“หึ”
คราวนี้ปรเมศจงใจหัวเราะเยาะออกมาให้อีกฝ่ายได้ยิน เขาดันสมุดเช็คออกให้พ้นตัว วางปากกาด้ามแพงกระแทกลงบนโต๊ะอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะขยับกายลุกจากเก้าอี้ แล้วย่างสามขุมเข้าหาสาวน้อยด้วยลักษณะคุกคาม
“ดูเหมือนเธอจะรักลูกชายของฉันเสียเหลือเกินนะ”
“ค่ะ! หนูรักน้องกานต์มาก เป็นความรักที่คนอย่างคุณไม่มีวันเข้าใจ ตั้งแต่ที่คุณพรากแกไปจากหนู คุณได้กอดแกบ้างสักครั้งหรือยังคะ”
คำถามกระแทกกลางใจทำให้ปรเมศถึงกับชะงักกึก สันกรามเกร็งปูดจากการกัดฟันกรอด
เด็กที่เกิดมาจากความผิดพลาด!
เด็กที่เกิดมาจากนังผู้หญิงแพศยา!
เด็กที่คนพวกนี้ใช้ต่อรองเพื่อเรียกร้องเงินทองจากเขา!
อย่าว่าแต่กอดเลย แค่มองเต็มๆ ตาเขายังไม่เคยมองด้วยซ้ำไป คนเหลือเดนอย่างเขานะหรือจะเป็นพ่อคน มันเป็นตลกร้ายชัดๆ
ที่ต้องเลี้ยงไว้เพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เป็นทายาทที่จะสืบทอดธุรกิจที่เขาสร้างขึ้นมา ก็แค่นั้นเอง!
“เธอจะออกไปจากที่นี่ด้วยอวัยวะครบสามสิบสอง หรือจะให้ฉันสั่งคนของฉันตัดแขนตัดขาเธอแล้วโยนออกไป”
เสียงห้วนคำรามต่ำลอดไรฟันคล้ายกับว่าความอดทนของเขากำลังจะสิ้นสุดลงทุกชั่วขณะ
“คุณไม่ได้รักน้องกานต์ คนที่นี่ไม่มีใครรักน้องกานต์ หนูทนไม่ได้หรอกค่ะที่จะให้แกเติบโตโดยไม่รู้จักความรักเหมือนคุณ... โอ๊ย!”
แก้มใสหวีดร้องด้วยความเจ็บเมื่อถูกคนตัวโตใช้มือข้างหนึ่งบีบลำคอแล้วผลักให้ร่างเล็กถอยร่นจนชิดผนังห้อง แล้วค่อยๆ ยกตัวเธอให้ลอยสูง
“อื้อ!”
ปลายเท้าลอยจากพื้นไปพร้อมๆ กับลมหายใจที่ค่อยๆ ขาดห้วง ใบหน้าของเธอแดงก่ำ ดวงตาเริ่มเหลือกลาน สติที่ควรมีกำลังหลุดลอย
‘นะ...น้องกานต์ มะ...แม่ปกป้องหนูได้แค่นี้ แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ...’
หยาดน้ำตาไหลออกจากหางตาเป็นสาย ไม่ได้หวงแหนชีวิตที่กำลังจะปลิดปลิว แต่หวงแหนอีกหนึ่งชีวิตที่ต้องเติบโตขึ้นมาอย่างโดดเดี่ยว
อั๊ก!
ร่างเล็กถูกปล่อยให้ร่วงหลุด หญิงสาวทรุดไปกองบนพื้น ใบหน้าแดงก่ำ หอบหายใจแรงจนตัวโยนคล้ายจะอาเจียน น้ำตามากมายพรั่งพรูอาบสองแก้มอิ่มจนเปียกปอน
ปรเมศมองร่างบอบบางด้วยหางตา สั่งสอนไปถึงขนาดนี้หากยังดื้อด้านอยู่อีกก็นับว่าบ้าเกินทน อีกเดี๋ยวคงวิ่งหนีร้องไห้ออกไปอย่างแน่นอน
ทว่า...
แก้มใสกลับทำในสิ่งที่ปรเมศถึงกับนิ่งอึ้ง เธอยกหลังมือเช็ดหยาดน้ำตาอย่างรวดเร็ว เม้มริมฝีปากเข้าหากัน ดวงตามุ่งมั่นไม่คลอนแคลน ก่อนจะค่อยๆ หอบร่างบอบช้ำคลานมาหา แล้วโดยที่ปรเมศไม่ทันได้ตั้งตัว สองมือเล็กก็ก้มกราบลงที่แทบเท้าของเขา
“ได้โปรดให้หนูได้เป็นพี่เลี้ยงของน้องกานต์เถอะนะคะ ต่อให้คุณฆ่าหนูให้ตายตรงนี้ หนูก็ยังคงยืนยันความตั้งใจเดิมไม่มีทางเปลี่ยนแปลง”
เสียงแหบจากการถูกกดทับหลอดลมปนเสียงสะอื้นฮัก ทำให้ผู้ชายตัวโตที่ไม่เคยหวั่นไหวกับสิ่งใดถึงกับนิ่งงัน ผู้หญิงคนนี้มองภายนอกเป็นเพียงแค่เด็กสาวบอบบาง แต่เวลานี้เธอทำให้เขาเห็นความบ้าบิ่นไม่หวั่นเกรงสิ่งใดแม้กระทั่งความตาย
ละครเรื่องนี้ดูเหมือนว่าเธอจะตีบทแตกกระจุย!
“ฉันจ้างพี่เลี้ยงมืออาชีพให้กับลูกฉันแล้ว”
แม้ว่าอะไรบางอย่างในตัวผู้หญิงคนนี้จะทำให้เจ้าพ่อธุรกิจสีเทารู้สึกราวกับมีอะไรตีบตันที่ลำคอ แต่เขาก็ปัดความรู้สึกเหล่านั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็วแล้วแค่นยิ้มเยือกเย็นอย่างที่เขามักทำมาตลอดชีวิต
ใบหน้าหวานที่ซีดอยู่แล้วยิ่งซีดลงไปอีกราวกับไร้เลือดฝาด ในดวงตากลมโตของเธอสั่นระริกเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“ถะ...ถ้าอย่างนั้นให้หนูเป็นคนรับใช้ คนสวน หรืออะไรก็ได้ในคฤหาสน์หลังนี้ได้มั้ยคะ ขอแค่หนูได้อยู่ใกล้ชิดน้องกานต์ ได้โปรดเถอะค่ะคุณปรเมศ ได้โปรดเถอะค่ะ”
แก้มใสวอนขอด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ สองมือเกาะที่เท้าของเขาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ปรเมศยกเท้าสะบัดจนคนตัวเล็กหงายหลัง แล้วถอยหลังไปสองก้าวอย่างชั่งใจ
สายตาคมกวาดมองหญิงสาวอย่างประเมินอีกครั้ง เขาไม่เข้าใจว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรกันแน่ เธอเลี้ยงดูบุตรชายของเขามาเพียงแค่สิบเอ็ดเดือนเท่านั้น นับตั้งแต่ผู้หญิงแพศยาคนนั้นคลอดเด็กออกมา
หรือว่านี่คือมารยาสาไถยบทใหม่ที่เขาไม่เคยรู้จัก บางทีเขาอาจต้องกระโจนลงไปเล่นตามเกมของผ้หญิงคนนี้ดูสักหน่อย เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอต้องการอะไรกันแน่
‘หนูรักน้องกานต์มาก’
ความรักงั้นเหรอ!
เหอะ!
ความรักเฮงซวยอะไร บนโลกนี้มันก็มีแต่ผลประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น คำว่ารักมักเอาไว้ใช้จูงจมูกของคนที่โง่เป็นควาย ซึ่งเขาจะไม่ยอมเป็นควายอย่างเด็ดขาด!
ดวงตากร้าวไหววูบและปวดร้าวเมื่อคิดถึง ‘ความรัก’ ก่อนจะหันกลับมามองหญิงสาวที่หมอบแทบเท้าของเขาด้วยดวงตาดูแคลน
“นอนกับฉันสิ แล้วเธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นแก้มใสก็ถึงกับแหงนหน้าขึ้นมองเขา ริมฝีปากของเธออ้าค้างอย่างตกตะลึง
“เป็นนางบำเรอของฉัน ปรนนิบัติฉัน ตอบสนองฉันอย่างเร่าร้อนบนเตียงทุกคืน เรื่องง่ายๆ แค่นี้ถ้าเธอตกลง เธอจะได้ใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ และได้ใกล้ชิดกับลูกชายของฉันอย่างที่เธอต้องการ”
เขาอธิบายให้กระจ่างชัดเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่นิ่งอึ้งราวกับถูกสาปให้แข็งเป็นหินไปเสียแล้ว