“ฉันมีเวลาทั้งวันด้วยสิ นายอยากงอแงยันเย็นฉันก็ไม่ว่าหรอกนะ”
คณาธิปฮึดฮัดยกใหญ่ที่แผนของเขาใช้ไม่ได้ผลกับพลอยรดา คนอะไรใจแข็งเป็นบ้า ลูกอ้อนก็แล้ว ลูกงอแงก็แล้ว ใช้ไม่ได้ผลสักอย่าง
“ต้องไปคอนโดผมจริงอะ” คณาธิปยังไม่ละความพยายาม
“ถ้านายขับรถไปตอนนี้ฉันจะพิจารณาละครเรื่องนั้นให้”
คณาธิปตาลุกวาว เขารีบปิดประตูรถแล้วสตาร์ทรถพาผู้จัดการคนใหม่ไปคอนโดเขาทันที พลอยรดาหลุดขำ ดูท่าอีกฝ่ายคงอยากจะเล่นละครเรื่องนี้มากจริงๆนั่นแหละ
คณาธิปตบไฟเลี้ยวเข้าคอนโดใจกลางเมืองที่มีความสูงถึงหกสิบชั้น แต่คณาธิปพักอยู่ชั้นสามสิบฝั่งตะวันตกเพราะเขาชอบวิวที่ความสูงประมาณนี้และแสงแดดยามเย็นที่ตกกระทบเข้ามาในห้องไม่มากจนเกินไป แต่ยังสามารถถ่ายรูปแล้วแสงออกมาสวยได้ ตอนจองคอนโดนี้ใหม่ๆ คณาธิปเล่นขอดูห้องฝั่งตะวันตกทุกชั้น จนสุดท้ายก็มาลงเอยที่ชั้นสิบ
คณาธิปแนบคีย์การ์ดหน้าห้อง 3029 และกดรหัสผ่านหกหลัก เมื่อเสียงปลดล็อกประตูดังขึ้นเขาก็ผลักบานประตูเข้าไป พลอยรดากวาดสายตามองห้องของอีกฝ่ายอย่างถี่ถ้วน ด้วยพื้นที่เกือบร้อยตารางเมตรบวกกับห้องสไตล์ลอฟต์ที่มีเพดานสูงกว่าห้องในคอนโดทั่วไป ให้ความรู้สึกโล่งสบายเหมือนอยู่บ้านอย่างไรอย่างนั้น
และที่น่าแปลกใจคือคอนโดของคณาธิปดูเป็นระเบียบมากกว่าเพื่อนผู้ชายหลายคนที่เธอรู้จักเสียอีก คณาธิปคงเป็นคนรักความสะอาดมากกว่าที่เธอคิดล่ะมั้ง
“ห้องนายอยู่ฝั่งไหน” พลอยรดาเอ่ยถาม เมื่อสำรวจคร่าวๆแล้วก็เห็นว่าคอนโดของดาราดังมีสองห้องอย่างที่พี่เอ๊ะบอกเอาไว้จริงๆ
“ขวา” คณาธิปตอบแบบไม่เต็มใจจะตอบสักเท่าไหร่ และต่อให้เขาเล่นลิ้นไม่ยอมตอบอีกฝ่ายคงหาทางคาดคั้นเขาไม่ก็ไปขอข้อมูลจากพี่ฝนแน่ และถ้าเกิดว่าเป็นอย่างหลัง ไม่แคล้วคงโดนพี่ฝนดุที่ไม่ยอมให้ข้อมูลกับผู้จัดการคนใหม่แหง
“รหัสเข้าห้องล่ะ”
“จำเป็นต้องรู้ด้วยหรือไง!” พลอยรดายักไหล่
“แล้วพี่เอ๊ะรู้รหัสเข้าห้องนายไหมล่ะ”
“ก็ต้องรู้สิ”
“งั้นนายก็ต้องบอกให้ฉันรู้ด้วย อย่าลืมสิว่าฉันเป็นผู้จัดการนายนะ” พลอยรดายกยิ้มด้วยถือไพ่เหนือกว่า ถ้าคณาธิปไม่ยอมบอกเธอจะโทรไปฟ้องพี่ฝนตอนนี้เลย
“บอกไม่บอก” คณาธิปมุ่ยหน้าคล้ายเด็กที่โดนบีบบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ
“เอ เบอร์พี่เอ๊ะ...” พลอยรดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแกล้งกดไปที่รายชื่อผู้ติดต่อแล้วเลื่อนหาชื่อพี่เอ๊ะพร้อมกับพึมพำแบบตั้งใจให้คณาธิปได้ยิน
“084562” คณาธิปโพล่งรหัสเข้าห้องออกมาทันทีที่เห็นอีกฝ่ายทำท่าจะโทรหาผู้จัดการของเขา
“ก็แค่นั้น” พลอยรดายิ้มแล้วเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า แล้วมองดูคณาธิปอ้าปากค้างพลางกะพริบตาปริบๆ
ถ้าเก็บเอาคำพูดของพลอยรดาที่บอกว่า ‘ก็แค่นั้น’ มาคิดให้ดีๆ
นี่มันหลอกกันไม่ใช่หรือไง! ไม่ได้คิดจะโทรหาพี่เอ๊ะตั้งแต่แรกแล้วสินะ!
