บทที่ 11 ต่อปากต่อคำ 2

1613 Words
...ปานวาดยอมกินข้าวกับเขาเพื่องาน ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้เธอไม่อยากหางานใหม่ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเดินหางานในวัยเลขสามเช่นนี้ “กินสิ...” เขาเอ่ยพูดขึ้นเมื่อไม่เห็นว่าเธอจะตักอะไรกิน ด้านหน้ามีอาหารจากภัตตาคารหรูที่ชายหนุ่มสั่งให้มาส่งที่คอนโดมิเนียมของเขา มันละลานตาจนไม่รู้ว่าจะเริ่มตักกินจากตรงไหนก่อนดี “กิน...ฉันตักให้” “อย่ายุ่ง” “อย่าดื้อ...ผอมจะตายอยู่แล้ว” “มันเรื่องของฉัน...” “จะเป็นเรื่องของเธอคนเดียวได้ไง เรื่องของฉันด้วยต่างหาก เป็นห่วงนะโว้ย!” พาวินท์ขึ้นเสียง เขาเป็นห่วงจนกินนอนไม่ได้มาหลายวันตั้งแต่รู้ว่ามีลูก “เป็นอะไร ทำตัวอย่างกับวัยรุ่น” ปานวาดส่ายหน้าเบา ๆ เขาโตแค่ตัวจริง ๆ ทว่าคำพูดของเธอกลับทำให้พาวินท์กระตุกยิ้มอย่างคนพออกพอใจ “คิดถึงความหลังอ่ะดิ...” ปานวาดชะงักฝ่ามือที่กำลังตักอาหาร เธอส่ายหน้าเบา ๆ ไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด นั่งกินข้าวเงียบ ๆ พยายามไม่แสดงสีหน้าออกมาว่าอาหารตรงหน้ามันอร่อยมากแค่ไหน “เรื่องพาขวัญ...ทำไมเธอไม่เดือดเนื้อร้อนใจ ทำไมยังนั่งนิ่งทั้ง ๆ ที่ฉันเพิ่งบอกว่าเธอไปกับผู้ชาย...” ปานวาดเงยหน้าขึ้นมองเขา เธอจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตานิ่งเรียบยากจะคาดเดา “มันเป็นความสุขเดียวของเธอ...ถ้าคุณเห็นหน้าเธอตอนพูดถึงเด็กผู้ชายคนนั้นคุณจะไม่อยากบังคับเธอเลย ฉันพาพาขวัญไปฝังยาคุมแล้ว” หญิงสาวว่าอย่างอ่อนแรง นี่แหละคือสิ่งที่เธอต้องการจากคนเป็นพ่อในตอนนั้น หากพ่อให้ความสนใจเธอมากกว่านี้ หากท่านแนะนำเธอดี ๆ พาเธอไปฝังยาคุมเรียนรู้เรื่องเพศโดยไม่บังคับตบตี มันก็คงไม่ออกมาเป็นแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นเธอเด็กเกินไปที่จะรู้เรื่องราวแบบนั้นด้วยตัวเอง แต่กลับไม่มีใครแนะนำ แถมเอาแต่ตบตี “ฝังยาคุม?” “_” “อ่า...เสียใจชะมัด” พาวินท์รู้สึกเสียใจพอรู้ว่าลูกสาวเสียตัวแล้ว อยู่ ๆ ก็เจ็บจี๊ดแม้ไม่ได้เลี้ยงมากับมือ ความรู้สึกนี้กระมังที่เป็นสายใยพ่อลูก “ห้ามไม่ได้หรอก...คุณก็รู้ดีนี่” ปานวาดประชด เพราะเขาเองก็ชอบเอาเปรียบเธอบ่อย ๆ ในตอนนั้น ซึ่งวัยรุ่นเป็นวัยที่พูดยากที่สุดแล้ว “เฮ้อ...เธอน่าจะบอกฉันสักหน่อย” พาวินท์สบตากับเธอ ปานวาดคงเลี้ยงลูกมาอย่างยากลำบาก ไม่ใช่แค่เงิน แต่ต้องคอยรองรับอารมณ์การเปลี่ยนแปลงของเด็กวัยรุ่นด้วย “...เราเลิกกันไปแล้ว มันจบแล้ว” “ลูกล่ะ อย่างน้อยก็ให้ฉันทำหน้าที่พ่อ...” “คุณไม่ใช่พ่อเขา” “ไม่จริง หึ...อย่าโกหกเลยหน่า ครั้งแรกของเราฉันยังจำได้ดี...เธอท้องตั้งแต่ตอนนั้น” “_” “อึ้ง อึ้ง พูดไม่ออกเลยล่ะสิ” ปานวาดไม่อยากพูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว เธอนั่งกินข้าวโดยมีสายตาของเขามองพร้อมกับทำปากคว่ำด้วยความน้อยใจที่เธอไม่สนใจแม้แต่น้อย ชายหนุ่มตักอาหารให้เธอเมื่อเธอยื่นมือไม่ถึง “คิดถึงมากเลยรู้เปล่า” “_” “มันแย่มากที่ฉันรู้ว่าเธอมีลูก ลำบากเลี้ยงลูกคนเดียวแต่เธอก็ไม่อยากมาเรียกร้องอะไรจากฉัน...” “_” “เพราะเธอไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับฉันอีก...” เขาว่าน้ำเสียงน้อยใจ พาวินท์กำลังพร่ำเพ้อขณะที่อีกฝ่ายกำลังทำหูทวนลม “_” “ใครมาทำลายข้าวของของเธอ แล้วเธอจะอยู่ยังไง...ฉันซื้อคอนโดให้เอาไหม” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขาตาขวาง เธอไม่อยากเจอหน้าเขาแล้ว ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่อยากเซ้าซี้อะไรมาก เขาคิดว่าคนที่จะช่วยเขาได้คือลูกของเขาเอง “ขอเบอร์พาขวัญหน่อย” “ไม่ให้ อย่าคิดยุ่งวุ่นวายกับเธอ” ในที่สุดปานวาดก็ปริปากพูดกับเขาจนได้ ก่อนที่ชายหนุ่มจะคว่ำปากลงอย่างคนนึกหมั่นไส้ “ไม่มีอะไรห้ามฉันได้เธอก็รู้” ปานวาดจ้องเขาเขม็ง ไม่อยากมีปากเสียงกับเขาเพราะอาหารที่เขาสั่งมามันอร่อยมาก เธอไม่ได้กินอะไรแบบนี้มานานมากตั้งแต่หนีออกจากบ้านมา “กินอีกสิ อิ่มละเหรอ” “พูดมาก...” หญิงสาวพึมพำออกมา ก่อนจะตักข้าวเข้าปากอีกครั้ง ทำเอาชายหนุ่มนึกขันแต่ก็ต้องเก็บอารมณ์ไว้ในใจ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะหันไปมองนาฬิกาบนผนังก็เห็นว่าเหลือเวลาเพียงสองชั่วโมงก็จะถึงเวลาทำงานแล้ว พรึ่บ! “ไปไหน...” ปานวาดไม่ตอบเล่นเอาชายหนุ่มโมโหอีกครั้ง “แล้วจะไปไง มีเงินหรือไง” กึก! “กระเป๋าตังค์ฉันล่ะ คุณไม่ได้เอามาด้วยเหรอ” “มีอยู่สองร้อยน่ะนะ” “นายค้นกระเป๋าฉัน!” พาวินท์ย่นจมูกใส่เธอ เดี๋ยวก็เรียกคุณเดี๋ยวก็เรียกนาย อดใจไม่ไหวอยากให้เธอเปลี่ยนสถานะเรียกผัวในเร็ววัน “ก็แค่เปิดดู ไม่ได้ค้นสักหน่อย” “แล้ว...แล้วอยู่ไหน” “ไม่ได้เอามาด้วย ก็มันมีไม่กี่ร้อย” เขาว่าอย่างไม่ยี่หระ แต่ความจริงแล้วนั้นชายหนุ่มเอากระเป๋าเธอมาด้วยเพราะมันมีบัตรประจำตัวของเธอ หากทิ้งไว้ที่นั่นก็คงไม่ดี แต่ที่ไม่บอกก็เพราะอยากจะใช้เป็นข้ออ้างในการไปส่งเธอ “แล้ว...” “ฉันจะไปส่งเธอ...” “ไม่ต้อง” “ทำไม” “_” ปานวาดคิดอยากให้แมนมารับ แต่พอมองดูเวลาแล้วอีกฝ่ายก็คงกำลังไปส่งลูกไปเรียน “หึ ไม่มีทางเลือกหรอกน่า...รถเท่ ๆ กับฉัน สาว ๆ อยากนั่งด้วยทั้งเมือง” “ก็เชิญไปนั่งกับสาว ๆ ให้หนำใจ ฉันไม่อยากนั่งด้วย!!” “อ้าว...ไหงเป็นงั้น” พาวินท์ว่าจะโอ้อวดสักหน่อย แต่กลับโดนสาวเจ้าโมโหใส่ ก็ดูเขาพูดสิ...