บทที่ 7 กว่าจะหายหึง รู้มั้ยว่าเธอต้องเสียอะไรบ้าง

898 Words
เธอค่อยๆ หมุนลูกบิดแล้วแง้มประตูอย่างเบามือ ยื่นหน้าสอดสายตามองหาเจ้าของห้อง ปกติเธอเคาะทีสองทีก็เปิดเข้าไปได้เลย เพราะต้องมาช่วยเขาทำงานในห้องนี้ นอกจากมาอยู่เป็นเพื่อนยัยช่อ หน้าที่หลักของเธอก็คือเป็นผู้ช่วยของพี่ชัชด้วย เธอค่อยๆ ถ่ายงานจากง่ายๆ และยากขึ้นตามลำดับมาจากพี่เชษฐ์อีกที แม้ตอนนี้จะไม่ใช่เวลางาน แต่เธอเห็นพี่ชัชทำงานดึกดื่น แสงไฟส่องผ่านช่องประตูออกมา ก็รู้ว่าเขายังทำงานอยู่ ในเมื่ออยู่ว่างๆ ก็เลยคอยมาช่วยเขาในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ บางวันเป็นแค่เด็กชงกาแฟ เสิร์ฟขนมก็มี แต่เพราะวันนี้ไม่ปกติ เธอเลยกล้าๆ กลัวๆ ที่จะเปิดเข้าไป แม้มั่นใจว่าที่พี่ชัชไม่ยอมลงไปกินข้าวเย็น ย่อมไม่เกี่ยวกับเธอ แต่ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้ว เธอทั้งเป็นห่วงและกังวลว่าเขาจะโกรธเธอเรื่องใดเรื่องหนึ่งจริงๆ ยกเว้นเรื่องที่พี่เชษฐ์กับพี่ชินบอกน่ะนะ... “ขอเข้าไปนะคะ” เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้หลับ ยังนั่งทำงานอยู่ตรงที่ประจำ เธอจึงทำเป็นขอเข้าไป ทั้งที่ปกติก็ไม่ค่อยได้ขอ เคยบอกไปแล้วว่าพี่ชัชไม่ชอบยิ้ม เธอคอยแอบมองเขามาหลายปี ต่อให้หน้านิ่งตึงราบเรียบ ไม่แสดงอารมณ์แบบนี้ แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นว่าโกรธ... เพราะหน้ายังไม่เปลี่ยนสีนัก “หิวมั้ยคะ” ตั้งแต่อาหารญี่ปุ่นที่เขาไม่ค่อยโปรดปรานเมื่อช่วงบ่าย ณ ตอนนี้ท้องเขาคงมีแค่ชาหรือกาแฟเท่านั้น “นึกว่าจะไม่ถาม” เออแน่ะ ! ท้องเขา กระเพาะเขา เธอจะถามไม่ถาม มันสำคัญตรงไหนกันเล่า “ถามพอเป็นพิธีน่ะค่ะ” แม้ตอนนี้เธอกับพี่ชัชจะญาติดี สงบศึกกันแบบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เพราะเขาคงเห็นว่าเธอโตเป็นผู้ใหญ่ เรียนจบ ทำงานได้ เกินกว่าจะมาเล่นอะไรแบบเด็กๆ แต่บอกเลยว่าเขี้ยวเล็บของเธอยังไม่ได้หายไปหมดหรอก “หิว” “หิวแล้วจะอดข้าวทำไมล่ะคะ” ระหว่างพูดกับพี่ชัช เธอก็แหวกโน่น จัดนี่ ดูว่ายังมีงานตรงไหนที่พอจะช่วยเขาทำต่อได้บ้าง เอาแฟ้มบางอย่างที่เขาน่าจะไม่ได้ใช้แล้วเข้าไปจัดวางไว้ที่เดิม เพราะถ้าสุมกองรวมกันมากๆ พอจะใช้อีกครั้ง เขานั่นแหละที่มักหาไม่เจอแล้วหงุดหงิด “ก็บางคนไม่ยอมมาตาม” เหตุผลแค่เนี้ย ! เธอละเชื่อเขาเลย “นิลมัวแต่ยุ่งๆ ช่วยคุณป้ายกสำรับจัดโต๊ะนี่คะ ก็เลยลืมมาเรียกพี่ชัช แล้วพี่จะลงไปเองสักวันไม่ได้เลยเหรอคะ ข้าวปลาเขาก็กินกันเวลาเดิม” “ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะไม่มาตามแต่แรกเหรอ” “...” พอโดนตอกกลับแบบนี้ เธอก็ไปไม่เป็นชั่วขณะ เขาคงได้ยินตอนเธอคุยกับพี่เชษฐ์ พี่ชิน ก็แน่ละ ตอนนั้นพี่ชัชอยู่ชั้นลอย ซึ่งถ้าตั้งใจฟังคนชั้นล่างในห้องรับแขกคุยกันก็คงได้ยิน แต่ใครจะไปคิดว่าเขาจะตั้งใจฟังกันเล่า... “ก็นิลเห็นพี่ชัชอารมณ์ไม่ค่อยดีนี่คะ เลยไม่อยากกวน” “แล้วใครล่ะ ที่ทำให้พี่อารมณ์ไม่ดี” เธอกะพริบตาปริบๆ “นิลเหรอคะ” คราวนี้พี่ชัชพยักหน้า “นิลทำอะไรคะ หรือไม่พอใจที่นิลพาไปร้านอาหารญี่ปุ่นอีกแล้ว เอาไว้คราวหน้าถ้าเราไปซื้อของกันอีก นิลให้พี่เป็นคนเลือกร้านดีมั้ย” “ไม่ใช่เรื่องอาหาร” “ก็ถ้าไม่ใช่เรื่องนั้น แล้วจะเป็นเรื่องไหนล่ะคะ” เพราะมัวแต่คิดย้อนไปสะระตะ เธอเลยไม่ทันมองว่าเจ้าของร่างสูงเดินเข้ามาถึงตัวตั้งแต่ตอนไหน ไม่รู้ว่าเขาอยากได้แฟ้มเอกสารกองที่เธอจัดอยู่ หรืออะไร แต่เขาเข้ามาใกล้เกินไปจนเธอต้องหลบให้ แต่ทันใดนั้น สองแขนยาวก็คร่อมมากักตัวเธอไว้จนสะโพกเธอติดกับโต๊ะทำงาน ขยับไปไหนไม่ได้ “เรื่องที่ไอ้เชษฐ์มันบอก” เวรแล้ว ! เธอเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งเลยทีเดียว พอเข้าใจหน้าก็ร้อนผ่าว ร้อนจนขอบตาคันระยิบ ใจสั่นเหมือนกำลังจะเป็นลม ยิ่งพี่ชัชโน้มหน้าเข้ามาใกล้ขึ้น... ใกล้ยิ่งขึ้น ลมหายใจของเขา กลิ่นกายของเขา ทำให้เธออยากเสกตัวเองให้กลายเป็นกบ จะได้กระโดดหนีไป “จะหึงได้ยังไงล่ะคะ ก็...” ก็... อืม... ก็ถูกจูบไง ทีแรกเธอก็นึกว่าพี่ชัชจะแกล้ง แต่เขาก็โน้มตัวยื่นหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ขนาดเธอพูดอยู่เขายังแนบริมฝีปากมาประกบปากเธอเลย เขาเป็นผู้ชายแน่หรือ ทำไมกลีบปากถึงได้นุ่มจนเธออาย ระหว่างที่เขาคลึงเคล้าปากเราด้วยกัน เธออยากจะหลับตาซึมซับทุกรอยจูบนี้อย่างในซีรีส์ ในหนังสือนิยายรักที่อ่าน แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะเธอยังอยากจ้องตากับพี่ชัชอยู่ “โอเค พี่หายหึงละ ไปกินข้าวได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD