ส่วนชายแปลกหน้ามองสองสาวช่วยกันเก็บข้าวของไม่สนใจใครรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีตัวตนจึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
พรึ่บ..ชายหนุ่มจับกุมข้อมือของหญิงสาวแล้วพยุงให้ลุกขึ้น
"ผมจะพาน้องผู้หญิงคนนี้ไปหาหมอเองครับ ถ้าคุณไม่สบายใจว่าผมจะทำมิดีมิร้ายเธอคุณจะตามไปด้วยก็ได้ ว่ายังไงครับ?" ผกาพรรณมองหน้าชายแปลกหน้าอย่างชั่งใจ!!!
"ค่ะถ้าคุณอยากแสดงความรับผิดชอบนัก ดิฉันจะไปกับน้องสาวด้วย แต่ขอดิฉันไปบอกหัวหน้าก่อนนะคะ" ผกาพรรณพูดจบจึงหันหลังกับเข้าไปที่เคาน์เตอร์ทำงานของตนเพื่อรายงานหัวหน้า สักพักจึงออกมา
"ดิฉันพร้อมแล้วค่ะ/ปะวันพระ พี่จะไปเป็นเพื่อนอย่างน้อยก็คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตายน่า ปะ"
"เอางั้นเหรอคะพี่ หัวหน้า เพื่อนร่วมงานจะว่าพี่หรือเปล่า.." วันพระพึมพำสองจิตสองใจ
"ไปเถอะ อะไรจะเกิดก็ช่างมันแต่พี่ปล่อยเธอไปกับคนแปลกหน้าไม่ได้เข้าใจมั๊ย ตากับยายจะได้ตำหนิพี่ได้ซิไหนจะนายวันชาติอิก"
"เอ้า ไปก็ไปค่ะ /ฉันจะไปหาหมอกับคุณค่ะ" เพ็ญสุดาหันไปตอบตกลงกับเพื่อนรุ่นพี่และหันมาตอบตกลงชายแปลกหน้าเช่นเดียวกัน ทำเอาอีกคนเผลอยกยิ้มมุมปากอย่างนึกขำ แต่เพียงแป๊บเดียวเท่านั้น ส่วนอีกคนที่ตามมาแอบสังเกตเห็นมันชัดเจน
"ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวก่อน ผมชื่อนายกรวรรธ วิริยะวรรณอำไพ ทำงานอยู่ที่โรงแรมในเครือเรืองทรัพย์ไพศาลสาขาใหญ่ในจังหวัดนี้ ผมยินดีจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณไม่ต้องกังวล และผมไม่ใช่พวก 18 มงกุฏแน่นอน" กรวรรธพูดอย่างต้องการให้กระแทกใจคนฟัง
"เอ่อ…ค่ะ ก็ไม่ได้ว่าอะไร ไปก็ไปค่ะ" เพ็ญสุดาบ่นกระปอดกระแปดแต่ก็ยอมเดินตามชายแปลกหน้าไปที่รถอย่างว่าง่ายโดยมีเพื่อนสาวรุ่นพี่ที่นับถือคอยช่วยถือเอกสารและเดินตามไม่ห่าง
@โรงพยาบาลเอกชนกลางเมืองภูเก็ต
เจ้าหน้าที่: ไม่ทราบว่าผู้ป่วยไปโดนอะไรมาคะ
เพ็ญสุดา: ล้มค่ะ ล้มก้นกระแทกพื้นเลยใช้ข้อศอกค้ำยันน้ำหนักตัวเองไว้ค่ะ เลยเป็นแผล
เจ้าหน้าที่: ค่ะ เดี๋ยวเชิญทางนี้นะคะ
จากนั้นเธอก็ถูกนำตัวเข้าไปพบแพทย์ แล้วเจ้าหน้าที่ก็พาไป เอกซเรย์ ทำแผล เสร็จสรรพและรอสักพัก
แพทย์: กระดูกไม่มีหักหรือแตกนะครับ ส่วนแผลถลอกไม่ลึกมากแต่ก็ยาวอยู่ ให้ล้างแผลต่อเนื่องสัก 2-3 วัน และกินยาฆ่าเชื้อให้หมด และมียานวดสำหรับบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอกด้วยนะครับ เดี๋ยวคนไข้ไปรอรับยาด้านนอกได้เลยนะครับ สวัสดีครับ
เพ็ญสุดา: ขอบคุณค่ะหมอ สวัสดีค่ะ
กรวรรธ: ขอบคุณครับ
หลังจากออกมาจากห้องแพทย์ วันพระเดินมานั่งใกล้ ๆ กับผกาวรรณที่นั่งรองกับผู้ชายแปลกหน้าอีกคน
"เป็นไงมั่งวันพระ" ผกาวรรณเอ่ยกระซิบถาม
"ไม่เป็นอะไรมากหรอกพี่ผกา เอกซเรย์แล้วไม่มีกระดูกแตกหัก ได้ยามากิน แล้วก็ทำแผลแค่นั้นแหละ นี่คุณคนนั้นกำลังไปรับยาแล้วก็จ่ายค่ายาให้"
"เหรอ ค่อยยังชั่ว พี่กลัวว่ากระดูกจะแตก เสียงข้อศอกเธอกระทบพื้นดังมากจนพี่ตกใจ หรือว่าเอ็กซเรย์มันยังมองไม่เห็นในครั้งเดียว เหมือนที่เค้าเล่าต่อ ๆ กันมาไง" ผกาพรรณเอ่ยขึ้นอย่างกังวล
"ไม่น่า หนูเพิ่ง 22 ปีเอง ไม่น่าจะกระดูกกระดูกผุน่า หึหึ"
"เออ..อย่าพูดดีไป ขอให้เป็นอย่างงั้นแล้วกัน" สองสาวกระซิบกระซาบกันไปมา แต่อีกคนได้ยินมันชัดเจน สักพัก กรวรรธได้เดินมาพอดี
"นี่ครับยา นี่ยานวด แล้วนี่ค่าทำขวัญ" กรวรรธเอ่ยพร้อมกับยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลขนาดครึ่งนึงของกระดาษเอสี่ให้
"เอ่อ หนูขอรับแค่ยาก็พอค่ะ ไม่ต้องทำขวัญอะไรหรอก หนูไม่ได้ขวัญอ่อน ลาตรงนี้เลยละกันนะคะ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ" พร้อมกับหยิบยาจากมือของอีกฝ่ายมาถือไว้แล้วลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินออกไปจากตรงนี้
"ไม่มีมารยาท ผู้ใหญ่ให้ของก็ต้องรับซิ อย่าจองหอง" กรวรรธเอ่ยขึ้นอย่างฉุน ๆ ทำเอาอีกคนที่ติดตามมาด้วยถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกเพราะไม่เคยเห็นลูกพี่หัวเสียแบบนี้บ่อยสักเท่าไหร่
"เอ่อ.. เฮียเกมครับ นายไลน์มาว่าขอให้ไปพบอีกครึ่งชั่วโมงน่ะครับ" นิวเอ่ยเตือนลูกพี่เพราะกลัวเรื่องลุกลามไปมากกว่านี้
"อือ.." กรวรรธตอบสั้น ๆ แต่ได้ใจความ
ปึ่บ.. กรวรรธ จับข้อมือของหญิงสาว แล้ววางซองสีน้ำตาลลงมือของสาวเจ้า แต่สาวเจ้ากุมมือไว้แน่น ส่วนอีกคนใช้มืออีกข้างคลี่นิ้วมือของสาวเจ้าให้แบออกแล้ววางซองเจ้าปัญหาบนมือน้อยแล้วใช้แรงงอพับนิ้วมือเล็กให้จับซองนั้นไว้ให้มั่นแล้วเดินจากไปอย่างไม่เหลียวหลัง
กรวรรธพาร์ท
อ่อ..ยัยเด็กวันพระนี่เอง แต่งองค์ทรงเครื่องแล้วสวยใช่ย่อยนิ่ แทบจำไม่ได้เลย ผมบังเอิญนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวันพระเมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผมเคยเจอแม่เด็กนี่ขับรถมอ'ไซค์แบบจะรอดแหล่ไม่รอดแหล่พาน้องชายไปวัดยังแอบชิื่นชมอยู่เลยว่าเด็กรุ่นใหม่แต่รู้จักเข้าวัดทำบุญ แต่วันนี้คำพูดคำจา ท่าทางของนางทำให้ผมรู้สึกหมั่นไส้หมั่นเขี้ยวอยากแกล้งเสียให้เข็ด
................................................
"เฮ่ย วันพระ พี่ว่าเธอเจอของแข็งนะ ท่าทางแบ๊ด ๆ ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะ" ผกาวรรณเอ่ยขึ้นอย่างห่วง ๆ
"ค่ะพี่ผกา งั้นเราแยกกันตรงนี้เลยดีมั๊ยคะ พี่ต้องกลับไปทำงานต่ออีกไม่ใช่เหรอ"
"ก็ได้ งั้นเราจะกลับบ้านหรือจะไปไหนต่อล่ะ?"
"หนูคงกลับบ้านล่ะค่ะ คงไม่ไปไหนล๊ะ รู้สึกระบม ๆ ที่ก้นขึ้นมาแล้ว งือ.."
"เออ กลับบ้าน จะได้กินยานอน" ผกาวรรณพูดกลั้วหัวเราะระคนสงสารเพื่อนรุ่นน้องในคราวเดียวกัน หลังจากตกลงกันเรียบร้องสองสาวจึงแยกไปคนละทาง ส่วนเพ็ญสุดาเลือกที่จะเดินออกมาหน้าโรงพยาบาลและเรียกรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อกลับบ้านเพราะเธอสะดวกแบบนี้
อีกด้าน
ยัยงกเอ๊ย เงินเป็นหมื่นเลยนะในซองนั่น ไม่รู้จะเรียกวินมอ'ไซค์ทำไม..(กรวรรธสบถบ่น)
"อะ..อะไรนะครับเฮียเกม ค่าทำขวัญเด็กนั่นหมื่นนึงเลยเหรอครับ ไม่หนักเท่าไรไม่ใช่เหรอครับ"
"อือ..สงสารเห็นว่าเพิ่งเรียนจบกำลังหางานทำนิ่ ช่างเถอะ"
"อ้าวเด็กนั่นอยู่แถว ๆ นี้นี่ครับเฮีย"
"……" อีกคนเงียบแต่แอบจดจำไว้จนขึ้นใจและเก็บรูปใบเล็กขนาด 1 นิ้วไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านในของสูทอย่างดีเหมือนของสำคัญที่กลัวจะสูญหาย (วันพระเหรอ)