ในตอนแรกมันรู้สึกกลัวกับคำพูดของพี่ติณ แต่มันกลับมีอีกหนึ่งความคิดผุดเข้ามาในหัว ถ้าหากฉันทำให้พี่ติณละทิ้งความแค้นทั้งหมดได้ ฉันก็จะทำ
ถึงแม้พี่ติณจะไม่ยอมละทิ้งความแค้น แต่ถ้าเขารับปากว่าจะปล่อยรินไปจะเลิกหาเรื่องเฮียเหนือ ฉันก็ยอม
“พี่ติณถามหนูว่ามีอะไรมาแลก ต้องการแบบนั้นจริงๆ หรอคะ”
“หึ! ถามทำไม เธอกล้าแลกหรือไง”
“แล้วถ้าหนูบอกว่ายอมแลกละคะ” ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วถามต่อ “พี่ติณจะยอมปล่อยรินไป จะเลิกหาเรื่องเฮียเหนือใช่ไหมคะ”
“เธอยอม ?”
“…ตอบหนูมาสิคะ”
“เพราะอะไรถึงยอม ?” พี่ติณไม่ยอมตอบและตั้งคำถามกับฉัน
“เพราะเรื่องความแค้นของพี่ติณกับเฮียมันควรจะจบได้แล้วไงคะ”
ถึงฉันจะไม่ได้เจอพี่ติณเลยตลอดเวลาหลายปีมานี้ แต่ฉันก็พอรู้อยู่บ้างว่าพี่ติณพยายามหาเรื่องเฮียเหนือมาตลอด
“หึ! พูดง่ายดี ลองให้คนที่ตายเป็นพ่อของเธอดูไหม”
“…….” ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนห้อเลือด แววตาคู่นั้นของพี่ติณ เขาไม่ใช่คนเดิม ไม่ใช่พี่ชายที่อบอุ่นของฉันแล้วจริงๆ
พี่ติณก้าวขาเดินหน้า ทำให้ฉันต้องถอยหลังไปทีละก้าวๆ จนกระทั่งขามันชนเข้ากับขอบของโซฟา
“คิดว่าร่างกายของเธอมันจะลบล้างความผิดที่พ่อเธอกับพ่อไอ้เหนือทำไว้ได้หรือไง”
พูดจบพี่ติณก็ผลักตัวฉันให้นั่งลงบนโซฟา จากนั้นเขาก็กดตัวของฉันให้นอนราบ โดยที่ตัวเองขึ้นมาคร่อมบนตัวฉันไว้
ตึกตัก! ตึกตัก! ตอนนี้หัวใจของฉันมันเต้นรัวๆ เพราะความกลัว
ทั้งที่เรารู้จักและสนิทกันมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่ทำไมฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่คุ้นเคยกับผู้ชายตรงหน้าเอาซะเลย
“หนูรู้ค่ะว่าไม่สามารถทำให้พี่ติณเปลี่ยนใจเรื่องนั้นได้ หนูขอแค่ให้ปล่อยรินไปแล้วก็เลิกหาเรื่องเฮียเหนือก็ได้ค่ะ”
ใบหน้าคมคายโน้มมาใกล้ๆ หลังจากที่ฉันพูดจบ แววตาแข็งกร้าวคู่นั้นเอาแต่จ้องมองใบหน้าของฉัน มันยากที่จะคาดเดาฉันไม่สามารถรู้ได้เลยว่าพี่ติณกำลังคิดอะไรอยู่
“เธอยอมนอนกับฉันแลกกับความคิดโง่ๆ หึ! สิ้นคิดดี”
“…….”
“เธอจะรู้ได้ยังไงถ้าแลกไปแล้วฉันจะทำตามที่พูด ?”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นก็ใช้มือดันอกแกร่งออก แล้วพูด “หนูไม่แลกแล้วค่ะ หนูยอมแพ้แล้ว”
ฉันบอกอย่างถอดใจ มันคงไม่คุ้มหากสิ่งที่แลกไปมันไม่ได้อะไรกลับคืนมาเลย
เชื่อแล้วที่พ่อบอกมาตลอดว่าฉันไม่ควรตามหาพี่ติณ ไม่ควรอยากเจอเขาอีก ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อถึงย้ำกับฉันบ่อยๆ….
“ลุกขึ้นสิคะจะทับหนูไว้แบบนี้ทำไม พี่ติณอยากให้หนูกลับบ้าน อยากให้หนูไสหัวไปให้พ้นไม่ใช่หรือไง นี่ไงหนูกำลังจะกลับตามที่พี่ติณต้องการ แล้วหนูก็จะไม่โผล่หน้ามาให้เห็นอีกตามที่พี่ติณสั่ง”
ฉันพูดออกไปยาวเหยียดแล้วพยายามผลักพี่ติณออก แต่เขากลับนิ่งเอาแต่มองหน้าฉันอยู่แบบนั้น
“พี่ติณหนูบอกให้ลุกขึ้น อื้อ~”
เสียงของฉันขาดหายไปในลำคอเพราะจู่ๆ พี่ติณก็กดริมฝีปากลงมาบดขยี้ริมฝีปากของฉัน
บะ แบบนี้เรียกว่าจูบใช่ไหม ตอนนี้พี่ติณกำลังจูบฉันอย่างนั้นหรอ
ฉันตกใจสุดขีดพร้อมกับดวงตาที่เบิกกว้าง สมองเหมือนกำลังจะขาดออกซิเจนและเริ่มรู้สึกชาไปทั้งตัว
ริมฝีปากหนาค่อยๆ ปล่อยให้ริมฝากของฉันเป็นอิสระ สายตาคมกริบของพี่ติณในตอนนี้เอาแต่เพ่งมองริมฝีปากของฉันอยู่นาน ส่วนฉันก็นอนแน่นิ่งเหมือนหุ่นยนต์เพราะมันยังคงตกใจอยู่
“จูบก็ไม่เป็นยังคิดอยากจะแลก อ่อนหัด!” พูดจบพี่ติณก็ใช้ลิ้นสากตวัดเลียริมฝีปากของฉันเบาๆ หนึ่งครั้ง แล้วพูดต่อ “หรืออยากจะให้ฉันสอน ?”
“มะ ไม่ค่ะ หนูจะกลับบ้าน” พอได้สติฉันก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธและพยายามดิ้น “ปะ ปล่อยหนูนะ หนูจะกลับบ้านแล้ว”
“ฉันให้โอกาสเธอกลับไปแล้ว แต่เธอเลือกที่จะอยู่ท้าทายเองไม่ใช่หรือไง ?”