ได Say ::
“เอามีดมาแทงกูเลย บอกกูทีว่านี่มันของใช้เด็ก กูนึกว่ารายการของออกไปนอกโลก เสด็จแม่มึงจดมาให้ยาวเกือบสองกิโล” ไอ้ไรบ่นอุบอิบเมื่อเห็นรายการซื้อของยาวเหยียด อยากให้มันช่วยหันมามองด้วย ผมอุ้มเด็ก และตอนนี้เด็กน้อยก็ไม่อยากให้ผมอุ้มแล้วด้วย
“ดิ้นทำไมเนี่ย”
“รก รก” เด็กน้อยชี้ไปที่อะไรสักอย่าง รก อะไรรกวะ ที่นี่ห้าง กว่าจะหาพิกัดปลายนิ้วของนิ้วเล็กๆเจอ ถึงได้รู้ว่า มันคือรถเข็น บางคำก็ชัด แต่ทำไมบางคำพูดไม่ชัด นี่ 3 ชวบแล้ว ไปโรงเรียนได้แล้ว ต้องชัดทุกคำแล้ว
“นี่ยุย เค้าเรียกว่ารถเข็น ปกติเวลาเข้าห้างมากับใคร” ผมอุ้มยุยมานั่งที่รถเข็นห้างสรรพสินค้า เธอดูตื่นเต้นดี ตื่นเต้นกับอะไรเล็กน้อยจังเลยนะเด็กเนี่ย
“อาม่าเจียงค่ะ”
“งั้นเอาใหม่ นี่เรียกว่า รถเข็น” ผมสอนเธอใหม่ ผมพูดนำให้เธอพูดตาม แม้เธอจะไม่ได้พูดเก่งเหมือนเจ้าแสบหลานชายผม แต่เธอก็พูดเป็นประโยคได้แล้ว
“รถเข็น ปาปา หนูยุยอยากกินหนม”
“เดี๋ยวแดดดี้ เดี๋ยวปาปา เอาสักอย่างเถอะแม่หนู สรุปหนูเนี่ยลูกใคร” ผมถามเด็กที่ตอนนี้มองผมตาแป๋ว ก่อนจะยิ้มให้ผมตาปิด ไม่รู้อะไรซะอย่างยิ้มเป็นอย่างเดียว ผมเข็นยุยจังมาที่จุดที่นัดกับไอ้ไร แต่ก็ต้องเจอมันยืนมองอะไรก็ไม่รู้
“นั่นมันแม่ของหนูยุยรึเปล่า ใส่ชุดซูโม่แจกใบปลิวร้านซูชิเนี่ย” ไอ้ไรชี้ไปที่หญิงสาวที่ใส่ชุดซูโม่แบบเป่าลม แล้วแจกใบปลิว ด้วยท่าแปลกๆ ยัยนี่มันโง่รึไง แค่ผล DNA ออกมาแล้วเป็นลูกของพวกผม เธอจะเรียกเงินเท่าไหร่ก็ได้ แต่เธอก็ไม่ยอมทำ มาทนทำงานเหนื่อยทำไม
“หม่าม้า หม่าม้า” หนูยุยพยายามจะไปหาคนเป็นแม่ที่ทำงานอยู่
“ได มึงพาลูก ไปหาแม่เค้าหน่อยดิ ฉันสงสาร” ไอ้ไรเกิดสงสารเด็กน้อยเลยขอให้ผมเข็นรถไปให้หนูยุยได้เจอแม่ เพราะตอนนี้หนูยุยแทบจะปีนออกจากรถแล้ว ผมเลยอาสาเป็นคนเข็นรถ ให้ไอ้ไรเข้าไปทักทายแม่เด็ก โดยทำทีเป็นคนไปรับใบปลิว
“หม่าม้าาาาา””
“ยุยจังงงงง หม่าม้าให้หนูยุย 1 ใบ เป็นเด็กดีนะคะ หม่าม้าทำงานแป๊บนะคะ มีเงินเยอะๆเมื่อไหร่ เราจะกลับมาอยู่ด้วยกันค่ะ” คนเป็นแม่ของยุย ทำเหมือนพวกผมไม่มีตัวตนเลย ชิ๊ จนแล้วยังอวดดีอีก ผมกำลังเข็นรถหนี แต่ไอ้ไรมันดันยืนคุยกับแม่เด็กเฉยเลย
“ฉันคิดว่าเธอคงลำบาก มีอะไรให้ช่วยบอกได้นะ อันนี้เบอร์ของฉัน” ไอ้ไรแจกนามบัตร แล้วก็เดินตามผมมาโดยไม่ลืมโปรยยิ้มตามสไตล์
“แกเอาจริงดิ จีบงั้นเหรอ”
“อื้ม แต่จะคบไหม ต้องขอฟันก่อนถึงจะบอกได้ มันหงุดหงิดที่แบบว่า มีลูกมาแล้ว แต่ดันจำไม่ได้เลย ว่าเคยมีอะไรกัน อยากเอาเป็นโมเม้นต์ไง อะไรมันทำให้กูเอาแรงจนถุงแตกได้”
ไอ้ทุเรศหวังฟัน แล้วมึงมั่นใจได้ยังไง ว่าลูกมึง อาจจะเป็นลูกกูก็ได้ มึงมันพวกเบื่อง่าย ลูกไม่ใช่ของเล่นนะโว้ย ที่เบื่อก็เอาไปดัดแปลงได้
“ไอ้ไร ฉันอยากเห็นผล DNA ฉันอยากเห็นให้ชัดๆไปเลย ทำไมแม่แกถึงไม่ยอมให้เราเห็น แต่ก็ยังผลักดันปัญหาเด็กยุยมาให้เรา โดยที่ตัวเองไม่มีอะไรยืนยัน แบบนี้มันไม่แฟร์เลย” ถ้ามาคนนั้นก็พ่อ คนนี้ก็พ่อ เด็กสับสนตายเลย ถ้าเป็นลูกไอ้ไร ผมจะได้ถอย ผมมีแฟนแล้ว แม้จะบอกให้เธอทำใจไปเลย ว่าผมอาจจะมีลูก ก็ไม่ชัดเจนสักทีว่าลูกใคร
“อยากจะรู้ต้องแฮกคอมบ้านแปะไค จะได้รู้ว่าแม่มึงเป็น ฤาษีแปลงสารรึเปล่า”
“ซื้อของเร็วๆเถอะ ฉันง่วง เหมือนเมื่อคืนจะเอาทั้งคืน เอาจริงๆ ไม่มีอารมณ์เลย เพราะอะไรวะ มันจะมีบ้างเล็กน้อยตอนครีสขัดขืน หรือฉันจะเป็นพวกซาดิสม์จริงๆ”
“มันไม่ถูกจริตละม้าง หรือไม่มึงก็ชอบแซนวิส” ไอ้ไรพูดออกมาแบบติดตลก
“แซนวิส หนูยุยชอบแซนวิส” ประโยคของเด็กน้อยทำให้เริ่มปวดหัวแล้วสิ จะเลี้ยงยังไง ถ้าแม่หนูนี่จะพูดตามตลอดแบบนี้
ผมกับไอ้ไรไม่เคยเดินเลยซุปเปอร์มาร์เก็ตเนี่ย ปกติใช้แต่สาวใช้มา แต่นี่คุณนายแม่ดันบังคับให้พวกเรามาเอง อะไรอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ จุดแรกที่เราเข้ามาเลยคือช่องขนม ตอนนี้เรามีเจ้านายน้อยๆชี้เอานู่นเอานี่ไม่หยุด
“ปาปา ดูนี่” เสียงเรียกทำให้ผมไปมอง เด็กหญิงที่นั่งอยู่บนรถเข็น เธอแลบลิ้นทำหน้าเรียนแบบกล่องขนมที่ผมเพิ่งจะส่งให้เธอ
หึหึ ทะเล้นนัก คิดว่าน่ารักรึไง หนูอะหน้าตาดีได้พ่อ หัดรู้ไว้ซะด้วย ผมยิ้มให้เด็กที่นั่งอยู่ในรถเข็น
“เหมือนมากค่ะ” ผมพูดกับเด็กหญิงที่ตอนนี้ยิ้มอย่างอารมณ์ดี
แต่พอไอ้ไรเดินมา เธอก็ทำให้ไอ้ไรดูด้วย สร้างเสียงหัวเราะให้คนที่เห็นอย่างมาก หรือจะเป็นลูกไอ้ไร มันเองก็เป็นคนอารมณ์ดี ต้องรู้ความจริงให้ได้แล้วสิ

“ต่อไปก็แพมเพิด นม หมอน เสื้อผ้า ขวดนม บราๆๆๆๆ” ไอ้ไรเริ่มถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เพราะมันเยอะแยะเหลือเกิน ของใช้เด็กเนี่ย
Rrrrrrrr Rrrrrrrr Rrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ของไอ้ไรดังขึ้น มันก็กดรับโทรศัพท์ทันที มันทำให้เรารู้ว่า หม่าม้าของหนูยุยจะมาช่วยเราซื้อของ เมื่อกี้ยังทำเป็นเราไม่มีตัวตนอยู่เลย ขี้อ่อย เขาให้เบอร์ก็โทรมาเลย ยังไม่ถึง 2 ชั่วโมงด้วยซ้ำ
“อย่าทำตัวไม่น่ารักนะไอ้ได ให้ฉันจีบก่อน ไม่งั้นคืนนี้มึงกับกูซื้อของไม่เสร็จ” ไอ้ไรวางสายก็หันมามองผมด้วยสายตาเย็นเฉียบ
“เรื่องของแก”
ไม่นานแม่ของหนูยุยก็วิ่งมา เธอไม่แต่งหน้าเลยแฮะ ดูใสดีจัง ผมมองหญิงสาวที่พอมองของในรายการก็จัดการเรื่องของได้ทันที เธออธิบายทุกอย่างให้เราฟัง ทั้งยี่ห้อนม ยี่ห้อแพมเพิด ของสารพัดที่ถูกจดมา
“หนูยุยไม่ได้ใส่แพมเพิดตลอดนะคะ เธอจะใส่แค่ตอนนอน เพราะห้องน้ำที่อพาร์ตเมนต์ค่อนข้างน่ากลัวค่ะ หนูยุยเลยไม่กล้าเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน อ่อ ฝากหน่อยได้ไหมคะ คือ หนูยุยของฉันไม่ค่อยกล้านอนคนเดียว เธอเป็นคนกลัวผีมากเลย”
“ที่ผ่านมา เธอมีสาวใช้นอนด้วย ไม่ต้องห่วง” ไอ้ไรอธิบาย ว่าลูกสาวของเธอไม่ได้นอนคนเดียว
“งั้นเหรอคะ ดีใจจังเลย ที่ทางคุณดูแลอย่างดี”
ผมมองหนูยุยที่มองผมอย่างอ้อนวอน แล้วชี้ลงที่พื้น อยากลงเหรอ แล้วทำไมไม่พูด เมื่อกี้ยังช่างจ้ออยู่เลย เอาใจยากนะแม่หนู ผมอุ้มเด็กน้อยออกจากรถเข็น
“ทำไมไม่พูด”
“หม่าม้าไม่ให้พูดแทรก ยุยจะลง” หนูยุยดิ้นจะลงจากอ้อมแขนของผม ผมเลยต้องยอมวางเธอลงที่พื้น ให้เธอวิ่งไปหาแม่ของเธอ
วุ่นวายชะมัด ผมนี่โคตรจะง่วงนอนเลย ฮ้าววววว ต้องมาเดินตามอีกนานไหม อยากกลับไปนอนจะแย่แล้ว ความรู้สึกงี่เง่านี่มันคืออะไร ความรู้สึกแบบว่าตัวเองเป็นคนนอกของครอบครัวเขาเนี่ย ผมได้แต่เข็นรถตามพ่อแม่ลูกเค้าแบบเงียบๆ
“อ่ออออ แบบนี้นี่เอง เข้าใจแล้ว งั้นฉันจะลองเปลี่ยนให้ยุยจังมานอนห้องฉัน ก็ได้ใช่ไหม จะเป็นอะไรไหม ถ้าจะส่งรูปตอนลูกนอนไปให้เธอดูด้วย” ไอ้ไรเดินหน้าจีบแล้วสินะ ไม่รอดแน่ สาวๆที่ไหนก็โดนมันตกได้ทุกทีนั่นแหละ แล้วยัยนี่ก็คงไม่รอด
“จริงเหรอคะ ดีจังเลย คุณใจดีกว่าที่ฉันคิดไว้” ยัยนี่ก็ซื่อบื้อ คิดว่าเขาหวังอะไรแม่คุณ
“แล้วนี่ เสร็จนี่เราไป.....” ไอ้ไรพยายามจะชวนแม่เด็กไปต่อ แต่เธอกลับมองนาฬิกา แล้วมีอาการรีบร้อน
“ขอโทษค่ะ ฉันต้องไปทำงานร้านสะดวกซื้อแล้ว ยุยจัง อยู่กับปาปาเค้าน้า หม่ามี้ต้องไปทำงานต่อก่อน เดี๋ยวหม่ามี้จะโทรหานะคะ ปาปา เค้าบอกแล้ว ว่าหม่ามี้โทรหาได้” คนเป็นแม่ก้มลงคุยกับลูกแล้วลูบหัวลูกของตัวเองน้อยๆ
