ไม่โปรดปราน:10

1438 Words
ใช้เวลาจัดการตัวเองประมาณสิบนาทีก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ทว่าเสื้อฉันมันเปียกแล้วก็บางมากเลยต้องใช้กระเป๋าสะพายมาปิดตรงส่วนหน้าอกไว้กันโป๊ “อ้าว! พี่สายฟ้า” ตกใจที่ออกมาจากห้องน้ำหญิงก็เห็นพี่สายฟ้ายืนอยู่เหมือนกำลังดักรอฉัน “นี่ครับ” เสื้อแจ็กเกตสีเทาเข้มถูกยื่นมาให้ “ขอบคุณค่ะ” ฉันรู้ความหมายดีเลยไม่ต้องซักถามว่าเขาเอามาให้ฉันทำไม รีบหยิบเสื้อตัวนั้นมาสวมทับเสื้อที่เปียกน้ำทันที “น้องมินรออยู่ด้านนู้น” เหมือนรู้ใจว่าฉันจะถามอะไรอีกคนเลยรีบเอ่ยบอกแล้วเดินนำทาง “กลับกันเลยไหม” พอมาถึงมินตรารีบเอ่ยถามเพราะวันนี้ฉันอาศัยรถเธอมา “อืม” ฉันพยักหน้าตอบแล้วหันไปมองพี่สายฟ้า “เดี๋ยวน้ำซักมาคืนนะคะ” “ไม่ต้องเกรงใจครับ เดี๋ยวพี่เดินไปส่งที่รถ” เป็นผู้ชายที่ทั้งหล่อและอบอุ่นจริง ๆ แต่น่าแปลกใจตรงที่จนป่านนี้พี่เขายังไม่มีแฟนสักคน ไม่รู้ว่ามีลับ ๆ หรือเปล่า แต่เท่าที่เรายังคงติดต่อกันอยู่ฉันไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ไหนโทร. หาเขาหรือแม้แต่ข้างกายเขาจะมีผู้หญิงเข้ามาพัวพันเลยสักคน “แป๊บนะ” กำลังเดินรั้งท้ายเพื่อน ๆ มือถือฉันก็สั่นขึ้น “ค่ะเฮียมาคส์” คุณแฟนสุดที่รักโทร. มาน่ะ [ออกมาหรือยัง] “กำลังลงไปชั้นจีค่ะ” รถยัยมินยอกอยู่ชั้นนั้นน่ะ [ไม่ต้องไปที่นั่น ฉันรออยู่ลายน้ำพุหน้าห้าง] “คะ? เฮียมาคส์มารับน้ำ?” [อืม รีบลงมาเลยฝนกำลังจะตก] อา...แอบมารับฉันก็ไม่บอกกันสักคำ ดีนะที่ยังไม่ออกจากห้างไม่งั้นคงคลาดกันไปแล้ว “เดี๋ยวน้ำบอกยัยมินกับพี่สายฟ้าก่อนนะคะ” ตัดสายอีกคนเสร็จจึงรีบเรียกทั้งสองคนที่เดินนำหน้าไปที่ประตูลิฟต์ “น้ำวานพี่สายฟ้าลงไปส่งยัยมินทีนะคะ พอดีเฮียมาคส์รออยู่ด้านล่างน่ะค่ะ” “อ้าว เฮียมาคส์มาเหรอ” ฉันพยักหน้าตอบเพื่อนสนิท “งั้นแกรีบไปเถอะ พี่สายฟ้าไม่ต้องไปส่งมินก็ได้ค่ะ เราแยกกันตรงนี้เลยแล้วกันจะได้ไม่เสียเวลา” ฉันเลิกคิ้วถามเธอทางสายตาว่าแน่ใจนะที่ตัดสินใจแบบนี้ “เอางั้นเหรอ” พี่สายฟ้าเลิกคิ้วมองฉันกับมินตราสลับกัน “ไม่ต้องคิดมากค่ะ นี่ในห้าง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก” ดูเพื่อนฉันพูดเข้าสิ ไม่รู้จักกลัวภัยรอบตัวเลย ติ๊ง! ก่อนที่จะได้ยื้อกันไปกันมา ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ยัยมินเลยรีบเข้าไปข้างในคนเดียวก่อนจะโบกมือลาพวกเรา “งั้นพี่เดินลงไปส่งเราแล้วกัน วันนี้พี่กลับแท็กซี่” “รถเสียเหรอคะ?” “เปล่าครับ พอดีตอนคุณยากิตะโทร. มาพี่กำลังเดินถ่ายวิวแถวนี้อยู่พอดี” อ้อ แบบนี้นี่เอง “งั้นเดี๋ยวน้ำให้เฮียมาคส์ไปส่งดีไหมคะ” “พี่ว่าอย่าเลยครับ เกรงใจแฟนเรา” พี่สายฟ้ายิ้มหล่อให้ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำฉันลงบันไดเลื่อนเพื่อนไปส่งที่หน้าห้าง ปี๊ด ๆ เสียงรถสปอร์ตคันหรูสีแดงเพลิงบีบแตรเรียกตอนที่ฉันกำลังมองหารถเขาอยู่พอดี “ไม่ให้น้ำไปส่งแน่นะคะ” ถามอีกคนที่อุตส่าห์เดินมาเป็นเพื่อให้แน่ใจ “ครับ พี่เดินไปสองช่วงตึกก็ถึงรถแล้ว” เอ้า! ไหนตอนแรกบอกจะกลับแท็กซี่ แต่ช่างเถอะ อากาศคงดี พี่สายฟ้าเลยอยากเดินกินลมถ่ายภาพธรรมชาติไปด้วยมั้ง “ไว้น้ำจะซักมาคืนนะคะ” ฉันจับชายเสื้อแจ็กเกตขึ้นสำทับคำพูด อีกคนเลยพยักหน้ายิ้มให้แล้วเป็นฝ่ายเดินจากไปก่อน ปึง! รีบวิ่งมาขึ้นรถเพราะกลัวอีกคนจะรอนาน “เสื้อใคร?” ทันทีที่ขึ้นรถเฮียมาคัสก็จ้องเสื้อแจ็กเกตบนตัวฉันด้วยสีหน้าราบเรียบ ทว่าแววตาเหมือนมีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ “พอดีน้ำซุ่มซ่ามทำน้ำส้มหกใส่เสื้อ พอไปล้างในห้องน้ำเสื้อมันเลยบาง พี่สายฟ้าเลยให้ยืมเสื้อมาคลุมค่ะ” ปากอธิบาย มือก็ยื่นไปดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาด ทว่า... หมับ! มือฉันถูกหยุดก่อนที่จะได้เสียบตัวเข็มขัดเข้าช่องเสียบ “ถอด” “คะ?” “ถอดเสื้อออกครับ” อา...ทำไมน้ำเสียงฟังแล้วดูเยือกเย็นแบบนี้นะ นี่เขาไม่พอใจอะไรอยู่งั้นเหรอ “จะถอดเองหรือให้ฉันถอด” สายตาเขาบ่งบอกว่ากำลังหงุดหงิดอย่างมากที่มีเสื้อตัวนี้อยู่บนตัว “ถ้าฉันถอด...มันอาจจะหลุดทั้งชุด” “น้ำถอดเองค่ะ” นี่ก็ขยันแกล้ง ใครจะบ้าให้เขาทำแบบนั้นกลางวันแสก ๆ กันเล่า เฮียมาคัสพาฉันมาส่งที่คอนโดฉันเองโดยที่ตลอดทางเขาไม่ชวนฉันคุยเลยสักคำ จนมาถึงคอนโดเขาก็เอาแต่จอกรถนิ่งไม่ยอมมองหน้าฉันด้วยซ้ำ “โกรธน้ำเหรอคะ” พอจะเดาอารมณ์เขาออกแหละ แต่ยังคิดไม่ตกว่าเขาโกรธเรื่องอะไร “คิดว่าไงครับ” แม้ท้ายประโยคจะมีหางเสียง แต่เส้นเสียงเขาแข็งประมาณหนึ่งเลย “อย่าคิดมากสิคะ พี่สายฟ้าก็แค่หวังดี” “ครับ หวังดี แต่ฉันไม่ชอบให้มีของผู้ชายคนอื่นมาอยู่บนตัวของรักของฉัน” เสียงเขาฟังดูกรุ่นโกรธ ทว่ามีเส้นเสียงของความอบอุ่นซ่อนอยู่ตรงคำว่า ‘ของรักของฉัน’ จนหัวใจดวงเล็ก ๆ ฉันเต้นตึกตัก ๆ แทบควบคุมไม่ได้ “หึงน้ำ?” “ไม่ให้หึงเราแล้วจะให้หึงใคร หืม?” แก้มฉันร้อนผะผ่าวเมื่อสายตาอีกคนจ้องมา เฮียมาคัสค่อย ๆ ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขา “จำไว้น้ำแข็ง เธอคือของรักของฉัน อย่าให้ใครแตะต้องเธอได้ นอกจากฉันคนเดียว” หน้าผากฉันอุ่นวาบขึ้นมาทันทีเมื่อริมฝีปากหยักลึกจู่โจมลงมาอย่างแผ่วเบา “ขึ้นห้องเถอะ ฉันยังต้องไปดูงานที่ไซต์งานอีก คืนนี้ดึก ๆ จะมาหานะ” เหมือนถูกมนตร์สะกดของอีกคน ฉันทำได้แค่พยักหน้าแล้วเดินลงมาจากรถหรูคันนั้น ยกมือขึ้นจับหน้าผากที่ยังมีความอุ่นจาง ๆ ให้รู้สึกได้อยู่ ยกมือกุมแก้มทั้งสองข้างเมื่อรู้สึกว่ามันร้อนมากโดยเฉพาะเวลคิดถึงประโยคนั้นของเขา ‘จำไว้น้ำแข็ง เธอคือของรักของฉัน อย่าให้ใครแตะต้องเธอได้ นอกจากฉันคนเดียว’ “คนบ้า! มาพูดให้เขินแล้วก็ชิ่งเนี่ยนะ” เหมือนฉันจะยังไม่ชินกับคำหวานของผู้ชายคนนี้สักเท่าไร ค่อย ๆ เดินไปกดลิฟต์เหมือนคนถูกสะกดจิต แบบนี้ต้องโทร. ไปเมาต์อวดพวกยัยมินตรากับบรรดาเจ๊ ๆ สักหน่อยแล้วละ [แหวะ อิจฉาคนมีฟามรัก] เสียงเจ๊สุ่ม [กำลังจะกินก๋วยเตี๋ยว สงสัยน้ำตาลไม่ต้องใส่แล้วละงานนี้] เจ๊บอลลูนเอาบ้าง [นี่ตั้งใจโทร. มาขิงให้พวกเราอิจฉากันว่างั้น] ยัยมินตราก็ไม่ไว้หน้าเพื่อนเลยนะยะ “ช่วยรับฟังหน่อยเถอะ หลัง ๆ เฮียมาคส์รุกหนักมาก น้ำยังไม่ค่อยชินน่ะ” พูดไปก็เขินไป [โอ๊ย หน้าแดงใหญ่แล้วลูกฉัน] [เจ๊สุ่ม เราควรต้องตัดชุดเพื่อนเจ้าสาวไว้รอไหมอะ] [เออ พูดถูก สงสัยคงต้องรีบตัดแล้วละ หวานไม่เกรงใจมดขนาดนี้] ดูพวกเจ๊ ๆ ฉันสิ แซวใหญ่เลย รู้งี้ไม่น่าโทร. มาเมาต์ให้พวกเธอฟังเลยจริง ๆ [แบบนี้พรุ่งนี้พวกเราคงไม่ได้ฉลองวันเกิดกันแล้วสิ] มินตราพูดเหมือนตัดพ้อ “ตายจริง!” ฉันอุทานขึ้นอย่างตกใจจนคนที่ประชุมสายกันอยู่ต่างมองตาขวาง [มดกันกีเหรอคะลูกขา ร้องซะตกใจเลย] เจ๊บอลลูนแขวะเข้าให้ “ขอโทษทีค่ะ น้ำลืมเรื่องสำคัญไปเลย” ฉันกับเฮียมาคัสเพิ่งคบกันได้แค่หกเดือน เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดฉัน แต่ฉันเป็นพวกขี้เผือกรู้ว่าเขาเกิดวันไหน นั่นคืออีกสามเดือนหลังจากนี้ [ลืมเรื่อง?] มินตราถามขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD