16.เล่า

1107 Words
"อืม มานี่มีธุระอะไรล่ะโยม" หลวงตาถามยิ้ม ๆ "คือ หลวงตาครับ เรื่องที่ผมจะถามมันเกี่ยวข้องกับเอ่อ…" กรวรรธเว้นไว้แล้วหันไปมองทางตาผลอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ "พูดมาเถอะโยม เรื่องที่โยมวันพระเห็นกายละเอียดของหญิงชราน่ะเหรอ" หลวงตาชราพูดยิ้ม ๆ พร้อมกันหันไปมองตาผลที่กำลังเดินมาทางนี้เหมือนกัน "คุณเห็นเหมือนกันเหรอ นึกว่าจะมีแต่เจ้าวันพระคนเดียวที่เห็น" ตาผลกล่าวแทรกขึ้น "ผมไม่เห็นหรอกครับตา แต่ดูเหมือนเพ็ญสุดาเค้าจะเดินลงน้ำไปน่ะครับ พอถามก็บอกว่ากลัวยายจะตกน้ำตกท่าจะรีบไปช่วย จนผมต้องรีบดึงแขน แล้วก็รั้งตัวเอาไว้ครับ" "จริงหรือครับหลวงพี่" ตาผลถามขึ้นบ้าง "จริงเรื่องอะไรล่ะ จริงที่โยมพ่อหนุ่มคนนี้ยื้อยุดฉุดแขนโยมวันพระ หรือจริงที่โยมพ่อหนุ่มคนนี้และโยมวันพระเห็นกายละเอียดของยายแสล่ะ" หลวงตาชราภาพกล่าวยิ้ม ๆ "หลวงพี่ครับ ก็ทั้งสองอย่างละครับ" ตาผลกล่าวราบเรียบ "อืม..อาตมาเห็นโยมท่านนี้พูดกับโยมวันพระเสียงดังว่า (บอกแล้วไงให้คิดให้ดีอย่าเชื่อสายตาตัวเองในครั้งแรกที่เห็นให้วิเคราะห์ก่อน) น่ะ" หลวงตาพูดยิ้ม ๆ ส่วนตาผลมีสีหน้าที่ผ่อนคลายลงบ้าง "ยังไงก็ขอบคุณพ่อหนุ่มมากนะที่ช่วยเจ้าวันพระมัน เค้ามักจะเห็นนั่นเห็นนี่ไปเรื่อยตั้งแต่พ่อแม่มันอุบัติเหตุรถชนไฟครอกตายน่ะ แต่เค้าไม่คิดว่านั่นคือสิ่งเร้นลับอะไร จะไปช่วยอย่างเดียว เค้าไม่อยากให้ใครต้องเจ็บตาย จากลาเหมือนมันกับพ่อแม่ของเค้า คงฝังใจน่ะ" ชายชราเล่าไปพลางถอนหายใจยาวแล้วหลับตานิ่ง "…..ตาครับ คือผมมีอะไรจะบอกอีกอย่างเรื่องเพ็ญสุดาครับ" กรวรรธนิ่งอยู่อึดใจ แล้วบอกชายชราอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ขนาดลูกกระสุนปืนยังไม่กลัวขนาดนี้เลย "เรียกเค้าว่าวันพระเถอะ ว่ามาซิพ่อหนุ่ม" ตาผลพูดราบเรียบ "คือผมเคยเห็นวันพระวิ่งลงทะเล ปากก็ร้องเรียกใครสักคนเป็นภาษาอังกฤษครับ ผมผ่านมาเห็นเข้าจึงเรียกทักก็บอกว่าเด็กผมสีทองกำลังจะจมน้ำจะรีบไปช่วยเด็กครับ ในขณะที่มีคลื่นแรงพอดี ผมจึงเข้าไปช่วยล็อคตัวขึ้นจากน้ำได้ทันก่อนที่คลื่นยักษ์จะม้วนตัวเธอเข้าไปกลางทะเลลึกครับ และที่สำคัญกว่านั้น….." กรวรรธเว้นช่วงแล้วมองไปที่ชายชราอย่างประเมินสถานการณ์ "เล่ามาเถอะ พ่อหนุ่ม ไหน ๆ ก็เล่ามาถึงขนาดนี้แล้ว" ตาผลเอ่ยอย่างนึกหงุดหงิด "เอ่อ..คือ มันเป็นความลับขององค์กรน่ะครับ แต่ผมเชื่อว่าคุณตาคงรักษาความลับนี้ให้ผมเหมือนกันถ้าผมจะเล่าต่อ" กรวรรธต่อรอง "อืม…ได้/ อืม..ได้ซิโยม อาตมาเป็นสงฆ์ย่อมไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของฆารวาสอยู่แล้ว" ตาผลรับคำ ส่วนพระภิกษุชราภาพก็เอากับเขาด้วย "คือเด็กคนนั้นคือแขกที่มาพักที่โรงแรมกับครอบครัวเมื่อห้าปีที่แล้วครับ เป็นชาวสวีเดิน มีสีผมเป็นสีทอง และเสียชีวิตไปแล้ว แต่แปลกที่วันพระสามารถมองเห็นกายละเอียดของเด็กคนนั้นได้และบอกรูปพรรณสัณฐานได้ตรงกับข้อมูลในแฟ้มประวัติลูกค้าเลยครับ" กรวรรธเล่าตามความเป็นจริงทุกประการทำเอาชายชรานิ่งอึ้งไปพักใหญ่ "ยังไงก็ฝากดูแลเค้าหน่อยนะ เค้าบริสุทธิ์เกินไปเลยแยกแยะไม่ออก" ตาผลกล่าวอย่างอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด "ไม่ต้องกังวลไปหรอกโยมผล เค้ามีผู้อุปถัมภ์ค้ำชูอยู่ ทุกอย่างไม่จีรังยั่งยืนดอกโยม มีเกิดก็ต้องมีดับ เกิดขึ้นได้ ก็หายได้เหมือนกัน ทำใจให้สบายเถอะ หมั่นทำบุญทำทาน กำหนดจิตภาวนาไว้นะ บอกหลานสาวด้วย" พระภิกษุชราภาพกล่าวยิ้ม ๆ ด้วยเมตตา “ครับ หลวงพี่ ผมเห็นทีต้องลาหลวงพี่กลับแล้วละครับ วันพรุ่งนี้จะมากวาดถูศาลานู้นให้ วันนี้คงต้องกลับไปช่วย ยายบัวลอยทำกับข้าวไว้รอหลาน ๆ ก่อน เดี๋ยวจะโดนบ่นว่ากินแรงอิก หึหึ” ว่าจบนายผลก็ก้มลงกราบแทบเท้าพระภิกษุชรา และกราบที่พระพุทธรูปองค์ประธาน แล้วหันหลังกลับออกไป กรวรรธเห็นดังนั้นจึงรีบนมัสการลาพระภิกษุชราภาพเหมือนกัน "งั้นผมขอนมัสการลาเลยนะครับ" ว่าจบก็รีบก้มกราบแทบเท้าพระภิกษุชราภาพ และรีบไปกราบพระพุทธรูปองค์ประทานและรีบตามตาผลออกไป "เดี๋ยวก่อนครับตา รอผมด้วย" ตาผลหยุดชะงักเท้าแล้วหันมามองที่ชายหนุ่มทันที "ว่าไงเหรอพ่อหนุ่ม" ตาผลกล่าวราบเรียบ "คือผมขอเวลาตาสักประเดี๋ยวจะได้มั๊ยครับ" กรวรรธประวิงเวลา "ว่ามาซิพ่อหนุ่ม" ตาผลกล่าวราบเรียบและพอจะเดาวัตถุประสงค์ของชายหนุ่มออกอยู่บ้าง "ถ้าผมจะขอไปมาหาสู่กับวันพระอย่างเปิดเผย คุณตาจะว่ายังไงหรือครับ ผมจริงใจ" กรวรรธพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมา "ผมไม่ว่ายังไงหรอกครับ ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคนกลาง แล้วอีกอย่างระยะเวลาพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คนครับแต่ผมนับถือน้ำใจคุณนะครับที่คุณมาบอกผมตรง ๆ" ตาผลพูดยิ้ม ๆ "ขอบคุณครับตา ต่อไปนี้ตาเรียกผมว่าเกมเถอะครับ ขอให้ผมเป็นหลานตาอีกสักคนนะครับ ผมก็เด็กกำพร้า พ่อแม่ตายหมดจาก อุบัติเหตุทางรถ ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะพ่อของเจ้านายเค้าชุบเลี้ยงผมมา ผมก็เลยตอบแทนด้วยการเป็นบอดี้การ์ดคอยดูแลช่วยเหลือลูกชายท่านครับ" กรวรรธเล่าชีวประวัติตัวเองให้ตาผลฟังแต่แอบใส่ไข่ให้ดูน่าสงสารเล็กน้อย "ผม เอ๊ย ตาก็ไม่ได้รังเกียจอะไร จะจนรวยก็คนเหมือนกัน ขอให้ขยัน อดทน ไม่อายทำกินและที่สำคัญเป็นคนดีรู้คุณคนนี่ก็ดีถมไปแล้ว" ตาผลเผลอเอ่ยความในออกไป ชายวัยกลางคนได้แต่โอดครวญในใจ _________________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD