เอาคืนยังไงดี

1277 Words
(Talk เดวิด) ผมเกลียดตัวเองที่สุดที่ทำกับเธอไปแบบนั้น ผมเหลือบมองร่างบางที่นั่งสั่นเทาอยู่ข้างๆ ผมเป็นระยะ เป็นผู้หญิงที่ใจแข็งและอดทนมาก เธอแสดงอาการเจ็บใจทั้งสีหน้าและแววตา แต่ไม่ร้องไห้ แล้วผมก็ดันไปมีอารมณ์กับเธอ ชุดที่เธอใส่ร่างกายเธอ แค่เห็นผมก็แทบอดใจไม่ไหว ไม่อยากเชื่อเชื่อว่าคนอย่างผมจะลงมือทำแบบนั้นกับเธอ เกลียดผมสินะ ผมตำหนิตัวเองแรงๆ ในใจ แล้วเหลือบมองร่างบางนอนซบเบาะหันหน้าเบือนหนีผม ใช่แล้วแหละ เธอคงไม่อยากมองหน้าผม ผมพาเธอมาที่บ้าน เธอดูตกใจเล็กน้อย แต่สภาพของเธอ ชุดที่ผมโมโหจนกระชากชุดหลุดลุ่ย เธอคงเข้าใจว่าทำไมผมถึงพาเธอมา ป้าสายใจกลับไปแล้วด้วยสิ ให้เธอใช้ห้องของยูมิ เธอจะคิดมากมั้ยนะ โอ๊ยแล้วทำไมผมต้องมาห่วงเด็กนี่ด้วยว่ะ คงรู้สึกผิดเพราะทำแบบนั้นกับเธอไปแหละ ถึงแล้วลงมาได้แล้ว ผมสั่งเธอ เอาอีกแล้วทำไมเวลาอยู่กับเธอผมชอบใช้คำสั่งนักหนาว่ะ ติดนิสัยแย่ๆ ไปแล้วสิ เธอเดินมาแบบไม่ถาม ไม่สงสัย สีหน้าไม่รับรู้ไม่สนใจไม่สบอารมณ์ กับสภาพชุดรุ่งริ่ง ผมรีบพาเธอเข้าบ้าน แล้วพาเข้าไปที่ห้องนอนผม เธอเดินตามมาอย่างว่าง่าย ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอ เธอเกลียดผมมากสินะ พอเธอเข้าไปในห้องได้เธอก็รีบเดินเข้าห้องน้ำ เธออยู่ในนั้นนานเกือบชั่วโมง มีเสียงสะอื้นไห้ดังออกมาเป็นระยะ ไม่อยากร้องไห้ให้คนแบบผมเห็นสินะ โถ่จูล ผมตำหนิตัวเองไม่หยุด แล้วผมจะทำยังไงกับความสัมพันธ์ของพวกเราครั้งนี้ดีนะ ผมไม่รู้ว่าเธอจะเกลียดผมไปขนาดไหนแล้ว แล้วใจผมตอนนี้มันรู้สึกแบบไหนกับเธอ ผมอยากรู้คำตอบ ผมเดินไปเคาะประตูห้องน้ำแล้วตะโกนบอกเธอว่า “จูล คืนนี้คุณนอนที่นี่นะ ผมจะออกไปข้างนอก” ไม่มีเสียงตอบรับจากเธอ แต่ผมก็มั่นใจว่าเธอได้ยิน แล้วผมก็ออกมาจากบ้าน จุดหมายปลายทางคือ . . คอนโดของยูมิ “เดฟฟฟฟ คุณโอเคมั้ย แล้วน้องจูลล่ะ” หญิงสาวที่ผมเคยรักหมดหัวใจเรียกผมด้วยท่าทีตระหนก เดี๋ยวนะ…เคยรักงั้นหรอ ทำไมสมองผมมันสั่งออกมาแบบนั้นล่ะ ผมเอียงคอหรี่ตามองเธอ ความรู้สึกวาบหวามที่ได้เห็นหน้าเธอหายไปแล้ว ทำไมกันนะ “ยูมิ” ผมเรียกเธอเสียงแผ่ว ภายใต้ความกังวลใจและรู้สึกผิด เธอเป็นเพื่อนเพียงไม่กี่คนที่ผมจะปรึกษาได้ “ไอ้เดฟ” ไอ้คริสเตียนน้องชายฝาแฝดของผมมองหน้าผมจ้องเขม็ง “มึงก็อยู่นี่หรอ” ผมหันไปมองหน้ามันที่หน้าตาไม่สบอารมณ์มากนัก “อยู่ดิ ทำไมก็คอนโดเมียกูมั้ย” น่าแปลกและตลก เมื่อก่อนถ้าได้ยินคำพูดข่มของมันแบบนี้ผมจะเจ็บร้าวไปทั้งหัวใจ ทำไมกันนะทำไมวันนี้กลับไม่รู้สึกอะไรเลย “นั่งก่อนค่ะเดฟ เดี๋ยวฉันชงชามาให้” แล้วน้ำเสียงของยูมิที่ผมเคยหลงรักหัวปักหัวปำตอนนี้แทบไม่มีผลอะไรกับหัวใจผมเลย ทำไมกันละนั่น คนที่มามีอิทธิพลกับหัวใจของผมมันกลับกลายเป็นยัยเด็กใจแข็งนั่นได้ บ้าชิบ “แหม สีหน้ามึงนี่ไม่ต้องบอกก็พอเดาออก อาการของคนหวงของสินะ” ไอ้คริสค่อนขอดผม หน้าตาผมเป็นแบบนั้นหรอ “เสือก มึงรู้ได้ไงอย่าทำเป็นรู้ดี” ผมพยายามบ่ายเบี่ยงและกลบเกลื่อน “เหอะ ไม่รู้ได้ไง กูก็เคยเป็นมาก่อนไอ้เดฟ มึงอย่าหลอกตัวเอง กูไม่อยากให้มึงพลาดแบบกู” อึก… ผมกลืนน้ำลายลงคอแล้วมองหน้ามัน พระเจ้าไม่อยากจะเชื่อ “กูพลาดไปแล้วนะสิ ถึงมาหาพวกมึงเพื่อปรึกษานี่แหละ” “ห๊ะ” คู่รัก อุทานพร้อมกันอย่างตกใจ นี่ผมยังไม่ได้เล่าเลยนะว่าทำเรื่องเลวร้ายอะไรกับเธอไปพวกมันยังตกใจขนาดนี้ แล้วผมก็เล่าไปหมดเปลือก . . (Talk จูลลี่) เหอะ ทิ้งฉันไว้ที่บ้านตัวเองหน้าตาเฉย เจ็บใจจัง เจ็บไปทั้งตัวทั้งใจเลย ทำไมเขาถึงได้ใจร้ายกับฉันนักหนา อะไรกันรอยยิ้มเทวดานั่นไม่ได้มีไว้ให้คนแบบฉันสินะ ยิ่งคิดยิ่งน้อยใจ ความรักที่ฉันมีให้เขาจะเปลี่ยนเป็นความเกลียดได้มั้ย อยากเกลียดเขาจัง จะลองเกลียดเขาแบบจริงๆ จังๆ ดูได้มั้ยนะ ฮ่าๆๆ อะไรกันล่ะคำพูดคำจาชวนสับสนนั่น เฮ้ออออ ฉันทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มขาวสะอาดของห้องนอนใหญ่ ดูไปดูมาหมอนี่น่าจะรักสะอาดน่าดู ดูจากความเป็นระเบียบของห้องนอนและบ้านแล้ว ฉันหลับตาแล้วน้ำตามันก็เอ่อล้นออกมาจากหางตาและไหลลงตามแรงดึงดูดของโลก จะเกลียดคุณยังไงดีนะ เดวิด ฉันอยากเอาคืนให้สาสมกับที่คุณกับฉันจัง ทำยังไงดีนะ เรื่องอะไรที่จะยั่วโมโหเขาได้นะ ฉันครุ่นคิดในใจ ก็ในเมื่อเขาโมโหที่ฉันแต่งตัวสวย แต่งตัวโป๊ใช่มั้ย แถมยังพูดใส่หน้าฉันแรงๆ อีกว่า เธอเป็นของฉันจูล ของฉันคนเดียวเท่านั้น เขาว่างี้ งั้นฉันจะเอาคืนเขาดีมั้ยนะ แกล้งยั่วโมโหให้เขาเป็นบ้าตายไปเลย เอาให้สาสมกับสิ่งที่ทำกับฉัน โอ้ มายก๊อด มันมันสมองระดับรีเจนเลยนะเนี่ยจูลลี่ ก่อนอื่นก็ต้องปรับลุก ของตัวเอง อย่างที่สองก็ควงผู้ชายไปเลย เอาให้แซ่บซี๊ดถึงใจ ฉันไม่ใช่สาวพรหมจรรย์แล้วเพราะงั้น คิกๆ แค่คิดก็ชักสนุก เดวิด แล้วคุณจะเสียใจที่ทำแบบนั้นกับคนอย่างจูลลี่ ว่าแล้วฉันก็กดมือถือหาเพื่อนสนิทสมัยมัธยม “โอ้โห ฝนจะตกพายุจะเข้ามั้ยมึงโทรมาหากู ไอ้จูลห้าว” ปลายสายเสียงทุ้มต่ำเรียกฉันอย่างสนิทสนม “เชี่ยก้อง เป็นไงบ้างสบายดีมั้ย” ฉันทักทายอย่างสนิทสนมกับก้องภพ เพื่อนสมัย ม.ปลาย “สบายดี แล้วลมอะไรหอบมึงให้กดมือถือหากูได้ละ กูโทรหามึงทีไรก็ไม่ว่างทุกที” “เออ กูฝึกงานแล้วเวลาว่างก็เขียนปกนิยาย กูต้องหาเลี้ยงตัวเองมั้ย ไม่ได้รวยตั้งแต่เกิดแบบมึงนี่” “เออ แดกดันกูเข้าไป แล้วสรุปมีอะไรพูดมาดิ” ปลายสายเริ่มไม่สบอารมณ์กับคำพูดค่อนขอด “พากูไปเลี้ยงข้าวก่อนแล้วกูจะบอก” ฉันยิ้มร้ายอยู่ทางด้านนี้ “ห๊ะ เมื่อไหร่” ปลายสายท่าทางดีใจ อาจเพราะพวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้ว “ตอนนี้ เดี๋ยวกูส่งโลเคชั่นให้” “เออๆ เดี๋ยวกูไปรับ” ไม่ถึงชั่วโมงเจ้าหมอนี่ก็มาจอดอยู่หน้าประตูบ้านเดวิด พร้อมกับ BMW Z4 คันเก่งของมัน เป็นเพื่อนที่พึ่งพาได้จริงๆ “บ้านใครวะจูล คนแบบมึงไม่ใช่คนที่จะมาบ้านคนอื่นดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ แล้วแต่งตัวชุดนอนผู้ชายหรอนั่น” “เออ เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ป่ะไปกัน” ฉันรีบเปลี่ยนประเด็นแล้วชวนเขาขึ้นรถ . .
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD