Rai Say ::
“ไร เจ้าไดไปไหน” คำถามจากคนเป็นพ่อทำให้แฝดน้องอย่างผมตอบไม่ถูก ไม่ใช่เพราะกลัวความผิด แต่เพราะเด็กหญิงตัวน้อยที่ผมเอาไปทิ้ง นั้นกลับมาที่บ้านอีกแล้ว แถมยังยิ้มหวานโชว์ความสดใสให้กับทุกคน
“ผล DNA ออกมาแล้วนะ” มี้ของผมพูดขึ้นมา กลางโต๊ะอาหาร ทำเอาข้าวเช้าของผมมันดูจืดไปเลย
“ไม่ใช่ ใช่ไหมมี้”
“มี้เพิ่งได้ผลมาจากผิงผิง เมื่อชั่วโมงที่แล้ว ผลมันบอกว่าใช่ พวกแกเป็นพ่อของยุยจังแน่นอน แต่ฉันไม่บอกว่าเป็นใคร จนกว่าไอ้ไดจะกลับมา นี่มันก็ยังไม่ทำให้ฉันโมโห!!!!!! เท่ากับพวกแก!!!!! เอาหลานฉันไปทิ้งข้างถนน ไปเอาตัวไอ้ไดกลับมา ฉันจะด่าพวกแกทีเดียว ถ้าแกเอากลับมาไม่ได้ ฉันจะให้แกเลี้ยงยุยจังคนเดียว!!!!!!” มี้ผมปรี๊ดด ปรอทแตก ว้ากออกมาเป็นชุด
“ไปเอาตัวไอ้ไดกลับมา ถ้ามันไม่กลับ ฉันจะให้พวกแก แต่งกับหนูนีอา เค้าไปเลย” คนเป็นพ่อเสริมประโยคน่าขนลุก จนผมต้องรีบกดโทรศัพท์โทรหาไอ้ได เสียภาพพจน์ เสือขาวแห่งไป๋กรุ๊ปหมด ให้ป๊าม้ามาว้ากใส่แบบนี้ แล้วผมจะไม่ยอมโดนด่าคนเดียว
[ Dai Calling..... ] ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดด ตู๊ดดดดด
สายสนทนา
[ มึงจะโทรมาทำไม กูจะนอน ] ประโยคที่ผิดปกติ มันทำให้ผมรู้ได้เลย ว่าต้องมีปัญหากับแว่นตา มันอะสันดานเสีย แต่เพราะใครๆก็บอกว่าเราเหมือนกัน มันเลยอยากหาอะไรที่เราจะไม่เหมือนกัน มันก็เลยเสือกเอาแว่นมาใส่ แล้วสร้างภาพดูดี ซ่อนความชั่วร้ายของตัวเองไว้ข้างในแว่นตานั่น ถ้ามันกูมึงออกมาแบบนี้ แสดงว่าแว่นโง่ๆของมันไม่อยู่
“กูจะไปรับ”
จบสายสนทนา
ผมขับรถไปที่บ้านของคริส แต่กดออดยังไงก็ไม่มีใครเปิดประตู ไอ้เวร กูจะไม่ยอมเลี้ยงเด็กนั่นคนเดียว ถ้ามันเกิดจากถุงยางแตก ยังไงก็ต้องนับผิดชอบร่วมกัน ผมกดออดบ้านคริสอยู่นาน เมื่อไหร่จะมาเปิดสักทีวะ หรือว่ามันฆ่านางแบบนั่นตายหมกบ้านไปแล้ว ไอ้เวรนี่ยิ่งชอบใช้ความรุนแรงอยู่ ผมตัดสินใจเปิดเข้าไปในบ้านอย่างวิสาสะ แต่เข้ามาในบ้านก็เจอข้าวของที่กระจัดกระจาย อย่างกับโจรขึ้นบ้าน
“มึงรุนแรงเนอะไอ้ได!!!!!” ผมเจอแว่นเจ้าปัญหาของมันที่ตกอยู่ที่พื้น แสดงว่าสิ่งที่ผมคิดเป็นความจริง นี่มึงล่อกันตั้งแต่หน้าบ้านเลยรึไง ทำไมกูไม่เห็นจะมีอารมณ์เลยวะ แต่เมื่อคืนผมก็ได้กินขนมนิหว่า หรือมันอาจจะมาตอนที่เราไม่รู้
เชื่อเรื่องสายสัมพันธ์ของแฝดไหม มันป่วยผมป่วย มันมีอารมณ์ผมก็มี มันโกรธผมก็รับรู้ได้ว่ามันโกรธ แต่ตอนนี้ต้องไปทำให้มันเป็นปกติก่อน ผมควัาแว่นตาแล้ววิ่งขึ้นชั้นบนทันที แม้เจ้าของบ้านจะไม่ได้เชิญ
“ไดเบาหน่อย อื้อออ ได อู้วววว อ๊อกก ลึกไป” เสียงจากห้องสุดทางเดิน ทำให้ผมเปิดประตูเข้าไปทันที ไม่สนว่ามันจะทำอะไรอยู่ มึงมีหน้ามาอ๊อกกัน ในตอนที่กูจะต้องเลี้ยงเด็ก ขืนปล่อยไว้แบบนี้ มันก็ได้อ๊อกกันทั้งวัน
ปึง!!!!
“กรี๊ดดดดด ได!!!!! น้องชายคุณเข้ามาได้ยังไง” คริสตกใจหยิบผ้านวมผืนใหญ่มาคลุมกายเอาไว้ นมนิดเดียวเอง ไม่ปลื้ม
“มึงหัดรอเป็นไหมวะ ต่อคริส...ไดขออีกนิด”
เฮ้อออออ ผมต้องรองั้นรึไง!!!!!!! ผมส่งแว่นตาให้มัน แต่มันไม่ยอมใส่ จนผมทนไม่ไหว จับยัดเข้าไปในตามันเลยซะเลย มันไม่หายหรอกมันต้องมีการกระตุ้นสติสักนิด เพี้ยะ!!!!! ผ่ามือหนักๆตบผัวะเข้าหน้า เรียกพี่ชายที่แสนดีคืนมาหน่อย ตบครั้งแรกดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น สงสัยต้องอีกที ผมง้างมือเต็มที่เลย กะว่าครั้งนี้หน้าสั่นแน่ๆ
“พอ!!!! ห่า หน้าสั่นไปหมดละ ออกไปก่อนไป ให้คริสใส่เสื้อผ้าก่อน”
“มึง กรุณาฟังกูนะ เด็กยุย มันคือลูกเรา ไอ้เวร กูเครียดจะแย่ มึงเสือกมาฟันหญิง” ผมพูดกับมันเสียงดัง ให้มันได้สติหน่อย
“แกพูดว่าไงนะ”
“ผล DNA ออกแล้ว มันใช่ มึงได้ยินชัดไหม หรือกูต้องต่อไมค์ มี้ให้กูมาตาม ถ้ากูตามมึงไม่ได้ กูต้องรับผิดชอบ กลับไปกับกูเดี๋ยวนี้เลย บอกเลยกูจะไม่ยอมโดนเล่นเรื่องนี้คนเดียว”
“บอกเลยกูอึน ในหัวกูตอนนี้เบลอไปหมด แต่มึงช่วยออกไปก่อนได้ไหม เกรงใจผู้หญิงบ้าง ออกไป!!!!”
