bc

อ้อนรักคนพาล

book_age18+
123
FOLLOW
1K
READ
HE
heir/heiress
sweet
addiction
like
intro-logo
Blurb

คณาธิปดาราดังซุปเปอร์สตาร์หนุ่มหล่อโพรไฟล์เริ่ดกลายเป็นแมวเชื่องเพราะผู้จัดการสาวจำเป็นอย่างพลอยรดา “อื้อออออ”“อดทนหน่อยนะครับคนดี”……เสือเป็นพระรองจากเรื่อง บ่วงรักคนพาลค่ะ ฝากคุณนักอ่านติดตามด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้ มีเนื้อหาโจ่งแจ้งบางช่วง ชื่อตัวละคร สถานที่ และการกระทำล้วนเป็นเรื่องสมมติ เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิงค่ะ สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ห้ามคัดลอก ทำซ้ำดัดแปลงหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของนิยายไปเผยแพร่หรือกระทำการใด ๆ ก่อนได้รับการอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด

chap-preview
Free preview
เพราะความซวยเป็นเหตุ #1
“ค่ะพี่ เอ๊ะกำลังรีบไป ค่ะ” เอ๊ะ นรีรัตร์ ผู้จัดการสาวประเภทสองที่หน้าตาสวยราวกับผู้หญิงจริงๆของดารานักแสดงที่กำลังโด่งดังเป็นพลุแตกอย่าง เสือ คณาธิป กำลังออกจากห้อง มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์แนบหู ส่วนมืออีกข้างก็หอบกระเป๋าพลางล็อกประตูห้องพลาง จังหวะที่กำลังหมุนตัวเดินลงบันไดนั้น คำพูดจากปลายสายก็ทำเอาหญิงสาวเบิกตากว้าง (“เอ้อ ทางกองเขาย้ายไปถ่ายที่พหลโยธินสตูดิโอ K ตึก GB ชั้น 15 นะ อย่าไปผิดที่ล่ะ”) “หา! อะไรนะคะ!” เอ๊ะร้องออกมาเสียงดังอย่างตกใจ (“ตามที่บอกนั่นแหละเอ๊ะ”) “แต่นั่นมันไปคนละทางกันเลยนะคะพี่ชาญ!” เอ๊ะโอดครวญเพราะไม่คาดคิดว่าทางกองถ่ายจะเปลี่ยนสถานที่กะทันหันแบบนี้ เปลี่ยนปุบปับจนเอ๊ะต้องยกมือกุมหัว เพราะพหลโยธินสตูดิโอ K น่ะ มันต้องผ่านห้าแยกลาดพร้าวที่ลือชื่อเรื่องรถติดมากๆ แล้วแบบนี้เธอจะไปทันเวลาได้ยังไง! (“รีบมาเถอะน่า โทรบอกเสือด้วย”) “ค่ะ” เอ๊ะได้แต่ตอบรับแบบจำยอม ทั้งที่ใจกำลังเดือดปุดๆยิ่งกว่าน้ำร้อน ปากคันยุบยิบอยากด่าคนเปลี่ยนสถานที่กะทันหัน จะเปลี่ยนสถานที่ก็ไม่ได้ติดอะไรหรอกนะถ้าบอกก่อนล่วงหน้าสักวัน หรืออย่างน้อยสักสามสี่ชั่วโมงก็ยังดี แต่นี่อะไร บอกก่อนล่วงหน้าแค่ชั่วโมงเดียว! ให้ตายเถอะ เธออยากกลายร่างเป็นมังกรแล้วไล่อาละวาดพ่นไฟซะตอนนี้เลย “เดี๋ยวเอ๊ะรีบไปค่ะ ว้าย แม่ร่ว..!” ไม่ทันพูดจบ ขาข้างซ้ายที่กำลังก้าวลงบันไดดันพลาดจนพาร่างของเอ๊ะไถลลงไปข้างล่าง ก้นกบของผู้จัดการสาวกระแทกขอบบันไดเข้าเต็มรัก ตุบ! ตุบ! ตุบ! (“เอ๊ะ! เอ๊ะ! ฮัลโหล! เกิดอะไรขึ้น เอ๊ะ! เอ๊ะ!”) เสียงของชาญชัย ปลายสายที่เอ๊ะคุยด้วยตะโกนร้องเรียกเอ๊ะอยู่หลายครั้งแต่ก็ไร้ซึ่งการตอบกลับ เพราะหัวเอ๊ะเพิ่งกระแทกเข้ากับราวบันไดเมื่อสักครู่จนทำให้เธอหมดสติโดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่าตัวเองได้สร้างความโกลาหลเอาไว้ และกว่าจะรู้ตัว เอ๊ะก็ลืมตาตื่นขึ้นมาในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาลหลังจากหลับไปสองวัน … “โอ้โห อะไรกันเนี่ยพิม กะจะยกสัมภาระไปทั้งบ้านเลยหรือไงฮึ” ‘พลอย พลอยรดา’ หญิงสาววัยสามสิบเอ็ดปีที่เพิ่งเรียนจบและกลับจากเมืองนอกได้แค่สามเดือน เดินมานั่งบนเตียงเปลือยเปล่าไร้ซึ่งผ้าปูที่นอนเช่นทุกทีของน้องสาว “แน่นอนสิ ก็เราจะย้ายไปกรุงเทพกันแล้วนี่นา” ‘พิม พิมวารี’ ยู่ปากใส่พี่สาวก่อนจะหันไปเก็บของลงกระเป๋าเดินทางต่อ “ให้มันน้อยๆหน่อยเราน่ะ” “แล้วพี่พลอยเก็บเสร็จแล้วเหรอคะ” น้องสาวที่อายุห่างกันห้าปีแต่ก็ยังชอบถักเปียสองข้างหันมาถามพลอยรดาตาใส “เรียบร้อย พี่ไม่ยกเค้าบ้านแบบเธอหรอกพิมวารี” “สองสาว เก็บของเสร็จกันหรือยังลูก” เสียงของมารดาตะโกนถามจากชั้นล่างของบ้าน “เสร็จแล้วค่าแม่” พลอยรดาตะโกนกลับ ก่อนจะหันมายักคิ้วใส่น้องสาว เชิงว่าให้รีบเก็บของได้แล้ว แม่ตามแล้ว ประมาณนั้น “อะไรกัน คนยังเก็บไม่เสร็จเลย” พิมวารีพองแก้มก่อนจะหยิบของยัดใส่กระเป๋ารัวๆ ทำยังไงได้ ก็มีแต่ของที่ต้องเอาไปนี่นา “เร็วเข้าเถอะน่า” พลอยรดารอจนพิมวารีเก็บของจนเสร็จเรียบร้อยถึงได้เดินกลับไปหยิบกระเป๋าที่เก็บไว้ในห้องของตัวเอง แล้วจึงเดินลงบันไดมาพร้อมกับน้องสาว “ตื่นเต้นจัง จะได้ไปกรุงเทพแล้ว” พิมวารีกระโดดโลดเต้นเหมือนเด็กๆจนคนเป็นแม่ต้องเอ่ยปราม “เอ้าๆ ระวังหน่อย เดี๋ยวก็ล้มกันพอดี” “ดูทำท่าเข้าสิ ดีใจขนาดนี้พ่อน้อยใจนะเนี่ย” คนเป็นพ่อที่ตัดสินใจไม่ย้ายตามครอบครัวไปกรุงเทพเดินอ้อมมาด้านหลังลูกสาวพร้อมกับใช้แขนโอบทั้งสองคนเอาไว้ “โธ่ อย่าน้อยใจสิคะ ยังไงพ่อก็ไปหาพวกเราทุกอาทิตย์อยู่ดีนี่นา”พลอยรดาเกาะแขนคนเป็นพ่อแล้วยิ้มกว้าง “ใช่ๆ ถ้าพ่อคิดถึงก็บินมาได้ทุกเมื่อเลยค่ะ พิมจะเข้าครัวทำอาหารเตรียมให้คุณพ่อสุดฝีมือของพิมเลย” “ทำอาหารเป็นแล้วเหรอเราน่ะ” คนเป็นพ่อเอ่ยขัด พิมวารีได้แต่ยิ้มเผล่ “ให้พี่พลอยสอนไง เนอะ” “จ้าๆ รีบขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวก็ไม่ทันขึ้นเครื่องกันพอดี” ระยะทางจากเชียงใหม่ถึงกรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางหนึ่งชั่วโมงสิบห้านาที พลอยรดาก้มมองนาฬิกาข้อมือที่บอกเวลาบ่ายสองพอดี บรรยากาศภายในสนามบินไม่วุ่นวายเหมือนที่คิด สามสาวจากครอบครัวกิตติภัทธ์เดินออกจากเกทสนามบินพร้อมกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะขึ้นแท็กซี่ไปทางถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าสู่บ้านหลังใหม่ที่ ‘พัชรา’ ผู้เป็นแม่ซื้อเอาไว้เมื่อไม่นานมานี้ พลอยรดาเงยหน้ามองบ้านสีขาวที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า แม้ตัวบ้านไม่ได้ใหญ่โตมากมายแต่ก็มีพื้นที่กว้างขวางพอให้ปลูกสวนหรือออกมาเดินเล่นได้ “แล้วคุณยายล่ะคะคุณแม่” พลอยรดาหันไปถามผู้เป็นแม่ เหตุผลที่แม่ของเธอซื้อบ้านหลังนี้เพราะอยากให้คุณยายย้ายมาอยู่ด้วยกัน เดิมทีคุณยายอาศัยอยู่กับคุณป้าหรือพี่สาวของคุณแม่ เมื่อคุณยายแก่ตัวลงและไม่มีคนดูแลเพราะคุณป้าต้องออกไปทำงานทุกวัน แม่เธอจึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ให้คุณยายหลังจากปรึกษากับคุณป้าและคุณพ่อแล้ว “เดี๋ยวคุณป้าจะขับรถมาส่ง เอาล่ะ เราเข้าไปในบ้านกันเถอะ”

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook