บทที่ 1
เปลือยเปล่า
‘นอนกับฉันสิ แล้วเธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการ’
คล้ายกับมีเสียงหวีดวิ้งก้องกังวานอยู่ในแก้วหู หญิงสาวถึงกับพูดไม่ออก ใบหน้าซีดเผือดไร้เลือดฝาด หัวใจราวกับจะหยุดเต้นลงชั่วขณะ
หึ!
ปรเมศแค่นหัวเราะอย่างที่เขาชอบทำเสมอๆ ยกมือขึ้นกอดอกปรายตามองหญิงสาวที่ยังคงนั่งนิ่ง ยักไหล่น้อยๆ แล้วหมุนตัวเดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะทำงาน ตั้งใจว่าจะไปตรวจดูบัญชีที่กาสิโนเสียหน่อย วันนี้เขาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องมามากพอแล้ว
ทว่าเมื่อเจ้าของร่างสูงใหญ่หมุนตัวกลับมา...
แก้มใสก็ได้เปลื้องเปลือยเสื้อเชิ้ตสีขาวลงไปกองที่พื้นเสียแล้ว บราเซียสีครีมกำลังจะร่วงหลุดออกจากสองเต้าอวบอิ่ม แม้จะปลดตะขอบราเซียแล้วแต่ความอับอายก็ทำให้เธอชะงักค้างไว้เพียงแค่นั้น ริมฝีปากคู่สวยเม้มแน่นเป็นเส้นตรงพยายามสะกดกลั้นความอัปยศอดสูเอาไว้อย่างสุดกำลัง
“หนูยอมเป็นของคุณ แต่คุณต้องรักษาสัญญา หนูต้องได้อยู่ที่นี่ ได้มีโอกาสดูแลใกล้ชิดน้องกานต์”
แม้ว่าน้ำเสียงที่เปล่งออกไปจะสั่นเครือคล้ายกำลังจะร้องไห้ ทว่าดวงตาของเธอกลับจ้องมองไปที่เขาอย่างหนักแน่นรอคอยคำสัญญา
ปรเมศไม่ได้ยิ้มหรือแสดงสีหน้าใดๆ ออกไป มีเพียงแววตาที่ยังคงทอดมองไปยังเจ้าของร่างงามที่เกือบจะโป๊เปลือย เขาเลิกคิ้วน้อยๆ แล้วชี้นิ้วไปที่บราเซียก่อนจะตวัดนิ้วเป็นสัญญาณว่าเธอควรจะถอดมันออกได้แล้ว
แก้มใสกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ถอดบราเซียออกแล้วถือมันไว้ด้วยมืออันสั่นเทา ราวกับชั่งใจเธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกโยนบราเซียทิ้งราวกับไม่ยี่หระ
เธอตัดสินใจแล้ว!
แน่นอนว่าต้องยอมรับผลที่กำลังจะตามมา!
ทรวงอกของสาวแรกรุ่นนั้นทั้งเต่งตึง และชูชันผงาดท้าทายได้อย่างน่าหลงใหล ราวกับดอกบัวตูมเนียนนุ่มน่าสัมผัส ปรเมศไม่ใช่ผู้ชายสุภาพแสนดี และแน่นอนว่าเขาไม่ใช่สุภาพบุรุษชวนฝัน เขาคือชายที่เต็มไปด้วยตัณหาราคะ และทำทุกอย่างเพื่อความอยู่รอดไม่ว่าจะถูกหรือผิด
เป็นผู้ชายอันตรายสีเทาๆ ค่อนไปทางสีดำและหมองหม่น ในชีวิตของเขาไม่เคยมีสีขาวแต่งแต้ม แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ใช่คนผิดคำพูด
“ฉันสัญญา”
คำตอบรับราวกับพายุ สิ้นสุดน้ำเสียงห้วน เขาก็สาวเท้ายาวก้าวประชิดร่างบาง มือข้างหนึ่งโอบเอวคอดกิ่วแล้วกระชากเธอเข้ามาในอ้อมกอดเต็มแรง มืออีกข้างบีบปลายคางให้แหงนเงยก่อนจะบดจูบลงไปอย่างกักขฬะไร้ซึ่งการทะนุถนอม
“อะ...อื้อ”
มีสิทธิ์ส่งเสียงร้องประท้วงได้เพียงเท่านั้นเมื่อปรเมศปล้นจูบดุนดันจนริมฝีปากเล็กถึงกับร้อนผ่าว หัวใจกระตุกหวามหวั่นไหวเมื่อเขากอดรัดแนบชิดเรือนร่างบอบบางอย่างเร่าร้อน บดเบียดจนแผ่นหลังแนบติดไปกับผนังห้อง
ลิ้นร้อนดุนดันริมฝีปากที่เม้มสนิทให้เผยอออกก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าไปตวัดเร้าดูดดุนความหอมหวานราวกับหยาดน้ำผึ้งเดือนห้า
รสชาติช่างดีเหลือเกิน...
คนตัวโตถึงกับผ่อนลมหายใจคล้ายครางในลำคอ ฉายชัดว่าเขากำลังพึงพอใจกับคู่นอนคนใหม่ไม่น้อย
ต่างจากแก้มใสที่รู้สึกราวกับกำลังถูกปล้นปลิดไปถึงดวงวิญญาณ เขาไม่ได้ปล้นแค่จูบ แต่เขากำลังช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเธอ หัวใจที่ควรจะต่อต้านกลับทรยศหวามไหว
ผู้ชายคนนี้...
ผู้ชายที่เธอปริ๊นรูปภาพของเขาจากข่าวสารในอินเทอร์เน็ต เลือดเนื้อของชายคนนี้ก่อเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่เติบโตในครรภ์ของเธอถึงเก้าเดือน
แก้มใสดูรูปของปรเมศทุกวันเพราะอยากให้ลูกได้รู้จักพ่อ โดยไม่รู้เลยว่าการทำเช่นนั้นทำให้หัวใจของเธอค่อยๆ ถลำลึก หลงรักเขาโดยไม่ทันรู้ตัว
แล้วเมื่อเขาทั้งกอดทั้งจูบเธออย่างเร่าร้อน ก็ทำให้เธอถึงกับหมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะขัดขืน กลับกัน.... เธอโอนอ่อนให้เขาตักตวงความสุขจากเรือนร่างโดยไม่คิดทัดทาน
ริมฝีปากเรียวค่อยๆ ผ่อนจังหวะลงเป็นบดจูบเชื่องช้าอย่างอ้อยอิ่ง ขบเม้มริมฝีปากบนแล้ววกวนกลับไปยังริมฝีปากล่างสลับไปมา ก่อนจะสอดปลายลิ้นเข้าไปอีกครั้งราวกับกำลังหลงใหลในความหอมหวาน
แต่ท้ายที่สุดเขาก็ปลดปล่อยริมฝีปากของหญิงสาวให้เป็นอิสระ กระนั้นวงแขนข้างหนึ่งกลับยังคงกอดกระหวัดรัดร่างของเธอไว้โดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย