“เป็นไง แม่นไหม?”
ทันทีที่ออกมาเจ๊สุ่มก็ดึงฉันลงไปนั่งกึ่งกลางระหว่างเธอกับเจ๊บอลลูน
“ค่ะ”
ตอบแบบไม่เต็มเสียงก่อนที่มินตราจะชวนพวกเรากลับ
“มินไม่ดูนะคะ เรากลับกันเลยไหม”
เห็นเพื่อนดูเวลาแล้วเวลาอีกสงสัยจะมีงานด่วนหรือเปล่า
“งานเข้าเหรอ”
“อืม ซีซาร์ส่งข้อความมาบอกว่าทางกองถ่ายขาดคนเลยอยากให้ฉันไปช่วย”
ซีซาร์ที่ว่าคือนายแบบและพระเอกละคร พระเอกเอ็มวีที่ฮอตสุด ๆ ในตอนนี้
แอบอิจฉาเพื่อนฉันเหมือนกันนะที่ได้ร่วมงานกับคนดัง ๆ แบบเขา
“งั้นเรากลับกันเลยนะคะ”
ฉันหันไปออกความเห็นกับพวกเจ๊ ๆ
“น่าเสียดาย สักสิบนาทีก็ไม่ได้เหรอหนูมิน” เจ๊สุ่มทำหน้าเหมือนเสียดายแทนเธอจริง ๆ
“ไว้คราวหน้าก็ได้ค่ะ มินเชื่อว่าเจ๊ ๆ มาบ่อย”
เหมือนพูดถูกใจขาใหญ่ทั้งสองจึงยิ้มกว้างออกมา
“งั้นก็กลับกัน” เจ๊สุ่มว่า
“น้ำไปส่งนะ” ฉันกับมินตรามารถคันเดียวกันน่ะ
“รบกวนด้วยนะคะสารถีคนสวย”
ดูพูดจาเข้า มันน่าหยิกแก้มให้เป็นรอยจนเข้ากองถ่ายไม่ได้จริง ๆ
“พรุ่งนี้วันเกิดแกแล้วนี่”
มินตราที่กำลังแต่งหน้าทำผมอยู่พูดขึ้น
วันนี้เรามาเป็น PR ให้กับงานเปิดตัวรถคลาสสิกจากญี่ปุ่น
“ใช่ นี่ยังคิดไม่ออกเลยจะไปฉลองที่ร้านไหนดี”
พอถึงวันเกิดฉันทีไรในหัวก็คิดถึงคน ๆ หนึ่งที่เธอไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
“เฮียมาคส์ว่ายังไงล่ะ”
“ไม่รู้สิ ฉันยังไม่ถามเขาเลย”
ช่วงนี้รู้สึกว่าแฟนฉันดูยุ่ง ๆ กับโรงงานแปรรูปไม้ ธุรกิจครอบครัวของเขาจนเราแทบจะไม่ได้เจอกัน
“แกมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า ฉันเห็นตั้งแต่กลับมาจากดูดวงแกก็ดูหงอย ๆ นะ”
มินตราวางแปรงแต่งหน้าลงแล้วหันมาสนใจฉัน
“แกพอรู้เรื่องไพ่ยิปซีอะไรพวกนั้นหรือเปล่า”
“ก็เคยได้ยินว่าแม่นนะ”
แม่นเหรอ?
ไม่หรอกมั้ง!
