เจ๊ดอก ผู้สื่อข่าวประจำถิ่น

1338 Words
         “ โอไหมแก ” วินวี่เอ่ยถามเพื่อน เมษาพยักหน้า           “ เออ ดูภายนอกก็ดูกว้างขวางดีนะ ”           “ แล้วทำไมมันเงียบเชียบอย่างนี้วะ ”           “ สงสัยจะออกไปเรียนกันหมดล่ะมั้งครับ เพราะส่วนมากจะเป็นนักศึกษา ผมเคยมาส่งอยู่ มีห้องซ้ายสุดที่เป็นคนแก่ กับลูกชายหรือไงเนี่ย ” ลุงตุ๊กตุ๊กสอดขึ้นมา วินวี่ตาลุกวาว           “ นักศึกษาเหรอคะ ผู้หญิงหรือผู้ชายคะลุง ”           “ คนที่อยู่น่าจะผู้ชาย แต่ก็มีผู้หญิงมาอยู่เรื่อย ๆ นะครับ ตามประสาคนหนุ่มหล่อแหละครับ ”           “ ว้าย หล่อด้วยเหรอคะ อกวินวี่จะแตกแหกตอนบ่ายโมง ”           “ โอ๊ย อีวินวี่ พอ ๆ หื่นไม่รู้จักเวล่ำเวลา รู้บ้างเวลาไหนควรทำอะไรก่อน ” เธอหันไปเอ็ดเพื่อนที่ค้อนขวับตอบก่อนหันไปคุยกับลุงตุ๊กตุ๊กอีกครั้ง           “ สภาพภายนอกโอเคมากค่ะลุง ดูสงบเงียบดีด้วย ยังไงลุงพาหนูไปหาเจ้าของเลยได้ไหมคะ ”           “ ได้เลยครับ ขึ้นมาเลย ”         จากนั้น ลุงตุ๊กตุ๊กก็พาทั้งสองมุ่งหน้าไปยังบ้านเจ๊ลำไย ผู้เป็นเจ้าของห้องเช่า จากนั้นเจ๊ลำไยก็พากลับมาอีกทีเพื่อเข้าชมห้อง ภายในมีห้องรับแขกเล็ก ๆ ห้องครัว ห้องนอน ห้องน้ำ ระเบียงตากผ้า ถึงไม่โอ่โถงใหญ่โตนัก แต่นี่ก็ถือว่าดีโข แถมยังมีเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้พร้อม ทั้งเตียง โต๊ะนั่งเล่น โต๊ะกินข้าว         สองสหายตกลงใจเช่าห้องนี้ กว่าจะทำสัญญา กว่าจะจ่ายเงินเสร็จสรรพก็หมดเวลาไปอีกชั่วโมงกว่า ทั้งสองให้ลุงตุ๊กตุ๊กพาไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นรวมทั้งของกินแล้วกลับมาส่งที่ห้องพัก หลังจากนั้นก็จ่ายเงินให้ไปพอสมควรที่บริการอย่างเต็มที่ เล่นเอาแกยิ้มแก้มปริ แถมให้เบอร์มือถือไว้บอกอยากไปไหน โทรเรียกใช้ได้ตลอดเวลาราวเซเว่นอีเลฟเว่น         กว่าจะจัดเรียงข้าวของให้ลงตัวเสร็จสรรพก็ปาเข้าไปชั่วโมงกว่า กินข้าวกินปลาแล้วก็พากันตาปรือ เพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางและหาห้องพัก เมื่ออาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยทำท่าจะล้มตัวลงนอน ก็มีเสียงเคาะประตูรัวดังขึ้น ทั้งสองสะดุ้งโหยง วินวี่ขมวดคิ้ว         “ เคาะขนาดนี้มึงไม่พังประตูเข้ามาเลยล่ะ ใครวะ บังอาจมากวนเวลาจะเข้าบรรทมขององค์หญิงวินวี่ ”         “ อาจจะเป็นพวกเด็กนักศึกษาที่ลุงตุ๊กตุ๊กแกว่าหรือเปล่าวะ ” เมษาว่า นั่นทำให้เพื่อนสาวตาลุก         “ ว้าย งั้นก็ผู้ชายหล่อน่ะสิ เดี๋ยวฉันไปเปิดเอง แกนอนเถอะชะนีถึก ” พูดพลางเดินไปหยิบลิปสติกสีส้มสะท้อนแสงมารูดทาบนปาก น้ำหอมประโคมฉีดลงไปบนเรือนกาย ก่อนที่เพื่อนรักจะตะโกนด่า         “ โอ๊ย อีวินวี่ แค่เดินไปเปิดประตูแค่นี้ทำไมต้องอาบฟอร์มาลีนด้วย กลิ่นงี้ฟุ้งเต็มห้องเลย ” วินวี่หันมาค้อนวงใหญ่         “ อีคนไม่มีคลาส ฟอร์มาลีนบ้านแกสิ นี่กุชชี่ เดซี่ เลยนะ ฉันอุตส่าห์ไปถอยมาจากเจ๊เล้งตอนมันลดราคา วุ้ย ไม่คุยด้วยแล้ว เปิดประตูให้ผู้ชายดีกว่า ”         แต่ทันทีที่ประตูถูกเปิด วินวี่ก็ต้องผิดหวังอย่างแรง เพราะที่ยืนอยู่มันไม่ใช่ผู้ชายหล่อกรุบ ๆ อย่างที่เธอคาดหวัง หากแต่เป็นป้าอายุราวสี่สิบปลาย สวมกางเกงแล็คกิ้งสีโอรส เสื้อรัดรูปลายเสือ แต่ด้วยสรีระของเจ้าหล่อนที่เกินอวบระยะสุดท้ายไปไกลโข แทนที่มันจะดูเซ็กซี่เป็นแม่เสือสาว มันเลยปลิ้นออกมาเป็นปล้อง ๆ ดูเซ็กส์เสื่อมคล้ายงูเหลือมอิ่มหมาเสียมากกว่า สิบนิ้วสวมแหวนเสียแปด ผิวเจ้าหล่อนขาวจั๊วะราวกับเต้าหู้ ใบหน้าอวบอูม ตาเล็กหยี ปากบางเฉียบเคลือบลิปสติกสีเดียวกับกางเกง เหนือริมฝีปากขวามีไฝเม็ดเป้งติดอยู่ เป็นสัญลักษณ์เรดาร์แห่งวงการเผือกที่แท้จริง         ปากสีโอรสคลี่ยิ้มก่อนจะยื่นถุงในมือมาให้         “ สวัสดีค่ะคุณน้องผู้มาอยู่ใหม่ทั้งสอง เจ๊ชื่อดอกไม้นะคะ อยู่ห้องริมขวาสุด ได้ยินจากเจ๊ลำไยว่ามีสมาชิกใหม่ พี่ก็เลยซื้อขนมจีนแกงเขียวหวานมาฝาก ” วินวี่ยกมือขึ้นไหว้ด้วยท่าทีอ่อนช้อยราวนางงามพึ่งได้รับตำแหน่ง         “ ขอบพระคุณมาก ๆ เลยนะคะเจ๊ดอก ”         “ ดอกไม้จ้ะ กรุณาเรียกให้เต็ม ๆ ”         “ ค่ะ เจ๊ดอกไม้ น้องชื่อวินวี่นะคะ ส่วนเพื่อนของน้องที่เถื่อน ๆ ถึก ๆ หน้าโหด ๆ นั่นชื่อเมษ์ เมษ์ โผล่หน้าออกมาหน่อยซิ มีพี่เพื่อนบ้านเขามาต้อนรับแน่ะ ” ท้ายประโยคนางชะโงกหน้าไปตะโกนเรียกเพื่อนรัก เมษาที่ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วจำต้องผุดลุกขึ้นแล้วเดินออกไปที่ประตู กระนั้นมันก็ยุ่งไปหมดทั้งหน้าทั้งหัว แต่เมื่อเห็นผู้มาเยือนก็จำต้องฉีกยิ้มและไหว้ทำความเคารพตามมารยาท         “ สวัสดีค่ะคุณพี่ ”         “ ดอกไม้จ้ะ จะเรียกว่าเจ๊ดอกไม้แสนสวยก็ได้ เจ๊ไม่เกี่ยง แล้วนี่มาจากไหน ทำงานที่ไหน มีลูกมีผัวกันหรือยัง สองคนคงเป็นเพื่อนกันสินะ ดูสภาพแล้วไม่น่าใช่ผัวเมีย ” เรดาร์เริ่มทำงาน ดวงตาเล็กหยีกลอกมองทั้งสองตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าวินวี่ลอบกลอกตามองบนแว้บหนึ่งก่อนที่จะเอ่ยตอบอ่อนหวานอย่างนางสาวไทย         “ เราเป็นเพื่อนกันน่ะค่ะ ย้ายมาประจำชั่วคราวที่ห้างโฮมแอนด์แลนด์สาขาที่นี่ เมษ์บ้านอยู่สงขลา ส่วนหนูที่หน้าตาสวย ๆ เซ็กซี่ ๆ แบบนี้ก็มาจากกรุงเทพฯ ค่ะ ”         “ นั่นน่ะสิ เจ๊ก็ว่า หน้าตาไม่เหมือนคนหาเช้ากินค่ำ ว่าแล้วจะต้องทำงานมีหน้ามีตามีตำแหน่ง แล้วทำไมถึงย้ายมาล่ะ มีเรื่องอะไรกันใช่มะถึงได้โดนย้าย แหม อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ขอเจ๊เข้าไปนั่งเม้าท์ข้างในหน่อยเถอะ ยืนอยู่ตรงนี้เริ่มปวดขา หัวเข่าไม่ค่อยดีเท่าไร ” พูดพลางทำทีจะเดินเข้าไปด้านใน เป็นเมษาที่รีบเอ่ยเบรกเสียก่อน         “ เจ๊ดอกคะ ”         “ ดอกไม้จ้ะ ” เจ้าตัวรีบแย้งทันควัน         “ ค่ะ โทษที เจ๊ดอกไม้ คือเราทั้งสองเนี่ยพึ่งจะย้ายของ จัดของเสร็จเหนื่อยมากเลย อยากจะนอนพักสักหน่อย ดังนั้นเราขอเสียมารยาทยังไม่คุยตอนนี้ได้ไหมคะ ไว้วันว่าง ๆ เราจะรีบเดินไปเม้าท์กับเจ๊ที่ห้องเลย ดีไหมคะ ” เจ๊ดอกไม้มีสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัดที่โดนปฏิเสธตามประสาคนช่างเม้าท์ แต่ก็ต้องยิ้มออกมาในท้ายที่สุด         “ ก็ได้จ้ะ แหม เสียดาย อยากจะทำความรู้จักกันให้มากขึ้น เออ ถ้าน้องทั้งสองอยากจะรู้อะไรนะ ถามเจ๊ได้ เจ๊รู้         ทุกอย่าง แต่เจ๊ไม่ค่อยได้อยู่ห้องหรอก ไป ๆ มา ๆ น่ะ”         “ เสือกไปทั่วทุกอณูล่ะสิ ” วินวี่เอ่ยเบา ๆ อย่างอดไม่ได้ มิวายที่เจ๊แกจะเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกใจ         “ ตะกี๊คุณน้องว่าไงนะคะ ”         “ อ๋อ เปล่าค่ะ แค่บอกว่า ดีใจที่เจ๊รู้ทุกอณูเหมือนกูเกิ้ลเลย เวลาสงสัยอะไรจะได้ถาม เนาะเมษ์เนาะ ดี๊ดี ” ท้ายประโยคหันไปพยักเพยิดกับเพื่อนรัก เมษาได้แต่ยิ้มให้เนือย ๆ เพราะตาแทบจะปิดอยู่แล้ว         “ ถ้าอย่างงั้นเจ๊ไปละนะ พักผ่อนกันเถอะ นี่ก็บ่ายแล้ว ประเดี๋ยวไอ้พวกเด็กสวะข้างห้องนี่มันกลับมาก็คงไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันอีก ไม่ได้อยู่กันอย่างมีความสุขหรอก เจ๊บอกเลย ” คำบอกกล่าวนั้นทำให้สองคู่ซี้หันมาสนใจอีกครั้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD