ตอนที่ 4 วัวนม

1167 Words
ปฐมมองดูสถานการณ์ ไม่กล้าเข้าไปสอด เพราะเกรงตนเองจะมีปัญหา ทางด้านคุณเมธาสิทธิ์เอง ก็สนิทกับนายใหญ่ไม่น้อย ดูท่าเหตุการณ์คราวนี้ นายใหญ่อาจชอบใจเสียด้วยซ้ำไป ที่ปราบพยศลูกสาวคนเดียวลงได้ ร่างบางถูกอุ้มพาดบ่า ทามกลางสายตาสาวๆ มะปรางค์ยืนนิ่งไม่กล้าเข้าไปยุ่ง ถึงอย่างไรก็เชื่อว่ายัยผู้หญิงอย่างมธุรดาคงไม่มีทางตรงสเป็กที่สิทธิ์แน่นอน “ไอ้ถมช่วยฉันสิ เร็วเข้า!” ปฐมหันรี่หันขวางสับสนไม่รู้ควรทำอย่างไร ก่อนหันไปทางเพื่อนเจ้านาย “คุณรุ่งกลับกับผมก็ได้ครับ เพราะคุณสิทธิ์คงพาคุณดากลับบ้านนั่นแหละครับ” รุ่งนภายิ้มเจือนๆ “ได้ค่ะ” ปฐมสตาร์ทรถทิ้งเจ้านายในทันที มธุรดาหน้าหวอ พยายามดิ้นรนสุดกำลัง “ปล่อยฉัน ไอ้ทุเรศเอ้ย!” หญิงสาวยังคงโวยวายไม่หยุด ร่างบางถูกวางไว้เบาะหน้ารัดเข็มขัด แต่เจ้าตัวกลับจะปลดหนี เขาจ้องมองแววตาดุ “ถ้าปลดเข็มขัด รับรองเลยว่าเธอจะได้รู้จักรสจูบอันเร่าร้อน ทำเอาหัวใจแทบทะลักออกจากอก อาจทำให้หยุดหายใจไปเลยก็ได้นะ คุณมธุรดา..” “ไอ้วัวนม!” “ทำไมหรือครับ แม่..” เขาจ้องมองไปตรงหน้าอก “วัวนม” “นี่นาย!” เธอรีบยกมือปิดหน้าอกตนเอง “อ้าว! รู้ตัวเหรอเนี่ย นึกว่าไม่รู้” “ไม่รู้อะไร!” “ไม่รู้ตัวว่าเป็นผู้หญิงไง วันๆ เห็นทำตัวอย่างกับผู้ชาย แบบนี้ไงถึงไม่มีผัว!” “คนอย่างฉันไม่มีผัวก็ไม่ตายหรอก ยิ่งได้ผัวแบบนาย ยิ่งยอมขึ้นคานจนตายดีกว่า!” “ระวังนะ...” เมธาสิทธิ์สบตาแล้วยิ้มเยาะ “เกลียดอะไร ได้อย่างนั้น” ตั้งใจอ้าปากเถียง แต่จำต้องเก็บงำเอาไว้ ทั้งเพื่อน ลูกน้อง ทอดทิ้งกันไปหมด ทะเลาะกันทีไรไม่เคยเอาชนะไอ้หมอนี่ได้เลย แต่ไม่เชื่อหรอก ว่าวันของเธอจะไม่มาถึง ไอ้วัวนมมันต้องโดนดีเข้าสักวัน คอยดู เขาผละออกห่าง แล้วเปิดประตูนั่งประจำที่คนขับ เคลื่อนรถออกจากบริเวณงาน ราวสิบหน้านาทีรถจอดบริเวณลานหน้าบ้าน เมธาสิทธิ์ตรงมาเปิดประตู ทว่าคนนั่งกลับกอดอกไม่ยอมลง “ลงมาสิ” เขาบอก “อยากพาฉันไปนักไม่ใช่หรือไง ฉันไม่ลง!” หญิงสาวประชด ขายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก “ก็เอาสิ อยากไปบ้านฉันก็ไม่บอก เดี๋ยวพาขึ้นไปถึงห้องนอนเลย เธอจะได้รู้จักว่าสวรรค์เป็นยังไงสักที!” “ไอ้บ้า!” มธุรดาแหวกลับ แล้วกระโดดลงจากรถทันที ร่างบางก้าวฉับไม่เหลียวหลัง ก่อนเห็นรถตนเองจอดอยู่ ริมฝีปากบางเม้มแน่นด้วยความรู้สึกขุ่นเคือง ก่อนกระแทกส้นเท้าขึ้นบ้านไป โดยมีเขาเดินตามมาติดๆ กำนันมงคลเดินออกมา เห็นด้านหลังบุตรสาวมีชายหนุ่มไร่เคียงข้างกำลังยกมือไหว้ “สวัสดีครับกำนัน” “อ้าว สวัสดีสิทธิ์ มาพอดีเลย พอดีอามีเรื่องอยากปรึกษาสักหน่อย อยู่ทานข้าวด้วยกันเลยได้ไหม” เขากระตุกยิ้มมุมปาก แล้วเหลือบมองไปยังบุตรสาวกำนัน “จะดีเหรอครับ คนบางคนอาจไม่พอใจเอา” “โอ้ย!” กำนันขึ้นเสียงสูง “ที่นี่มันบ้านอา ใครจะกล้าพูดอะไรได้” ไม่วายคนเป็นพ่อเหลือบมองบุตรสาว เขารู้ดีว่ายัยลูกสาวตัวแสบ ไม่ชอบขี้หน้า เจ้าของไร่ข้างๆ มากแค่ไหน แต่ทว่าตนเองนั้นกลับชอบอกชอบใจหนุ่มคนนี้เพราะมีน้ำใจ และมีความรู้มากมาย ที่เหมาะนำไปพัฒนาไร่ตนเอง “ถ้าคุณอาพูดแบบนี้ ผมไม่เกรงใจแล้วนะครับ” “ก๋วยเตี๋ยวเมื่อกี้ไม่คาคออยู่เหรอ ยังมีหน้ามากินข้าวบ้านคนอื่นอีก!” มธุรดาเบ้ปาก คนถูกแขวะสะดุ้งโหยง ทำเอาคนเป็นพ่อต้องตวัดสายตามอง “เข้าห้องไปเลยไปยัยดา ถ้าหงุดหงิดมากนักล่ะก็ พ่อมีธุระต้องคุยกับคุณสิทธิ์เขา อย่ามาพาลเกเรแบบนี้” มธุรดาเม้มริมฝีปาก หน้างอใส่บิดา “ทำไมพ่อพูดแบบนี้ล่ะคะ!” “ก็แกชอบหาเรื่องคุณสิทธิ์เขาตลอด มีแต่เขาที่คอยเอาใจแก เลิกหาเรื่องเขาสักที!” “ดาไม่ได้หาเรื่องนะพ่อ!” “พ่อไม่สนคำแก้ตัวของแกหรอก พ่อสนในสิ่งที่เห็น ที่ได้ยินมากกว่า!” หญิงสาวกัดฟันแน่น แล้วค้อนวงใหญ่ให้อีกคน ก่อนเดินกระแทกส้นเท้าเข้าห้องตนเองไป รุ่งนภาส่งสายตาหาว่าที่แฟนสักพัก แล้วเดินตามเพื่อนเข้าห้อง ปฐมถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก “หนูชักไม่แน่ใจแล้วนะพ่อ ว่าเป็นลูกของพ่อหรือเด็กเก็บมาเลี้ยงกันแน่!” มธุรดาย้อน น้ำตาซึม เมื่อถูกบิดาตำหนิ ต่อหน้าคนที่ตนเองตั้งแง่เป็นศัตรู คนเป็นพ่อระบายลมหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน ลูกสาวอายุยี่สิบสี่ แต่ทำตัวเหมือนเด็กไม่มีผิด จบปริญญาตรีมาช่วยบริหารงานไร่ มันก็ดีอยู่หรอก แต่กลับไม่มีความรู้อะไรเลย ถ้าไม่ได้เมธาสิทธิ์เข้ามาช่วยเหลือ เขาเองก็คงแย่เหมือนกัน เพราะสมัยนี้เทคโนโลยีมันไปไกล จมอยู่กับที่ผลผลิตคงไม่ดี และขายไม่ออกเอาด้วย “ผมว่าผมขอตัวกลับก่อนดีกว่าครับ” เมธาสิทธิ์บอกเสียงเบา ดูท่าแล้วคงไม่การดีหากอยู่ต่อไป “อยู่ก่อนเถอะครับ ผมมีเรื่องสำคัญอยากปรึกษาจริง ๆ” กำนันยังคงขอร้องเช่นเดิม เมธาสิทธิ์ลำบากใจไม่น้อยเพราะแม่ลูกสาวกำนันยังจ้องตาเขม็งไม่หยุดหย่อน เล่นเอากลืมไม่เข้าคายไม่ออกทีเดียว “ถ้าลำบากนัก ก็เข้าห้องไปเสียยัยดา” คนเป็นพ่อเตือน เมื่อเห็นลูกสาวยังยืนแยกเขี้ยวให้กับแขกเช่นเดิม “รู้แล้วพ่อ ไม่ต้องรีบไล่หรอก!” มธุรดาบอกอย่างหัวเสีย แล้วกระแทกส้นเท้าเข้าห้องนอนด้วยความเดือดดาล คนสวยทิ้งกายลงบนเตียง รุ่งนภาขยับเข้ามาใกล้แล้วดึงมือเพื่อนมากุมไว้ “รุ่งขอโทษนะดา โกรธรุ่งใช่ไหม” เธอถามเพื่อนเสียงอ่อน มธุรดาตวัดสายตามอง แล้วถอนหายใจ “โกรธจนหายแล้ว ดีที่ไปช่วยทัน ไม่อย่างนั้นเธอได้หน้าเบี้ยวไปข้างนึงแน่รุ่ง!” “ก็นั่นแหละ ดีใจที่ไปช่วยทัน” “ทีหลังไม่ต้องไปกับไอ้หมอนั่นแล้วนะ!” รุ่งนภาไม่รับปาก แสร้งหยิบผ้าเช็ดตัวมาให้เพื่อนแทน “ไปอาบน้ำแล้วมานอนเถอะ” มธุรดาระบายลมหายใจแล้วลุกยืน “ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ รุ่งนอนเลยก็ได้ ไม่ต้องรอ” “ได้จ้ะ” รุ่งนภามองเพื่อนหายเข้าห้องน้ำไป แล้วรีบหยิบมือถือขี้นมาเพื่อส่งข้อความหาคนด้านนอก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความอิ่มใจ คืนนี้เธอคงฝันดีแน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD