@วันจันทร์ที่มาถึง@โรงแรมxxxxx@ฝ่ายบุคคล
เพ็ญสุดามาถึงที่หน้าห้องฝ่ายบุคคลก่อนเวลานัด 10 นาทีและนั่งอยูที่หน้าท้องซึ่งมีเก้าอี้จัดไว้สำหรับผู้มาติดต่อ สักพักก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเรียกให้เข้าไปที่ห้องฝ่ายบุคคลที่เข้ารับการสัมภาษณ์ พร้อมกับเปิดประตูให้ เธอจึงเดินตามไปและค้อมตัวเป็นการขอบคุณเจ้าหน้าที่คนนั้น
อีกด้าน
"เชิญนั่งซิ่" เพ็ญสุดายกมือไหว้คนตรงหน้าและผู้ใหญ่อีกสองคนที่นั่งอยู่ด้วย แต่รู้สึกคุ้น ๆ เสียงคนที่เอ่ยทักเพียงแต่จำไม่ได้ว่าเคยได้ยินที่ไหนจึงเงยหน้าขึ้นไปสบตาแต่ต้องตกใจสุดขีดเพราะคือคนเดียวกันที่ชนเธอจนได้รับบาดเจ็บ
"นั่งซิ่ จะยืนค้ำหัวผู้ใหญ่อีกนานมั๊ย"
"เอ่อ ขอโทษค่ะ" เพ็ญสุดาเอ่ยเสียงแผ่วได้แต่คิดในใจว่าคงชวดงานนี้อีกแล้ว
"แผลหายดีแล้วเหรอ" บทสนทนาต่อมายิ่งทำให้เธอยิ่งมั่นใจว่าเขาคือคนที่ทำให้เธอข้อศอกเจ็บเมื่อเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา
"......" อีกคนเงียบ
"ว่าไง แผลหลายดีหรือยัง พร้อมจะเริ่มงานได้หรือยัง..ผมถาม" นั่นยิ่งทำให้ผูู้ถูกถามยิ่งตาโตเข้าไปใหญ่
"เอ่อ..ทางโรงแรมรับดิฉั๊นเข้าทำงานแล้วหรือคะ ไหนว่าจะมาสัมภาษณ์ไม่เห็นสัมภาษณ์อะไรเลย" เพ็ญสุดาโพล่งขึ้นพร้อมเผลอยกมือขึ้นทำท่าเหมือนจะเกาศีรษะทั้งที่ไม่ได้คันแต่ต้องรีบเอามือลงอย่างสำรวม
"หึหึ คุณพอจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้ให้ผมหน่อยได้มั๊ยครับคุณผู้หญิง" (เกมถามผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ตามลำดับ) ส่วนเพ็ญสุดาเข้าใจความหมายรีบตอบคำถามคนตรงหน้าด้วยภาษานั้น ๆ ตามลำดับเช่นกัน ซึ่งกรวรรธพอใจในคำตอบของสาวเจ้ามากแต่ทำขรึมไว้ก่อน เพราะมีผู้จัดการฝ่ายต้อนรับส่วนหน้า และผู้จัดการฝ่ายบุคคลนั่งอยู่ด้วย
"คุณคิดอย่างไรกับอาชีพนี้ เพราะอะไรถึงเลือกอาชีพนี้..กรวรรธยิงคำถามด้วยภาษาไทยปกติ"
"ดิฉันคิดว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพสุจริต และชอบอาชีพนี้จึงเลือกเรียนในสาขาวิชานี้ค่ะ ที่สำคัญดิฉันเกิดในเมืองท่องเที่ยวต้นทุนของดิฉันคือสถานที่ที่สวยงามดิฉันแค่พยายามเรียนรู้เพิ่มเติมอีกนิดเพื่อบอกว่ามาเที่ยวที่บ้านดิฉั๊นซิคะมีที่เที่ยวที่สวยงามเยอะเลย อาหารก็อร่อย ผู้คนก็เป็นมิตร วัฒนธรรมก็งดงาม ด้วยภาษาของนักท่องเที่ยว นั่นก็จะเป็นการเพิ่มรายได้ให้ดิฉั๊นอีกทางค่ะ ดิฉั๊นบวกค่านายหน้านิดหน่อยเองค่ะ สงสารเค้าเหมือนกันอุตส่าห์เก็บออมเพื่อมาเที่ยวก็ให้เค้าได้เที่ยวให้สบายกระเป๋าหน่อย แฮร่..ก็มีเท่านี้แหละค่ะ"
"หึหึ ดี ตรงดี งั้นคุณพร้อมจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่..วันพรุ่งนี้เลยมั๊ย?"
"หา…พรุ่งนี้?"
"ใช่ หรือว่ายังไม่พร้อมผมจะได้เรียกคนอื่นให้มาทำแทนคุณ"
"พะ..พร้อมค่ะ"
"ดี งั้นเอาตามนี้ เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่มาแนะนำเรื่องชุดยูนิฟอร์มทำประวัติพนักงาน แล้วก็ทำบัญชีเพื่อโอนเงินเดือน/ฝากด้วยนะครับผู้จัดการฝ่ายบุคคล" กรวรรธอธิบายให้คนตัวเล็กฟังอย่างคร่าว ๆ และหันไปสำทับกับฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
"ค่ะ..ขอบคุณค่ะ" เพ็ญสุดากล่าวขอบคุณและยกมือไหว้ เพราะอีกคนทำท่าจะลุกออกจากห้องไปหลังจากสัมภาษณ์เธอเสร็จ
“ผมฝากจัดการต่อด้วยนะครับอย่าให้ขาดตกบกพร่องล่ะ” คนตัวโตหันไปพูดกับผู้จัดการฝ่ายบุคคลและผู้จัดการฝ่ายต้อนรับส่วนหน้าที่เข้ามาร่วมการสัมภาษณ์ด้วย (รึเปล่า)
"ค่ะ/ครับ" แล้วทั้งสองได้พาเพ็ญสุดาเดินออกจากห้องไปอย่างพินอบพิเทา {ท่าทางจะต้องดูแลเป็นพิเศษแล้วเป็นญาติฝ่ายไหนของนายอีกหนอ/แล้วกุจะทำตัวยังไงกับลูกน้องคนใหม่ของกุเนี่ย เด็กนายหรือเปล่าว๊า} ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและผู้จัดการฝ่ายต้อนรับส่วนหน้าได้ตั้งคำถามในใจ
………………………………………..
หลังจากทำเอกสารที่เกี่ยวเนื่องด้วยประวัติพนักงานตลอดจนบัญชีธนาคารที่ฝ่ายบุคคลเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เป็นส่วนของฝ่ายต้อนรับส่วนหน้าที่จะต้องรับไม้ต่อ
"ต่อไปก็เป็นส่วนของพี่เดชาแล้ว ยังไงหนูส่งไม้ต่อเลยนะคะ/พี่ไปก่อนนะจ๊ะน้องเพ็ญสุดา” เอมอรผู้จัดการฝ่ายบุคคลรีบผลส่งต่อพนักงานใหม่ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องทันที
"ค่ะ ขอบคุณค่ะ"
ตัดมาที่ผู้จัดการฝ่ายต้อนรับส่วนหน้า
"เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมจะพาไปดูส่วนของเรากันนะ มะตามผมมา" เดชาอธิบายรายละเอียดพร้อมกับพาคนตัวเล็กแต่สูงโปร่งดูสถานที่อย่างคร่าว ๆ ตลอดพาไปดูแผนกต่าง ๆ ที่แผนกต้อนรับส่วนหน้าต้องเกี่ยวข้อง
เสียงซุบซิบzzzzzz
พนักงาน1: ใครว๊ะ น่ารักว่ะ
พนักงาน2: ไหนคนไหนว๊ะ
พนักงาน1: ก็เดินตามผู้จัดการฟร้อนอยู่นั่นไง
พนักงาน2: เออ สวยว่ะหุ่นดีมาสูงโปร่งเอวเอสอีกต่างหาก..หรือว่าจะเป็นรีเซฟชั่นคนใหม่ว๊ะ
พนักงาน1: เออ..ใช่ เห็นหัวหน้าว่าเค้ารับใหม่สองคนนิ่
พนักงาน2: อ้าวทำไมมาคนเดียวล่ะ เด็กนายหรือเปล่า
พนักงาน1: เออว่ะ..อย่าไปยุ่งเลยกุไม่อยากตกงาน
พนักงาน2: เออจริง ทำงานเถอะ นู่นแขกมาล๊ะ ไปรอเปิดประตู
พนักงาน1: เออ แยกย้าย
อีกด้านของคนที่แอบสังเกตคนตัวเล็กผ่านหน้าจอมือถือ
หึหึ {ยังไม่ทันจะเริ่มงานก็ฮอทใหญ่แล้วนะยัยวันพระ นั่นเดินทำหน้าทำตาเหรอหราน่ารักชะมัด คนมองกันใหญ่แล้ว ขนาดแต่งเนื้อแต่งตัวมิดชิดยังน่ารักขนาดนี้เลย} กรวรรธได้แต่บ่นในใจแต่หัวเราะออกมาจริง
"อะแอ่ม! แอบดูอะไรอยู่น๊า มันมีอะไรนักหนาถึงได้ดูไปยิ้มไป คิ้วขมวดไปคร้าบ..เฮียเกม" เป็นแดนไตรที่เอ่ยขึ้นหลังจากมายืนที่โต๊ะของกรวรรธได้สักพัก
"อ่ะ คุณดาม มาเมื่อไรครับ มีอะไรให้ผมทำหรือต้องการอะไรเปล่าครับ"
"เปล่าหรอกครับ บังเอิญเดินมาน่ะ ไปนะครับ" พูดจบก็เดินหันหลังกลับแถมผิวปากอารมณ์ดีอีกต่างหาก
"……" ส่วนอีกคนได้แต่ยิ้มในหน้าแล้วตั้งสติทำงานที่อยู่ตรงหน้าต่อไป