ปราณนต์ทอดแววตาราบเรียบมองผู้หญิงที่ยอมเป็นเบี้ยล่างของตน คลานเข่าเข้ามาหาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ ยิ่งอีกฝ่ายว่าง่ายเขาก็ยิ่งดูถูกดูแคลนเธอมากขึ้น ผู้หญิงก็แค่นี้ เป็นเหมือนของไร้ค่าที่สามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายยิ่งกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดหนึ่งซะอีก
เมื่อหญิงสาวคลานเข่ามาหยุดอยู่ตรงหน้า เว้นช่องว่างเพียงไม่ถึงครึ่งเมตร ชายหนุ่มก็โน้มตัวลง วางฝ่ามืออุ่นร้อนเข้ากับคางเล็กได้รูป แค่แตะเบาๆ ก็คล้ายจะได้ยินเสียงกระดูกลั่น แค่บีบเบาๆ รอยแดงก็ปรากฏเป็นริ้วขึ้นมา ทำให้เขาค่อนข้างจะระอากับผิวแสนบอบบางที่ถูกนิดถูกหน่อยก็เป็นรอยของเธอ
บังคับหญิงสาวให้เงยหน้าประสานสบสายตาได้ก็โน้มใบหน้าลงต่ำ ใช้ไม่กี่วินาทีในการพินิจพิเคราะห์ใบหน้าเรียวรูปไข่ที่ดูสะอาดหมดจดของเธอ
“หน้าตาใช้ได้ ผิวก็โอเค รูปร่างโดยรวมแล้วก็ไม่ได้ถือว่าแย่นัก แต่จะคุ้มกับหนี้จำนวนห้าแสนหรือเปล่า เรื่องนี้คงต้องดูลีลาในการปรนเปรอของเธอแล้ว ว่าจะทำได้ดีสักแค่ไหน ถ้าไม่ดีพอละก็ อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน เพราะลูกน้องพวกเก็บหนี้ของฉันมันก็มีไม่น้อย แต่ละคนล้วนไม่มีลูกมีเมียทั้งนั้น เธอคงไม่ว่าอะไร ถ้าหากว่าฉันจะส่งเธอไปให้พวกมันเล่นสนุกกันบ้าง”
“คุณ!” มนรดาเม้มปากแน่น แววตาที่มองผู้ชายตรงหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ
“ฉะนั้น!” ปราณนต์บีบคางเล็กให้แรงขึ้นอีกหน่อยแล้วสะบัดมือออกคล้ายรังเกียจนักหนา “ถ้าไม่อยากตกเป็นอีตัวบำเรอคนอื่นละก็ ใช้ร่างกายของเธอ บำเรอฉันให้ดีๆ ทำให้ฉันครางอย่างพอใจให้ได้ ไม่อย่างนั้น...น้ำหน้าอย่างเธอฉันตัดใจทิ้งได้ไม่ยากเลย”
คนที่ถูกบีบจนกระดูกแทบหักไม่พูดอะไร ได้แต่ก้มหน้ามองพื้นกระดานที่แสงตะเกียงสาดส่องให้เห็นเพียงวอมแวมเท่านั้น ทั้งๆ ที่สั่งตัวเองไว้แล้วว่าต่อให้ผู้ชายคนนี้ใจร้ายทารุณแค่ไหนก็จะไม่โอดครวญใดๆ ออกมาแม้สักครึ่งคำ ทว่าสุดท้ายแล้วน้ำตาแห่งความอดสูมันก็รินไหลอาบแก้มลงมาอยู่ดี
เห็นน้ำตาของเธอหยดลงบนพื้นแล้ว อารมณ์ของปราณนต์ก็พลันเดือดดาลยิ่งกว่าเดิม เขาจึงชี้นิ้วจิ้มลงไปบนหน้าผากเกลี้ยงเกลาแรงๆ “หยุดร้องไห้ซะ! และต่อไปนี้จำไว้ให้แม่นๆ ว่าเป็นผู้หญิงของฉัน เป็นสมบัติของฉัน ห้ามปล่อยให้น้ำตาโสโครกไหลรินเด็ดขาด เพราะฉันไม่ชอบ และถ้าเมื่อใดที่เธอไม่ฟังคำสั่งของฉันละก็ น้ำตาหนึ่งหยดของเธอจะเปลี่ยนเป็นแรงกระทบกระแทกจากฉันหนึ่งยก น้ำตาสิบหยดก็สิบครั้งไม่ขาดไม่เกิน”
จบคำสั่งของเขา น้ำตาของมนรดาก็หยุดไหลทันที ราวกับว่าคำขู่นั้นสามารถหยุดทุกอย่างเอาไว้ได้ ไม่ใช่แค่เพียงน้ำตา แต่ยังเป็นชีวิตของเธอด้วย ต่อไปนี้ความสงบสุขบนยอดเขาสูงตลอดสี่ปีคงได้จบลงอย่างแท้จริงแล้วสินะ เจ้าหนี้ที่ควรมาเก็บดอกเบี้ยทบต้นทบดอกในวันนั้นก็ได้มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแล้ว ทางเดินของเธอคงมีแค่เส้นทางเดียว นั่นคือตกต่ำอยู่ใต้ร่างของเขาไปชั่วนิจนิรันดร์
ปลายนิ้วเรียวนุ่มปาดเช็ดน้ำตาหยดสุดท้ายทิ้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคมคายของเจ้าชีวิตอีกครั้งก็เหลือเพียงแววตาว่างเปล่า ไร้ความโกรธเกลียดหรือเสียใจ แม้แต่ความมีชีวิตชีวาที่หลงเหลือเพียงน้อยนิดก็ยังหายไปด้วย
เธอจ้องเขาอยู่นาน ในที่สุดก็กัดฟันถามออกมา “คุณจะให้ฉันถอดเสื้อผ้าเลยไหม”
มุมปากของปราณนต์ยกยิ้มเล็กน้อยคล้ายพอใจ เขาเอนหลังนิดหน่อยแล้วพยักหน้า “ลุกขึ้น ฉันอยากเห็นทุกส่วนบนร่างกายเธอ”
มนรดากัดปากสั่นเทาของตัวเองเล็กน้อย กลั้นสะอื้น ข่มความเจ็บปวดทรมานของร่างกายและหัวใจเอาไว้ให้จมฝ่าเท้า ต่อไปนี้เธอได้ตายไปแล้ว คนที่มีชีวิตอยู่ในตอนนี้ก็เป็นแค่เพียงผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น
มือบางนุ่มไม่ได้ลังเลเลยในการถอดเสื้อผ้าของตัวเองทีละชิ้นๆ ไม่ถึงห้านาทีร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากของบำรุงที่ป้าใบ้นำมาส่งตลอดสามเดือนก็เปิดเผยให้ปราณนต์ได้เห็น ใบหน้างดงาม ลำคอระหง หน้าอกขาวอวบกลมกลึงคล้ายซาลาเปาลูกโต เอวเล็กบอบบางเหมือนจะสามารถรวบกำได้ภายในฝ่ามือเดียว ไล่สายตาลงมาด้านล่างเขาก็เห็นจุดบอบบางของกายสาวที่ถูกปิดกั้นด้วยแพรไหมสีดำ เรียวขาเล็กดูละเอียดลออ แม้แต่ปลายเท้าก็ยังดูบอบบางน่าทะนุถนอม ดูเหมือนของที่เขาส่งมาบำรุงจะมีประสิทธิภาพดีไม่น้อย
แม้การเปลื้องผ้าทุกชิ้นต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่งมันจะเป็นเรื่องน่าอดสูแค่ไหน แต่ตอนนี้คนอย่างเธอที่มีชีวิตอยู่ก็เหมือนไม่มียังจะสามารถเลือกอะไรได้อีก ในเมื่อเขาต้องการอะไร ต้องทำสิ่งเลวร้ายแค่ไหนก็ล้วนต้องทำตามไม่ใช่หรือ
ท่าทางยืนนิ่งเหมือนหุ่นไร้ชีวิตของมนรดา ไม่ได้ทำให้ความงดงามเย้ายวนของร่างกายเปล่าเปลือยลดน้อยถอยลงสักนิด ปราณนต์จับต้องร่างกายเล็กบางอยู่ชั่วอึดใจถึงได้หยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้ ก้าวเพียงครั้งก็สามารถเกี่ยวเอาเจ้าของเอวคอดกิ่วมาแนบชิดกับร่างกายส่วนหน้าจนไร้ซึ่งช่องว่าง
“สาวน้อย...”
เสียงของคนเรียกแหบพร่าชัดเจน “รูปร่างของเธอไม่ธรรมดาเลยจริงๆ”
มนรดาซุกซ่อนแววตาปวดร้าวเอาไว้ เธอปิดตาลงแล้วกัดฟันถามออกมา “คุณพอใจไหม?”
ปราณนต์พยักหน้าน้อยๆ กระซิบตอบ “พอใจหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้แล้ว”