแวะคุยกับปลาก็บอกปลาก่อนว่าจะไปเอาอะไรเผื่อลืมก็จะได้ถาม” อาร์มว่าขำจากนั้นก็เดินไปที่ห้องครัว
“มันจะตอบเราได้เหรอ” ฉันถามกลับแต่ใจเต้นแรงเมื่อเห็นตูนกับเลิฟเดินออกจากห้องครัวมา
“ตูนๆ ดาวบอกให้มาตามนะ” ฉันบอกตูนก่อนจะยิ้มให้เพื่อน และไม่กล้าที่จะเงยหน้ามองเลิฟเลยไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาก็กำลังมองฉันอยู่
“โอเค แล้วนี่จะไปไหนกัน” ตูนบอกและถามกลับมา
“ไปเอาอะไรนะอาร์ม” ฉันแกล้งถามอาร์มจนเจ้าตัวโตโวยวายใหญ่
“ฮาๆๆๆ จะไปเอาแก้วน่ะเดี๋ยวตามออกไปนะ” ฉันบอกตูนพร้อมกับเสียงหัวเราะและจนแล้วจนรอดก็ไม่กล้ามองหน้าเลิฟเลย ฉันแค่กลัว กลัวตัวเองจะร้องไห้
“อาร์ม! เราจำได้อยู่นะว่าจะมาเอาแก้ว”
ฉันเดินตามอาร์มเข้าไปในห้องครัวดูคนที่กำลังหัวเสียเพราะโดนแกล้ง ฉันยิ้มให้อาร์มขำๆก่อนจะปล่อยให้อาร์มบ่นพึมพำแล้วออกจากห้องครัวไปส่วนตัวเองยังยืนนิ่งไม่ขยับ ฉันเปิดตู้เย็นแล้วหยิบโซจูออกมาขวดหนึ่งก่อนจะกระโดดขึ้นนั่งที่เคาน์เตอร์กลางห้องครัวมือก็เปิดขวดโซจูขึ้นดื่ม ฉันนั่งดื่มไปเรื่อยๆพร้อมกับบอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้ ไม่รู้ว่านั่งนานแค่ไหนแต่พอโซจูหมดฉันก็กระโดดลงจากเคาน์เตอร์
อย่าเสียใจสิ คนที่เรารักทั้งสองคบกันมันก็ดีแล้วนี่นาจะเศร้าทำไมกัน
ฉันได้แต่ปลอบตัวเองในใจ จากนี้คงต้องเว้นระยะกับเลิฟแล้วล่ะเพราะกลัวว่าเขาและตูนจะอึดอัด ฉันหันหลังกลับตั้งใจจะออกจากห้องครัวแต่ไม่คิดว่าจะมีคนยืนอยู่หน้าห้องครัว ร่างสูงของเลิฟยืนกอดอกพิงกรอบประตูมองเข้ามายังห้องครัวแววตาคุกรุ่นของเขายิ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่ดี
“เป็นอะไร?” เขาถามสั้นๆ น้ำเสียงฟังดูห้วนจัง
“หือ? เปล่านะมาตั้งแต่เมื่อไหร่มาเอาของหรอ” ฉันถามกลับไปก่อนจะเดินเลี่ยงไปคนละมุมเมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามา
“ซองมานี่ก่อน” เลิฟสั่งเสียงดุ
“เราอยากออกไปดื่มต่อแล้วอ่า มีอะไรหรือเปล่า” ฉันเอียงคอถามเลิฟ
“เป็นอะไรทำไมทำตัวแปลกๆ”
“เปล่านะ เราแปลกเหรอหรือว่าเราจะเมาแล้วนะ” ฉันแกล้งพูดกลับไปอย่างนั้นก่อนจะรีบบอกเขาว่าอยากดื่มต่อแล้วรีบออกจากห้องครัว ทันทีที่ออกมาถึงด้านนอกฉันก็เข้าไปนั่งข้างๆดาวตรงที่ว่างๆส่วนที่ว่างอีกมุมคงเป็นของคนที่ยังอยู่ในครัวล่ะมั้ง
“ไปแอบดื่มอะไรมาหรือเปล่า”
“โซจูขวดเดียวเอง”
“ทำไมไม่เอาออกมาดื่มข้างนอกล่ะ” ดาวถามมือก็วางแก้วเหล้าลงตรงหน้า
“อารมณ์อินดี้”
“จ้าแม่คุณ” ดาวส่ายหน้าเอือมๆเมื่อได้ยินคำตอบของฉัน เรานั่งดื่มกันไปเรื่อยๆ ไปๆมาๆทำไมขวดเหล้าถึงได้มาตั้งตรงหน้าฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแต่เพื่อนไม่คิดอะไรมากหรอกเพราะพวกมันซื้อมาเยอะ ฉันที่ไม่ค่อยคุยอะไรอยู่แล้วเลยนั่งดื่มเงียบๆไปมีบางครั้งดาวหันมาดุเมื่อฉันดื่มถี่ขึ้น หนึ่งกลมตรงหน้าฉันดื่มคนเดียวจนเหลือต่ำกว่าครึ่งขวดแล้ว
“ซอง พอก่อน” ดาวแย่งทั้งแก้วทั้งขวดเหล้าออกห่างจากฉัน
“อื้อ ไม่เอาอย่าแกล้งสิ”
“เป็นอะไรปกติไม่ดื่มหนักตั้งแต่ต้นแบบนี้นะ” ดาวถามเสียงเข้มและฉันก็พอจะรู้ว่าเพื่อนคนอื่นก็เงียบฟังเช่นเดียวกัน
“เปล่า เราไม่ได้ดื่มนานแล้วอ่ะ อยากดื่มอีกอย่างพรุ่งนี้หยุดด้วย”
“อีกสามสิบนาทีค่อยดื่มต่อ” ดาวสั่งเสียงเข้ม ฉันจำต้องพยักหน้ารับก่อนจะเอียงคอไปซบไหล่ดาวไว้อย่างอ้อนๆ มือก็เอื้อมไปหยิบบาร์บีคิวมากิน ฉันได้แต่บอกตัวเองว่ารีบดื่มรีบเมารีบบอกให้พี่ลาเต้มารับ
“ขอต่อได้ยัง” ฉันเงยหน้าอ้อนดาวเสียงหวานพรางกระพริบตาปริบๆ หวังให้เพื่อเห็นใจแต่แอบใจกระตุกเมื่อดาวเอ่ยประโยคนั้นออกมา
“ถามเลิฟก่อนสิว่าจะให้ดื่มต่อได้หรือยัง”
“ไม่เอาๆ อยู่กับดาวขอดาวได้” ฉันบอกเพื่อนพร้อมกับกลิ้งหน้าไปมาบนแขนเนียนของดาว กระทั่งดาวก้มหน้ามากระซิบนั่นแหละ
“ทะเลาะอะไรกันหรือเปล่า เลิฟมองตลอดเลยนะ”
“ปะ เปล่าสักหน่อยแค่อยากดื่มทำไมต้องทะเลาะกับเขาด้วยล่ะ” ฉันว่าก่อนจะยืดตัวนั่งตรงตามเดิม อ่า ทำไมฉันทำตัวไม่น่ารักเลยล่ะ อาการแบบนี้จะเรียกว่าอกหักก็ไม่ได้สินะเพราะสถานะเรามันเป็นแค่เพื่อนกัน