“แกถามทำไม หรือว่าวันนั้นแม่หมอเขาทักอะไรให้แกไม่สบายใจ”
ฉันมองเวลาที่หน้าจอมือถือ ยังเหลืออีกหลายนาทีให้เราได้นั่งชิลกันก่อนจะเริ่มงาน ฉันเลยกดเข้าเบราว์เซอร์เพื่อค้นหาไพ่ที่เปิดเจอในวันนั้นให้ยัยมินตราดู
“แกดูความหมายของไพ่สามใบนี้สิ”
มินตรายื่นมือมารับโทรศัพท์ฉันไปดู
เธอเงียบไปหลายนาทีก่อนจะออกความเห็น
“สองใบแรกทำแกคิดมากใช่ไหม”
เธอคงหมายถึงไพ่ 7 ดาบ กับ ไพ่เดอะทาวเวอร์
“ตอนแรกฉันก็ไม่เก็บมาใส่ใจหรอกนะเพราะคนอย่างเฮียมาคส์ไม่เป็นแบบนั้นแน่”
“แล้วทำไมวันนี้แกดูกลุ้มใจล่ะ”
ฉันสบตาเพื่อนรักย่นคิ้วเข้าหากันก่อนเอ่ย
“ฉันเป็นแบบนั้นเหรอ”
มินตราพยักหน้าตอบคำถาม
“มากอะ แกดูไม่ร่าเริง หรือเพราะว่าเฮียมาคส์ไม่ค่อยมีเวลาให้”
ที่มินตรารู้ว่าช่วงนี้เฮียมาคัสไม่ค่อยมีเวลาให้ฉันเพราะเราตัวติดกันรับงานคู่กันจนค่ำมืดดึกดื่นน่ะ
“ฉันไม่อยากคิดมากนะแก สงสัยเพราะไปดูดวงมานั่นแหละเลยทำให้ฉันไขว้เขว”
มือบาง ๆ ของเพื่อนรักวางทาบลงบนไหล่พร้อมบีบเบา ๆ คล้ายปลอบใจฉัน
“แกคงคิดมากจริง ๆ นั่นแหละ ไม่เคยได้ยินหรือไง หมอดูคู่กับหมอเดา”
มินตราพูดปลอบใจ
นั่นสิเนอะ อย่าเก็บเรื่องไม่สบายใจมาคิดให้บั่นทอนจิตใจเล่นเลย
“แต่ใบสุดท้ายนี่ดีนะ บ่งบอกว่าแกน่ะจะได้เริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ”
“ก็ยังดีที่ไม่ร้ายทั้งสามใบ”
“ทีนี้ยิ้มได้หรือยังจ๊ะ ชลนิภาคนสวย”
แก้มฉันถูกดึงเบา ๆ ตามมาด้วยแปรงนุ่ม ๆ ที่จุ่มบลัชออนมาปัดทับรอยที่นางทำไว้
ฉันนั่งมองเพื่อนรักตรงหน้าที่ช่างดีแสนดีคอยเป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องทุกอย่าง
“ขอบใจนะที่แกมาเป็นเพื่อนฉัน”
มินตราเลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนตกใจที่ฉันจะพูดจาเลี่ยน ๆ แบบนี้ ก่อนที่รอยยิ้มสวย ๆ จะผุดพรายขึ้นบนใบหน้าเฉี่ยวคมของเธอ
“ขอบใจแกเหมือนกันที่ทนคบฉันมาตั้งเป็นสิบปี”
แล้วเสียงหัวเราะของพวกเราก็ดังขึ้น
เฮ้อ...พอได้ระบายอะไรออกมาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย
สองชั่วโมงต่อมา...
“ค่าเหนื่อยวันนี้เลขาฯ ผมจัดการโอนเข้าบัญชีให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”
ผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของงานโชว์รถในวันนี้ยืนคุยกับพวกฉันหลังจากที่เสร็จงานแล้ว
“ขอบคุณนะคะ” ฉันกับยัยมินตรายกมือไหว้เตรียมจะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า
“เดี๋ยวพวกเราจะมีงานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่ชั้นห้า ไปด้วยกันสิ”
ฉันมองหน้าเพื่อนเพื่อขอความเห็น
“ได้ค่ะ” ยัยมินเป็นฝ่ายตอบ
“ดีเลยครับ เดี๋ยวอีกชั่วโมงเจอกันที่ร้านxxx นะ”
พวกเรายิ้มพยักหน้าเป็นอันตกลง
“พี่คะ”
พอหันหลังจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็มีเสียงใส ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งรั้งพวกเราไว้ พอหันมามองเป็นนักศึกษาของมหาลัยแห่งหนึ่ง หน้าตาน่ารัก ดูผิวพรรณดี
“ใช่พี่น้ำแข็งกับพี่มินตราใช่ไหมคะ”
หือ? รู้จักพวกฉันด้วย
“ใช่ค่ะ น้องรู้จักพวกพี่ด้วยเหรอคะ” ฉันถาม
“หนูเป็นแฟนคลับพี่ในไอจีแล้วก็ทุกโซเชียลเลยค่ะ”
ว้าว ดีใจจัง
“วันนี้หนูขอถ่ายรูกับพวกพี่ ๆ ได้ไหมคะ”
ฉันกับยัยมินมองหน้ากันเล็กน้อย
“ได้สิคะ ไปตรงนู้นดีไหม วิวสวยดี”
มินตราชี้ไปอีกทางที่มีซุ้มดอกไม้สดตั้งอยู่
“แก ๆ มาถ่ายรูปให้เค้าหน่อย”
น้องคนเมื่อกี้กวักมือเรียกผู้ชายอีกคนที่หน้าตาค่อนข้างดีทีเดียว
“ขอสวย ๆ นะ”
ฉันยิ้มให้กับความน่ารักสดใสของน้องคนนี้ ก่อนจะจัดท่ายืนประกบน้องเขาโดยที่ฉันอยู่ฝั่งซ้ายและยัยมินอยู่ฝั่งขวาของน้องนักศึกษา
แชะ!
เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นหนึ่งครั้ง น้องคนที่มาขอถ่ายรูปรีบวิ่งไปดูรูปนั้นทันที
“โหยยย ไม่สวยเลย แกถ่ายเค้าอ้วนเตี้ยอะ”
เสียงกระเง้ากระงอดดังขึ้น ฉันมองหน้ายัยมินแล้วหลุดขำออกมาเบา ๆ ไม่ให้น้องเขาได้ยิน
“ตัวเองตัวเล็กเอง ขาก็สั้นยังจะโทษคนถ่ายอีก”
ผู้ชายที่รับหน้าที่ถ่ายรูปให้ยื่นมือไปหยิบกล้องมาแล้วเหมือนจะทำอะไรสักอย่าง
“เนี่ย แค่นี้ก็สวยแล้ว”
“ไม่เอาสิ เราไม่ใช้แอป”
อ้อ ที่แท้ก็แต่งรูปนี่เอง
“ไหนครับ มีอะไรให้ช่วยไหม”
“พี่สายฟ้า”
รู้สึกตกใจที่จู่ ๆ พี่สายฟ้าก็ปรากฏตัวขึ้น
“เฮียดูยัยเตี้ยสิหาว่าผมถ่ายเธอไม่สวย”
“อย่ามาว่าเค้าเตี้ยนะ แค่ส่วนสูงยังไม่มาย่ะ!”
“ทะเลาะกันอีกแล้ว พรุ่งนี้จะถอนหมั้นกันไหม หืม?”
ถอนหมั้น!?
หมายความว่าน้องสองคนนี้เป็นแฟนกันงั้นเหรอ
อา...อิจฉาเด็ก ๆ จัง
“ไปยืนไป เดี๋ยวเฮียถ่ายให้”
“ขอบคุณค่ะเฮียฟ้า”
แล้วน้องผู้หญิงคนนั้นก็เดินกลับมายืนที่เดิม
เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัว ๆ ราว ๆ ห้าหกภาพ
“ไหนคะ ของกิ่งดูหน่อย”
เธอวิ่งเข้าไปกระโดดแย่งกล้องจากพี่สายฟ้ามาดู สักพักก็ยิ้มแก้มปริ
“นี่สินะมืออาชีพกับมือสมัครเล่น”
“น้อย ๆ หน่อยยัยเตี้ย เสร็จยัง หนังจะฉายแล้วนะ”
“เดี๋ยวสิ ยังไม่ได้ขอบคุณพี่ ๆ เขาเลย”
น้องคนเดิมหันมาทางพวกฉันก่อนจะไหว้ขอบคุณแล้วเดินจากไป
“คนรู้จักเหรอคะ”
ฉันถามพี่สายฟ้าที่เดินเข้ามาหา