“ค่ะ” สีหน้าเด็กน้อยเหมือนจะร้องไห้ ที่แม่ของเธอจะไปทำงานที่อื่นต่อ แต่ถึงกับเศร้าเลยเหรอ
“ไปนะคะคุณไร” ผู้หญิงที่ชื่อนีอาบอกลาไอ้ไร แต่เมินผม ทำเหมือนกับผมเป็นอากาศธาตุไปเลย อะไร??? ทำไม?? เฮ้ยยย เธอรู้ไหมเนี่ยผมเป็นใคร ตอนแรกกะว่าจะสงสารที่จะโดนไอ้ไรหลอกฟัน เออดี ถือว่าสมควรก็แล้ว ผู้หญิงอวดดี ชิ๊
“ปาปา หนูยุยอยากไปเด็ดดอกไม้ จะไม่ไหวแล้วค่ะ” แล้วประโยคแปลกๆก็ออกมาจากปากของเด็กน้อย
“ไอ้ได อะไรคือเด็ดดอกไม้วะ”
“จะรู้ไหมล่ะ แกเป็นพ่อนี่ เดาสิ”
แล้วยุยจังก็ยืนบิด แล้วชี้ไปที่เป้าของตัวเอง มันทำให้ผมกับไอ้ไรมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าโยนงานให้กันในทันที การที่จะให้ผมพาเธอเข้าห้องน้ำ มันก็ดูจะน่าอายเกินไป แต่หน้าจะร้องไห้ของเด็กน้อยทำให้ผมต้องหิ้วเธอแล้ว วิ่ง!!!!!! ไม่ใช่กลัวเธอจะร้องไห้ แต่ผมไม่ชอบเสียงเด็กร้องไห้ ผมส่งหนูยุยที่หน้าห้องน้ำหญิง แต่เธอดันไม่กล้าห้องน้ำคนเดียว ที่พึ่งเดียวคือ ห้อง น้ำ ชายยยยยยย
“ยุ่งยาก” ผมพูดกับเด็กน้อย แต่ก็อุ้มเธอเข้ามาในห้องน้ำชายที่มันดันเต็ม แต่หน้าของหนูยุยคือไม่ไหวแล้ว
ผมเลยตัดสินใจทุบประตู ที่ตอนนี้มีคนอยู่ข้างใน อั้นไว้ก่อนนะอีหนู เธอเปียกฉี่ ฉันไม่อุ้มนะ
“ปึงๆๆๆๆๆๆ ออกมาให้เด็กเข้าห้องน้ำก่อนดิ๊” ผมตะโกนให้ไอ้คนในห้องน้ำมันรีบจัดการตัวเอง แล้วออกมาจากห้องน้ำสักที
“เรื่องอะไรวะ รอดิวะ” ไอ้เวรที่อยู่ในห้องน้ำตะโกนออกมา
“มึงไม่ออกมากูยิง ลูกกูจะเด็ดดอกไม้” คำขู่ของผมมันได้ผลไอ้คนในห้องน้ำมันกดชักโครก
“มึงเป็นใครวะ” เจ้าของห้องน้ำเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างอารมณ์เสีย แต่พอเห็นหน้าผมมันหุบปากไปเลย แน่นอนไม่มีใครไม่รู้จักผม ผมเป็นเจ้าของกาสิโนที่ใหญ่ที่สุด ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
“ลูกกูจะเด็ดดอกไม้ไง มึงจะมีปัญหากับกูไหม” ผมปล่อยยุยจังเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะหันมาหาเรื่องไอ้คนที่มัน อยากรู้ว่าผมเป็นใคร เดี๋ยวป๊าดดดตบซะเลย มึงจะแอบดูลูกกูเข้าห้องน้ำรึไง
“ลูกมาเฟียจะเด็ดดอกไม้ นี่ยิงกันเลยเหรออออออ ขอให้เด็ดดอกไม้ให้สนุกนะครับ คุณหนู”
เฮ้ออออออ ชีวิตโคตรวุ่นวาย ผมต้องรู้ให้ได้เลย แม่หนูนี่ลูกใคร ผมจะได้ไปใช้ชีวิตปกติซะที ฮ้าวววว ง่วงนอนโคตร อยากกลับบ้านสุดๆ
นีอา Say ::
23:12 น.
“ยินดีต้อนรับค่ะ”
“ทำงานวันนี้ดูสนุกจังเลยนะ ทำไมมีอะไรดีดี บอกพี่บ้างสิ” พี่เจเพื่อนร่วมงานถามฉันที่ตอนนี้มีไฟทำงานสุดๆ เพราะอะไรนะเหรอ เพราะคุณไรส่งภาพลูกตอนหลับมาให้ฉันดูแล้ว เห็นลูกกินอิ่มนอนหลับ มีเหรอที่ฉันไม่ยินดี
“วันนี้ได้เจอลูกน่ะค่ะพี่เจ คืนนี้ทำงานทั้งคืนไปเลย”
“ไฟแรงขนาดนี้ งั้นเฝ้าเคาน์เตอร์ไปเลย พี่จะไปเอาของมาเติม โอเคน้า” พี่เจชี้ให้ฉันดูแลเค้าน์เตอร์ เพื่อให้ฉันทำบ่อยๆจะได้เก่งๆ
แต่พอยืนขายไปได้สักพัก บุหรี่มันก็หมด ฉันเลยเอาของที่เบิกมารอไว้แล้ว เต็มเข้าชั้นให้มันเต็ม เสียงตื้ออดืออออ ของเซ็นเซอร์ประตู ทำให้รู้ว่ามีลูกค้าเข้า
“ยินดีต้อนรับค่ะ” ฉันเอ่ยต้อนรับ โดยที่ตัวเองยังมุดหาบุหรี่อยู่ใต้เคาน์เตอร์
“คุณ คุณ” เสียงของลูกค้าที่เรียก มันทำให้ฉันต้องละทุกอย่างขึ้นมาคิดเงินก่อน แต่ฉันต้องตกใจ เพราะมันคือ!!!!!
“คุณ!!!!!!” นี่คนพี่นี่หน่า ใส่แว่นต้องใช่สิ ก็คุณไรนอนกับลูกเรา
“เธอนั่นเอง มีที่ใหญ่กว่านี้ไหม 52 มันใส่ไม่ได้ มันเล็กไป อยากได้ 56 มีกี่กล่องเอาหมด” คนที่พูดเคาะลงที่กล่องถุงยางอนามัย ทำให้ฉันต้องมุดลงเคาน์เตอร์ไปหาอะไรที่มันใหญ่กว่า คนหรือช้าง 52 มันก็มาตรฐานแล้ว ฉันลุกขึ้นมาเพื่อส่งของที่เค้าต้องการให้เขา แต่กลับเจอเขาที่ถอดแว่นออกมาเช็ด
“มีแค่นี้ค่ะ”
“ไดเสร็จรึยังคะ” เสียงของผู้หญิงที่ตะโกนเข้ามาตามของหญิงสาว ทำให้ฉันรู้ได้ทันทีเลย เอาไปใช้กับผู้หญิงคนนี้แน่ๆ
“เสร็จแล้วจ้า เดี๋ยวตามไปนะ เท่าไหร่คนสวย”
“127z ค่ะ”
“ไม่ต้องทอน คนสวย” แบงค์ 1,000z ถูกส่งให้ฉัน พร้อมกับรอยยิ้มหวาน เขาจำได้รึเปล่า เมื่อตอนกลางวันเพิ่งจะดูถูกฉัน ฉันรีบคิดแล้วเอาเงินทอน ไปยัดใส่มือของเขา ฉันไม่อยากได้เงินของคนที่ดูถูกฉันหรอกนะ