เกือบสองปีเห็นจะได้ ที่ถูกเขาแสดงท่าทีห่างเหินใส่ แต่อีกฝ่ายกลับไม่ได้แสดงท่าทีโกรธเกลียดกันให้ได้เห็นเลยสักครั้งทั้งๆ ที่ควรจะเป็นเช่นนั้น เธอยังอยู่ที่เดิมเสมอเวลาที่เขาต้องการใครสักคน
แม้ว่าในอดีตเขาจะเคยทำเลวทรามต่ำช้าจนไม่น่าให้อภัยกับเธอเอาไว้สักแค่ไหน พิณรวีก็มักจะยังอยู่ที่เดิมเสมอ ไม่เคยไปไหน!
พิณรวีใช้เวลาอาบน้ำนานกว่าทุกวัน ก่อนที่เธอจะเดินออกมาจากบ้านเพื่อมุ่งหน้ามาทานข้าวเย็นพร้อมกับดรัณภพ แน่นอนว่าทุกย่างก้าวนั้นเต็มไปด้วยความกดดันพอสมควร เพราะนี่นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ ที่เธอได้มีโอกาสเข้ามาในบ้านหลังนี้อีกครั้ง และเหมือนสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปจากเดิมจะหนีไม่พ้นร่างสูงใหญ่ที่ยืนรอกันอยู่ ถัดไปไม่ไกลนั้นปรากฏร่างอ้วนป้อมที่แสนคุ้นตา
“โรมิโอ! ไม่เจอตั้งนาน ทำไมอ้วนกลมแบบนี้ล่ะหึ!” ภาพของหญิงสาวที่ถลาเข้าไปอุ้มแมวสุดที่รักเข้ามากอด
โดยที่ภาพนั้นสร้างรอยยิ้มแก่คนมองได้ในทันทีที่เห็น เหมือนว่าแมวของเขาเองก็คงคิดถึงเธอมาก มันถึงได้ออดอ้อนอย่างที่ไม่เคยทำกับใครคนไหนมาก่อน แม้แต่อดีตคนรักที่เพิ่งเลิกกันไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ก็ยังไม่เคยได้รับการต้อนรับที่น่าหมั่นไส้เช่นนี้
“มันคงคิดถึงพีชมาก ถ้าวันไหนพีชว่างๆ ก็แวะมาเล่นกับมันได้นะ เดี๋ยวพี่ทิ้งกุญแจสำรองเอาไว้ให้” หัวใจคนฟังเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่ในนาทีต่อมาจะเธอจะพยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ
ดรัณภพปล่อยให้คนกับแมวอ้วนได้กอดหอมกันจนพอใจแล้วถึงได้เรียกอีกฝ่ายมาทานข้าว แม้จะไม่ได้ร่วมโต๊ะกันมานานหลายปี แต่สำหรับเขาแล้วพิณรวียังคงเป็นน้องสาวที่น่ารักเสมอไม่เคยเปลี่ยน ท่าทีที่เขามีต่อเธอจึงเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องปรุงแต่งมากนัก
“แล้วนี่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านบ้างรึเปล่า” คำถามเรียบง่ายที่ดังขึ้น ทำให้ทุกสิ่งรอบกายพลันเงียบสนิทลงแทบจะทันที เป็นพิณรวีเสียเองที่ได้แต่ก้มหน้านิ่ง หากแต่สุดท้ายก็ยอมตอบไปตามความจริง
“ตั้งแต่เรียนจบ…พีชก็แยกตัวออกมาอยู่คนเดียวค่ะ นานๆ ครั้งถึงได้กลับไปเยี่ยมพ่อสักครั้ง” พ่อที่แม้จะไม่ยินดียินร้ายต่อการมีตัวตนของเธอสักเท่าไหร่ในตอนแรก แต่ท่านก็ไม่ได้ใจร้าย ปล่อยให้เธอต้องอยู่อย่างอดๆ ยากๆ แต่กับเป็นเธอเสียมากกว่าที่รู้สึกแปลกแยก ไม่คู่ควร จึงพยายามบอกตัวเองอยู่เสมอว่าให้อยู่อย่างเจียมตัว
ไม่ทำให้พ่อ กับครอบครัวที่ดีพร้อมของท่านต้องลำบากใจ…
“ดีแล้วล่ะ อย่างน้อยๆ ท่านก็เป็นพ่อเรา สู้ๆ นะ พี่เอาใจช่วย” เพราะพอจะรู้ประวัติของคนตรงหน้ามาบ้าง ดรัณภพจึงเลือกที่จะเอ่ยขึ้น พร้อมกับเอื้อมมือไปลูบหัวอีกคนเบาๆ เพื่อหวังจะให้กำลังใจคนที่ตั้งแต่รู้จักกันมา เขายังไม่เคยเห็นเธอร้องไห้เสียใจเลยสักครั้ง
ไม่มีครอบครัวไหนจะสมบูรณ์แบบได้เต็มร้อย แม้แต่ครอบครัวของอดีตเพื่อนรักของเขาเองก็ด้วย เมื่ออยู่ๆ พ่อของมันก็ดันแอบไปมีบ้านเล็กอีกหลัง จนอีกฝ่ายเกิดพลาดพลั้งตั้งท้องขึ้นมา และแน่นอนว่าผลพลอยได้จากการรักไม่เลือกในครั้งนั้น ได้ถือกำเนิดกลายเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักตรงหน้าคนนี้ อย่างที่ไม่มีใครได้ทันคาดคิด
เขาได้รู้เรื่องราวของเธอผ่านคำบอกเล่าของเพื่อนมาตลอด แม้อีกฝ่ายจะเป็นลูกที่เกิดจากเมียน้อยของพ่อ แต่นิรุตติ์กลับไปเคยรังเกียจพิณรวีเลยแม้แต่น้อย มันรักและปกป้องเธอจากแม่แท้ๆ ของตัวเองมาโดยตลอด และจนถึงตอนนี้เขาก็เชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นอยู่
“พี่ชิน…ยังโกรธพี่รุตอยู่ไหมคะ” พิณรวีปล่อยให้ความเงียบครอบงำรอบกายไปพักใหญ่ จนในที่สุดก็ทนไม่ไหวเอ่ยถามไปตรงๆ
“แรกๆ ก็ใช่ แต่พอนานๆ ไปพี่ก็เริ่มปล่อยวางได้บ้างแล้วล่ะ มันกับฟ้าสบายดีใช่ไหม” หนนี้เธอเลือกที่จะพยักหน้าตอบรับกลับไปไม่กล้าพอที่จะเล่าเรื่องภายในบ้านของพี่ชายให้เขาได้รับรู้ โดยเฉพาะเรื่องของผู้หญิงคนนั้น คนที่ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงรักอยู่
พูดมาถึงตรงนี้แล้ว เธอกลับรู้สึกว่าเขาให้อภัยสองคนนั้นง่ายเกินไปหน่อย แม้หนึ่งในนั้นจะเป็นพี่ชาย แต่ก็ใช่ว่าเธอจะรู้สึกดีงามกับสิ่งที่พี่ทำ ออกจะผิดหวังด้วยซ้ำเพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำได้ลง
“สบายดีก็ดีแล้วล่ะ พี่จะได้หมดห่วงเรื่องสองคนนั้นสักที ว่าแต่เราเถอะ ทำงานหนักมากไปรึเปล่า ดูผอมลงกว่าเดิมตั้งเยอะ” เขาตอบ ก่อนจะถามกลับ เพราะไม่อยากวกเข้าเรื่องที่จะทำให้ใจต้องเจ็บเหมือนอย่างที่แล้วมาอีก ยอมรับว่ายังคงรู้สึกดีต่ออดีตของตัวเองอยู่เป็นพักๆ และคงจะมีแต่เวลาเท่านั้น ที่จะเยียวยาทุกสิ่งให้ดีขึ้นได้
ถ้าถามว่าทำไมยังไม่ลืม… เหตุผลก็คงเพราะม่านฟ้ากับเขามีช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันอยู่มาก ซึ่งการที่เธอจะทิ้งเขาไปมีคนอื่น เขาโทษว่ามันเป็นความผิดของเขาเอง ที่เผลอละเลยเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ
ผลข้างเคียงจากเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ทำให้เขาสัญญากับตัวเองว่าหากวันนึงมีโอกาสรักใครสักคน เขาจะไม่ทำพลาดแบบนั้น!
ไม่อีกแล้ว!
“พีชอยากปิดหนี้บ้านไวๆ ค่ะ เลยรับงานมาทำหลายที่” แม้ตอนแรกพ่อจะยืนยันเสียงแข็งว่าจะซื้อบ้านที่อยู่ด้วยเงินสดให้เป็นรางวัล ที่เธอสามารถคว้าเกียรตินิยมมาให้ท่านได้ภูมิใจ แต่ก็เป็นเธอเองที่ปฏิเสธท่านไป เพราะไม่อาจทนกับคำถากถางของแม่เลี้ยงได้
ซึ่งก็ไม่แปลกเลยที่อีกฝ่ายนั้นจะเกลียดเธอ เพราะเธอถือได้ว่าเป็นตราบาปเดียวในชีวิต ที่แสนจะเพียบพร้อมของท่านก็ว่าได้ นับตั้งแต่วันที่แม่เธออุ้มเธอไปประกาศตัว วันนั้นนั่นเองที่มันเปลี่ยนทุกสิ่งไปตลอดกาล…
เธอไม่รู้ว่าแม่ได้อะไรไปบ้างสำหรับการยอมยกเธอให้กับพ่อ แต่นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เธอก็ไม่มีโอกาสได้เจอหน้าท่านอีกเลย
แม้จะเกิดมาท่ามกลางความเกลียดชัง แต่ด้วยความรักที่พี่ชายต่างแม่มอบให้ มันเลยทำให้เธออยู่ในบ้านหลังนั้นอย่างมีความสุขมาได้เป็นสิบๆ ปี จนกระทั่งวันที่พี่ต้องย้ายออกมาอยู่คนเดียวนั่นเอง เธอถึงตัดสินใจย้ายตามมา และสถานที่ก็คือบ้านหลังนี้
จะเรียกว่าความบังเอิญก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว เดิมทีเพราะบ้านอยู่ไกลจากโรงเรียนมาก พ่อเลยเช่าบ้านหลังนี้ให้เธอกับพี่ได้อยู่ จะได้ไม่ต้องนั่งรถไปกลับนานๆ นั่นเลยทำให้เธอมีโอกาสได้อยู่จักกับดรัณภพ พี่ชายข้างบ้านซ้ำเขายังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของพี่ชายเธอด้วย
จนกระทั่งเกิดเรื่องนั้นขึ้นมา ความสัมพันธ์ที่ดีงามจึงค่อยๆ จางหายไป เหลือไว้แต่ความทรงจำที่เธอไม่เคยลืม และไม่มีวันลืม ว่าครั้งหนึ่งเคยใช้ชีวิตอย่างมีความสุขร่วมกันกับเขา แม้จะได้อยู่ข้างเขา ในสถานะน้องสาวเพื่อนสนิท แต่เธอก็มีความสุขในจุดยืนของตัวเอง
แค่ได้เห็นเขาอยู่ดี มีความสุข แค่นั้นเธอก็พอใจมากแล้ว จึงไม่แปลกที่เธอจะตัดสินใจซื้อบ้านข้างๆ เขา ทันทีที่เจ้าของประกาศขาย แม้จะเหนื่อยหน่อยกับยอดผ่อนในแต่ละเดือนที่สูงลิ่ว แต่มันก็คุ้มแสนคุ้มเหลือเกินที่จะได้อยู่ข้างเขาต่อ ในฐานะเพื่อนบ้านก็ยังดี
“แล้วนี่…มีแฟนรึยังน่ะเรา” คำถามที่ดังขึ้นทำให้ใบหน้าอ่อนหวานขับสีขึ้นเล็กน้อย ไม่ช้าก็ตอบกลับไปเบาๆ
“ไม่มีค่ะ พีชยังสนุกกับการทำงานอยู่” หรือจะพูดให้ถูกก็คือเธอยังไม่เจอใครที่จะทำให้เธอรู้สึก ‘อยากจะรัก’ ได้มากเท่ากับเขา จึงครองตัวเป็นโสดมาจนถึงทุกวันนี้ แม้ที่ผ่านมาจะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาเข้ามาหา แต่กลับไม่มีเลยสักคนที่จะทำให้เธอหวั่นไหวได้เท่ากับคนตรงหน้าคนนี้ เขาเป็นคนเดียวที่ทำให้เธอใจสั่นทุกทีที่ใกล้
เป็นคนเดียวที่ใกล้เคียงกับคำว่า ‘รัก’ มากที่สุด!
“แบ่งเวลาออกไปหาความสุขใส่ตัวบ้าง อย่าทำแต่งานนักเลย เดี๋ยวจะกลายเป็นแบบพี่” คนที่เพิ่งจะถูกแฟนสาวคนล่าสุดบอกเลิกเอ่ยขึ้น ก่อนจะลอบมองน้องสาวของอดีตเพื่อนรักด้วยสายตาที่เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ลองตั้งใจมองดีๆ พิณรวีก็น่ารักดีเหมือนกัน
ปากนิด จมูกหน่อย
ตรงแบบฉบับสาวไทยที่หนุ่มๆ ชื่นชอบ และเขาก็เชื่อด้วยว่าอีกฝ่ายคงมีผู้ชายมากมายเข้ามาขายขนมจีบ แต่ก็คงเป็นเธอเองที่ปิดกั้น ส่วนจะด้วยเหตุผลแบบไหนนั้นเขายังไม่กล้าพอที่จะเอ่ยถาม