“ท่านหายดีแล้วอย่างนั้นหรือ เหตุใดจึงรู้สึกเจ็บปวด”
“นับว่าทุกอย่างกลับคืนมาได้สามส่วนแล้ว” เขากล่าวยอมรับ เพราะเมื่อเข็มแรกฝังเข้าไปในร่าง เลือดในกายก็กลับมาไหลเวียนเช่นปกติ
“เช่นนั้นข้าก็ควรไปเสียที” อิ้งเยว่รู้แล้วว่าตนกำลังเสียรู้ให้หมอยาเจ้าเล่ห์
“ได้ แต่ก่อนจากไป ข้าต้องการ...” เขาเอ่ยยังไม่ทันจบประโยคก็ขโมยจุมพิตนาง
“คนฉวยโอกาส!”
“ข้าจำยอมเป็นคนเช่นนั้น เพราะมันอาจเป็นโอกาสเดียวที่ข้าจะได้พบกับหญิงงามเช่นเจ้า”
อิ้งเยว่มองเข้าไปในดวงตาของถงฉี มองอย่างลึกซึ้ง สุดท้ายนางก็จูบเขากลับ จูบราวกับต้องการเป็นเจ้าของชายผู้นี้ กระทั่งถอนริมฝีปากออก นางจึงบอกเขาด้วยเสียงสั่นเครือ
“ข้าไม่ใช่สิ่งที่ท่านเห็น เรือนร่างนี้ล้วนหลอกลวง”
หมอยาหนุ่มยิ้ม และตอบนางกลับว่า “ข้ารู้ รู้ตั้งแต่เห็นว่าเจ้ามีหางโผล่ออกมาตอนที่คุยกับเด็กผู้ชายคนนั้น”
อิ้งเยว่ทำตาโต ทั้งตกใจอีกทั้งละอาย แต่นางยังกล่าวอย่างเล่นลิ้นว่า “เช่นนั้นข้าจะเป็นภรรยาของท่านได้เยี่ยงไร”
“โลกนี้มีความลับมากมาย และข้าเชื่อว่าสามารถปรุงยาทำให้ปีศาจเช่นเจ้ามีร่างกายเหมือนมนุษย์อย่างสมบูรณ์”
“ฮิๆ ถ้าหากเก่งกาจเช่นนั้น ข้าจักยอมเป็นภรรยาท่าน”
“ดี เช่นนั้นข้าจะท้าพนันกับเจ้า”
“ได้ อิ้งเยว่ยินดีรับคำท้า” เมื่อเอ่ยจบนางก็ดึงเข็มที่ปักอยู่ทั่วร่างของเขาออก
“ข้าคิดว่านางแมวสองหางมีวิธีรักษาท่านให้หายอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าการฝังเข็มพิเรนทร์พวกนี้”
“เจ้าเข้าใจถูกต้อง ผู้ที่ลงมาจากต้ากวนหมิงซานย่อมสามารถช่วยข้าขับพิษได้ เพียงแค่มอบสัมผัสอันอบอุ่นและจุมพิตหวานซึ้ง!”
จากนั้นทั้งคู่ก็กอดกันแน่น ต่างถ่ายทอดลมหายใจรินรดอีกฝ่าย
“กายสัมผัสกาย ใจผสานใจ”
อิ้งเยว่เอ่ยแล้วขยับขึ้นไปนั่งบนตัวของถงฉี ลงมือนวดเนื้อตัวชายหนุ่มพร้อมสร้างความรัญจวนใจให้แก่เขาด้วยการเลีย!
ปลายลิ้นสีชมพูเล็กๆ ตวัดไล้เลียตามใบหน้า ซอกคอ และติ่งหู เมื่อเขาเคลิ้มจัดนางก็จูบปาก พร้อมส่งลิ้นเข้าไปตวัดรัดลิ้นอุ่นร้อนของถงฉี
กระทั่งอุณหภูมิในร่างกายเขาค่อยๆ กลับมาสูงขึ้น ถงฉีจึงเอื้อมมือมาสัมผัสเรือนร่างของอิ้งเยว่
“ท่านสิเน่หาต่อเรือนร่างนี้เยี่ยงนั้นหรือ”
ชายหนุ่มไม่รู้จะตอบอย่างไร
“ข้ามิอาจโกหกเจ้า บุรุษย่อมชมชอบสตรีงาม”
เมื่อได้ยินดังนั้นนางแมวจึงหยุดการกระทำของตน ก่อนคืนร่างเดิม
“ข้าก็เป็นเช่นนี้ นางแมวสองหาง เป็นปีศาจร้ายที่ใครๆ ควรเกรงกลัว”
“แต่ยกเว้นผู้ชายแซ่ไป๋ที่ขาเป๋คนนี้ และอย่างที่ลั่นวาจาไว้ วันหนึ่งข้าจะทำให้เจ้ามีร่างมนุษย์ที่แท้จริง และต้องเป็นมารดาของบุตรชายหญิงของข้าด้วย”
“ฮิๆ แต่ข้าคิดว่ามันคงไม่ใช่ชาตินี้ ดูแล้วท่านคงยังมีความสามารถและบารมีไม่พอ” นางแมวเอ่ยจบจึงใช้อุ้งเท้านุ่มนิ่มตบลงบนแก้มเขาไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะกรีดร้องเสียงหลงเมื่อมีบ่วงเชือกรัดเข้าที่คอ แล้วดึงตัวให้ออกห่างจากถงฉี
“ฟ้าดินไฉนยังไม่ลงโทษชายผู้นี้ ดูเอาเถิดมันเลวเพียงใด ถึงขั้นสมสู่กับนางแมวปีศาจ!!”
ถงฉีพยายามลุกพรวดขึ้น แต่ไหล่สองข้างของเขาถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กดเอาไว้
“ตระกูลของเจ้าสิ้นแล้ว ตอนนี้ตำหนักไป๋ซานร้างผู้คน สำนักหมอยาก็ถูกเผาจนสิ้น”
“ข้าไม่ใช่คนตระกูลไป๋โดยกำเนิด ไยต้องมาตามรังควานอีก”
“ฮ่าๆ นายข้าสั่งให้ขุดรากถอนโคน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าจึงไม่มีสิทธิ์อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป” โจรร้ายประกาศชัดเจน
“ตระกูลไป๋ไม่เคยทำร้ายผู้บริสุทธิ์ และหมอทุกคนบนผืนแผ่นดินนี้ต่างทำหน้าที่รักษาคนป่วย เหตุใดจึงคิดกระทำการชั่วช้าต่อพวกเรา”
“ฮ่าๆ เพราะมันเป็นเสี้ยนหนามใหญ่ที่ทำให้ชาวบ้านแข็งข้อกับนายข้า ดังนั้นพวกเจ้าไม่สมควรมีชีวิตอยู่” ชายคนดังกล่าวเอ่ยจบก็เตรียมลงดาบตัดคอถงฉี เป็นตอนนั้นที่อิ้งเยว่พยายามดิ้นรนอย่างแรง กระทั่งนางสามารถกัดเชือกที่เป็นบ่วงรัดคอตัวเองขาด!