มองผมไม่ที่คริส ที่ตอนนี้นอนอยู่ข้างไอ้ไดใต้ผ้านวม แต่ก็ดูเหมือนเธอจะไม่ได้อายอะไรมากมาย ชิ๊ ไปรอข้างนอกก็ได้ หวงไม่เข้าเรื่อง ผมเดินลงมาข้างล่างเพิ่งจะรู้ว่าบ้านนี้กล้องวงจรปิดเยอะแยะไปหมด แล้วมึงเล่นกินกันตั้งแต่หน้าบ้าน
อ๊ะ!!!!! ไอ้ชั่ว ไล่กูมาเก็บงานสินะ ผมเดินหาเครื่อง DVR ว่ามันอยู่ที่ไหน แน่นอนมันก็จะตั้งอยู่ใกล้ๆคอมพิวเตอร์นั่นแหละ เพราะมันจะได้ง่ายต่อการใช้งาน ผมจัดการเดินหาห้องทำงาน ซึ่งบ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่ เปิดแค่สองประตูก็เจอแล้ว จะให้มาลบทีละจุดเสียเวลา เมื่อเจอเครื่อง DVR ผมเลยขโมยฮาร์ดดิสก์มาซะเลย สิ้นเรื่อง จบ!!!!
นีอา Say ::
“หนูชื่อนีอาสินะ ผลDNA ออกมาแล้ว หนูยุยเป็นหลานฉันจริงๆ ทำไมเธอเพิ่งมาบอก หรือทำไมเธอถึงเพิ่งมาแสดงตัว” คุณผู้ชายเจ้าของบ้าน ถามฉัน แม้ตอนนี้ในห้องนี้จะมีแค่ฉัน เขาและภรรยา แต่มันก็ยากที่จะพูดเรื่องที่ฉันเก็บเอาไว้ในใจ
“เพราะหนูไม่รู้จะพูดยังไง หนูเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก หนูโง่ใช่ไหมคะ หนูก็โง่จริงๆ ยิ่งพูด หนูก็ยิ่งดูเป็นผู้หญิงสำส่อน หนูคิดว่า หนูไม่ควรจะพูดมันออกมา ให้เรื่องคืนนั้นมันตายไปกับหนูดีกว่า หนูดีใจนะคะที่ผลตรวจออกมาแล้ว ฝากดูยุยจังของหนูหน่อยนะคะ ยุยจังเป็นเด็กเลี้ยงง่ายมากเลย อย่าเอาไปทิ้งอีกเลยนะคะ” ฉันขอร้องออกไปตามตรง แต่ตอนนี้ฉันลำบากไม่อยากเอาลูกไปลำบากด้วย
“ก่อนหน้านี้ทำงานยังไง ถ้าอยู่ตัวคนเดียว” คุณนายถามฉันขึ้นมาด้วยความสงสัย
“เอาลูกไปทำงานด้วยค่ะ หนูแบกลูกขึ้นหลังไปทำงานด้วย ตอนช่วงงานยุ่งๆ ก็มีพี่ที่บริษัทช่วยดูให้ค่ะ ยุยจังเป็นเด็กเลี้ยงง่าย อยู่กับใครก็ได้”
“แล้วที่บ้านเธอล่ะ”
“เตี่ยกับม้าโกรธมาก แต่หนูก็ยืนยันจะเอายุยจังไว้ ฟังดูโง่ใช่ไหมคะ ที่ยอมลำบาก หนูไปนะคะ หนูต้องไปทำงาน ตอนนี้หนูทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อ ไม่ไกลจากที่นี่ ยุยจังมีปัญหาอะไรโทรบอกหนูได้เลยนะคะ” ฉันไม่ได้มาเพื่อเรียกร้อง ฉันแค่ฝากจริงๆ มีที่พักแล้ว ฉันก็จะไป ถ้าอยากจะช่วยเหลือหลาน ก็ส่งเงินค่าเลี้ยงดูมาก็พอ ฉันตั้งใจแล้ว ว่าจะเลี้ยงยุยจังของฉันเอง
“นีอา ให้ยุยจังอยู่ที่นี่เลยก็ได้นะ” คุณนายพูดกับฉัน แต่ฉันไม่ได้อยากให้
“ไม่ ค่ะ ขอฝากแค่ 1 เดือนค่ะ ขอแค่หนูได้เงินเดือน มีที่อยู่ให้หนูยุย หนูคุยกับคุณลุงเจ้าของร้านแล้วค่ะ หนูสามารถ พาลูกไปทำงานได้” ฉันพยายามอธิบายได้
“แต่เด็กคนนี้เป็นหลานฉันเลยนะ!!!!” คุณเจ้าของบ้านเสียงดังจนฉันตกใจ แม้แต่คุณนายที่เป็นภรรยาก็ยังตกใจ จนเดินมาแตะไหล่คนเป็นสามี
“อย่าไปบีบคั้นเธอเลยค่ะ เธอเลี้ยงลูกมา เราไม่ได้เลี้ยง ตอนนี้เราแค่ทำได้แค่ดูแลตามที่แม่เค้าเห็นสมควร หนูว่าจริงไหมนีอา ไปทำงานเถอะนะ ไม่ต้องห่วงเลย ม้าจะดูแลยุยจังให้เอง ถ้ามีอะไรอยากให้ช่วยบอกนะ ม้าเข้าใจ” ประโยคของคุณนาย เหมือนนางฟ้าที่มาโปรด ฉันอยากจะกระโดดกอดจริงๆถ้าไม่กลัวตาย
“ขอบคุณนะคะ หนูซึ้งใจมากเลยค่ะ”
“จ้า ฉันก็ดีใจนะที่มีหลาน แต่ฉันขอถามหน่อยได้ไหม หนูวางแผนการศึกษายังไง ถ้าไม่รังเกียจให้ฉันจะส่งหนูยุยเข้าโรงเรียน ค่าใช้จ่ายฉันจะจัดการเอง จนเรียนจบ” คุณนายจะส่งหนูยุยให้ได้เรียนเหรอออออ
“เหมือนกับนางฟ้ามาโปรดเลยค่ะ”
“จ้าาาา ฉันยินดีมากๆ ฉันพร้อมจะส่งเสียหนูยุยจนเรียนจบ แล้ว.......” ยังไม่ทันที่คุณนายจะพูดเรื่อบเรียนจบ พวกคุณได คุณไรก็กลับมา
ฉันอยากจะไปจากตรงนี้จังเลย ไม่อยากอยู่แล้ว ฉันจะลุกขึ้น เพื่อขอตัวกลับ แต่โดนคุณนายจับข้อมือเอาไว้
“มี้ เราขอดูผลตรวจ จะได้รู้กันไปเลย ว่าใครเป็นพ่อเด็ก เถียงกับไอ้ไดมาตลอดทาง ปวดประสาท” เสียงโวยวายทันทีที่เข้ามา มันทำให้ฉันกลัว จนต้องขยับจนไปติดคุณนาย
“กลัวเหรอ”
“ค่ะ”
“กลัวคนไหน” คุณนายยังคงกระซิบถามฉัน แต่ฉันเองก็ไม่เข้าใจว่ากลัวคนไหน คนที่โวยวายถึงจะดูฉุนเฉียว แต่แววตาเขาชัดเจน คนที่ใส่แว่นน่ากลัว แม้ไม่ต้องพูดอะไร
“หนูไม่รู้”
ฉันฟังพวกแฝดถามคุณนายเรื่องผลตรวจ DNA ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้ถามว่าผลเป็นใคร เพราะฉันคิดว่ามันไม่สำคัญ แล้วฉันก็ไม่ได้อยากรู้ ฉันไม่ได้จะให้ยุยจังอยู่ที่นี่นาน ยังไงลูกก็ต้องอยู่กับฉัน ฉันสัญญากับยุยกว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปเลย
“พวกแกมีอะไรกับผู้หญิงเคยจำได้บ้างไหม มันมีพร้อมๆกัน ก็ต้องรับผิดชอบด้วยกันไอ้พวกลูกแมว”
“ผู้หญิงสมยอมเอง โทษพวกเราได้ยังไง เธอเองก็คงสมยอม ไม่งั้นก็คงจะนอนพร้อมกันไม่ได้ จะเรียกร้องอะไรได้” คำที่เหมือนดูถูกนี่มันคืออะไร ผู้ชายใส่แว่นคนนี้ พูดจาได้น่ารังเกียจจริงๆ
“ขอโทษค่ะคุณนายหนูขอตัวนะคะ หนูไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว” ฉันขอตัวลาทันที ก็ฉันไม่อยากทนฟังคำดูถูกพวกนั้น ทั้งๆที่ฉัน ไม่เคยทำตัวแบบนั้นสักหน่อย ฉันไม่ได้ชอบพวกคุณ แล้วฉัน!!!! ก็ไม่ได้สมยอม
ได Say ::
“อะไรของผู้หญิงคนนี้ คิดจะมาก็มาคิดจะไปก็ไป” ผมมองคนที่จู่ๆก็วิ่งออกนอกประตูไป ทิ้งให้ไว้แต่ความงงงวย ที่ตอนนี้ผมเองงงงง แล้วก็งง ยังไม่ได้คำตอบอะไรจากแม่ของผมเลย
“สรุปลูกใครมี้” ไอ้ไรย้ำถาม
“ไม่บอก พวกแกนี่มันโคตรนิสัยเสียเลย ไปพูดแบบนั้นกับผู้หญิงได้ยังไง เลี้ยงกันไป 1 เดือนนับจากวันนี้ พวกแกต้องเลี้ยงลูกเอง รับผิดชอบชีวิตที่พวกแกสร้างเอง ไม่งั้นลืมเรื่องอื่นไปได้เลย!!!!! สำนึกผิดที่เอาลูกตัวเองไปทิ้งข้างถนนด้วย!!!!” มี้ว้ากใส่พวกเราอย่างต่อเนื่อง จากที่ผมโดนไอ้ไรตบจนหน้าชา ตอนนี้หูชาด้วย ความโมโหโทโสที่นายแม่นรินทร์มี ทำให้ขาใหญ่ๆเดินปึงปังออกจากห้องไป พวกเราไม่ได้กลัวมี้นะ แต่กลัวคนที่อยู่ทีมมี้มากกว่า
“ดี๊ไม่ตกใจเลยเหรอ” ไอ้ไรถามชายผู้ให้กำเนิดเรามา ทำไมเขาถึงได้นิ่งแบบนี้
“1 เดือน แม่เค้าจะมาเอาลูกพวกแกคืน กรอบโกยซะ ตอนหม่ามี้เค้ารู้ว่าท้องพวกแก เค้าบอกฉันว่าเค้ากำลังอุ้มท้องปีศาจน้อยๆสองตัว ตั้งแต่ตอนนั้น ฉันก็ทำใจมาตลอด ฉันนี่ปวดตับไปหมดแล้ว”
“ป๊าบอกได้ไหม ใครเป็นพ่อเด็ก” ผมถามป๊าไปตามตรง
“จะใคร ยังไงพวกแกก็สวิงกิ้งกันอยู่แล้ว จะถามเอาอะไร รับผิดชอบร่วมกันไป” คอเสื้อของเราทั้งคู่ถูกดึงแล้วลากมาในห้องที่อยู่ชั้นบน บ้านผมมี 4 ชั้น ชั้นแรกเป็นห้องทำงานของป๊าทั้งหมด ป๊าผมเคยเป็นแฮกเกอร์ชื่อดังก้องโลกที่ตอนนี้เลิกทุกอย่าง เพื่อคุณนายนรินทร์ แม่ของผมเอง
“หนูยุยของย่า ตอนนี้น้า ย่าจะให้แดดดี้เค้าพาไปซื้อของ ซื้อเสื้อผ้า ซื้อขนม ซื้อของเล่น ดีไหม” คุณนายนรินทร์ชี้มาที่เรา แต่ตอนนี้ผมมีความรู้สึกเหมือนคนไม่ได้นอน ให้ไอ้ไรไปก็แล้วกัน
“ดีคะ แต่มีแดดดี้ จ๋องคน”
“หนูยุยชอบคนไหน” เดี๋ยวคุณนายนรินทร์ เลือกพ่อจากความชอบได้เหรอ แล้วเด็กน้อยก็รีบคลานลงมาจากเตียง แล้วเดินมามองหน้าเรา ผมเลยมองกลับซะเลย หาเรื่องรึไง นอกจากเด็กน้อยจะไม่กลัว เธอส่งยิ้มหวานให้ผมด้วย
“แห่ะๆ หนูยุยชอบคนนี้” ปลายนิ้วเล็กๆชี้มาที่ผม ไม่ต้องมาชอบผม ผมเลยดันนิ้วที่ชี้มาที่ผม ให้ชี้ไปที่ไอ้ไร
“เดี๋ยวป้าดจับกินตับซะเลย” ขู่เด็ก ผิดไหมวะ
“ฮ่าๆ คุงย่ะ แดดดี้ตลก อุ้ม อุ้มๆ” เด็กน้อยชูมือขึ้นสองข้าง เพื่อให้ผมอุ้มเขาขึ้นมา แล้วทำไมผมต้องอุ้มด้วย ผมมองตาใสแจ๋ว แล้วทำไมผมต้องมาเลี้ยงเด็กด้วยละเนี่ยยยยยย อะไรก็แล้วแต่ขอไปนอนก่อนได้ไหม แล้วนี่จะมาชูมือให้อุ้มถึงเมื่อไหร่
“ไม่อุ้ม” ผมทำเสียงแข็งใส่เด็ก
“ขี่หลัง” พอไม่ได้อุ้ม เด็กโลภมากก็จะขี่หลัง
“ไม่ให้ขี่”
“กอด”
“ไม่กอดโว้ยยยยยย”
“ฮึก ฮึก แง๊!!!!”
โอ้ยยยยย ร้องไห้ทำไมไม่ชอบเด็กร้องไห้โว้ยยยยยย ผมรีบอุ้มเด็กที่ส่งเสียงปวดประสาทขึ้นมาจนเธอเงียบกริบ แล้วก็กอดผมเอาไว้แน่น จะให้ลงก็ไม่ยอมลงเกาะแน่นเป็นปลิง ภาพของลูกลิงนี่ทำให้ไอ้ไรต้องหัวเราะก๊ากออกมา ทำไมผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย
“นั่นแหละตามนั้น หลานฉันชอบแก พาไปซื้อของใช้จำเป็นด้วย จะจดรายชื่อของที่ไปซื้อให้”
“ขออุ้มบ้างได้ไหมหนูยุย เมื่อวานแดดดี้ขอโทษน้า ไอ้ชั่วบางตัวมันปล่อยหนูลงรถ แดดดี้กลับมาหาหนู แดดดี้ก็ไม่เจอแล้ว” เพียงแค่ไอ้ไรขออุ้ม ยุยก็อ้าแขนยอมให้เขาอุ้มเฉยๆ อะไรวะ ง่ายๆแบบนี้เลย ใจง่ายชะมัด
“ไอ้เวร เด็กสับสน ถ้าเกิดเป็นฉันลูกฉันอะ”
“ไอ้เวร” ประโยคที่เด็กไม่ควรพูด ดันออกมาจากปากของเด็กน้อยเพียงเพราะผมเป็นคนพูด โอ้ยยยยย ยุ่งยาก จะต้องพูดเพราะๆใช่ไหม!!!! ผมได้แต่มองหน้าไอ้ไร เพราะงานนี้ไม่ง่ายอีกแล้วล่ะ
“ไม่ใช่ Marvel เคยดูไหม แบบ ไอรอนแมน กัปตันอเมริกา ฮัค” ผมรีบแถสีข้างถลอก จะให้เด็กมาพูดไอ้เวรคงจะไม่ดี
“มาเวล” เสียงเล็กๆพยายามขยับปากตาม แล้วยิ้มออกมาจนตาปิด
“แบบนั้นแหละ มาร์เวลนะ อย่าเปลี่ยนนะ”
“มาร์เวล ฮิๆๆ”
ผมได้แต่มองหน้าไอ้ไร แล้วถอนหายใจออกมาพร้อมๆกัน