ไม่พ้นเรื่องผู้หญิงจริง ๆ “ชิ๊...” “แต่ยังไงเธอก็ต้องไป ถ้าจำไม่ผิดงานโรงงานน่าจะเก้าโมงเช้าไหมนะ ไหนจะอาบน้ำ ไหนจะแต่งตัว ไหนจะนั่งรถไป ถ้าเธอไปสายโดนหักอีกนาทีละสี่สิบห้าบาท ว้าว...เหลือไม่กี่บาทต่อวัน” “พูดมาก จะไปส่งก็อย่าลีลาสิ!” ปานวาดโมโหคนท่ามากคนนี้เต็มที ซึ่งคำพูดของเธอทำให้พาวินท์ยิ้มแฉ่งรีบวิ่งไปคว้ากุญแจรถเพื่อไปส่งเธอ... ขณะเดียวกันที่เกาะล้านซึ่งเป็นเกาะที่หนุ่มสาวมักมาเที่ยวในวันหยุด ด้วยความที่ไม่ไกลจากตัวกรุงเทพฯ พาขวัญได้รับข้อความจากคนเป็นแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวส่งข้อความไปถามว่าแม่อยู่กับใคร ทำไมมีผู้ชายใช้โทรศัพท์ “ทำไมทำหน้างั้นอ่ะ ไม่สนุกเหรอ...” มาร์ชเอ่ยถามแฟนสาว ก่อนที่พาขวัญจะส่ายหน้าปฏิเสธเบา ๆ “สนุกสิ แต่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” “เรื่องอะไรเหรอ” “ก็...ไม่มีอะไรหรอก” หญิงสาวไม่อยากพูดถึงคนที่ใช้โทรศัพท์คนเป็นแม่โทรมาหาก่อนหน้านี้ เขาบอกว่าเป็นพ่อเธอ...แต่แม่ของเธอบอกว่าคนเป็นพ่อตายไปแล้ว “ยิ้มหน่อยนะงั้น เค้าชอบที่ตัวเองยิ้มที่สุดเลย” “หึ ยิ้มแบบนี้เหรอ” พาขวัญฉีกยิ้มกว้างให้กับแฟนหนุ่มได้เห็น รอยยิ้มพิมพ์ใจของเธอทำเอาเด็กหนุ่มใจละลาย “น่ารักที่สุด” มาร์ชเอื้อมแขนมาโอบเอวบาง โดยที่ทางด้านหลังของเขามีกระเป๋าเป้ใบใหญ่สำหรับมาเที่ยวทะเลหนึ่งคืนสองวันกับแฟนสาว ทว่า ครืดด ครืดด~ เสียงโทรศัพท์ของเขากลับดังขึ้นเสียก่อน เด็กหนุ่มล้วงออกมาดูก่อนจะเห็นว่าเป็นเบอร์ของคนเป็นแม่ ไม่รอช้าที่เขาจะกดปิดเครื่องไป แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของพาขวัญ “ทำไมไม่รับอ่ะ” มาร์ชยิ้มให้กับคำถามนี้ เขาไม่ได้บอกเธอเรื่องที่แม่ของเขาไม่ชอบเธอ เด็กหนุ่มไม่อยากให้คนเป็นแฟนเสียใจ “ก็แม่แค่โทรมาบอกเป็นห่วงแหละ ไม่มีอะไร” “เหรอ...นั่นสิ เรายังไม่เคยเจอพ่อแม่มาร์ชเลย” เด็กหนุ่มชะงักฝ่าเท้า เขากลืนน้ำลายลงอย่างยากลำบากด้วยความหนักใจ “พ่อแม่ไม่ค่อยว่างน่ะ ช่วงนี้งานยุ่ง ๆ” “อ้อ...” “ขวัญเข้าใจเค้าใช่ไหม” “เข้าใจสิ ว่าแต่...มาร์ชจะพาเราไปหาพ่อแม่เมื่อไรล่ะ” คำถามของเธอช่างตอบยากตอบเย็น เขายังไม่อยากให้เธอเจอพ่อแม่เขา ซึ่งมารดาพูดอยู่ทุกวันบังคับให้เขาเลิกกับเธอ แต่เขาก็ไม่เลิก “ไว้เดี๋ยวเค้าลองถามพ่อกับแม่ก่อนนะว่าว่างวันไหนกัน” พาขวัญยิ้มรับคำตอบ ถ้าพ่อแม่เขาไม่รังเกียจเธอก็จะดีมาก หญิงสาวอยากให้เป็นอย่างนั้น เพราะถ้าเธอได้แต่งงานกับมาร์ช นอกจากเธอจะสบายแล้ว มารดาก็จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก เธอจะได้เอาเงินไปให้แม่เยอะ ๆ อย่างที่อยากทำมาโดยตลอด...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD