“แม่เนยเขาโตเป็นสาวแล้ว ไม่ใช่เด็กเหมือนสมัยก่อนที่เราจะไปนอนกอด เขาจะเสียหาย”
“คุณย่าคิดมาก ผมไม่ทำอะไรยายเด็กขี้เหร่นี่หรอกครับ”
“แน่ะ! ถ้าแม่เนยขี้เหร่ ในโลกนี้คงไม่มีคนสวยแล้วล่ะ” คุณย่าประชด
“เนยขอตัวไปทำอาหารเช้าใส่บาตรก่อนนะคะ” นิรินรีบพูดก่อนจะเอ่ยขอตัวเข้าห้องน้ำ
“แล้วเราจะตามแม่เนยไปทำไมในห้องน้ำ” คุณย่าร้องขึ้นเมื่อเห็นหลานชายเดินตามเด็กสาวเข้าไปในห้องน้ำต้อยๆ
“ผมจะล้างหน้าแปรงฟันน่ะครับ จะเตรียมไปใส่บาตรด้วย”
“ให้แม่เนยเขาทำธุระให้เสร็จก่อน”
“จะฉี่ด้วยเหรอ” นรราชถามหน้าตาย นิรินได้แต่หน้าแดงส่ายหน้าไปมาก่อนจะพยักหน้า เพราะเพิ่งนึกได้ว่าต้องพยักหน้าให้ เขาจะได้ออกไปจากห้องน้ำ
“ตายแล้วตาราช เราไปถามแม่เนยแบบนั้นได้ยังไง ไปอยู่กับคนงาน บ้านป่าเมืองเถื่อนรึไงถึงไร้มารยาทเช่นนี้” หญิงชราตำหนิหลานชายเสียงเขียว อีกฝ่ายทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เช่นเดิม
“คุณย่าบ่นจังเลยครับ ผมหูชาไปหมดแล้ว” นรราชหันไปคุยกับผู้เป็นย่า เขาเลยโดนมือนิ่มผลักออกมาด้านนอก นิรินรีบปิดประตูห้องน้ำและรีบทำธุระให้เสร็จโดยไว ทั้งล้างหน้า แปรงฟันและอาบน้ำ คิดว่าทำกับข้าวเสร็จจะได้ใส่บาตรพร้อมกับทุกคนเลย
เธอเดินออกมาก็เห็นว่านรราชนอนเอกเขนกอยู่ที่โซฟาอีกด้าน สนทนากับลักษณ์นาราอย่างออกรส เธอจึงรีบเดินเลี่ยงออกมาจากห้องอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว โดยมีสายตาคมกริบของนรราชมองตามมาไม่วาง
“งั้นผมขอตัวกลับห้องไปอาบน้ำก่อนนะครับคุณย่า” เขารีบเอ่ยขอตัวกับผู้เป็นย่า ท่านพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้ม
หญิงชรานั้นแข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่วไม่ต้องคอยพยุงเข้าห้องน้ำเหมือนคนแก่วัยเดียวกัน ทำให้นรราชหายห่วงเรื่องนี้ไปได้มาก ที่เขารีบเพราะจะออกมาดักหน้าคนที่เอาแต่เดินหนีนั่นเอง
“อุ๊ย! ลุงราช ปล่อยค่ะ” เธอดิ้นหนีแต่เขาอุดปากเอาไว้ ก่อนพาเข้าห้องของตัวเองไปหน้าตาเฉย
“ฉันจะอาบน้ำ” เขาบอกเธอ เริ่มปลดกระดุมเสื้อนอนออกจากร่างสูง
“ลุงราชจะอาบน้ำแล้วมาบอกเนยทำไมคะ”
“เตรียมเสื้อผ้าข้าวของให้หน่อยสิ ฉันจะโกนหนวดด้วย” เขาร้องบอก
“ทำไมลุงราชไม่ทำเองคะ”
“ฉันมีเมียก็ต้องให้เมียทำให้สิ” เขาบอกหน้าเป็น เธอถึงกับตาโต
“ลุงราชไม่ใช่” เธอเถียงเขาหน้าแดงซ่าน
“หรือต้องเตือนความจำ” เขาเดินเข้าหา
“ไม่ต้องค่ะ” เธอรีบห้าม หนีไปอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง
“ถ้าลงไปทำอาหารช้า ไม่ทันใส่บาตรไม่รู้ด้วยนะ” เขาเอาสิ่งที่เธอกำลังจะทำมาต่อรอง นิรินหันรีหันขวางอยู่เพียงครู่ก็รีบจัดการเตรียมอุปกรณ์โกนหนวด น้ำยาโกนหนวด ผ้าขนหนู บีบยาสีฟันให้เขาเสร็จสรรพ
“โกนให้ด้วยสิ” เขายืนดักหน้าประตูห้องน้ำไม่ให้เธอหนีหายไปไหน
“ค่ะ ลุงราชมายืนตรงนี้สิคะ” เธอพูดอย่างว่าง่าย พอนรราชเดินเข้าไป อ้าแขนออกทำท่าจะกอด เธอก็อาศัยจังหวะนั้นมุดเข้าใต้รักแร้ของเขาเพื่อวิ่งหนีออกจากห้องน้ำโดยเร็ว เธอได้ยินเสียงสบถไล่หลังมาอย่างหงุดหงิดที่เขาจับตัวเธอไม่ได้ แต่นิรินไม่คิดจะหันกลับไปมอง เธอรีบพาตัวเองวิ่งหนีลงมายังห้องครัวในทันที
“คุณเนยวิ่งหนีอะไรมาหรือคะ หอบเชียว” ป้าสายบัวเอ่ยถามเด็กสาวอย่างเอ็นดู ในบรรดาลูกหลานของเจ้านาย คนที่มีน้ำใจและไม่เคยถือตัวมากที่สุดก็คือนิริน ท่านจึงสนิทสนมกับเด็กสาวมากกว่าใครเพื่อน
นิรินไม่เคยเกี่ยงงาน คอยช่วยเหลือทุกคนโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน อีกทั้งยังชอบทำอาหารและทำอร่อยอีกด้วย นางกับสาวใช้บ้านนี้จะได้กินฝีมือนิรินทุกครั้งที่เด็กสาวมาเยี่ยมเยียนประมุขของบ้าน
“ไม่ได้หนีค่ะ เนยกลัวมาช่วยทำอาหารใส่บาตรให้คุณท่านไม่ทันเลยวิ่งน่ะค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ” นิรินโกหกคำโต ก่อนจะรีบกุลีกุจอเข้าไปช่วยทำอาหารเช้าอย่างแข็งขัน
“โธ่... แม่คุณ ทันเยอะแยะไป ไม่ต้องรีบหรอกค่ะ” ป้าสายบัวหันไปยิ้มกับสาวใช้ซึ่งเป็นลูกมือคอยช่วยเหลืองานครัวชื่นชมในความมีน้ำใจของเจ้านายสาว นิรินยิ้มหวานให้ทุกคนก่อนจะลอบถอนหายใจ นึกชมตัวเองที่หนีรอดจากนรราชมาได้สำเร็จ ไม่งั้นคงโดนเขาเอาเปรียบอีกแน่ๆ
นิรินทำอาหารเสร็จก็จัดการตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่ขันใบโต บรรจุกับข้าวใส่ถุงและเตรียมดอกไม้เอาไว้ให้พร้อม ทำท่าจะเดินขึ้นไปตามคุณย่าทวด แต่ท่านกับนรราชลงมารออยู่ก่อนแล้ว
“เรียบร้อยแล้วหรือแม่เนย”
“ค่ะคุณท่าน” เธอรีบตอบรับ เข้าไปจัดแจงช่วยป้าสายบัวหอบหิ้วข้าวของออกไปหน้าคฤหาสน์
พอหญิงชราตักข้าวใส่บาตร นิรินก็หยิบกับข้าวในถุงใส่บาตรตามท่านด้วย เธอสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อนรราชจับมือของเธอเอาไว้ เขาช่วยหยิบกับข้าวใส่บาตรไปพร้อมๆ กันกับเธอ เธอไม่กล้าโวยวาย เพราะต่อหน้าพระสงฆ์กับคุณย่าทวด ดังนั้นจึงต้องปล่อยเลยตามเลย มีญาติคนอื่นมาร่วมใส่บาตรด้วยอย่างพร้อมเพรียง ตักบาตรเสร็จพระก็ให้ศีลให้พร เธอยกมือไหว้ก่อนจะช่วยเก็บข้าวของนำเข้าบ้านอีกครั้ง
“อาหารเช้าวันนี้เป็นอะไรเหรอแม่เนย”
“เนยทำหลายอย่างเลยค่ะ อาหารแปลกๆ ที่เพิ่งคิดสูตรขึ้นมาใหม่ ไม่รู้ว่าคุณท่านจะถูกปากไหมน่ะค่ะ”
“ฝีมือเราน่ะเยี่ยมยอดไม่มีใครเกิน ชักอยากรู้แล้วล่ะ ว่าทำอะไรให้ลองชิม” คนพูดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะเดินไปที่โต๊ะอาหาร นิรินจัดแจงอาหารมาเสิร์ฟให้คุณย่าทวด ก่อนจะเหลือบมองคนที่นั่งอยู่อีกด้าน
“ลุงราชจะรับอะไรคะ” เธอหันไปถามเขาอย่างเสียไม่ได้
นรราชยังไม่ทันตอบ หญิงชราก็พูดขึ้นเสียก่อน
“หืม... อาหารของเราน่ากินจริงๆ แม่เนย ไหนขอลองชิมดูหน่อยสิ” ท่านลองตักมารับประทานก่อนจะอมยิ้ม
“เอาแบบย่าไหมราช อร่อยนะ”
“ก็ได้ครับ” นรราชพยักหน้า นิรินเลยไปจัดอาหารให้เขาด้วย ส่วนญาติคนอื่นนั้นรับข้าวต้มปลา ซึ่งมีประภาพรและสามีคือเลอศักดิ์ ลูกอีกสามคน และครอบครัวของนงนุช อดิสรและคนอื่นๆ ที่ตื่นเช้ามาตักบาตรด้วย
แม้ลักษณ์นาราจะใจดีและเอ็นดูเด็กกำพร้าที่นำมาชุบเลี้ยงทุกคน แต่สิ่งไหนไม่ถูกไม่ดี ท่านก็จะตักเตือนและให้สติลูกหลานอยู่เสมอ หากใครไม่เชื่อฟังท่านจะจัดการขั้นเด็ดขาด นั่นทำให้ท่านมีทั้งพระเดชและพระคุณ ทุกคนจึงเคารพท่านเป็นอันมาก ท่านพูดอะไร ทุกคนจึงยอมทำตามอย่างไม่บิดพลิ้ว นี่เป็นข้อดีอีกอย่างที่นิรินสัมผัสได้จากครอบครัวใหญ่ยามได้รวมญาติกัน เป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นแม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตามที
“อร่อยไหมล่ะ” คุณย่าเอ่ยถามหลานชาย นรราชชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบเหมือนเวลาเขารับประทานมื้ออื่นๆ
“ก็งั้นๆ ครับ”
“แต่ย่าว่าอร่อยเชียวนะ เรานี่กินข้าวกับเกลือจนชินหรือไง ถึงมองว่าอย่างอื่นไม่อร่อย” ท่านประชดนิดๆ เพราะนรราชนั้นทำนาเกลือขายด้วย อะไรที่เกี่ยวกับทะเล เขาก็ทำหมด ไม่ใช่จะเลี้ยงแค่หอยมุกอย่างเดียว
ธุรกิจในเครือพันธุเสมาเกี่ยวกับเครื่องประดับ เพชรพลอย และอัญมณีของมีค่าหายากที่หลานเหลนช่วยกันดูแล ท่านไม่เคยคิดว่าเด็กที่เก็บมาเลี้ยงเป็นคนอื่น ให้ความรักและความเอ็นดูเหมือนสายเลือดเดียวกันเพราะสงสาร ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้ ท่านคิดแบบนั้นเสมอ ถึงพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดจะไม่ใช่คนดี แต่มันคนละคนกัน ตัวของเราเองถ้าเราอยากเป็นคนดีเราก็สามารถเป็นคนดีได้ไม่เกี่ยวกับว่าเกิดจากใครหรือมีชาติกำเนิดมาจากที่ไหน ต้อยต่ำเพียงใด