แค่แฟนเก่า 5 รักเขามากไหม

735 Words
“เราจะไปคุยกันที่ไหนคะ” เดินออกมาไกลจากโรงอาหารของคณะบริหารแล้วนะ นี่ต้องไปไกลแค่ไหนกัน แต่ทำไมฉันต้องเดินตามเขาล่ะ ฉันไม่ได้รู้จักเขาสักหน่อย “รู้จักพี่ไหม” หนุ่มคณะวิศวะหยุดเดิน หันมาพูดกับฉัน “เหมือนจะเคยเห็นนะคะ แต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน” “แล้วรู้จักไอ้เซ้นต์ไหม” “อ้อ รู้จักค่ะ” “เป็นอะไรกับมัน” “...” “ว่าไง” “ก็คุย ๆ กันอยู่ค่ะ” “คนคุย?” “ทำไมคะ” “ถ้าเป็นคนคุยงั้นก็คุยกับมันหน่อยสิ” “หืม?” “มันนั่งรออยู่ในรถ” หนุ่มวิศวะชี้ไปที่รถเก๋งสีดำเงาที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถ “ไปดิ” “ค่ะ” เพราะท่าทางน่ากลัวของคนพูด ทำให้ฉันต้องเดินมาที่ลานจอดรถ เดินใกล้เข้ามาถึงได้ยินเสียงเครื่องยนต์ติดอยู่ ฉันเคาะที่กระจกฝั่งคนขับ ไม่รู้เหมือนกันว่ามีคนนั่งอยู่ตรงนี้ไหม เพราะว่ามันมืด มองไม่เห็นด้านในของรถ ประตูจากเบาะหลังเปิดออก ฉันชะโงกหน้ามองจึงเห็นว่าพี่เซ้นต์นั่งอยู่เบาะหลัง สีหน้าที่เรียบนิ่งผลักให้ฉันเดินเข้ามานั่งในรถข้างเขา “ผู้ชายคนนั้นเพื่อนพี่เซ้นต์เหรอคะ” ฉันถามพลางมองไปที่หนุ่มวิศวะคนนั้นซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก แต่ก็ไม่ได้ใกล้มาก พี่เซ้นต์เอื้อมมือปิดประตูโดยการขยับตัวมาใกล้ฉันมาก ๆ ฉันก็เลยพยายามลีบตัวให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะได้ไม่ต้องโดนตัวเขา แต่คนจะลีบตัวได้ยังไงใช่ไหมล่ะ แมวก็ว่าไปอย่าง แมวทำตัวใหญ่ได้ ทำตัวเล็กได้ “จำเป็นต้องรังเกียจพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าฟังเท่าไหร่นัก คล้ายว่าฉันรังเกียจเขา ฉันไปรังเกียจเขาเมื่อไหร่กัน หรือหมายถึงเมื่อกี๊เหรอ “เปล่านะคะ เพ้นท์แค่หลบ กลัวเกะกะพี่” “หายดีแล้วเหรอ” “ค่ะ” ไม่ได้ป่วยกาย ฉันน่ะป่วยใจ แต่จะพูดกับเขาเพื่ออะไรล่ะ ไม่ได้สำคัญสักหน่อย “พี่ทำอะไรให้เพ้นท์ไม่พอใจหรือเปล่า” “เปล่านะคะ” เราเพิ่งทำความคุ้นเคยกัน เขายังไม่เคยล้ำเส้น จะมาทำอะไรให้ฉันไม่พอใจได้ “ทำไมถึงถามแบบนี้คะ” “แล้วทำไมเพ้นท์ถึงทำแบบนี้” “...ทำ ทำอะไรคะ” เขาจับได้แล้วเหรอว่าฉันดึงเขาเข้ามาเพื่อต้องการลืมออยล์ “อ้างว่าป่วยเพื่อปฏิเสธไม่มาเรียนพร้อมพี่ จากนั้นก็ไม่ติดต่อมาหา พี่ติดต่อไปก็ติดต่อไม่ได้ วันนั้นที่เราแยกกันพี่ก็คิดว่าทุกอย่างดีมากเลยนะ ตกลงพี่ทำอะไรผิด ทำไมเพ้นท์ถึงไม่คุยกับพี่แล้ว” “...” อ้อ เหตุผลนี้เหรอ ฉันก็นึกว่าเขารู้เรื่องฉันกับออยล์ ก็งงอยู่ว่าเขาจะรู้ได้ยังไง “ว่าไง พูดให้พี่หายสงสัยที” “เพ้นท์ไม่สบาย กินยาแล้วก็นอนยาว ๆ ไม่ได้คุยกับใครเลย โทรศัพท์ก็ไม่ได้จับ ก็เลยไม่รู้ว่าแบตหมด วันนี้ก็ลืมพกมา” เพราะสามวันที่ผ่านมาอยู่ในช่วงจำศีล ไม่ติดต่อใครสักคน แม่ฉันก็ไม่ได้ติดต่อ แบตที่มีน้อยนิดของคืนนั้นที่เกิดเรื่องก็เลยหมดไปเอง ซึ่งฉันที่เมาก็ไม่ได้สนใจเครื่องมือสื่อสาร บวกกับอยากยู่คนเดียว ทบทวนตัวเอง ฉันก็เลยปล่อยให้มันหมดไป หลังจากเมาเต็มที่ วันนี้มีสอบก็เลยต้องตั้งสติและแบกสังขารมาเรียน โทรศัพท์ถูกหยิบมาชาร์จแบตโดยที่ไม่ได้เปิดเครื่อง เมื่อเช้ามองนาฬิกาแล้วเห็นว่าสายก็เลยรีบออกมา นึกขึ้นได้ว่าลืมก็ไม่ทันแล้ว ขี้เกียจเสียเวลากลับไปเอา “สามวันกินยาแล้วนอน กินยาแล้วนอนตลอดเลยเหรอ” “ค่ะ” กินเหล้าก็เหมือนกินยาแหละ ยาใจ ช่วยให้จิตใจฟื้นฟู เหล้านี่เป็นเพื่อนที่ดีเลยล่ะ เหล้ากินแล้วต้องเมา เหล้าไม่เคยหลอกเรา กินทีไรก็เมาตลอด “...” หน้าพี่เซ้นต์เหมือนจะไม่เชื่อฉันเลย เหตุผลฉันฟังไม่ขึ้นเหรอ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD