ตอนที่ 9 ระยะแรกของหัวใจ

1088 Words
มันเงียบไม่ยอมตอบ เอาแต่ก้มหน้าก้มตา เมธาสิทธิ์สบตากำนันแล้วลุกยืน “ผมว่ากำนันส่งมันให้ตำรวจดีกว่า เพื่อนผมคงหาทางสอบสวนมันได้” กำนันมงคลกัดฟันแน่น ใจอยากจัดการพวกมันด้วยตนเอง แต่เพราะอายุอานามตนนั้นไม่น้อยแล้ว คงต้องยอมให้หนุ่มไฟแรงอย่างสิทธิ์ช่วยเหลือ “ก็ได้ พาตัวมันไปส่งตำรวจเถอะ” เมธาสิทธิ์โทรติดต่อเพื่อนตำรวจในทันที ไม่นานรถมาจอด สุรวุฒิยกมือไหว้กำนันแล้วกุมตัวผู้ต้องหาไป “ผมจะรีบส่งข่าวนะครับ” สารวัตรหนุ่มบอก “ได้ ๆ” กำนันรีบบอก “ฝากด้วยนะไอ้วุฒิ” “เออ ไม่ต้องห่วง แกก็เหมือนกัน อย่าบ้าระห่ำให้มันมาก พลาดไปวัวแกไม่มีหญ้ากินแน่!” คนเป็นเพื่อนเตือน “ฉันก็แค่ได้ข่าวแว่วมาเลยรีบ” เมธาสิทธิ์ตอบเพื่อนเสียงอ่อย “รีบยังไงก็ควรระวังตัวมากกว่านี้ อีกอย่างแกควรบอกฉัน!” “รู้แล้ว ๆ คราวหน้าแล้วกัน” สารวัตรหนุ่มถอนหายใจ “ยังจะมีคราวหน้าอีกเหรอ!” กำนันมงคลหัวเราะในลำคอ บีบไหล่หนาแล้วยิ้มให้กับสารวัตร “ถ้าไม่ได้สิทธิ์ผมคงแย่ครับ อย่าไปต่อว่าสิทธิ์เลยครับสารวัตร” “ครับ ผมถือว่าคราวนี้เพื่อนผมทำดีก็แล้วกันครับกำนัน ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” สุรวุฒิบอกแล้วขึ้นรถ ก่อนขับเคลื่อนห่างออกไป เมธาสิทธิ์ระบายลมหายใจด้วยความโล่งอก เพราะคิดว่าตนเองอาจโดนสวดยับมากกว่านี้ โชคดีที่กำนันช่วยไว้ได้ทัน “ขอบคุณกำนันมากนะครับ ไม่งั้นผมคงหูชาแน่” “อามากกว่าที่ต้องขอบใจสิทธิ์ที่มาช่วยในวันนี้” เขายิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรครับผมเต็มใจ” ดนัยก้าวเข้ามาร่วมวง “จะเดินทางไปต่อหรือเปล่าครับกำนัน” “อาจะไปไหนกันเหรอครับ พอดีผมผ่านทางนี้รู้สึกแปลก ๆ ที่เห็นกลุ่มคนในป่า พอทำธุระเรียบร้อยเลยย้อนกลับมา” “อาจะไปซื้อที่น่ะ” คนถามพยักหน้าช้า ๆ เป็นเชิงเข้าใจ “เอาแบบนี้ไหมครับ ผมไปด้วย เวลามีอันตรายจะได้ช่วยกัน” พอได้ยินเช่นนั้น กำนันมงคลหัวเราะลั่นด้วยความยินดี นิยมชมชอบนิสัยใจคอของหนุ่มไร่ข้าง ๆ มากขึ้นกว่าเก่านัก “แบบนี้ลูกสาวอาคงไม่ยกให้ใครนอกจากสิทธิ์แล้วล่ะ!” ชายหนุ่มได้ฟัง ผิวแก้มเริ่มแดง หัวใจเต้นหนักเพราะผ่านด่านพ่อตาฉลุยเช่นนี้ เลยยกมือไหว้ หัวเราะแก้เก้อ ลูกน้องเลยพากันโห่แซวจนเขาต้องดุ “ไปกันเลยไหมครับอา” “ได้ ๆ” ราวสองชั่วโมงรถมาจอดตรงลานกว้าง หลังจากเซ็นเอกสารซื้อขายที่ดินกันเรียบร้อยแล้ว กำนันมงคลกอดคอเมธาสิทธิ์ราวกับคนรู้ใจ แล้วพากันเดินขึ้นบ้าน เสียงรถเอทีวีจอด กลับเห็นรถคันคุ้นเคย ร่างบางก้าวลงอย่างรีบร้อน ตรงมาหาบิดาด้วยความเป็นห่วง หลังจากติดต่อแทบไม่ได้ทั้งวัน แถมยังมีชาวบ้านลือหนาหูว่ามีการปล้นตรงช่วงถนนก่อนทางเข้าหมู่บ้านห้ากิโล ทำเอาคนเป็นลูกเสียววาบชาไปทั้งร่าง เพราะคิดว่าอย่างไรเสียก็ไม่พ้นพ่อแน่ “พ่อ! ทำไมดาโทรหาถึงไม่รับคะ!” หญิงสาวตะโกนลั่นทันทีที่มาถึงห้องนั่งเล่น แต่กลับต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นชายหนุ่มหน้าตาคุ้นเคย นั่งเจ๋ออยู่ด้วย “นี่นายมาที่นี่ทำไม!” กำนันมงคลมองบุตรสาวแล้วถอนหายใจ “พ่อชวนสิทธิ์มาเอง” “พ่อจะชวนเขามาทำไมนักหนา วันนี้ดาโทรหาทั้งวัน ทำไมพ่อไม่รับสาย หรือไปหมกอยู่กับหมอนี่!” “แกน่ะไม่รู้อะไรเลย!” “รู้สิ หนูรู้ ถึงได้มาโวยวายพ่ออยู่เนี่ย รู้หรือเปล่าว่ามีโจรออกปล้นตรงทางเข้าหมู่บ้าน แล้วพ่อยังจะไปหอบเงินไปเยอะขนาดนั้น ไม่กลัวเลยหรือไง หนูนี่แทบจะหัวใจวายกลัวพวกมันปล้นพ่อ!” คนเป็นลูกพูดไม่หยุดจนหอบหายใจ กำนันมงคลสบตาหนุ่มข้างกาย แล้วหัวเราะในลำคอ ราวกับว่าบุตรสาวนี่ช่างไม่รู้อะไรเอาเสียเลย “ก็พ่อแกนี่แหละ ที่ถูกปล้นน่ะ!” คนฟังตาโต สีหน้าเผือดลงทันใด “ฮะ! อะไรนะพ่อ!” หญิงสาวตะโกนลั่น “ฉันโดนยิงเกือบตาย ดีทีได้สิทธิ์มาช่วย ไม่งั้นแกคงได้จัดงานศพให้พ่อแกแน่ยัยดา!” คนเป็นลูกทิ้งกายลงข้างบิดา จับใบหน้าหันไปมามือสำรวจตามร่างกาย จนกำนันมงคลหัวเราะแล้วผลักบุตรสาวออกห่าง “ทำอะไรของแก ขนลุกหมดแล้ว!” “หนูก็ดูไงพ่อ ว่าเป็นอะไรหรือเปล่า” “ถ้าเป็น จะมานั่งอยู่ตรงนี้ได้หรือไง” มธุรดาเหลือบมองไปยังชายหนุ่ม เห็นแยกเขี้ยวส่งยิ้มมาให้ ริมฝีปากบางเม้มสนิท คราวนี้ต้องยกความดีให้ จะไม่ชวนทะเลาะก็แล้วกัน “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ตอนบอก ตอนเตือนพ่อก็ไม่ฟัง แล้วเป็นไง!” “จะบ่นพ่อทำไม ที่พ่อไปเนี่ยก็เพราะอยากได้ที่ตรงนั้นจริง ๆ มันสวยมาก แกไม่รู้หรอก” “ก็เข้าใจ แต่พ่อก็ต้องพาคนไปมากกว่านี้ นี่เอาแค่อาดนัยไปคนเดียว หนูก็ว่าแล้วว่าต้องเกิดเรื่อง!” “ตอนนี้แกก็พูดได้น่ะสิ ตอนไปฉันไม่อยากให้มันเอิกเกริก กลัวคนรู้ แต่ไม่รู้ไอ้โจรนั่นมันรู้ได้ยังไง!” มธุรดาชะงัก รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา ขออย่าให้มันเป็นอย่างที่คิดเลย ก่อนหันมองชายหนุ่มที่ยังคงนั่งข้างบิดาไม่ไปไหน “นี่ก็หมดเรื่องแล้ว ทำไมนายยังไม่ไปอีก!” “ยัยดา!” คนเป็นพ่อส่งเสียงดุ “ก็มันจริงนี่พ่อ ให้เข้านอกออกในบ้านสบายแบบนี้ ไม่รู้เป็นสายให้โจรหรือเปล่า” “นี่แกไม่คิดจะเลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำคนที่ช่วยชีวิตพ่อหน่อยเหรอ ถ้าเป็นสมัยโบราณ ป่านนี้เขายกลูกสาวให้แล้ว!” คนเป็นลูกถึงกับอ้าปากค้างสีหน้าตื่นตระหนก “พ่อพูดอะไรแบบนี้เนี่ย! เชิญเอาอกเอาใจกันให้พอเลย!” พุดจบ คนสวยลุกยืนกระแทกส้นเท้าเดินจากไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD