"ทำไมนายไม่ลงมือ" ไต้ฝุ่นเอ่ยถามเมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มก้าวขาเข้าไปในห้องพักของทางโรงแรม โดยไม่มีบุคคลที่ทำให้เขามาอยู่ที่นี่ เวลานี้เดินเข้ามาด้วย
"…" เธียเตอร์พ่นควันบุหรี่ออกมาจากปากจนลอยคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง ก่อนจะโยนลงบนพื้นใช้เท้าเหยียบมันจนดับ พร้อมก้าวเข้าไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาตัวยาว
"นายรออะไรครับ" ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถาม ก้าวขาเข้าไปรินไวน์ใส่แก้วให้เจ้านายหนุ่ม
"เธอเพิ่งถึง ให้มีความสุขไปก่อน" มือหนาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ ก่อนจะกระดกเข้าปากพรวดเดียวจนหมด แล้ววางลงบนโต๊ะตรงหน้า "แล้วค่อยมารับกรรมแทนไอ้เศษสวะ"
"ผมเตรียมของให้นายแล้ว" ไต้ฝุ่นพูดจบก็หยิบขวดไวน์รินใส่แก้วให้เจ้านายหนุ่มอีกครั้ง แล้วเสริมอีกประโยค "ตอนนี้คนของเราแฝงตัวอยู่ในงาน อีกสักพักให้จับเธอมาที่นี่เลยไหม"
"ไม่ต้อง"
"นายมีแผนอื่นเหรอ"
"ทำให้เธอเดินเข้ามาหาฉันเอง"
"…" ไต้ฝุ่นเงียบก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ
คัพเค้กคือน้องสาวคนเดียวที่เขารักมาก ถ้าน้องสาวเขาเจ็บปวดหรือเสียใจ เขาพร้อมทำทุกอย่างให้คนที่เป็นต้นเรื่อง…เจ็บปางตาย โดยไม่สนใจว่าคนที่รับกรรมแทนนั้นจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่
ในเมื่อเขาฆ่าตัวต้นเรื่องไม่ได้ เขาก็พร้อมทำให้หัวใจของผู้ชายคนนั้นแหลกสลาย
อีกด้าน…
"ฟุ่ว~" ฉันเป่าลมออกมาจากปากเมื่อยืนสูดอากาศบริสุทธิ์ที่มุมหนึ่งของทางโรงแรม เหตุการณ์เมื่อครู่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ลิฟต์เป็นอะไรที่มิดชิดมาก แล้วยังมาเจอผู้ชายคนที่เปิดประตูรถชนในวันนั้นยืนสูบบุหรี่แบบไม่เกรงใจอีก
ท่าทางก็ดูดี ทว่าการกระทำไม่น่ารักเลย ถ้าฉันเป็นแม่นะ จะถือไม้มะยมฟาดให้หนักๆ มีที่ไหนมายืนสูบบุหรี่อยู่ในสถานที่มิดชิดแบบนั้น แถมยังเป่าใส่หน้าคนอื่นอีก
'ไว้เจอกัน…เฌอแตมป์'
"หมายความว่ายังไง" ปากเล็กพึมพำเสียงเบา เมื่อคำพูดของผู้ชายคนนั้นลอยเข้ามาในสมอง ที่สำคัญเขารู้จักชื่อเต็มๆ ของฉันด้วยเหรอ ถ้าจำไม่ผิดวันนั้นฉันแทนตัวเองแค่ว่า แตมป์ นะ
ครืดดด~ ครืดดดด~
โทรศัพท์มือถือส่งเสียงดังขึ้น ทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิดหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสายมุกดา โดยที่สองเท้าก็เดินไปที่งาน
"ฮัลโหล"
(อยู่ไหนแตมป์ พี่เกลขึ้นเวทีแล้วนะ)
"กำลังเดินไป"
(ฉันรออยู่ด้านหน้านะ)
"ฉันเห็นแกแล้ว"
พูดจบก็กดวางสาย เก็บโทรศัพท์ลงโดยที่สองเท้าก็รีบก้าวเข้าไปหามุกดาที่ยืนรออยู่
"อื้อ! ไปเดินผ่านคนสูบบุหรี่มาจากไหนเนี่ย" มุกดาเอ่ยถามพร้อมใช้มือปิดจมูกตัวเอง
"กลิ่นแรงมากเลยเหรอ"
"แกไปทำไรมา"
"เจอคนนิสัยไม่ดีอะ"
"ใคร"
"ช่วยหน่อย ฉันไม่อยากเดินเข้าไปในงานด้วยกลิ่นแบบนี้ เดี๋ยวคนอื่นก็หาว่าฉันสูบบุหรี่" ฉันปั้นหน้าบูดบึ้ง ก้มใบหน้าลงสูดดมเสื้อผ้าตัวเอง พบว่ากลิ่นบุหรี่กลบกลิ่นน้ำหอมแบรนด์ดังของฉันเรียบร้อย
"ทำไงดี…" มุกดาทำท่าทางกระวนกระวาน ก่อนจะเบิกตากว้างด้วยรอยยิ้มในเวลาต่อมา "ฉันมีน้ำหอมนี่"
"ฮะ!? แกพกน้ำหอมมาด้วยเหรอ"
"ฉันรีบมางานเกินไปจนทำให้ลืมฉีด ก็เลยแวะเซเว่นซื้อหลอดเล็กมา" มุกดาเอ่ยพูด พร้อมเปิดประเป๋าหยิบน้ำหอมหลอดเล็กมาฉีดใส่เสื้อผ้าให้ฉัน "เฮ้อ…แบบนี้หน่อย"
"โอเคแล้วใช่ไหม" ฉันเอ่ยถามเพื่อเช็กความแน่ใจและความเรียบร้อย ทำให้มุกดาพยักหน้าเบาๆ
"เข้าไปในงานเถอะ ไปฟังเจ้าสาวเจ้าบ่าวพูดความใจในกัน" พูดจบมุกดาก็ดึงมือฉันให้เดินเข้าไป
นัยน์ตากลมโตกวาดมองไปรอบๆ บริเวณงานที่ถูกจัดตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวอย่างสวยงาม ไม่ใช่สวยแค่ด้านในนะ ทว่าด้านนอกก็สวยเช่นกัน รูปคู่ของเจ้าบ่าวเจ้าสาวสวยมากๆ จนฉันเผลอมองตั้งนาน
"พี่เกลสวยมากเลยอะ" ผ่านไปครึ่งชั่วโมงที่เรานั่งชมเจ้าบ่าวเจ้าสาวพูดความในใจ และเล่าถึงวันที่รู้จักกัน มุกดาที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เอ่ยชมด้วยรอยยิ้มหวาน "นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่า ผู้หญิงจะสวยที่สุดก็ตอนแต่งงาน"
"คงใช่นะ พี่เกลเหมือนเจ้าหญิงเลย"
"จริง" มุกดาหันมามองหน้าฉัน ก่อนจะเอื้อมไปหยิบน้ำส้มขึ้นดื่ม
"เอาไวน์ไหม" เตชินท์ละสายตาจากเวทีมาเอ่ยถามฉันกับมุกดา
"เอา"
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบอะไรออกไป มุกดาก็เอ่ยขึ้นซะก่อน ทำให้เตชินท์กวักมือเรียกเด็กเสิร์ฟ จากนั้นไวน์สองแก้วก็ถูกเลื่อนมาตรงหน้าฉันกับมุกดา
"เดี๋ยวฉันมานะ" ฉันเอ่ยบอกเพื่อนพร้อมดันตัวลุกขึ้นยืน
"ไปไหน" มุกดาวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ เงยหน้าขึ้นถาม
"ห้องน้ำ"
"ให้พาไปไหม"
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวรีบมา อย่าเพิ่งเมานะ"
"หึ" มุกดาหลุดหัวเราะเสียงเบาเมื่อฉันเอ่ยขึ้นอย่างติดตลก จากนั้นก็ก้าวขาออกไปจากห้องจัดงาน
"น้องคะ"
ฝีเท้าเล็กค่อยๆ ชะลอความเร็วลงเมื่อทำธุระส่วนตัวเสร็จ นัยน์ตากลมโตเลื่อนสายตาไปมองเสียงที่ดังขึ้นพบกับพนักงานผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาหาฉัน
"มีอะไรรึเปล่าคะ"
"น้องใช่เจ้าของรถยนต์ ป้ายทะเบียน…" พนักงานหยิบกระดาษแผ่นเล็กในกระเป๋าเสื้อออกมา พร้อมบอกป้ายทะเบียนรถ
"ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ"
"รปภ. แจ้งเข้ามาว่าเหมือนรถยนต์ป้ายทะเบียนนี้มีอะไรติดอยู่ในกระโปรงรถค่ะ"
"คะ? อะไรติดอยู่เหรอคะ"
"ไม่รู้เลยค่ะ แต่เห็นบอกว่ามีเสียงร้อง อาจจะเป็นสัตว์อะไรสักอย่าง พอดีรปภ. บอกแค่นี้แล้วก็ลักษณะ การแต่งตัวของเจ้าของรถ ให้พี่มาบอกค่ะ"
"อ้อ ขอบคุณนะคะ" ฉันกล่าวคำขอบคุณด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เดินไปที่ลิฟต์ กดไปที่ชั้นลานจอดรถ
ติ๊ง~
เสียงลิฟต์ดังขึ้นเมื่อเคลื่อนตัวมาถึงชั้นของลานจอดรถ นัยน์ตากลมโตกวาดมองหา รปภ. ทว่าก็ไม่มี ที่สำคัญแถวนี้ไม่มีคนเลย สองเท้าเล็กจึงรีบก้าวเดินไปที่รถยนต์ของตัวเอง
"เมี๊ยว~"
"เอ๊ะ!" ฉันอุทานเสียงเบาเมื่อได้ยินเสียงน้องแมวร้อง สองเท้าเล็กรีบเดินไปที่รถ พยายามสอดส่องหาว่าน้องแมวติดอยู่ที่ไหน ทว่าก็ไม่มี
นัยนต์ตากลมโตกวาดสายตามองรอบๆ บริเวณลานจอดรถ ในขณะที่สองเท้าเดินไปตามเสียง รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าเล็กเมื่อเห็นน้องแมวสีขาวตัวเล็กอยู่ข้างรถสปอร์ตคันหรู สองเท้ารีบก้าวเข้าไปหวังจะอุ้ม
แกร๊ก~
"อ๊ะ!" ฉันสะดุ้งตกใจเมื่อประตูรถคันนั้นถูกเปิดออก ร่างเล็กนิ่งไปเมื่อพบกับผู้ชายคนนั้น คนที่สูบบุหรี่อยู่ภายในลิฟต์ ซึ่งการกระทำของเขาทำให้น้องแมวตกใจจนวิ่งหนีไป "คุณ!"
"…" เขาเหยียดยิ้มมุมปากด้วยท่าทางน่ากลัว ในขณะที่สองเท้าก้าวลงจากรถ ทว่าจังหวะนั้นก็มีผู้ชายใส่ชุดสีดำมากมายวิ่งเข้ามายืนอยู่ล้อมรอบอย่างน่ากลัว "เฌอแตมป์…"
"คะ..คุณเป็นใคร" ฉันตวัดสายตามามองเขา พร้อมเอ่ยถามเสียงสั่น สองเท้าค่อยๆ ก้าวถอยหนี ทว่าอยู่ๆ มือหนาก็กระชากตัวฉันอย่างแรง ทำให้แผ่นหลังเล็กไปชนกับรถ "โอ๊ย!"
"ถ้าหัวใจดวงนี้ของมันแตกสลาย มันคงทรมานน่าดู" มือหนาเลื่อนขึ้นมาลูบพวงแก้มนวลอย่างแผ่วเบา ในขณะที่มืออีกข้างรวบมือเล็กทั้งสองข้างไว้เหนือศีรษะ น้ำเสียงเยือกเย็นของเขาทำให้ฉันขนลุกซู่อย่างหวาดกลัว
"คะ..คุณพูดอะไรคะ"
"ต้นหนาว…รู้จักใช่ไหม"
"พี่ต้นหนาวเกี่ยวอะไร ทำไมคุณถึงรู้จักพี่ชายแตมป์"
"เธอไม่น่าเกิดเป็นน้องสาวของไอ้เศษสวะแบบนั้นเลยนะ" มือหนาเลื่อนมาลูบไล้ที่ลำคอ ก่อนจะบีบอย่างไม่แรงนัก ทว่าการกระทำของเขาทำให้ฉันกลัวมาก
"ปล่อยแตมป์นะ ถ้าไม่ปล่อยแตมป์จะตะโกนให้คนช่วย"
"ลองดูสิ ถ้าคิดว่าเธอจะมีชีวิตรอดออกไป"
"อึก!" ฉันส่งเสียงเบาๆ เมื่อโดนจับให้หันไปมองรอบๆ บริเวณนี้ที่มีผู้ชายชุดดำยืนอยู่เต็มไปหมด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อเห็นกระบอกปืนอยู่ที่ข้างเอวสอบของพวกเขา
"หัวอกคนเป็นพี่ ถ้าน้องสาวโดนข่มขืน แทบตายทั้งเป็นเลยนะ"
"ยะ..อย่านะ" ฉันหันขวับไปมอง ทว่าใบหน้าของเขาอยู่ใกล้มาก ทำให้ริมฝีปากของเราสัมผัสกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
ความรู้สึกของเหตุการณ์ค่ำคืนนั้นที่ฉันจูบกับผู้ชายคนนึงโดยไม่ได้ตั้งใจลอยเข้ามาในหัว ทำให้ฉันเผลอนิ่งไป
"หึ" เสียงหัวเราะเบาๆ ของเขาทำให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ความคิด กำลังจะผละใบหน้าออก ทว่าเขาดันขบกัดริมฝีปากล่าง
"โอ๊ย!" ฉันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บ น้ำตาเริ่มซึมออกมาเล็กน้อย
"พร้อมรับกรรมแทนไอ้เศษสวะคนนั้นรึยัง"
"อึก..พะ..พี่ชายแตมป์ทำอะไรให้คุณ" ร่างเล็กยังคงดีดดิ้นไปมา ทว่ายิ่งดิ้นเขาก็ยิ่งบดเบียดร่างกายเข้ามาแนบชิดยิ่งกว่าเดิม
"คนเลวๆ แบบมัน ต้องเจอคนเลวๆ แบบฉัน"
"ที่นี่มีกล้องวงจรปิด ถ้าคุณทำอะไรแตมป์ ตำรวจจะมาจัดการคุณ" ฉันกัดฟันข่มความกลัวเอ่ยออกมาเมื่อสายตาเลื่อนขึ้นเห็นกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่บนผนัง
"หวังว่าจะไม่ตายก่อนตำรวจมานะ…เฌอแตมป์