ตัดมาที่เพิ่มบุรุษที่เห็นคนพี่นิ่งไปจึงเอ่ยถาม
"พี่เกมครับ นี่ก็สามทุ่มแล้ว ผมว่าผมพอแค่นี้ก่อนดีกว่า เริ่มจะง่วงแล้วเนี่ย พี่เกมก็น่าจะกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะครับ"
"ง่วงแล้วเหรอเด็กน้อย ง่วงก็พัก งั้นพี่กลับก่อน วันพรุ่งนี้ก็ทบทวนถ้าไม่เข้าใจก็โทรไปแล้วพี่จะมาอธิบายให้อีก โอเค้?"
"โอเคครับ แต่ว่าจะไม่รบกวนเวลาพี่เหรอครับ เห็นพี่วันพระบอกว่าพี่เป็นผู้ช่วยของท่านรองประธาน แล้วก็บอดี้การ์ดของท่านด้วย ทางนั้นจะไม่ตำหนิพี่เหรอครับถ้าเอาเวลางานมาสอนหนังสือผมเนี่ย” เพิ่มบุรุษพูดหน้าม่อยแววตาอ่อนแสงช่างน่าสงสาร
"ไม่หรอกเด็กน้อย นี่คือเวลาส่วนตัวของพี่ที่ไม่มีใครมาขโมยเอาไปได้นอกจากคนในครอบครัวเข้าใจไว้ด้วย" กรวรรธพูดมันออกมาอย่างไม่ยากลำบากเลยสักนิดทั้ง ๆ ที่ นายใหญ่พยายามดึงเขาให้ใช้คำ ๆ นี้แต่เขากลับไม่กล้าใช้มัน แต่ต่างกับครอบครัวนี้ที่ทำให้เขาใช้คำ ๆ นี้ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเขายังนึกแปลกใจตัวเองอยู่เหมือนกัน
"ที่พี่เกมพูดเมื่อกี้หมายความว่าครอบครัวของผมคือครอบครัวของพี่เหรอครับ ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองใช่มั๊ย" เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นด้วยแววตาสั่นระริก
"ไม่เลยนายเข้าใจถูกทุกอย่างวันชาติ นายคือน้องชายคนเล็กของพี่นะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนายก็ยังคงเป็นน้องชายที่พี่รักเสมอ พักเถอะเดี๋ยวพี่ก็จะกลับไปพักแล้วเหมือนกัน”
"ครับ งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง จะไปปิดประตูรั้วด้วย" เพิ่มบุรุษกล่าวยิ้ม ๆ
"อือ เอาซิ่" จากนั้นกรวรรธก็เดินกอดคอเด็กหนุ่มที่รักเสมือนน้องชายแท้ ๆ ไปที่รถยนต์หรูแล้วเปิดประตูรถเข้าไปประจำที่คนขับ โดยมีหนุ่มน้อยเดินไปเปิดประตูรั้วไว้รออยู่แล้ว
"พี่ไปแล้วนะ ปิดประตูเสร็จแล้วก็รีบเข้าบ้านล่ะ" กรวรรธมองเด็กหนุ่มอย่างห่วงใย
"ครับ สวัสดีครับพี่เกม ขับรถดี ๆ ห้ามง่วง ห้ามหลับใน เดินทางปลอดภัยนะครับ" เพิ่มบุรุษยกมือกระพุ่มไหว้อย่างนอบน้อมส่วนคนพี่รับไหว้ยิ้ม ๆ สายตาพลางมองเลยเข้าไปในบ้านพบเงาไหววูบที่หน้าต่างบานหนึ่งในบ้าน เขายกยิ้มมุมปากแล้วขับรถออกไปอย่างอารมณ์ดี ประโยคนี้เค้าเคยได้รับมันจากอีกคน นี่ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีหรือเปล่านะ เขาได้แต่คิดในใจและขับรถต่อไปด้วยสติและสมาธิตามแนวทางที่หลวงตาสอนไว้อย่างเคร่งครัด
ตัดมาที่เพิ่มบุรุษ
หลังจากส่งพี่ชายที่นับถือขึ้นรถเป็นที่เรียบร้อย เพิ่มบุรุษปิดประตูรั้วลั่นกุญแจอย่างแน่นหนาแล้วหันหลังกลับเดินเข้าบ้านพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เพิ่มบุรุษพาร์ท
ผมรู้สึกชื่นฉ่ำหัวใจขึ้นมาแปลก ที่ได้ยินคำว่าพี่ชาย คำที่ผมโหยหา ผมอยากมีพี่ชายเอาไว้เป็นที่ปรึกษา เป็นที่หลบภัยเวลาผมเหนื่อยล้า คุยกันตามประสาลูกผู้ชายที่มองตากันก็เข้าใจ ผมรักพี่สาวผมมาก แต่บางครั้งเราก็ไม่เข้าใจกันอาจจะเป็นเพราะความต่างเพศหรือเปล่า นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าช่องว่าง พี่เกมเข้ามาเติมเต็มช่องวางตรงนี้พอดี
@เช้าวันใหม่
เพ็ญสุดามาถึงที่ทำงานตั้งแต่เช้าก่อนเวลา 06.30 น. เล็กน้อยและรีบเปลี่ยนชุดและเข้ารับเวรอย่างสดใส และวันนี้เป็นวันทำงานที่มีชีวิตชีวาอีกวันพร้อมสำหรับการทำงานเต็มร้อย
สักพักก็ตามด้วยแพรพลอยที่ดูจะไม่สดใสเอาเสียเลย ซึ่งปกติแพรพลอยจะเป็นคนหน้าตาสดใสประกอบกับผิวขาวใสอมชมพูจนเห็นเส้นเลือดฝอยทำให้ดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น แต่สำหรับวันนี้เธอสังเกตเห็นคนพี่ดูหน้าตาหม่นหมอง ขอบตาคล้ำเล็กน้อย ใบหน้าก็ดูซูบซีดที่สำคัญแววตาดูวิตกกังวลอะไรอยู่จึงได้เอ่ยทักไป
"สวัสดีค่ะพี่แพร ทำไมวันนี้ดูอิดโรยจังเหมือนไม่ได้นอนเลย ไม่สบายหรือเปล่าคะ" เพ็ญสุดเอ่ยทักพี่สาวด้วยความเป็นห่วงเหมือนคนในครอบครัว
"ไม่เป็นอะไรหรอก พอดีเมื่อคืนดูซีรีย์หนักไปหน่อยนอนดึกหลังเที่ยงคืนน่ะ ก็เลยเพลีย ๆ คงนอนไม่พอมั๊ง แฮร่.." แพรพลอยตอบไปส่ง ๆ ไปก่อนสายตาพลันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่ไม่อยากเจอเอาเสียเลย
อีกด้าน
มนัสพงษ์หนุ่มใหญ่รูปร่างหน้าตาค่อนข้างดีผิวพรรณดีดูสะอาดสะอ้านอยู่ในชุดฝ่ายบริหารที่เดินเต็ดเตร่อยู่แถว ๆ เคาน์เตอร์รีเซฟชั่นฟร้อน
"อ้าวคุณเลขา มาทำงานตั้งแต่เช้าเลย มีโปรแกรมอะไรพิเศษที่หนูตกข่าวไปหรือเปล่าคะจะได้เตรียมตัวถูก" เพ็ญสุดากล่าวทักทายเลขาฝ่ายบริหารพร้อมกับยกมือกระพุ่มไหว้
"อ๋อ ไม่มีโปรแกรมอะไรพิเศษหรอกครับ พอดีผมอยากมาเดินดูบรรยากาศตึกหน้าบ้างน่ะครับ มาตอนเช้า ๆ นี่แหละดีเพราะแขกยังไม่ออกมาเดินกันมากเท่าไร ไม่ได้มาดูนานเผื่อเวลาดิวกับลูกค้าของท่านรองฯ จะได้ตอบได้ถูก สักพักก็จะเข้าออฟฟิศแล้วครับ” มนัสพงษ์กล่าวพร้อมกับถ่ายรูปมุมต่าง ๆ ของห้องโถงที่ค่อนข้างโล่งไปพลางแต่ก็อดเหลือบตาไปมองอีกคนไม่ได้ นึกห่วงความรู้สึกของอีกคนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
ส่วนเพ็ญสุดารู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกระหว่างพี่สาวที่นับถือและคุณเลขาท่านรองประธานนี่ แต่ไม่กล้าคิดไม่กล้าเดาอะไรไปมากกว่านี้ คิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของคนสองคน ถ้าฝ่ายนั้นพร้อมเขาคงเล่าออกมาเอง ซึ่งถ้าเดาไม่ผิดฝ่ายคุณเลขาของท่านรองฯ อาจจะมีใจให้อีกฝ่ายก็เป็นได้
……………………………….……..
แหม แหม แหม คุณเลขา เป็นห่วงสาวเจ้ามาตามดูแต่ก็ทำกลบเกลื่อนเป็นถ่ายรูปสถานที่ไว้โปรโมทโรงแรมเสียงั้น แต้มเค้าสูงจริง ๆ แต่ก็ไม่รอดสายตาที่เฉียบคมของน้องวันพระไปไม่ได้หรอกค่า