นางแมวกระโดดไปรอบทิศ ทั้งตะปบและใช้กรงเล็บข่วนเหล่านักบู๊จนได้รับบาดเจ็บไปตามๆ กัน
“นางแมวผี คิดหรือว่าจะเอาชนะพวกข้าได้”
อิ้งเยว่ร้องเสียงดัง และเตรียมเข้าไปจัดการพวกที่เหลือ แต่นางประมาทเกินไป ชายที่เป็นหัวหน้ามีดาบที่ลงอาคม และเขาใช้มันฟันเข้ากลางหลังนางสุดแรง
เสียงร้องโหยหวนแผดก้อง สองพวงหางปุกปุยของอื้งเยว่ถูกคว้าเอาไว้
คนใจโฉดเตรียมใช้ดาบเล่มเดียวกันตัดหางของนาง แต่ถงฉีพุ่งเข้ามายื้อแย่งดาบในมือคนร่างสูงใหญ่ เขาออกแรงสุดกำลังจนทำให้อิ้งเยว่หลุดรอด แต่กลับเป็นเขาที่โชคร้ายถูกชายคนเดียวกันซัดฝ่ามือเข้าใส่กลางหน้าอกอย่างแรง
ถงฉีกระอักเลือดและเซเสียหลักลงไปนั่งบนพื้น ไม่เพียงแค่นั้น เขายังถูกคนร้ายอีกคนปราดเข้ามาใช้กระบี่แหลมและคมฟันเข้าที่ร่างจนได้แผลใหญ่
นางแมวกระโจนหลบอาวุธของชายอีกสองคน และหวังเข้าไปช่วยถงฉีแต่ก็ช้าเกินไป ถงฉีทรุดลงไปนอนกับพื้นอย่างไร้ทางรับมือผู้ใดอีก อิ้งเยว่จึงอาละวาดหนัก คราวนี้แรงมีเท่าไรนางก็วาดลวดลายไม่ยั้ง กระนั้นยังนึกแค้นใจตัวเองที่ฝีมืออ่อนด้อยด้วยไม่ยอมเชื่อฟังบิดา
นางแมวจัดการคนพวกนั้นกระทั่งพวกมันล่าถอยออกไปยืนคุมเชิงอยู่ห่างๆ เสียงจากด้านหลังก็ตะโกนโหวกเหวกว่า
“พวกตระกูลไป๋กลับมาแล้ว มาพร้อมทหารจากเมืองหลวง หนีเร็ว พวกเรา...หนีเอาตัวรอดก่อน”
อิ้งเยว่เห็นว่าพวกมันจะหนีไป นางหวังจัดการคนที่ทำร้ายถงฉีให้สิ้นชีพ ทว่าชายหนุ่มรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายร้องเรียกนางเอาไว้เสียก่อน
“นางแมวโง่ เจ้าจงใจทิ้งสามีให้หนาวตายเพียงลำพังหรือไร”
นางแมวดึงสติตนกลับแล้วพุ่งเข้าไปหาถงฉี จึงเห็นว่าเลือดไหลท่วมร่างเขา
“อยากให้ข้าช่วยทำให้ร่างกายท่านอุ่นร้อนอย่างเช่นเมื่อครู่ใช่หรือไม่”
ชายหนุ่มยิ้มให้อิ้งเยว่ แต่มันเป็นรอยยิ้มซีดเซียว
“เกรงว่าจะสายเกินกาลแล้ว นางแมวน้อย...”
“ฮึ ข้าคืออิ้งเยว่ เป็นถึงธิดาของเผ่าจิ่วเซิงหัว ครอบครองว่านเก้าชีวิต และท่านก็เป็นหมอยา ไฉนต้องหวั่นกลัวว่าจะรักษาบาดแผลแค่นี้ไม่ได้”
“เจ้ามันโง่เขลาไม่เปลี่ยน” เขากล่าวและถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนถามนางแมวว่า “ตอนนี้เป็นยามใดอิ้งเยว่ ทำไมท้องฟ้าจึงมืดจนข้ามองไม่เห็นเจ้า” เขาว่าและยื่นมือสะเปะสะปะกระทั่งคว้าร่างแมวไปกอดไว้ได้
“กอดเจ้าอยู่เช่นนี้ เหตุใดถึงยังเหน็บหนาวไม่เปลี่ยน...” ถงฉีกล่าวจบก็นิ่งค้างไป
อิ้งเยว่พยายามกลั้นน้ำตาและมองไปยังภูเขาสูงที่อยู่ไม่ห่างจากจุดนี้ มองแล้วจึงกรีดร้องดังโหยหวน
“ท่านจะตายเช่นนี้ไม่ได้ถงฉี จงฟื้น ฟื้นขึ้น และรักษาคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ข้า”
อิ้งเยว่เอ่ยอย่างนั้นซ้ำไปซ้ำมา กระทั่งสายลมวูบหนึ่งผ่านร่าง นั่นทำให้นางรับรู้ว่า โลกนี้ไม่มีบุรุษหมอยาที่ชื่อถงฉีอีกต่อไป
“ข้าจะรอพบท่าน...ไม่ว่านานแค่ไหนข้าก็จะรอ”