“พี่หลอกผมอะ!” ชายหนุ่มเริ่มโวยวาย
“หลอกอะไร” พลอยรดาแกล้งทำเป็นไขสือ ในขณะเดียวกันก็กลั้นขำท่าทีของดาราดังไปด้วย
“ที่จะโทรหาพี่เอ๊ะไง!”
“ไม่ได้หลอกสักหน่อย ก็จะโทรหาจริงๆ ถ้านายไม่ยอมบอกรหัสให้รู้น่ะนะ”
คณาธิปทำได้แค่แยกเขี้ยวและกระทืบเท้าเบาๆที่ไม่สามารถทำอะไรกับผู้จัดการคนใหม่ได้ คนอะไร อ้อนก็แล้ว พยศก็แล้ว จะไม่ได้ผลสักอย่างเลยหรือยังไง
“พาไปที่บ้านด้วยสิ”
“ไปทำไม!” คณาธิปสวนกลับทันที
“เผื่อนายทำตัวมีปัญหาแล้วหนีไปซ่อนตัวที่บ้าน ฉันจะได้ไปตามถูก”
“ต่อให้ผมมีปัญหาผมก็ไม่มีทางกลับไปเหยียบบ้านหรอก!” น้ำเสียงของคณาธิปดูหงุดหงิดและไม่ชอบใจจนพลอยรดาสัมผัสได้ เธอจึงถามเขาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
“มีปัญหากับที่บ้านเหรอ”
คณาธิปเบนหน้าหนีแล้วปิดปากเงียบอยู่หลายนาที แต่พลอยรดาก็ไม่ได้เร่งรัดเอาคำตอบอีกฝ่าย เธอปล่อยให้คณาธิปได้คุยกับตัวเอง ถ้าท้ายที่สุดแล้วเขาเลือกที่จะเงียบ เธอก็จะไม่เซ้าซี้และรับรู้ไว้แค่ว่าคณาธิปมีปัญหากับที่บ้าน
“ผมไม่ลงรอยกับที่บ้านเท่าไหร่” คณาธิปเปิดปากหลังจากเงียบอยู่นาน
“ผมไม่มีแม่ตั้งแต่จำความได้” พลอยรดารับฟังอีกฝ่ายเงียบๆ แต่หลังจากเอ่ยประโยคนั้นจบคณาธิปก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
“แค่นั้น?” พลอยรดาเอ่ยถาม
“ก็แค่นั้นแหละ พี่จะเอาแค่ไหนล่ะ” คณาธิปย้อน
“ผมอยากมีแม่เหมือนคนอื่นเขา” พลอยรดากำลังสงสารได้ที่ แต่พออีกฝ่ายหลุดประโยคถัดมาพลอยรดาก็อยากเขกหัวคนที่ชอบทำตัวเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลาอย่างคณาธิปสักโป๊กสองโป๊ก
“พี่มาเป็นแม่ผมไหมล่ะ อายุอานามก็น่าจะพอเป็นแม่ผมได้อยู่”