บทนำ ปีนเขาอย่างเป็นทางการ (1)

1006 Words
“พอๆ กับเจ้าสาวแหละฉันว่า นี่ถ้าไม่ไปลากออกมาจะหยุดมั้ยถามจริงๆ” ให้ตายเถอะ ขุนพลยังจำตอนที่ยัยอวบงอแงเพราะเขาไปลากเธอออกมาจากการเต้นหน้าเวทีได้แม่น สาวอวบที่ไม่คิดว่าตัวเองจะสนุกอะไรมากมายเบอร์นั้นได้แต่ยิ้มแหยๆ แต่พอเขาถอดเสื้อออกหมดและได้เห็นซิกซ์แพ็กเป็นลอนสวยก็เริ่มเม้มปาก ไม่ว่าใครจะว่ายังไง เธอก็ยังมีความตื่นเต้นทุกครั้งไปในยามที่ได้อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้ คนที่ฟ้าประทานลงมาโปรดคนอวบอย่างเธอให้ได้เจอรักแท้ “ถามน่ะได้ยินมั้ย” “เอ่อ อะไรนะคะ” คนสติหลุดเพราะเห็นลอนกล้ามขาวๆ เนียนๆ เสียการควบคุมตัวเองอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่เขาถามไม่ได้เข้าหูจริงๆ นั่นแหละ เขามีแต่ผู้ชายตะลึงเพราะเห็นร่างกายผู้หญิง นี่เธอเสียสติเพราะเห็นร่างกายสามีตัวเอง โอ๊ย ยัยอวบเอ๊ย! เมื่อไหร่จะเลิกนิสัยคิดมิดีมิร้ายพี่คิงได้สักทีก็ไม่รู้ “ฉันบอกว่า ถ้าไม่ไปลากออกมาจะหยุดเต้นมั้ย” จ้องหน้ารอคำตอบไปด้วยพร้อมกับปลดเข็มขัดไปด้วยเพื่อไม่ให้เสียเวลา “หยุดซี่ อุ๊บเต้นนิดเดียวแค่นั้นแหละ” “หึ!” ขุนพลส่งเสียงไม่เชื่อถือพลางส่ายหน้า จากนั้นก็ปลดกระดุมกางเกงและรูดซิป จังหวะที่เขาจะถอด สาวอวบที่ยังคงความขี้อายเต็มเปี่ยมก็หันหลังขวับทันที “อายอะไรอีก เมื่อกี้ยังจ้องตาเป็นมัน” อาทิตยาหันมาส่งค้อนให้เขานิดๆ ก่อนจะหันกลับคืนไปแกะกิ๊บดำออกจากผมของตัวเอง แต่แล้วคนบางคนก็ทำให้เธอชะงักมืออีก “ถอดเร็วๆ จะได้อาบด้วยกัน” นี่เขาจะเอาเธอไปอาบด้วยเพื่อ?! อาบใครอาบมันก็ได้! “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวอุ๊บอาบทีหลัง” “ถอด เร็วๆ” คนที่ยืนหล่อโดยมี กกน. เพียงตัวเดียวติดกายเอ่ยช้าๆ ชัดๆ แต่แทนที่อาทิตยาจะหงอเหมือนทุกที กลับส่ายหน้ารัวๆ แล้วบุ้ยใบ้ให้เขามองไปรอบๆ ห้อง “โห เยอะขนาดนี้เลยเหรอ รกไปหมด” ขุนพลไม่ได้สังเกตเลยว่าของขวัญจากคนสำคัญได้ถูกนำมาเก็บไว้ในห้องของเขาซึ่งใช้เป็นห้องหอจนล้นมุมห้องเลยทีเดียว “แกะเลยมั้ยคะ” อาทิตยาอาสาเสียงตื่นเต้น เธออยากเห็นของขวัญจากเพื่อนๆ “จะบ้าเหรอ แกะไปคนเดียวเถอะ ฉันจะนอน” “อ้าว...” คนตัวอวบหน้าหงอยลงเล็กน้อย ก็เหนื่อยนะ แต่ก็อยากแกะของขวัญดูก่อนจริงๆ นี่นา “ไปอาบน้ำก่อนเถอะ ไม่เหนื่อยหรือไง เต้นยิ่งกว่าแขกอีก” “โอเคค่ะ” เธอยิ้มให้เขา ก่อนจะเดินเข้าไปหาและวางมืออวบขาวลงบนมือหนาสีเข้มที่ยื่นมารอ ขุนพลจับเธอหันหลังแล้วก็รูดซิปหลังของชุดแต่งงานออกให้อย่างเร็วไว รุ่นนี้ไม่มีทะนุถนอม ทั้งหนาทั้งนุ่มและแข็งแรงทนทานขนาดนี้ ยัยอวบไม่ได้บอบบางเสียหน่อย พอร่างกายขาวโพลนเหลือเพียงชุดชั้นใน สองผัวเมียก็เดินเพลียๆ ไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำด้วยกันทันที สาบานว่าแค่อาบน้ำอย่างเดียวจริงๆ ไม่มีสะมะลึกกึ๊กกึย อีรุงตุงนังหรืออีรังตุงเนใดๆ ทั้งสิ้น... เสร็จสิ้นภารกิจต่างๆ แล้วก็พากันกระโดดขึ้นเตียง อาทิตยานั้นคิดว่าเมื่อตัวเองหัวถึงหมอนแล้วเธอคงจะหลับเป็นตายเพราะความเหน็ดเหนื่อยเป็นแน่ แต่เอาเข้าจริงพอได้นอนแล้วกลับนอนไม่หลับซะอย่างนั้น จึงได้แต่นอนหงายลืมตาแป๋ว เช่นเดียวกับคนข้างๆ ที่พลิกไปพลิกมาเหมือนว่านอนไม่หลับเช่นเดียวกัน สุดท้ายเขาเลยพลิกกายตะแคงกลับมากอดเธอที่เปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคงหันหลังให้เขาอยู่ มือหนาก็ลูบนั่นลูบนี่ไปเรื่อย “พุงแบนราบจัง” เปรยอย่างแปลกใจเมื่อรู้สึกได้ว่าเอวคอดที่โค้งเว้าในแบบอวบๆ นั้นไม่ป่องไม่ยื่นสักนิด ราบเรียบผิดปกติ “อุ๊บไม่ได้กินข้าว” “กินแต่ก๋วยเตี๋ยว” “แหะๆ ทำไมคิงรู้ล่ะคะ” อาทิตยาหัวเราะอย่างอายๆ โธ่เอ๊ย ไอ้เราก็นึกว่าจะเป็นห่วงว่าทำไมไม่กิน บลาๆ ๆ กลายเป็นว่ารู้ดีอีกว่าเธอกินก๋วยเตี๋ยวมาแล้ว “หึ!” เขาทำเสียงในลำคอพร้อมกับส่งสายตารู้ทัน ถ้ายัยอวบจะอดข้าว อดน้ำเพื่อวันนี้ เห็นทีโลกคงจะถล่ม ถ้าไม่กินข้าวก็ต้องได้กินอย่างอื่นทดแทนอยู่แล้วล่ะ อีกทั้งอาหารการกินวันนี้ขนมาจัดเต็ม นอกจากโต๊ะจีนจากร้านขึ้นชื่อแล้ว ก็มีซุ้มก๋วยเตี๋ยวและอาหารอื่นๆ ให้แขกได้เดินเลือกหากินเพิ่มเองตามอัธยาศัย ค่อนข้างเป็นการจัดงานเลี้ยงแต่งงานที่ไม่เหมือนใครสักเท่าไหร่ “ง่วงยัง” ถามจบก็ดึงให้เธอหันนอนตะแคงมาทางเขา เข้าหอคืนแรกก็มานอนหันหลังให้ ตีสักทีดีมั้ยนี่! ขุนพลคิดอย่างมันเขี้ยว “ง่วงค่ะ” อาทิตยาไม่ได้โกหก ง่วงมากจริงๆ แต่ทำไมตาของเธอถึงได้ไม่ล้าไม่ปรือหรือไม่อยากหลับแบบนี้นะ ยังคงจ้องหน้าเขาตาใสแจ๋ว “จ้องหน้ากันแบบนี้หมายความว่าไง” “จ้องแบบไหน” “จ้องตาเยิ้มๆ เนี่ย ตกลงง่วงจริงหรืออะไร” “ไม่...อุ๊บก็จ้องปกติ” ขุนพลส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อคำพูดของเธอเด็ดขาด ก่อนจะเอ่ย “เธอว่าฉันดูไม่ออกเลยเหรอ แค่เธอกะพริบตาฉันก็รู้ไปถึงจินตนาการของเธอแล้ว” “อุ๊บไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ใส่ร้าย” อ้อมแอ้มต่อว่าเขา “โห เธอจะให้ฉันพูดตรงๆ มั้ยอวบ เวลาเธอมองฉันน่ะ เหมือนจะกลืนกิน หน้าตาเธอหื่นมาก”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD