เกลียดคนยียวนกวนโอ้ยใส่

1169 Words
ตอนที่ 5 ทำให้เงยใบหน้าจ้องมองหล่อนตอบ เหมือนจะท้าทาย อีกครั้ง นามินีเองรู้สึกเดือดในใจ คนแปลกหน้าสำหรับหล่อน สำหรับวินท์ ถือว่าเป็นรสชาติแปลกๆที่ เขายังไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน ก็ เพิ่งมีหล่อนคนแรกที่กล้าหาญปากเก่งใส่กับเขาคนแรก ทำให้เขาอยากจะตอบโต้กลับไป เพื่อเอาคืนบ้าง เพราะแม่ค้าสาวสวยปากจัดคนนี้ ก็น่าเล่นด้วย ไม่น้อยเหลือเกิน “นี่ปากจัดจริงๆนะแม่ค้า เฮอะ เมื่อตอนเย็นนี้ เธอกินข้าวกับอะไรล่ะ แหม ถึงได้ดุ เหมือนหมาเฝ้าบ้าน” เขาเปิดฉากว่าใส่หล่อน ทำให้นามินีอึ้ง ที่ถูกผู้ชายตัวสูงว่ากล่าวใส่หน้าอย่างนั้น เลือดจึงร้อนที่ใบหน้าทีเดียว ผุดสีเข้มแดง จ้องสายตาเขาเขม็ง “นาย นาย คนแปลกหน้า เกกมะเหรกเหมือนอันธพาล” “เอ อันธพาลเหรอไม่มั้ง ไม่ถึงขนาดขั้นนั้นหรอก ผมสุภาพจะตาย” เขาเอ่ยยวนยั่ว “แต่ว่า นะ สนใจไหมล่ะ ผมมีข้อเสนอ มาให้ด้วยนะ แม่ค้าคนสวย ขายของอย่างนี้ แค่พวงมาลัยริมทางนี่เอง ฮึ คงได้เงินน้อยไปใช่ไหม? เอ จะได้สักเท่าไหร่กัน เชียว ร้อยสองร้อย จะพอหรือเปล่า อุตส่าห์อดตาหลับขับตานอน มันคุ้มกันไหมเธอ” เขายียวนใส่หล่อน พร้อมกับนัยน์ตาเจ้าเล่ห์ ที่นามินีรู้ทัน เพราะเด็กสาวนั้นจับจ้องสายตาอยู่ตลอด เขาทำปากขมุบขมิบกลอกตาไปมา คล้ายกับมองหล่อนเหมือนเป็นผู้หญิงราคาถูกคนหนึ่ง นังไม่รู้จักฤทธิ์ของหนูนา นามินีเสียแล้ว “เอ ผมขอเสนอนะ ถ้าไปทำอย่างอื่น ที่มากกว่านั้น ผมว่า มันน่าจะเวิร์คมากกว่า เช่นเป็นต้นว่า ไปเป็น น้องหนูในตู้กระจก หรือไซด์ไลน์ อย่างที่เขานิยมกันเกร่อ สมัยนี้ มันคุ้มนะ กับรายได้ที่มากโข และมาก มากกว่าที่เธอจะมาทนนั่งหลังขดหลังแข็ง ร้อยพวงมาลัยขาย เป็นร้อยๆเท่าเลยล่ะ แค่เสียเวลาไม่นาน อาจจะชั่วโมงเดียว ” คำพูดของเขาส่อเจตนา หยาบคายด้วยซ้ำ และทำให้นามินี รู้สึกสั่นเทิ้มไปทั้งตัวเลยทีเดีย มีหรือจะไม่เข้าใจ กับความหมายของสายตาคมกริบ ที่มายวนยั่วเอ่ยใส่อย่างเจ็บแปลบ ไม่ต้องเดา หล่อนก็พอรู้ว่าเป็นงานอะไร ฮึ พวงแก้มเธอจึงมีสีเข้มจัดด้วยความโกรธ เดือดในใจ กับปากไม่มีหูรูดของ ชายหนุ่มแปลกหน้า จนอยากจะลุกเดินเข้าไปตบหน้าลูกค้าไร้มารยาทคนนี้ให้ถึงตัว เสียเดี๋ยวนี้เลย นอกจากจะไร้มารยาท อย่างที่สุด เขายังจะไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ และ ปากคอ ดูช่างเราะร้ายอีกต่างหาก “นี่คุณคะหากคุณนึกว่าตัวเองนั้นมีเงินเป็นฟ่อน มากมายนักหนา หรือพิมพ์เองได้ แล้วคิดจะเอามา ฟาดใส่หน้าใครง่ายๆแบบนี้เชิญไปข้างหน้าเถอะค่ะ เพราะคุณดูถูกหมิ่นเกียรติลูกผู้หญิงอย่างฉันมากเกินไปแล้ว ประสาท” หล่อนค่อนใส่เขาอย่างหน้าตึงเอาเรื่อง พร้อมกับตอบโต้ประชด เพราะเขามองหล่อนในแง่ลบ “ฮึแล้วช่วยกรุณาออกไปจากบริเวณนี้เลยนะ คุณรีบไปเลย เพราะไม่อย่างงั้นแล้ว ฮึ ฉันจะแจ้งความกับตำรวจแน่ ว่าคุณเป็นไอ้โรคจิต คิดแต๊ะอั๋ง พูดจาหยาบคาย ฉันจะไปบอกกับตำรวจที่โรงพักเดี่๋ยวนี้เลย” เธอออกปากขู่และมีน้ำเสียงเข้มจัดและดวงตาลุกวาวใส่ เพราะนามินี หล่อนเป็นคนที่ไม่คิด จะยอมแพ้ใครง่ายๆ ถ้าหล่อนไม่ได้เป็นฝ่ายผิดละก็ หล่อนจะสู้ให้ถึงที่สุด และ จะไม่เป็นฝ่ายรุกรานใครก่อน แต่สีหน้าของฝ่ายตรงกันข้ามวินท์นั้นบ่งว่าเขานั้นทั้งไม่ยี่หระ และไม่เกรงกลัวสักนิดวางสีหน้าราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้นามินีคิดว่าผู้ชายคนนี้ช่างน่าอันตรายกับตัวเองยิ่งนัก เพราะนามินีพบเจอ ผู้ชายประเภทหน้าด้านหน้าทน และหล่อนพยายามควบคุมสติของตัวเอง หากแต่ว่า เขานั้นกลับมุ่งเดินเข้าหาหล่อน พร้อมด้วยรอยยิ้มจุดที่มุมปาก เขาแสยะยิ้มใส่ พร้อมกับมองจ้องหล่อนอย่างท้าทาย “เฮอะ จะโทร. ไปแจ้งตำรวจหรือทำมาขู่ฉัน ฉันไม่กลัวหรอกนะ ไอ้เรื่องแจ้งความกับ ตำรวจ เพราะแค่ไปโรงพัก แล้วก็เสียเงินนิดหน่อยเท่านั้นเอง ก็จบ จิ๊บจ๊อยที่สุด ส.บ.ม.” นามินีรู้สึกหวั่นกลัว อีกฝ่ายเป็นเพศตรงกันข้าม ถ้าเขาคิดจะคุกคามต่อเธอ แต่สีหน้าเธอก็จ้องประสานสู้อย่างไม่ยอมวางตา “เอ้อ แล้วเป็นไงครับ คนอย่างผมเนี่ย หน้าตาผมหล่อมากมั๊ย คุณถึงได้จ้องเอาเห็นจ้องเอาตั้งนานแล้ว แน่ะ แฮ่ แอบหลงชอบผมเข้าแล้วใช่ไหม?” “ บ้า หลงตัวเอง ฉันแทบจะกินเลือดกินเนื้อของคุณด้วยซ้ำไป ฮึ มาบอกว่าฉันพิศวาส อุแหวะ” แล้วหล่อนค่อนใส่ด่าประชดอีกครั้งเพราะเขาเป็นฝ่ายคุกคามหล่อน “ฉันว่า ตอนนี้ เชิญคุณไปส่องกระจกดูตัวเองให้ดีก่อนเถอะ ต่อให้หล่อมากกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่า ก็ตามเถอะ คนอย่างฉันก็ไม่หลงกลคุณง่ายๆหรอกนะ และนี่ ฉันกำลังทำมาหากินอยู่ ไม่มีเวลาว่าง ที่จะพูดเรื่องไร้สาระกับคุณ เฮอะ แต่ว่างนัก ถ้าเป็นโรคเจ้าชู้ที่มันแล่นปรู๊ดขึ้นสมองของคุณอย่างนี้ละก็ มีวิธีเดียวล่ะ ที่ฉันอยากจะแนะนำ คุณก็ คือไปหาเอา แถวพัฒน์พงษ์ มีให้บริการเยอะแยะ ” วินท์อึ้งขืนไปแถวนั้นก็เอดส์นะสิ ยัยเด็กบ้า หล่อนว่าเขาได้แสบสันยิ่งนัก ท่าทางของเธอเองก็ไม่ได้แสดงความเกรงกลัวเขา ออกมาแม้แต่เพียงนิด นี่ ใจเต็มร้อยหรือเปล่า กล้าหาญชาญชัยเสียจริงนะแม่คุณ มากกว่าผู้ชายเสียอีก นอกจากฤทธิ์เดชมากอย่างนี้ เขาหรี่ดวงตามอง ไม่โกรธ หากแต่กลับยิ้มให้ ซึ่งตอนนี้ นามินีได้แค่นึกภาวนา ขอให้ลุงกับป้าของหล่อนรีบเดินมาถึงร้านไวๆ ด้วยเถอะเพราะจะได้รีบช่วยกันจัดการ กับหนุ่มนักเที่ยว อันธพาลอย่างนี้ออกไป “โอ้โฮ นี่ช่างเป็นการแนะนำที่ดีมากครับ แต่ เอ๊ คงไม่ต้องแนะนำอีกหรอก เพราะว่าแถวนั้นฉันไปมาแล้ว และออกจะบ่อย แล้วก็บ่อยจนมันน่าเบื่อแล้วล่ะ แต่ว่าไอ้แถวนี้ตรงนี้นี่สิ ฉันไม่เคยมาเที่ยวเลย ก็ เลยนึกอยากจะเที่ยวดูสักคืน ว่ายังไงล่ะจ้ะ” เขาชี้มือมาที่บริเวณนี้ พร้อมทั้งคำพูดที่แฝงนัยปริศนาทำให้หล่อนคิดตาม และรู้สึก หายใจหายคอไม่ดีสักเท่าไหร่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD