เตยหอมคอยบอกเส้นทางทนายหนุ่มอยู่ตลอดเวลาในการกลับไปที่บ้านของเธอ ที่จริงตั้งแต่เธอตัดสินใจออกมาก็ไม่คิดจะกลับไปอีก แต่แม่ของเธอติดต่อมาบอกให้เธอไปรับพี่ชายต่างสายเลือดที่เป็นลูกติดของพ่อเลี้ยงเธอที่สนามบินให้หน่อย เธอจึงต้องกลับมาบ้านก่อนเพื่อที่จะใช้รถของที่บ้านไปรับพี่ชายต่างสายเลือด
"เธอกลับบ้านทุกอาทิตย์เลยเหรอ"
"เปล่าหรอก แม่ให้ไปรับพี่ชายที่สนามบินน่ะ เลยกลับมาเอารถก่อน"
"อ้าว แล้วทำไมไม่บอกเดี๋ยวฉันไปส่งที่สนามบิน"
"นายจะบ้าเหรอ ฉันไปรับพี่ชายนะ จะไปกับนายได้ยังไง"
"ทำไมไปกับฉันไม่ได้ ก็บอกไปสิว่ามากับเพื่อน" เขาตอบพร้อมกับหมุนพวงมาลัยรถไปทางสนามบินอย่างไม่ยอมเธอเหมือนกัน
"เพื่อนพ่อน่ะสิ นายกับฉันไม่ได้รุ่นเดียวกันเลยนะ" เพื่อนพ่อเลยเหรอ มันจะมากไปแล้วนะ!
"เธอพูดกับฉันก็เหมือนเพื่อนไหมล่ะ ถ้าไม่อยากให้เหมือนเพื่อนก็เรียกพี่สิ"
"ไม่สนิท อย่ามาล้อเล่น!" วุ่นวายจริงๆ เลย ทำไมเพื่อนๆ ของเขาถึงทนเขาได้นะผู้ชายคนนี้นี่มันน่า...
"อยากสนิทไหมล่ะ"
"ไม่!" เธอหันไปเสียงดังใส่เขาอย่างลืมตัว ปกติเธอเองก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใครอยู่แล้ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา เธอเป็นผู้หญิงประเภทที่กินข้าวคนเดียวได้ เดินห้างคนเดียวได้ ดูหนังคนเดียวได้ เธอสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้
"ดื้อฉิบ"
เตยหอมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาบ่นออกมาค่อนข้างจะเสียงดัง เธอมองไปที่นอกหน้าต่างเห็นคนเดินไปเดินมา อย่างขวักไขว่ก็อดนึกถึงเรื่องราวของตัวเองไม่ได้ หากแม่ของเธอไม่ได้แต่งงานใหม่ชีวิตของเธอก็คงไม่ต่างจากคนที่หาเช้ากินค่ำเลยนะ แต่การที่แม่ของเธอแต่งงานใหม่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขเลยสักนิดมีดีแค่อย่างเดียวคือเธอมีชีวิตที่สุขสบายขึ้นเท่านั้นเอง
"เฮ้ย!" เสียงจากทางฝั่งคนขับดังขึ้นทำให้เตยหอมหลุดจากภวังค์ความคิดจำต้องหันไปมองทนายหนุ่มที่ทำท่าทางหาอะไรบางอย่าง เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัยก่อนจะกระจ่างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของเขา
"เธอ ยืมโทรศัพท์หน่อยดิ โทรศัพท์หาย"
"หาาา! ทะ โทรศัพท์หาย หายได้ไง"
"ก็หาไม่เจอเนี่ย เอามายืมหน่อยเร็ว ในนั้นมีนัดหมายลูกความเยอะด้วย"
"ดะ ได้" ด้วยความไม่รู้เตยหอมหยิบสมาร์ตโฟนเครื่องหรูของตัวเองยื่นไปให้ทนายหนุ่มโดยไม่เห็นเลยว่าใบหน้าของเขาไม่ได้มีความกังวลอะไรเลยแม้แต่น้อย ทนายหนุ่มรับโทรศัพท์มือถือของเธอมาแล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองลงไป พร้อมทั้งลอบเพิ่มรายชื่อที่แอปพลิเคชันแชตดังลงไปด้วย
ครืด~ ครืด~ ครืด~
"อ่ะ นี่ไงอยู่ในกระเป๋ากางเกงนี่เอง ค่อยโล่งหน่อย ขอบใจนะ" เขายื่นคืนให้เธอแล้วหยิบเครื่องของตัวเองขึ้นมาบันทึกเบอร์ของเธอลงไป หัวใจแกร่งมันยิ้มย่องอย่างพอใจโถ่แม่หนูน้อยใสซื่อเสียเหลือเกิน
"นายแค่ส่งฉันก็พอ"
"แล้วจะกลับยังไง พี่ชายมาด้วยไม่ใช่เหรอมันจะลำบากเอานะ" พูดขึ้นโดยไม่ได้มองหน้าเธอเลย เขามองไปที่ถนนตรงหน้าหลังจากที่ไฟเขียวแล้วก็เคลื่อนตัวรถออกไปอย่างช้าๆ ราวกับอยากถ่วงเวลาเอาไว้
"เดี๋ยวให้คนที่บ้านมารับ" พูดจบก็กดส่งข้อความบอกแม่ตัวเองให้ส่งคนขับรถมารับเธอกับพี่ชายที่สนามบินหน่อย
"ก็ได้ แล้วจะกลับคอนโดวันไหน"
"วันนี้ค่ำๆ มีอะไรเหรอ" เธอตอบไปอย่างไม่ได้คิดอะไรขณะที่สายตายังคงจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา
"กลับวันนี้ใช่ไหม เดี๋ยวมารับ" ยังไงเขาก็ไม่มีธุระไปไหนอยู่แล้ว ระหว่างนี้ก็คงไปนั่งเล่นรอที่ร้านอาหารของเข็มทิศแล้วกัน
"หืมม! ไม่ต้องมา จะมาทำไม"
"ก็เธอไม่มีรถ"
"เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเองได้"
เอี๊ยดดดดด!
ทนายหนุ่มตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง จอดรถเอาไว้แล้วเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัย เขาหันมาจ้องหน้าเธออย่างไม่ค่อยพอใจที่เอาแต่ปฏิเสธเขาอยู่ตลอดเวลา เขาไม่เคยพลาดเรื่องผู้หญิง เขาไม่เคยถูกคนปฏิเสธ คนอย่างเขามีแต่คนมาเสนอตัวให้ และเขาก็มักเป็นคนที่เทคนอื่นอย่างไร้เยื่อใย แต่ทำไม ทำไมเธอถึงเอาแต่ปฏิเสธเขาอยู่ได้
"นั่งแท็กซี่มันอันตราย ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ฉันปลอดภัยกว่าคนพวกนั้นเยอะ" เหรอ นายน่ะน่ากลัวกว่าคนข้างนอกอีกตาบ้า!
"มะ...!" ตั้งท่าจะปฏิเสธอีกครั้ง เธอไม่อยากใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเพราะตั้งแต่เธอออกมาจากบ้านหลังนั้นเธอก็มีความสุขมากอยู่แล้ว เธอมีแค่แม่ กับเพื่อนๆ ของเธอแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว อีตานี่เป็นแค่เพื่อนของแฟนเพื่อนแต่กลับมาวุ่นวายกับเธอมากเกินไปแล้ว
"ตกลงตามนี้นะ ถ้าเธอปฏิเสธฉันจะจับเธอกินไม่เชื่อก็คอยดู"
ไอ้บ้านี่!
"ห้ามแอบด่าฉันในใจ" พูดจบก็ขับรถเข้าไปในสนามบิน แต่ก็ยังไม่ยอมแยกย้ายจากเธอง่ายๆ ยังคงเดินตามเธอต้อยๆ แม้จะเดินห่างๆ ก็เถอะเขาลอบมองยามที่เธอเดิน มองสะโพกของเธอโยกซ้ายย้ายขวาอดคิดทะลึ่งไม่ได้เลยจริงๆ สงสัยเขาต้องลองเธอสักครั้งแล้วละ
"นี่ จะตามอีกนานไหม!" อ่า... ปากสวยๆ ของเธอเวลาโมโหน่ารักเป็นบ้าเลยน่าจูบชะมัด ทนายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อยเลียกลีบปากหนาของตัวเองเบาๆ ก่อนจะเม้มปากนิดหน่อยอย่างพอใจในท่าทีของเธอ
"ก็ฉันยังไม่เห็นพี่ชายเธอมาเลย เธอรอคนเดียวเดี๋ยวเหงานะ"
"ฉันไม่เหงา ฟังฉันชัดๆ นะ ฉันชอบอยู่คนเดียว" พูดจบก็หน้าบูดหมุนตัวกลับ การันต์ที่ยังอึ้งกับคำตอบของคนตรงหน้าและท่าทีโมโหร้าย? ของเธอมันถูกใจเขาชะมัด เขารีบสาวเท้าตามเธอคว้าข้อมือเล็กของเธอเอาไว้
"รอก่อนดิ"
"นะ นาย!"
"มีอะไรรึเปล่าครับคุณหนู"
ลุงช้างคนขับรถประจำบ้านวิ่งเข้ามาตรงที่เตยหอมอยู่มองท่าทางของคุณหนูคนเล็กของบ้านกับชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี หล่อกว่าเขาสมัยหนุ่มๆ นิดหน่อยจับข้อมือของคุณหนูคนเล็กของบ้านเอาไว้อย่างสนิทสนม
"มาถึงแล้วเหรอคะลุงช้าง ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"
"รู้จักด้วยเหรอครับ" จะตอบว่าไม่รู้จักได้ไหมนะ ก็เพิ่งเจอกันยังไม่ถึงห้าวันด้วยซ้ำอีตาบ้านี่ก็เสียมารยาทใส่เธอเสียแล้ว เขายังจับมือเธออยู่โดยไม่เกรงใจลุงช้างเลยสักนิด
"รู้จักค่ะ เดี๋ยวเตยตามไปนะคะขอคุยกับเขาแป๊บหนึ่ง"
"ครับคุณหนู"
เตยหอมคว้าแขนแข็งแรงของทนายหนุ่มให้เดินออกมาจากตรงนั้น เธอชักสีหน้าไม่พอใจแต่ทนายหนุ่มไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย เขากลับรู้สึกดีที่เธอเป็นฝ่ายถูกเนื้อต้องตัวเขาก่อนเป็นครั้งแรก
"กลับไปได้แล้ว"
"ไม่กลับ"
"นายนี่!" แต่ก็ต้องเงียบไปเมื่อเขาพูดแทรกขึ้นมา
"จนกว่าเธอจะบอกว่าจะให้ฉันมารับ" ไอ้บ้านี่ ไม่มีงานมีการทำหรือไงนะ
"เอาไง ถ้าเธอให้ฉันมารับ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลย" สุดท้ายก็ต้องยอมใช่ไหม ไม่งั้นตานี่ไม่กลับแน่
"โอเค กลับไปได้แล้ว" ใบหน้าหล่อยิ้มแฉ่งอย่างพอใจมองเตยหอมหมุนตัวแล้วเดินห่างออกไป ขนาดตัวไปไกลถึงตรงนั้นกลิ่นหอมของเธอยังคงอยู่ตรงนี้อยู่เลย แต่แล้วขณะที่กำลังมองชื่นชมเธอจากทางด้านหลังเขาก็ต้องนิ่งไปเมื่อมีชายหนุ่มหน้าตาดีเดินมาโอบกอดเตยหอมด้วยความอ่อนโยน แม้จะดูจากตรงนี้เขายังรู้เลยว่าเธอตกใจอยู่ไม่น้อยและไม่น่าจะเต็มใจให้มันกอดด้วยซ้ำ
"พี่ชายเหรอวะ หน้าไม่เห็นเหมือนกันเลยสักนิด"