เธออึดอัดหรือไง
เอาเถอะ อีก 3 เดือนก็ฝึกงานจบแล้ว ทนๆ เอาละกัน จูลลี่ สาวร่างเล็กพูดกับตัวเองในใจ
จูลลี่ หรือจูล นักศึกษาปี4 สาขาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ของมหาลัยแห่งหนึ่งซึ่งก็ไม่ได้มีชื่อเสียงมากนัก แต่เธอได้มาฝึกงานอยู่ที่ บริษัทใหญ่พอสมควร และตอนนี้ทำหน้าที่เขียบแบบง่ายๆ ให้กับบริษัทนี้
แต่เธอได้รับเงินเดือนเท่ากับคนฝึงงานระหว่างโปรที่บริษัทช่วยซัพพอร์ตให้เธอเพราะเธอเป็นคนทำงานดีหัวไวและเอาการเอางาน เดวิด บอสของเธอเคยกล่าวบอกไว้แบบนั้น เขาชอบฝีมือเธอในการทำงาน ถึงแม้ว่าเธอจะหวังให้เขาชอบมากกว่านั้น แต่เขาก็ไม่ได้ปรายตามองเธอในแง่นั้นแม้แต่น้อย
เดวิด หนุ่มโสดไฟแรงพึ่งเรียนจบก่อนเธอแค่ 1 ปี แต่ขึ้นแทนมาเป็นบอสของเธอและจ่อตำแหน่งเจ้าของบริษัทนี้เพราะเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ คุณนายอลิซ หรืออลิซซาเบธ เจ้าของบริษัทแห่งนี้ เขาเป็นคนหน้าตาดีรูปร่างสูงใหญ่นัยน์ตาสีฟ้าสุกสว่างชวนหลงใหล และจูลลี่ก็หลงรักเขาตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน
แต่หัวใจของเขามีเจ้าของแล้ว ยูมิ หรือคุณซ่อนกลิ่นร่านสวาท นักเขียนนิยายร้อนแรง ผู้เป็นเจ้าของหน้าอกคัฟเอฟ วันนั้นเธอได้เจอกันโดยบังเอิญ แล้วเห็นคุณยูมิ กระโดดกอดพลอดรักอย่างสนิทสนมกับบอสของเธอ หัวใจปวดแปลบๆ ยูมิช่างเฟอร์เฟกต่างจากคนอย่างเธอโดยสิ้นเชิง
จูลลี่เป็นคนที่ไม่ค่อยพิถีพิถันเรื่องการแต่งตัว เธอไว้ผมยาวแต่ด้วยความที่ว่าผมหยักศกค่อนไปทางหยิก เธอมักใส่เสื้อสาขา หรือไม่ก็เสื้อยีน ทำให้ลุกของเธอดูห้าวและเซอร์ อีกทั้งยังสวมแว่นทรงกลมใหญ่โตปิดบังดวงตา รองเท้าผ้าใบเก่าๆ ตัวตนของเธอต่างกับคนที่บอสของเธอรักราวฟ้ากับเหว เฮ้ออออ แล้วเธอก็ถอนหายใจอย่างห่อเหี่ยวอีกครั้ง
“จูลลี่ คิดเรื่องเข้ามาเป็นพนักงานของบริษัทผมแล้วหรือยังครับ ถ้าคุณตกลงเราก็รันงานกันต่อเลยก็ได้ ไม่ต้องรอจนถึงรับปริญญานะครับ บริษัทพร้อมทำเรื่องให้คุณเข้าเป็นพนักงานได้เลย” เดวิดบอสของเธอเอ่ยนิ่งๆ ใบหน้าหล่อเหลา และท่าทีเรียบเฉยเคร่งครัดเวลาทำงานมองแล้วใจเต้นมาก
“ขอบคุณค่ะบอส แต่จูลยังไม่แน่ใจเลยค่ะ เพราะว่าถ้าจบอาจจะกลับไปอยู่ต่างจังหวัดค่ะ” เธอกระอักกระอ่วนทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้อยากทำงานที่นี่เพื่อเจอเขาทุกวัน แต่พอรู้ว่าเขามีคนรักแล้ว การเจอเขาทุกวันมันกลับทำให้เธอเจ็บปวด
“ทำไมล่ะ คุณอึดอัดเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ ถ้าเป็นเรื่องเงินเดือน” เขาเริ่มมีท่าทีหวาดวิตกเมื่อคิดว่าอาจไม่ได้พนักงานมือดีคนนี้เข้าทำงาน
“เปล่าค่ะบอส บอสดูแลจูลดีมากทั้งเงินเดือนและสวัสดิการค่ะ” เธอยิ้มเจื่อนและไม่กล้าพูดถึงสาเหตุที่จะไม่มาทำงานที่นี่
“แล้วคุณมีปัญหาอะไรที่จะไม่รับข้อเสนอของผม” สีหน้าเขาเริ่มเคร่งเครียดเมื่อถูกขัดใจ
“อะ เอ่อ ปัญหาส่วนตัวค่ะ” เธอพยายามบอกปัด
“อ้อ งั้นรึ แต่ผมก็อยากให้คุณเก็บไปคิดนะครับ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะบอส”
.
.
“จูลลล” เสียงเรียกของเพื่อนร่วมงาน คนหนึ่งเรียกเธอจากภวังค์
“พี่ภาค” จูลลี่หันไปหาต้นเสียง
เจ้าของร่างใหญ่หน้าตาคมคาย ภาคหรือภาคีเขาแก่กว่าเธอประมาณ 4-5 ปี และเป็นเพื่อนในที่ทำงานเพียงไม่กี่คนของเธอที่เธอคุยด้วยได้
“กลางวันนี้กินอะไรดี” ชายหนุ่มยิ้มแป้นถาม
“ข้าวขาหมู” เธอตอบเซงๆ
“ข้าวขาหมูอีกล่ะ ไม่กลัวอ้วนรึไง ผู้หญิงส่วนใหญ่เขาไม่ค่อยกินกันนะเว้ย”
“ก็ฉันกินแล้วมันไม่ยอมอ้วนสักทีนี่หน่า ถ้าพี่ไม่กินพี่ก็ไปหาคนอื่นมากินเป็นเพื่อนซะ ยังไงฉันก็จะไปร้านข้าวขาหมู”
“โอ๊ยๆๆ แค่นี้ทำมางอน ข้าวขาหมูก็ได้ว่ะ”
“จ้า จ้า ต้องงี้สิ สมกับเป็นเพื่อนแค่ไม่กี่คนของฉัน คิกๆ” เธอกระเซ้าต่อซิกกับเขา
“คร้าบ คร้าบ งั้นไป…” ก่อนภาคีจะพูดจบ น้ำเสียงหนักแน่นเคร่งครัดก็เอ่ยเรียบๆ
“คุณจูลลี่ บ่ายนี้ผมมีนัดลูกค้า คุณต้องไปกับผมเพื่อร่างแบบ” เธอตกใจเล็กน้อย ว่าทำไมเดวิดถึงมาใช้เธอทำหน้าที่นี้เพราะปกติหน้าที่นี้มีคนอื่นทำอยู่เยอะแยะ
“อะ เอ่อ บอสค่ะ จูลว่าบางทีจูลอาจจะไม่เหมาะ บอสน่าจะหาคนอื่น…”
“ทำไมไปกับผมแล้วอึดอัดหรือไง” เขามองมาหน้าตาไม่สบอารมณ์นัก เหมือนไปกินรังแตนมาเลย เขาเป็นอะไรของเขา เธอได้แต่คิดแล้วตอบไป
“ปะ เปล่าค่ะ” เธออ้อมแอ้มตอบ
“งั้นก็ดี เธอรีบไปทานข้าวกับแฟนหนุ่มแล้วมาเตรียมตัวได้แล้ว บ่ายโมงตรงล้อหมุน ห้ามสาย” น้ำเสียตรงนี้เจือไปด้วยการออกคำสั่ง
พี่ภาคไม่ใช่อย่างที่บอสคิดสักหน่อย เธออยากอธิบายไปแบบนี้แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายไปทำไม เพราะเขาก็คงไม่ได้มาสนใจว่าฉันจะเป็นอะไรกับใคร ชั่งเถอะ เธอตอบกลับไปแค่ว่า
“ค่ะ บอส”