ไม่โปรดปราน:8

1360 Words
“เป็นไง แม่นไหม?” ทันทีที่ออกมาเจ๊สุ่มก็ดึงฉันลงไปนั่งกึ่งกลางระหว่างเธอกับเจ๊บอลลูน “ค่ะ” ตอบแบบไม่เต็มเสียงก่อนที่มินตราจะชวนพวกเรากลับ “มินไม่ดูนะคะ เรากลับกันเลยไหม” เห็นเพื่อนดูเวลาแล้วเวลาอีกสงสัยจะมีงานด่วนหรือเปล่า “งานเข้าเหรอ” “อืม ซีซาร์ส่งข้อความมาบอกว่าทางกองถ่ายขาดคนเลยอยากให้ฉันไปช่วย” ซีซาร์ที่ว่าคือนายแบบและพระเอกละคร พระเอกเอ็มวีที่ฮอตสุด ๆ ในตอนนี้ แอบอิจฉาเพื่อนฉันเหมือนกันนะที่ได้ร่วมงานกับคนดัง ๆ แบบเขา “งั้นเรากลับกันเลยนะคะ” ฉันหันไปออกความเห็นกับพวกเจ๊ ๆ “น่าเสียดาย สักสิบนาทีก็ไม่ได้เหรอหนูมิน” เจ๊สุ่มทำหน้าเหมือนเสียดายแทนเธอจริง ๆ “ไว้คราวหน้าก็ได้ค่ะ มินเชื่อว่าเจ๊ ๆ มาบ่อย” เหมือนพูดถูกใจขาใหญ่ทั้งสองจึงยิ้มกว้างออกมา “งั้นก็กลับกัน” เจ๊สุ่มว่า “น้ำไปส่งนะ” ฉันกับมินตรามารถคันเดียวกันน่ะ “รบกวนด้วยนะคะสารถีคนสวย” ดูพูดจาเข้า มันน่าหยิกแก้มให้เป็นรอยจนเข้ากองถ่ายไม่ได้จริง ๆ “พรุ่งนี้วันเกิดแกแล้วนี่” มินตราที่กำลังแต่งหน้าทำผมอยู่พูดขึ้น วันนี้เรามาเป็น PR ให้กับงานเปิดตัวรถคลาสสิกจากญี่ปุ่น “ใช่ นี่ยังคิดไม่ออกเลยจะไปฉลองที่ร้านไหนดี” พอถึงวันเกิดฉันทีไรในหัวก็คิดถึงคน ๆ หนึ่งที่เธอไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว “เฮียมาคส์ว่ายังไงล่ะ” “ไม่รู้สิ ฉันยังไม่ถามเขาเลย” ช่วงนี้รู้สึกว่าแฟนฉันดูยุ่ง ๆ กับโรงงานแปรรูปไม้ ธุรกิจครอบครัวของเขาจนเราแทบจะไม่ได้เจอกัน “แกมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า ฉันเห็นตั้งแต่กลับมาจากดูดวงแกก็ดูหงอย ๆ นะ” มินตราวางแปรงแต่งหน้าลงแล้วหันมาสนใจฉัน “แกพอรู้เรื่องไพ่ยิปซีอะไรพวกนั้นหรือเปล่า” “ก็เคยได้ยินว่าแม่นนะ” แม่นเหรอ? ไม่หรอกมั้ง! “แกถามทำไม หรือว่าวันนั้นแม่หมอเขาทักอะไรให้แกไม่สบายใจ” ฉันมองเวลาที่หน้าจอมือถือ ยังเหลืออีกหลายนาทีให้เราได้นั่งชิลกันก่อนจะเริ่มงาน ฉันเลยกดเข้าเบราว์เซอร์เพื่อค้นหาไพ่ที่เปิดเจอในวันนั้นให้ยัยมินตราดู “แกดูความหมายของไพ่สามใบนี้สิ” มินตรายื่นมือมารับโทรศัพท์ฉันไปดู เธอเงียบไปหลายนาทีก่อนจะออกความเห็น “สองใบแรกทำแกคิดมากใช่ไหม” เธอคงหมายถึงไพ่ 7 ดาบ กับ ไพ่เดอะทาวเวอร์ “ตอนแรกฉันก็ไม่เก็บมาใส่ใจหรอกนะเพราะคนอย่างเฮียมาคส์ไม่เป็นแบบนั้นแน่” “แล้วทำไมวันนี้แกดูกลุ้มใจล่ะ” ฉันสบตาเพื่อนรักย่นคิ้วเข้าหากันก่อนเอ่ย “ฉันเป็นแบบนั้นเหรอ” มินตราพยักหน้าตอบคำถาม “มากอะ แกดูไม่ร่าเริง หรือเพราะว่าเฮียมาคส์ไม่ค่อยมีเวลาให้” ที่มินตรารู้ว่าช่วงนี้เฮียมาคัสไม่ค่อยมีเวลาให้ฉันเพราะเราตัวติดกันรับงานคู่กันจนค่ำมืดดึกดื่นน่ะ “ฉันไม่อยากคิดมากนะแก สงสัยเพราะไปดูดวงมานั่นแหละเลยทำให้ฉันไขว้เขว” มือบาง ๆ ของเพื่อนรักวางทาบลงบนไหล่พร้อมบีบเบา ๆ คล้ายปลอบใจฉัน “แกคงคิดมากจริง ๆ นั่นแหละ ไม่เคยได้ยินหรือไง หมอดูคู่กับหมอเดา” มินตราพูดปลอบใจ นั่นสิเนอะ อย่าเก็บเรื่องไม่สบายใจมาคิดให้บั่นทอนจิตใจเล่นเลย “แต่ใบสุดท้ายนี่ดีนะ บ่งบอกว่าแกน่ะจะได้เริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ” “ก็ยังดีที่ไม่ร้ายทั้งสามใบ” “ทีนี้ยิ้มได้หรือยังจ๊ะ ชลนิภาคนสวย” แก้มฉันถูกดึงเบา ๆ ตามมาด้วยแปรงนุ่ม ๆ ที่จุ่มบลัชออนมาปัดทับรอยที่นางทำไว้ ฉันนั่งมองเพื่อนรักตรงหน้าที่ช่างดีแสนดีคอยเป็นที่ปรึกษาได้ทุกเรื่องทุกอย่าง “ขอบใจนะที่แกมาเป็นเพื่อนฉัน” มินตราเลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนตกใจที่ฉันจะพูดจาเลี่ยน ๆ แบบนี้ ก่อนที่รอยยิ้มสวย ๆ จะผุดพรายขึ้นบนใบหน้าเฉี่ยวคมของเธอ “ขอบใจแกเหมือนกันที่ทนคบฉันมาตั้งเป็นสิบปี” แล้วเสียงหัวเราะของพวกเราก็ดังขึ้น เฮ้อ...พอได้ระบายอะไรออกมาค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย สองชั่วโมงต่อมา... “ค่าเหนื่อยวันนี้เลขาฯ ผมจัดการโอนเข้าบัญชีให้เรียบร้อยแล้วนะครับ” ผู้ว่าจ้างหรือเจ้าของงานโชว์รถในวันนี้ยืนคุยกับพวกฉันหลังจากที่เสร็จงานแล้ว “ขอบคุณนะคะ” ฉันกับยัยมินตรายกมือไหว้เตรียมจะกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า “เดี๋ยวพวกเราจะมีงานเลี้ยงเล็ก ๆ ที่ชั้นห้า ไปด้วยกันสิ” ฉันมองหน้าเพื่อนเพื่อขอความเห็น “ได้ค่ะ” ยัยมินเป็นฝ่ายตอบ “ดีเลยครับ เดี๋ยวอีกชั่วโมงเจอกันที่ร้านxxx นะ” พวกเรายิ้มพยักหน้าเป็นอันตกลง “พี่คะ” พอหันหลังจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็มีเสียงใส ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งรั้งพวกเราไว้ พอหันมามองเป็นนักศึกษาของมหาลัยแห่งหนึ่ง หน้าตาน่ารัก ดูผิวพรรณดี “ใช่พี่น้ำแข็งกับพี่มินตราใช่ไหมคะ” หือ? รู้จักพวกฉันด้วย “ใช่ค่ะ น้องรู้จักพวกพี่ด้วยเหรอคะ” ฉันถาม “หนูเป็นแฟนคลับพี่ในไอจีแล้วก็ทุกโซเชียลเลยค่ะ” ว้าว ดีใจจัง “วันนี้หนูขอถ่ายรูกับพวกพี่ ๆ ได้ไหมคะ” ฉันกับยัยมินมองหน้ากันเล็กน้อย “ได้สิคะ ไปตรงนู้นดีไหม วิวสวยดี” มินตราชี้ไปอีกทางที่มีซุ้มดอกไม้สดตั้งอยู่ “แก ๆ มาถ่ายรูปให้เค้าหน่อย” น้องคนเมื่อกี้กวักมือเรียกผู้ชายอีกคนที่หน้าตาค่อนข้างดีทีเดียว “ขอสวย ๆ นะ” ฉันยิ้มให้กับความน่ารักสดใสของน้องคนนี้ ก่อนจะจัดท่ายืนประกบน้องเขาโดยที่ฉันอยู่ฝั่งซ้ายและยัยมินอยู่ฝั่งขวาของน้องนักศึกษา แชะ! เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นหนึ่งครั้ง น้องคนที่มาขอถ่ายรูปรีบวิ่งไปดูรูปนั้นทันที “โหยยย ไม่สวยเลย แกถ่ายเค้าอ้วนเตี้ยอะ” เสียงกระเง้ากระงอดดังขึ้น ฉันมองหน้ายัยมินแล้วหลุดขำออกมาเบา ๆ ไม่ให้น้องเขาได้ยิน “ตัวเองตัวเล็กเอง ขาก็สั้นยังจะโทษคนถ่ายอีก” ผู้ชายที่รับหน้าที่ถ่ายรูปให้ยื่นมือไปหยิบกล้องมาแล้วเหมือนจะทำอะไรสักอย่าง “เนี่ย แค่นี้ก็สวยแล้ว” “ไม่เอาสิ เราไม่ใช้แอป” อ้อ ที่แท้ก็แต่งรูปนี่เอง “ไหนครับ มีอะไรให้ช่วยไหม” “พี่สายฟ้า” รู้สึกตกใจที่จู่ ๆ พี่สายฟ้าก็ปรากฏตัวขึ้น “เฮียดูยัยเตี้ยสิหาว่าผมถ่ายเธอไม่สวย” “อย่ามาว่าเค้าเตี้ยนะ แค่ส่วนสูงยังไม่มาย่ะ!” “ทะเลาะกันอีกแล้ว พรุ่งนี้จะถอนหมั้นกันไหม หืม?” ถอนหมั้น!? หมายความว่าน้องสองคนนี้เป็นแฟนกันงั้นเหรอ อา...อิจฉาเด็ก ๆ จัง “ไปยืนไป เดี๋ยวเฮียถ่ายให้” “ขอบคุณค่ะเฮียฟ้า” แล้วน้องผู้หญิงคนนั้นก็เดินกลับมายืนที่เดิม เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นรัว ๆ ราว ๆ ห้าหกภาพ “ไหนคะ ของกิ่งดูหน่อย” เธอวิ่งเข้าไปกระโดดแย่งกล้องจากพี่สายฟ้ามาดู สักพักก็ยิ้มแก้มปริ “นี่สินะมืออาชีพกับมือสมัครเล่น” “น้อย ๆ หน่อยยัยเตี้ย เสร็จยัง หนังจะฉายแล้วนะ” “เดี๋ยวสิ ยังไม่ได้ขอบคุณพี่ ๆ เขาเลย” น้องคนเดิมหันมาทางพวกฉันก่อนจะไหว้ขอบคุณแล้วเดินจากไป “คนรู้จักเหรอคะ” ฉันถามพี่สายฟ้าที่เดินเข้ามาหา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD