หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
ฟรึ่บ!
ฉันละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังเลื่อนเฟซบุ๊กเล่นมองไปยังขนมขบเคี้ยวที่ถูกนำมาวางลงบนโต๊ะตรงหน้า ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองคนที่นำมาวาง
"พี่ซัน ไฟฟ้าปีสี่ฝากมาให้"
"…" ฉันเลิกคิ้วยุ่งเพราะไม่รู้จักพี่ซันเลย นัยน์ตากลมโตเลื่อนสายตาลงมองอีกครั้ง ก่อนจะหยิบขนมขึ้นมาดูพบว่ามีปากกาเมจิกสีน้ำเงินเขียนไว้ที่ข้างๆ
'ทานให้อร่อยนะครับ น้องตุ๊กตา :)"
"ฉันกลายเป็นคนรับฝากของมาให้ยัยตุ๊กตาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย วันก่อนก็น้องคณะวิทย์ฯ เมื่อวานก็น้องคณะบริหารฯ วันนี้ก็พี่คณะเดียวกันอีก" มุกดาบ่นอุบอิบด้วยท่าทางไม่จริงจังนัก สองขาก้าวมาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ฉัน
"คนอื่นอาจจะจีบ แต่คนนี้จ้องฟันมึงแน่ๆ"
"ทำไมถึงคิดงั้น" ฉันเบือนสายตาไปมองหน้าธีย์ที่เอ่ยประโยคเมื่อกี้
"ตอนไปผับไม่เห็นรึไง มันควงผู้หญิงออกจากผับทุกวัน"
"ไม่เห็น...อ๊ะ!" ฉันอุทานเสียงเบาเมื่ออยู่ๆ ก็มีมือหนาของใครก็ไม่รู้มาดึงขนมจากมือของฉันไป พอเบือนสายตาไปมองพบว่าเจ้าของการกระทำนั้นเป็นเตชินท์
"กินได้ไหม"
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้อ้าปากตอบ เตชินท์ก็แกะขนมเข้าปาก พร้อมเดินไปนั่งลงข้างๆ ธีย์
"แกไม่น่าถามฉันนะ" ฉันพูดออกไปแค่นั้นก็เบือนใบหน้ามามองหน้าธีย์อีกครั้ง เพราะไม่ได้อะไรกับขนมอยู่แล้ว ซึ่งปกติฉันกับเพื่อนก็ชอบแย่งขนมกันกินอยู่บ่อยครั้ง "พี่เขาเป็นเสือผู้หญิงเหรอ"
"เออ ไม่เชื่อถามไอ้เต มันรู้จักดี"
"อะไร" เตชินท์เบือนสายตามามองในขณะที่ปากยังเคี้ยวขนม
"พี่ซัน ไฟฟ้าปีสี่…"
"มันมายุ่งกับมึง?" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดจบประโยค เตชินท์ก็เอ่ยแทรก
"พี่เขาแค่เอาขนมมาให้"
"ห่อนี้?"
"…" ฉันพยักหน้าเบาๆ ทว่าอยู่ๆ เตชินท์ก็โยนขนมลงบนโต๊ะ ดันตัวลุกขึ้น ก้าวขาออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว
"มันเป็นไร หรือมันไม่ชอบพี่ซัน" มุกดายื่นหน้าเข้าไปมาถามด้วยใบหน้าสงสัย
"มันไม่ได้ไม่ชอบ มันเกลียด"
"มีเรื่องไรกัน"
"อยากรู้ก็รอถามมัน" พูดจบก็เบือนสายตามามองหน้าฉัน "ส่วนมึงเฌอแตมป์ ห้ามไปยุ่ง"
"ก็ไม่ได้จะยุ่งอยู่แล้ว หน้าพี่เขาฉันยังไม่เคยเห็นเลย"
"เออ เอาไปทิ้ง" พูดจบธีย์ก็โยนขนมมาตรงหน้าฉัน
จนกระทั่งผ่านไปไม่ถึงห้านาที เตชินท์ก็เดินกลับมาที่เดิมโดยเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ใส่นั้น เปียกน้ำเล็กน้อย ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรออกไป อาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องซะก่อน
สงสัยเตชินท์กับพี่ซันปีสี่คงไม่ถูกกันตามประสาผู้ชายแหละ
"พวกแกเตรียมชุดสำหรับคืนนี้ยัง"
มือเล็กที่กำลังเก็บของใส่ลงไปในกระเป๋าหลังจากเรียนเสร็จคลาสบ่ายชะงัก เบือนสายตาไปมองหน้ามุกดาด้วยความตกใจ
"มุก ฉันลืม"
"นั่นไง มัวแต่เล่นเกมสินะ"
"…" ฉันพยักหน้าเบาๆ อย่างไม่โกหก เพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของพี่เกล รุ่นพี่ในคณะที่จบไปเมื่อสองปีก่อน ซึ่งกลุ่มฉันสนิทกับพี่เขาตั้งแต่ตอนอยู่ปีหนึ่ง
เมื่อเดือนก่อนพี่เกลมาที่มหาวิทยาลัย แล้วยื่นการ์ดสีชมพูมาให้ พร้อมบอกว่า ต้องมางานแต่งพี่ให้ได้นะ ถ้ามางานเช้าไม่ทัน มางานตอนเย็นก็ยังดี
"งั้นเดี๋ยวฉันโทรบอกร้านส่งไปให้ที่คอนโดแล้วกัน"
"ขอบคุณค่ะ เพื่อนรัก" ฉันเข้าไปสวมกอดเพื่อน ทว่ามุกดาก็ดันตัวฉันออกห่าง
"ขนลุก"
"ฮ่าๆ" ฉันหลุดเสียงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเบือนสายตาไปมองเพื่อนผู้ชายทั้งสอง "พวกแกเตรียมชุดแล้วใช่ไหม"
"กูสองคนไม่ได้เยอะเหมือนพวกมึง" พูดจบธีย์ก็ดันตัวลุกขึ้น หยิบโทรศัพท์บนโต๊ะใส่ลงไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ "เจอกันที่งาน ไม่ต้องแต่งเยอะนะ พวกมึงเป็นแค่แขก"
"คืนนี้ห้ามมายืมตัวฉันสองคนไปควงนะ"
"…" ธีย์ยักไหล่เบาๆ เมื่อมุกดาเอ่ยขึ้นจากนั้นก็เบือนไปมองหน้าเตชินท์ "เกมสักตาไหม เล่นที่ห้องมึง"
"อือ" เตชินท์ตอบ โดยที่เพื่อนทั้งสองก็เดินออกไป
"กลับเลยไหม" ฉันหันไปถามคนข้างๆ ที่กำลังเก็บของใส่ลงไปในกระเป๋าสะพาย ซึ่งมุกดาก็พยักหน้าเบาๆ
"เดี๋ยวต้องไปรอรับชุดที่จะมาส่งด้วย"
"อย่าลืมของฉันนะ"
"ไม่ลืม ไปเถอะ"
จากนั้นเราสองคนก็เดินลงมาถึงหน้าตึกเรียน พร้อมแยกย้ายกันไปที่รถยนต์ เพราะเราสองคนจอดคนละที่กัน
"น้องตุ๊กตา"
เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นทำให้ฉันที่กำลังก้าวขาไปที่รถยนต์ของตัวเองหยุดชะงัก หมุนตัวหันไปมองพบกับพี่เจ้าขุน ซึ่งเป็นพี่รหัสของฉัน
"สวัสดีค่ะพี่รหัส" ฉันยกมือไหว้ด้วยรอยยิ้มหวาน โดยที่พี่เจ้าขุนก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
"จะกลับแล้วเหรอครับ"
"ใช่ค่ะ เพิ่งเรียนของอาจารย์จอมขวัญเสร็จ"
"อาจารย์จอมขวัญ ฮ่าๆ" พูดจบพี่เจ้าขุนก็หลุดหัวเราะเสียงเบา "พี่ขอให้โชคดีนะ"
"พี่ขุนอย่าขู่แตมป์สิคะ ขู่ตั้งแต่แตมป์อยู่ปีหนึ่งจนปีสามเลยนะ" ฉันปั้นหน้าบูดบึ้ง
เพราะพี่เจ้าขุนน่ะสิชอบขู่ว่าอาจารย์จอมขวัญเป็นอาจารย์ที่โหดเรื่องข้อสอบมาก แล้วนักศึกษาที่เรียนกับอาจารย์ส่วนใหญ่จะได้เกรดซีไม่ก็บี ส่วนน้อยมากที่จะได้เอ และส่วนมากจะติดเอฟ
"เดี๋ยวพี่ส่งเลคเชอร์ของพี่ให้ ถ้าอ่านหมดทำข้อสอบได้แน่นอน"
"ขอบคุณค่ะพี่รหัส" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณด้วยรอยยิ้มหวาน
โชคดีที่สุดในชีวิตมหา'ลัยคงเป็นเรื่องเพื่อน ทว่าโชคดีกว่านั้นคือมีพี่รหัสที่ดี
"งั้นพี่กลับก่อนนะ คืนนี้ต้องไปงานแต่งเจ้เกล"
"แตมป์ก็ไปค่ะ เจอกันนะคะ"
"โอเคครับ เจอกัน" พี่เจ้าขุนยิ้มบางๆ ใช้มือมาขยี้ผมของฉันด้วยท่าทางเหมือนกำลังเอ็นดู จากนั้นก็เดินออกไป ฉันจึงหมุนตัวเดินไปขึ้นรถยนต์ของตัวเอง
@โรงแรมหรูใจกลางเมือง
ครืดดด~ ครืดดดด~
โทรศัพท์มือถือส่งเสียงร้องดังขึ้นในขณะที่กำลังขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถของโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง มือเล็กหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายเมื่อจอดรถสนิท
"ฮัลโหลมุก"
(ถึงยัง)
"ถึงแล้ว เพิ่งจอดรถ"
(ชั้นบนสุดนะ ตอนนี้ไอ้สองตัวนั้นก็มาถึงแล้ว)
"โอเค เจอกัน"
พูดจบก็กดวางสาย หยิบกระจกใบเล็กในกระเป๋าคลัทช์ออกมาส่องใบหน้าที่ถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ก่อนจะเก็บลงที่เดิมก้าวขาที่มีรองเท้าส้นสูงประดับไว้ลงจากรถ จากนั้นก็เดินเข้าไปในโรงแรมด้วยชุดเดรสเกาะอกสีชมพูอ่อนที่มุกดาจัดหามาให้
"อ๊ะ!" ฉันอุทานเสียงเบาพร้อมหยุดชะงักฝีเท้าเมื่อกำลังจะเดินเข้าไปในลิฟต์ อยู่ๆ ก็มีใครบางคนเดินตัดหน้าเข้าไป ซึ่งฉันก็เลือกที่จะไม่สนใจหรือหันไปมอง ก้าวเข้าไปยืนอยู่ที่มุมซ้ายมือ
นัยน์ตากลมโตมองหมายเลขของลิฟต์ จากนั้นก็กดไปที่ชั้นบนสุดซึ่งเป็นชั้นสำหรับจัดงานแต่งของพี่เกล ก่อนจะถอยหลังเล็กน้อยเมื่อมือหนาของคนข้างๆ เลื่อนมากดที่ชั้นเจ็ด จากนั้นประตูลิฟต์ก็ปิดลงช้าๆ
"อื้อ~" ฉันหลับตาแน่นพลางย่นจมูกเมื่อควันบุหรี่ลอยกระทบมาที่ใบหน้า มือเล็กรีบยกขึ้นปิดจมูกเบือนสายตาไปมอง พบเห็นผู้ชายคนนึงที่ท่าทางของเขาดูคุ้นๆ กำลังยืนสูบบุหรี่อยู่ภายในลิฟต์
"…" นัยต์ตาคมเข้มที่แฝงไปด้วยความน่ากลัวแปลกๆ เลื่อนมาจ้องหน้าฉัน ทำให้ฉันเบิกตากว้างด้วยความตกใจเพราะฉันจำได้แล้ว
ผู้ชายคนนี้คือคนที่เปิดประตูรถชนฉันเมื่ออาทิตย์ก่อน ที่มหาวิทยาลัย
"แค่กๆ" ฉันหลุดจามอย่างหนัก เมื่อควันสีขาวของบุหรี่พุ่งใส่หน้าเต็มๆ ทว่าคนที่ทำก็เหมือนไม่ได้สนใจอะไรเลย
"คะ..คุณคะ" ทำใจกล้าเอ่ยเรียก สองเท้าเล็กรีบขยับออกห่าง เพราะตอนนี้ฉันแทบไม่มีอากาศหายใจ "คะ..คุณไม่ควรสูบบุหรี่ในลิฟต์นะคะ"
"…" ริมฝีปากหยักได้รูปค่อยๆ คลายบุหรี่ที่คาบออก พร้อมขยับตัวเข้ามาใกล้ๆ ทำให้ฉันตกใจรีบถอยหลังหนีอย่างอัตโนมัติจนแผ่นหลังไปชนกับผนังเย็นเฉียบของลิฟต์อย่างแรง
"อึก! อื้อ!" ฉันหลับตาปี๋เบ้หน้าเป็นครั้งที่ร้อยเมื่อคนตรงหน้าพ่นครัวบุหรี่ใส่อีกครั้ง
ติ๊ง~
"ไว้เจอกัน…เฌอแตมป์"
เสียงลิฟต์ดังขึ้นตามด้วยเสียงทุ่มต่ำที่ดังข้างใบหูเล็ก ทว่าฉันก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าเดินออกไป
เปลือกตาค่อยๆ ปรือขึ้น มือเล็กปัดครัวบุหรี่ภายในลิฟต์ออก ทว่ากลิ่นมันยังคงอยู่ จนกระทั่งลิฟต์ถูกเปิดออกที่ชั้นจัดงาน สองเท้าเล็กจึงรีบวิ่งออกมา วิ่งไปหาที่สูดอากาศบริสุทธิ์