8

1512 Words
พอนึกถึงแม่บ้านคนใหม่เขาก็เผลอยิ้มกับตัวเอง ป่านนี้คงกำลังง่วนกับการเตรียมอาหารเช้า ชายหนุ่มนึกภาพคนตัวเล็ก ยิ้มเก่ง แถมรอยยิ้มที่เผยออกมาทุกครั้งก็กระชากใจคนมองแทบหยุดหายใจ ก่อนที่จะหลุดหัวเราะออกมาเพราะว่าเขารับรู้อีกอย่างว่าเธอซุ่มซ่ามเป็นที่หนึ่ง สงสัยเขาต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมอีกหลายรายการ เพราะเธอคงหาเรื่องทำแตกไม่เว้นแต่ละวัน แต่แปลกที่เขาไม่นึกตำหนิหรือโกรธเคืองเลยสักนิด ชายหนุ่มเดินเข้าบ้านแล้วต้องชะงักเมื่อเห็นคนที่เขาแอบคิดถึงอย่างไม่ตั้งใจ พิรันดายังยืนยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก ลักยิ้มบุ๋มตรงข้างแก้มทั้งสองข้างทำให้เขาตาลอยเลยเผลอแอบมองอีกฝ่ายไม่วางเช่นกัน ก่อนที่จะตั้งสติได้ในที่สุด  “ฮะ... แฮม” ดลรวีกระแอมเบาๆ เมื่อเห็นคนที่ยืนยิ้มไม่มีท่าทีว่าจะพูดอะไร แต่กระแอมยังไงคนที่กำลังยืนตาเยิ้มชวนฝันไม่มีท่าทีว่าจะรู้สึกตัว เขาอดขำไม่ได้ นอกจากจะดูซื่อๆ แล้วยังดูไม่ค่อยเหมือนกับใครเค้าอีก “ดาว... ดาว... ดาว…” ดลรวีใช้มือแกว่งที่ด้านหน้าของหญิงสาว คราแรกเขานึกว่าเธอยิ้มให้เขาเสียอีก แต่ที่ไหนได้ กลับมายืนตาลอย ฝันกลางวันเสียนี่ “ดาว!” เสียงเข้มทำให้พิรันดารู้สึกตัว “คะ? ว่าไงคะ” พิรันดาทำหน้างง กะพริบตาเก้อๆ เกาหัวไปมา เมื่อได้สติ “ยืนยิ้มอะไรอยู่คนเดียว ตอนแรกฉันนึกว่าเธอยิ้มให้...” เขาชะงักคำพูดเอาไว้ “ให้อะไรเหรอคะ” หญิงสาวถามซื่อๆ สำเนียงแปร่งๆ เช่นเคย “ไม่มีอะไร เดี๋ยวฉันขออาบน้ำก่อน คงพอดีกับเธอตั้งโต๊ะอาหารเช้า” เขาพูดเป็นการเป็นงาน แถมยังเป็นคนรักษาเวลาเอาการอยู่ “ค่ะ” หญิงสาวรับคำเก้อๆ มองตามร่างสูงที่เดินเข้าบ้านไป “เห้อ... จะเริ่มยังไงดีนี่ สงสัยต้องถามพี่พลสินะ ขานั้นเก่งกาจรู้ไปหมดเรื่องผู้หญิง พี่ดลจะนึกชอบเราสักนิดหรือเปล่านะ แต่คงไม่... เพราะเรามาในฐานะแม่บ้าน พี่ดลคงไม่คิดอะไรกับแม่บ้านซึ่งเป็นลูกจ้างหรอก แล้วที่ทำไป คงเผลอตามประสาผู้ชายนั่นเอง” พิรันดาบอกตัวเองเศร้าๆ เธอนึกถึงพี่ชายขึ้นมาทันที เพราะพี่ชายของเธอน่าจะรู้ว่าผู้ชายเค้าชอบผู้หญิงแบบไหน เธออุตส่าห์เรียนทำอาหาร ฝึกความเป็นแม่บ้านแม่เรือนกับมารดาเพื่อรอโอกาสนี้มาทั้งชีวิต โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดดูแลชายหนุ่มในฝัน และตอนนี้เธอทำสำเร็จแล้ว ได้เข้ามาอยู่ร่วมชายคาบ้านเดียวกับเขา แถมสองต่อสองอีกต่างหาก ยังไงเสีย เธอไม่มีวันท้อถอยเด็ดขาด ... หากดลรวีไม่คิดอันใดกับแม่บ้าน เธอนี่แหละจะทำให้เขาคิดเอง ที่สำคัญวันนี้เธอต้องโทรไปย้ำกับพี่ชายเรื่องจิณห์จุฑาที่เธอออดอ้อนพี่ชายแทบแย่กว่าจะฝากงานให้เพื่อนได้ กว่าพี่ชายจะใจอ่อนรับปากเพราะไม่ชอบเส้นสาย อยากรู้ว่าถ้าพี่ชายเห็นเพื่อนรักจะทำหน้ายังไง เลขาหน้าห้องรายงานว่าคนที่น้องสาวฝากฝังเดินทางมาถึงแล้ว เขามองนาฬิกาข้อมือเรือนหรูก็ปรากฏว่าเธอมาก่อนเวลาพอสมควร น้องสาวคงเทรนมาดี เนื่องจากเขาเป็นคนรักษาเวลามากที่สุดในการทำงาน พลไม่ได้สนใจดูประวัติของเพื่อนน้องสาวเลยสักนิด แต่ได้ยิน    พิรันดาเล่าจนเขาแทบจำได้ทุกประโยค หญิงสาวมีเชื้อสายจีน จึงคิดว่าคงจะหน้าตาหมวยๆ ตาชั้นเดียว หรือไม่ก็ขาวซีดจนเห็นแล้วขัดอารมณ์ เขาชอบผู้หญิงผิวขาวมีน้ำมีนวลมากกว่าขาวซีด ยิ่งอมชมพูระเรื่อยิ่งน่ามอง ถ้าให้ดีอวบอัดน่าฟัด ทำให้กระชุ่มกระชวยเป็นไหนๆ ชายหนุ่มคิดอย่างหนุ่มติดจะเจ้าชู้เจ้าสำราญตามนิสัย เสียงเปิดประตูทำให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดที่จินตนาการถึงเพื่อนรักของผู้เป็นน้องสาว เขาเงยหน้ามองร่างของหญิงสาวที่เดินเข้ามา ปากกาในมือหล่นอย่างไม่ตั้งใจ ชายหนุ่มอ้าปากค้างถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดสักนิด รูปร่างอรชรบอบบางดูน่าทะนุถนอม ผิวขาวอมชมพู ดวงตาสดใส ตาชั้นเดียวนั้นไม่ได้ทำให้ขัดใจ แต่ดูน่ารักเสียมากกว่า จมูกเรียวเล็ก แม้ไม่ได้โด่งเป็นสันแต่ก็ดูดีรับกับใบหน้า ริมฝีปากแดงเรื่อบอบบางไม่ต้องบอกว่าเขาอยากจูบขนาดไหน ใบหน้ากลมเป็นรูปหัวใจน่ารักน่าใคร่เหลือจะกล่าว ที่สำคัญรอยยิ้มสดใสที่ส่งมาทำให้หัวใจเขาละลายแทบตกเก้าอี้ ขาว สวย หมวย อึ๋ม... เขายึดคติว่าสมภารไม่กินไก่วัด แต่ไก่วัดตัวนี้น่ากินไม่หยอก แถมมีดีกรีเป็นเพื่อนน้องสาว นึกเข่นเขี้ยวไปถึงยัยตัวแสบที่โทรมาหาเขาตั้งแต่เช้าหลังจากเขามาถึงที่ทำงานไม่กี่นาที ถามเรื่องอะไรมากมาย เขาก็ตอบไปแบบไม่ปิดบัง ... แต่แค่แปลกใจเล็กน้อยที่โทรเข้ามาที่ทำงานผ่านเลขาหน้าห้องของเขาแทนที่จะโทรเข้ามือถือเขาโดยตรง พลอยากจับน้องสาวมาหวดก้นนัก ทำไมถึงไม่ยอมบอกว่าเพื่อนที่ส่งมาสวยขนาดนี้ พูดแค่ว่าน่ารักนิสัยดี แต่จริงๆ เขาเองก็ผิดที่ไม่ได้ดูแฟ้มประวัติของเธอเลย ความจริงคงได้เห็นหน้าค่าตาก่อนได้เห็นตัวจริงแบบนี้ “สวัสดีค่ะพี่พล” จิณห์จุฑายกมือไหว้อ่อนน้อมเมื่อเดินมาหยุดหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของพี่ชายเพื่อน เธอส่งยิ้มสดใสให้เขาอย่างไร้เดียงสา แค่นี้หัวใจเขาก็ละลาย ให้ตายเถอะ... ยัยหมวยที่เขาคิดเอาไว้ในใจ ทำไมกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อยน่ารักน่าลากขึ้นเตียง เอ๊ย!ไม่ใช่ น่าทะนุถนอมแบบนี้นะ “สวัสดีครับน้องจีน เชิญนั่งก่อนสิครับ” พลยืดตัวนั่งตรงพูดเสียงทุ้มนุ่มหู มองอิริยาบถของหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าไม่วาง เธอนั่งลงอย่างเรียบร้อย นำกระเป๋าวางบนตักอย่างสงบเสงี่ยม มองเขาตาปริบๆ เห้อ... เขามีอารมณ์อยากกินเด็กขึ้นมาตงิดๆ ให้ตายเถอะ และหญิงสาวหน้าใสที่นั่งประจันหน้ากับเขาอยู่ก็กำลังยิ้ม รอยยิ้มของเธอช่างทำให้โลกใบนี้สวยงามอย่างประหลาด เธออารมณ์ออกมาทางสีหน้าอย่างไม่ปิดบัง เหมือนน้องสาวเขาไม่มีผิด เธอนึกคิดอันใด เขาสามารถจับอารมณ์และความรู้สึกได้ง่ายนัก ผู้หญิงคนนี้ดูอ่านง่าย ไร้มารยา จริตแพรวพราวดั่งผู้หญิงที่เขาควง ถ้าจะพูดอีกอย่างคือเธอดูอ่อนเดียงสานักกับการที่จะมาเป็นคู่ควงของเขา แต่เขาคิดเตลิดไปว่าเธอจะเป็นเช่นไรเมื่ออยู่บนเตียงกับเขานะ จิณห์จุฑาดูๆ ไปคลายพิรันดาน้องสาวของเขา รายนั้นอารมณ์ไหนก็แสดงออกมาจนฝ่ายตรงข้ามรับรู้ แต่ติดจะเจ้าเล่ห์มากโขอยู่ ที่สำคัญเป็นคนพูดตรงไปตรงมา คำไหนคำนั้น ถ้าสัญญาอะไรเอาไว้ จะรักษาสัญญาไม่บิดพลิ้ว “เคยได้ยินแต่น้องดาเล่า ไม่คิดว่าตัวจริงจะน่ารักขนาดนี้” เขาชมจากใจจริงแต่หวังอย่างอื่นไม่น้อย ใบหน้าขาวผ่องซับสีเลือดขึ้นมาทันตาเห็น ทำให้ใบหน้าหวานดูน่ารักมากขึ้นไปอีก เธอเคยได้ยินแต่เพื่อนสาวเล่าถึงผู้เป็นพี่ชาย แต่ไม่เคยได้เห็นตัวจริงเลยสักครั้ง “ดาก็ชอบเล่าเรื่องพี่พลให้ฟังน่ะค่ะ” เสียงหวานเหมือนระฆังแก้ว โอ้... เขาชอบเด็กไร้เดียงสาแบบนี้ได้ไง ปกติเขาชอบเซ็กซี่ร้อนแรงไม่ใช่เหรอ แต่พอคิดว่าน้องสาวเล่าเรื่องเขาให้ฟังบ่อย ชักเริ่มอยากรู้ว่าพิรันดาเผาเขาขนาดไหนกันนี่ แล้วสาวน้อยตรงหน้าจะรู้เรื่องเขาขนาดไหนกัน “น้องดาเล่าว่ายังไงบ้างครับ สงสัยจะเผาพี่ไม่เหลือ” พลพูดติดตลก แต่ในใจแอบลุ้นว่าสาวน้อยตรงหน้าจะว่ายังไง “ไม่ใช่นะคะ ดาชมพี่พลให้ฟังเสมอค่ะ ว่าเป็นผู้บริหารที่เก่งดูแลโรงแรมจากคุณลุงได้เจริญรุ่งเรืองจนถึงระดับนี้ค่ะ”   จิณห์จุฑาเล่าไปยิ้มไป ชื่นชมชายหนุ่มไม่ปิดบัง “เหรอครับ” พลผ่อนลมหายใจออกเล็กน้อย กลัวน้องสาวจะเผาเขาให้ฟังเสียอีก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD