ชนาธรณ์เหม่อลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ตั้งแต่วันนั้นที่ฉวยโอกาสกับเด็กรับใช้ในบ้านก็ไม่อาจทำให้เขานอนหลับหรือลืมความหวานของโพรงปากเล็กช่างต่อปากต่อคำของเจ้าหล่อนไปได้เลย จนตอนนี้เขานั้นกระวนกระวายใจแปลกๆ หงุดหงิดเหมือนทำงานอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจสักอย่าง มือหนายกขึ้นลูบไล้คลึงกลีบปากหนาตัวเองไปมาขณะนั่งมองไปยังด้านนอกหน้าต่างของห้องทำงาน
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
เสียงเคาะโต๊ะทำงานของเขาดังขึ้น จึงทำให้เขาได้สติหันกลับมามองคนที่เข้ามาใหม่ ซึ่งชนาธรณ์ไม่รู้เลยว่าหญิงสาวมาตั้งแต่เมื่อไหร่
“เหม่อลอยไปถึงไหนคะพี่ธร” น้ำเสียงเล็กหวานของศศิญาภรณ์เอ่ยทักถามคู่หมั้นหนุ่มทันทีเมื่อดึงลากเก้าอี้ตรงข้ามเขาออกมานั่ง
“พอดีคิดเรื่องงานเพลินๆ น่ะครับ ว่าแต่น้องแป้งมานานรึยังครับ”
“ยังค่ะ เพิ่งมาถึงเนี่ยแหละเลยเคาะเรียกสติพี่ธร ว่าแต่เย็นนี้ว่างไหมคะ ไปทานข้าวที่บ้านของแป้งกันนะคะ คุณพ่อกับคุณแม่อยากทานข้าวด้วยค่ะ” เธอบอกคู่หมั้นหนุ่ม
“ครับ พี่เคลียร์งานตรงนี้เสร็จ เราก็ไปกันเลยครับ”
“ค่ะ พี่ธร ว่าแต่ทำไมวันนี้แป้งมาไม่เห็นคุณยุทธ์เลขาของพี่ธรคะ” เธอถามถึงเลขาหนุ่มหน้าห้องของชายคนรัก
“เขาลาป่วยน่ะ เห็นว่าเมื่อวานปวดหัวหนักและมีไข้ พี่จึงให้ลาหยุด”
“อือ...ถึงว่าไม่เห็นเลขาจอมเข้มของพี่ธร”
“ก็มันงานของเขา เขาก็ต้องเข้มสิครับ พี่ขอทำงานก่อนนะ เราจะได้รีบไปบ้านของแป้งกัน เดี๋ยวช้ากว่านี้รถได้ติดหนักแน่นอน”
“ค่ะ ว่าแต่คุณป้าไปถึงฝรั่งเศสรึยังคะ”
“ถึงแล้วครับ เนี่ยตอนนี้คงกอดลูกชายคนเล็กจนขาดอากาศหายใจตายไปแล้วมั้งครับ”
“พูดไปนั่นพี่ธร ทำงานเถอะค่ะ แป้งไม่กวนแล้ว แป้งขอออกไปเดินถ่ายรูปเล่นแถวๆ โรงแรมนะคะ”
“ครับ พี่เสร็จงานจะโทรหานะ”
“ค่ะ ไปนะคะ” แล้วเธอก็ลุกเดินจากไปปล่อยให้คู่หมั้นหนุ่มนั่งทำงานต่อ
เฮ้อ!
เขาถอนหายใจพร้อมกับมือที่จับปากกาวางลงกับเอกสารตรงหน้าทันที
ตื๊ด! ตื๊ด! ตื๊ด!
เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของเขาสั่นเตือนขึ้น ทำให้ต้องมองไปยังหน้าจอที่โชว์เบอร์อยู่ มันเป็นเบอร์โทรของที่บ้าน เขาจึงคว้ามากดรับสายทันที
“สวัสดีครับ”
“คุณธร น้านิดเองนะคะ”
“ครับผม มีอะไรรึเปล่าครับ”
“คือแม่ของตาเข้มน่ะลื่นล้มในห้องน้ำ น้านิดกับเข้มเลยจะลากลับมุกดาหารไปดูแม่ย่าน่ะค่ะ” นางบอกกลับมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“ได้สิครับ แล้วมีค่ารถมีเงินไหมครับ เดี๋ยวผมโอนเงินให้น้านิดกับน้าเข้มไว้ใช้ในการเดินทางและไว้เป็นค่ารักษาแม่ของน้าเข้มด้วยนะครับ” เขาบอก
“น้ามีค่ะคุณธร ไม่ต้องโอน...” นางยังพูดไม่ทันจบ นายหนุ่มก็เอ่ยแทรกตอบกลับมาก่อน
“ได้ยังไงครับ น้านิดกับน้าเข้มทำงานที่บ้านผมมาตั้งแต่ผมเกิด เราก็เหมือนครอบครัวเดียวกัน อย่าเกรงใจเลยครับ รีบไปเถอะครับ ผมจะโอนเงินให้นะครับ” เขาบอกพร้อมกดวางสายแล้วจัดการเข้าแอปพลิเคชันของธนาคารแล้วกดโอนเงินไปยังบัญชีของนิดาที่ทำเป็นรายการโปรดไว้ทันทีเป็นเงินจำนวนสามหมื่นบาท
“ให้ดาไปด้วยไม่ได้เหรอคะแม่นิด พ่อเข้ม ปีนี้หนูยังไม่เจอคุณย่าเลยนะคะ” อลิลดาที่กำลังช่วยพ่อกับแม่เก็บกระเป๋าเอ่ยขอ
“ไม่ได้หรอกลูก แม่เกรงใจคุณท่านและคุณธร หนูอยู่ดูแลรับใช้คุณธรที่นี่แหละดา” นิดาบอกลูกสาวด้วยเกรงใจ เพราะยอดเงินที่ข้อความแจ้งเตือนเมื่อกี้มันสามหมื่นบาทเชียว มันเยอะมาก แม้ไม่อยากรับ แต่ชนาธรณ์ก็บังคับอยู่ดี
“หนูไม่อยากอยู่ เพราะตอนนี้คุณท่านไปฝรั่งเศส ให้พี่นาง พี่น้อยดูแลก็ได้นี่คะ ถ้าไม่ให้หนูไปด้วย หนูไปพักหอพักกับแพงนะคะแม่” เธอบอกแม่
“ได้ยังไงลูก จะไปได้ยังไง ลูกต้องทำงานรับใช้ที่บ้านถึงแม้ว่าแม่กับพ่อไม่อยู่ หนูก็ต้องทำแทน และหนูเป็นอะไร ก็เห็นเมื่อก่อนอยากดูแลรับใช้คุณธรออก”
“แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้วนี่แม่ นะคะ แม่” เมื่อนึกถึงจูบวันนั้นที่พุ่มไม้ ที่เขาบังคับจูบเอาแต่ใจนั้นมันยังฝังใจและทำให้นึกถึงทุกคืนและหลับตาก็ฝันถึง
“หนูโตแล้วนะลูก ไม่ทำตัวเป็นเด็กสิ อีกอย่างลูกไปแล้วจะเรียนทันเพื่อนเหรอดา” เข้มเอ่ยบ้าง
“หนู...” ยังพูดไม่ทันจบ แม่เธอก็เอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน
“ไม่ต้องดื้องอแงเป็นเด็กเลย ช่วยแม่เก็บกระเป๋าได้แล้วดา หนูอยู่รับใช้คุณธรที่นี่แหละ มีอะไรก็ช่วยพี่น้อย พี่นางเขาล่ะ อย่าขี้เกียจ และถ้าหยุดก็ช่วยงานที่บ้าน ห้ามออกไปเที่ยว เพราะพ่อกับแม่ไม่รู้ว่าจะไปกี่วันและนานแค่ไหน เพราะย่าของเรายังไม่ฟื้นเลย อาขมโทรมาบอก”
“ก็ได้ค่ะ” เมื่อแม่ที่รักสั่งเสียงเข้มแล้วก็ต้องยอม แม้ไม่อยากจะอยู่กับเขาตามลำพังก็ตาม แม้ว่าในบ้านจะมีพี่นาง พี่น้อยอยู่ แต่เธอก็รู้สึกว่าระหว่างเธอกับเขา มันเริ่มไม่ปลอดภัยอีกแล้วตั้งแต่ที่เขาฉวยโอกาสขโมยจูบแรกเธอไปวันนั้น