ร่างบางนอนกระสับกระส่ายไปมาบนเตียงอย่างไม่อาจข่มตาหลับลงไปได้ เธอนึกถึงแต่คำพูดและท่าทางที่จริงจังของพี่พายุนั้น ทำไมเขาต้องเข้ามาขู่ให้เธอไม่สบายใจแบบนี้ด้วยล่ะ ทั้งที่เธอกับเขายังไม่ได้เป็นอะไรกันเลยสักนิด
"บ้าปะ! จะมาห้ามกันทำไม" เมลเอ่ยอย่างหงุดหงิด ตัวก็ไม่ได้ติดกันแถมยังชีวิตใครชีวิตมัน เขาไม่มีสิทธิ์มาห้ามเธอไม่ให้เต้นกับคนอื่นแบบนี้ เพราะตัวเธอมันเป็นของเธอ
"ออกไปจากหัวสักที!" ร่างบางทั้งใช้เท้าถีบผ้าห่มหมอนข้างลงไปกองกับพื้นจนหมดแต่ยังไม่สามารถลืมคำพูดของอีกคนได้ แล้วทำไมมันต้องจดจำแต่คำพูดเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แล้วทำไมเธอต้องนึกกลัวสลับกับไม่สบายใจด้วยล่ะ หญิงสาวตัดสินใจลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าอย่างหวังว่ามันจะดีขึ้น
เมลมองคนในกระจกแล้วชี้บอกออกไปว่า ตัวเธอมันเป็นของเธอไม่ต้องไปสนใจใคร
มือหนาเคาะลงที่เก้าอี้หมุนราคาแพง พายุไล่มือไปตามหน้าจอมือถือที่มีรูปหญิงสาวชุดแดงเต้นยั่วผู้ชายอยู่ในนั้นอย่างไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา เขาแอบถ่ายเธอเก็บไว้เพราะว่าต่อไปคงไม่ต้องมาเห็นเหตุการณ์อะไรแบบนี้อีก
@เช้าวันต่อมา
'น้องๆข๋าาา.. วันนี้จะมีเพื่อนต่างคณะมาสัมพันธ์เอกกันค่าาา..'
ตึมๆๆๆ สิ้นสุดเสียงประกาศจากรองหัวหน้าทีมรับน้องสาขา เสียงกลองตีดังสนั่นหวั่นไหว เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณรอบๆ เพราะสาขามนุษยศาสตร์ส่วนมากจะมีแต่ผู้หญิง ส่วนสาขาที่มาสร้างสัมพันธ์กลับมีแต่พวกผู้ชาย
แตงกวาแสดงท่าทางดี๊ด๊าพลางทำตาลุกวาว มีหนุ่มหล่อจากคณะนั้นที่เธอหมายตาหลายคนอยู่ด้วย พลางจับตัวเพื่อนให้มองไปที่ชายคนนั้น แตงกวาขยิบตาให้เขาไปแล้วชี้มือกลับมาที่เมล เพื่อบอกอีกฝ่ายว่าคนนี้คือเพื่อนของเธอ
"แตงกวา! ทำไมทำแบบนั้นเล่า" เมลตำหนิเพื่อนรักทันทีเมื่อแตงกวากำลังจะหาเป้าหมายใหม่มาให้เธออีกแล้ว ทั้งที่เรื่องพี่คนนั้นเธอยังเอาออกจากหัวไม่ได้เลย ยังจะหาเรื่องใหม่มาให้เธอปวดหัวอีกแล้ว
"เหอะน่า ชีวิตในรั้วมหาลัยก็งี้เปล่าวะ" แตงกวาว่าอย่างชิลๆ
"แต่แค่ในคลับก็พอแล้วมั้ย"
"ไม่พอ!" แตงกวาว่าแล้วส่งยิ้มไปให้หนุ่มหล่อคนนั้นให้เดินเข้ามาหาเพื่อนของเธอได้
"มาแล้วๆ"
"ห๊ะ!" เมลที่ไม่ทันได้ตั้งตัวเพราะมัวแต่คุยกับแตงกวาจนไม่ทันได้มอง หันไปดูด้านหน้าอีกทีเขากลับเดินเข้ามาใกล้แล้ว หญิงสาวจำใจต้องหันไปยิ้มให้เพื่อรักษามารยาทเพราะผู้ชายคนนั้นส่งยิ้มมาให้เธอเหมือนกัน
"หวัดดี เราชื่อบอล"
"อะ..อ๋อ..ระ..เราชื่อเมล" หญิงสาวบอกออกไปพลางส่งยิ้มให้เขาบาง ๆ
"ชื่อน่ารักดีนะ"
"คุยกันเลย ๆ " แตงกวาว่าอย่างนั้นก่อนจะดันหลังเพื่อนให้เข้าใกล้คนตรงหน้าเหมือนที่เคยทำกับพี่พายุมาแล้ว สถานการณ์แบบเดียวกันเป๊ะคือแตงกวาชงเเล้วเมลต้องมารับหน้า
"ขะ..ขอบใจนะ" เมลว่าอย่างนั้นก่อนจะถอยตัวออกนิดหนึ่งแต่บอลก็ขยับเท้าตาม เธอขยับถอยออกอีกข้างเขาก็ยังตามเธออยู่จนเป็นเมลที่หยุดเท้าลง หากแต่บอลไม่รู้ว่าอีกคนจะหยุดทำให้ทั้งสองคนตัวติดกัน ทั้งคู่เริ่มทำตัวไม่ถูก ต่างคนต่างเกาท้ายทอยตัวเองอย่างเก้อเขิน เมลก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกไปดี
"โคตรร่าน!"
"มึงว่าไงนะ!" เจ้านายที่คิดว่าพายุพูดกับตัวเองตะโกนถามเพื่อนแข่งกับเสียงกลอง ที่วันนี้มีเพื่อนของเขารับหน้าที่เป็นมือกลองนั้นแทน ทั้งที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันแท้ ๆ แต่ก็ยังได้ยินไม่ชัดอยู่ดี
สายตาคมจับจ้องไปที่ร่างบางตาไม่กะพริบ ท่าทางเขินอายของหญิงสาวทำเอาเขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก สงสัยที่เขาบอกไปมันคงไม่เข้าหูของเธอ ถึงได้มาพลอดรักกันในรั้วมหาลัยแบบนี้
"ไอ้พามึงมองใคร" เจ้านายมองตามสายตาของเพื่อนที่เห็นว่าอีกคนมองไปทางนั้นนานแล้ว จนไปเจอกับร่างบางคุ้นตาที่ยืนแทบจะตัวติดกันกับผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่ง
"เชี้ย! ในมอยังไม่เว้น!" เจ้านายอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาว่าหญิงสาวคนนั้นจะมากล้าพลอดรักกันกับผู้ชายถึงในมอ อย่างน้อยก็น่าจะแอบ ๆ บ้างเพราะตรงนี้มันไม่ใช่คลับเหมือนอย่างเมื่อคืนนั้นนะที่ทำอะไรก็ไม่มีใครใส่ใจ และไม่ใช่แต่พวกเขาหรอกที่มอง คนบริเวณรอบๆนี้ก็มองหากแต่ไม่มีอาจารย์อยู่แถว ๆ นี้แค่นั้นเพราะมันเป็นแค่วันรับน้อง
"ขอโทรหาได้มั้ยตอนเย็น"
"ดะ..ได้สิ"
สองคนที่ยืนคุยกันมานานแล้ว อีกทั้งยังแลกเบอร์แลกไลน์กันสารพัด ถึงคราวที่ต้องเดินกลับไปยังจุดรับน้องของคณะตัวเองเมื่อรุ่นพี่พารุ่นน้องเดินกลับไปแล้ว
"ไปแล้วนะ" บอลบอกน้ำเสียงอบอุ่น
"อะ..อื้ม"
เมลถอนหายใจออกมาอย่างโล่งเมื่ออีกฝ่ายเดินกลับไปแล้ว สแกนหาร่างบางของเพื่อนทันทีที่ทำให้เธอต้องมาอยู่ในจุดที่อึดอัดแบบนี้ เห็นแตงกวากำลังออกไปเต้นโชว์อย่างสนุกสนาน อารมณ์ของเพื่อนสาวต่างกันกับเธออย่างลิบลับ แตงกวาสนุกสนานแต่เธอต้องมาคอยแสร้งยิ้มเพื่อรับหน้าให้คนที่เพื่อนสาวชักนำเข้ามา
"พลอดรักกันในมอ หน้าไม่อาย!"
"..." เมลชะงักสายตาที่มองไปยังเพื่อนก่อนจะดึงสติกลับมาหาคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง น้ำเสียงชวนขนลุกแบบนี้จะเป็นใครกันถ้าไม่ใช้พี่พายุคนนั้น เธอยังยืนหันหลังให้เขาอยู่อย่างไม่อยากจะหันกลับไปมอง
เมลกลั้นใจบอกกับตัวเองไปว่าเธอจะไม่สนใจ เธอจะไม่เอาคำพูดใดๆของเขาเข้ามาอยู่ในหัว อยากพูดอะไรก็ปล่อยให้เขาพูดไป เธอจะไม่สนใจเขาอีกแล้ว
เธอตัดสินใจเดินต่อ หากแต่ยังไม่ทันถึงสามก้าวก็ถูกกระชากเข้าที่แขน พายุดึงให้เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา ชายหนุ่มมีเพียงใบหน้านิ่งเรียบแต่ไม่พูดอะไรออกมา
"ปะ..ปล่อยนะคะ!" เมื่อเริ่มเห็นหลายสายตาจับจ้องมองมาทางเธอและเขาเป็นตาเดียว เมลรีบผลักอีกคนออกทันทีอย่างไม่อยากให้ตกเป็นเป้าสายตา หากแต่มันไม่สามารถหลุดออกจากมือของเขาได้เพราะพี่พายุจับแขนของเธอแน่นจนรู้สึกเจ็บ
"อาย?"
"อายค่ะ คนมองเยอะแล้วนะคะ" เมลบอกเขาพลางพยายามบิดแขนออกจากการเกาะกุมไปด้วย
"แล้วทีพลอดรักกับผู้ชายอยู่นานสองนานไม่อาย?" พายุถามเชิงเยาะเย้ย จะมาอายเอาอะไรตอนนี้ทั้งที่คนมันมองกันตั้งแต่เธอยืนตัวแทบจะสิงกันกับไอ้นั่นแล้วมั้ย
"พี่พายุ!" เมลชักสีหน้าไม่พอใจทันที ครั้งที่สองแล้วมั้ยที่เขาดูถูกเธอแบบนี้
"หรือไม่จริง?"
"นั่นเพื่อนต่างคณะค่ะ" เมลบอกปัดออกไปเพราะความจริงเธอไม่จำเป็นต้องเล่ารายละเอียดมากมายให้เขาฟังหรอก เขาเป็นแค่คนอื่นที่ไม่ได้สำคัญกับชีวิตของเธอ
"เพื่อนเขาสนิทแนบชิดกันขนาดนี้ฉันก็เพิ่งรู้" พายุแสยะยิ้มออกมาทันที บทจะง่ายก็ง่ายดี แทบจะจูบกันอยู่แล้วพูดออกมาได้ว่าเพื่อนกัน
"แล้วถ้าฉันอยากสนิทเหมือนมันบ้าง ต้องทำยังไงดี" ดวงตาคมจ้องใบหน้าหวานตาไม่กะพริบ สายตาของเขามันบอกว่าไม่ได้กำลังพูดเล่น
".."