พอสมิงโทรบอกเจอชลินดาแล้วเขาก็รีบมาหาคนสนิทตัวเองทันที พอมาถึงเขาก็เห็นเธอดูมีความสุขกับชีวิตวัยรุ่นเสียจริง อยากรู้จริงๆ ว่าสองวันที่ผ่านมาเธอคิดถึงเขาบ้างไหม
“สมิงแกไปทำยังไงก็ได้ให้เพื่อนของปิ่นแยกตัวออกไปจากเธอ แล้วฉันจะพาปิ่นกลับบ้านด้วย”
“ห๊า! พูดน่ะมันง่ายทำน่ะมันยาก” สมิงกุมขยับด้วยความปวดหัวกับความเอาแต่ใจของเพื่อนเหลือเกิน
“ไม่รู้แหละแกเป็นเพื่อนฉัน แกไม่อยากให้ฉันมีเมียเหรอ”
“ได้ฉันจัดให้” ว่าแล้วก็ลงจากรถไปจัดการเพื่อนของชลินดา
ขุนพลนั่งมองเพื่อนรักไปจัดการ ไม่รู้หรอกว่าเพื่อนมีแผนอะไร แต่ผลที่ได้ต้องถูกใจเขา
ด้านสมิงเดินลงจากรถก็ไปซื้อดอกกุหลาบจากร้านข้างทาง แล้วถือติดตัวเดินเข้าไปในร้าน พร้อมกับมอบดอกไม้ให้เพื่อนของชลินดา
“สาวน้อยฉันให้เธอ”
มิราตีมองผู้ชายที่ให้ดอกไม้ตนด้วยความตะลึง
‘อร้ายยยยยหล่ออะไรเบอร์นั้นพ่อคุณ ถึงจะดูแก่ไปก็เถอะ แต่หล่อให้อภัย คิกคิก’
เธอกรีดร้องในใจ ก่อนจะรับดอกไม้จากชายแปลกหน้ามาด้วยความเขินอาย
ชลินดาจำได้ว่าผู้ชายที่เอาดอกไม้ให้เพื่อนรักตนนั้นเป็นใคร
“คุณ!....”
“สวัสดีหนูปิ่น” สมิงเอ่ยทักอย่างสนิทสนม
“ปิ่นแกรู้จักพี่คนนี้ด้วยเหรอ” ถามเพื่อนด้วยความอยากรู้
“อืม! เราไปกันเถอะปิ่น อย่าไปคุยกับเขาเลย” ว่าแล้วก็รีบฉุดดึงเพื่อนให้เดินตามตนออกไปจากร้าน
“เฮ้ย! รอพี่ด้วยสิ” สมิงวิ่งตามสองสาวไปด้วยความร้อนรน
“นั้นสิแก นานๆ ทีจะมีผู้ชายหล่อๆ มาให้ดอกไม้ฉัน ฉันอยากคุยกับพี่เขาก่อน แกกลับไปก่อนเถอะนะ” มิราตีสะบัดมือตนออกจากมือเพื่อน
“อยากรู้จักก็รู้จักคนเดียวเถอะ ฉันกลับไปรที่บ้านแล้วกันนะ” ว่าแล้วก็เดินเข้าซอยไปคนเดียว เหลือทิ้งไว้แต่มิราตีกับสมิง
‘กูจะบ้าตาย เด็กอะไรแก่แดด ไม่น่าใช้วิธีนี้เลยกู’
สมิงครวญในใจ ก่อนจะยิ้มให้สาวน้อยแล้วชวนกลับไปนั่งกินนมปั่นในร้านต่อ
“สวัสดีค่ะพี่ พี่ชื่ออะไรคะขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ หนูชื่อมินะคะ” มิราตีพูดด้วยความตื่นเต้น
“พี่ชื่อสมิง ยินดีที่ได้รู้จักสาวน้อย” ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนบ้าก็คงไม่มาทำอะไรแบบนี้หรอก เด็กแบบนี้ใครจะไปยิ้มหวานให้ลง แต่ก็ฝืนๆ ไปก่อนเถอะ แค่วันนี้วันเดียวเองสมิง
ขุนพลเห็นทุกการกระทำของเพื่อนรักแล้วก็อดขำไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าสมิงจะใช้วิธีนี้ แบบนี้ต้องขึ้นเงินเดือนให้เสียแล้ว ว่าแล้วก็รีบขับรถตามคนตัวเล็กที่เดินเข้าซอยไป เมื่อขับตามทันก็รีบขับรถไปปาดหน้าสาวเจ้าทันที
เอี๊ยด!!!!
กรี๊ดดดดดดดดดด
“ทำไมกลัวตายเป็นด้วยเหรอ” ขุนพลเปิดประตูออกมาพร้อมกับสุนัขในปาก
“คุณ!...”
“ทำไม พูดไม่ออกเลยสิ คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอปิ่น เป็นเมียฉันแล้วก็ต้องเป็นตลอดสิ” ว่าแล้วก็เดินไปฉุดกระชากร่างเล็กให้ขึ้นรถไปกับตน
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย” ชลินดาทั้งดิ้นทั้งร้องขอให้คนช่วย แต่โชคไม่เข้าข้างเธอเลยไม่มีใครผ่านมา
“ร้องให้ใครช่วยกันสาวน้อย ใครเขาจะกล้ามายุ่งเรื่องผัวๆ เมียๆ หึหึ” ว่าแล้วก็ปิดประตูรถแรงๆ เมื่อจัดการกับเด็กดื้อได้แล้ว ส่วนตัวเขาก็รีบวิ่งไปทางคนขับ เมื่อรัดเข็มขัดให้ตนและหญิงสาวเสร็จก็รีบขับรถออกไปจากตรงนี้ทันที
“ฮือๆๆ คุณจะทำอะไรฉันอีก ที่ผ่านมามันยังไม่พออีกเหรอ ฮือๆ คนใจร้าย” สาวเจ้าเอาแต่ร้องไห้ทุบแขนคนที่ลักพาตัวเองมา
“ทุบให้พอเลยเมียรักของฉัน จะร้องไห้จนเป็นลมหรือร้องไห้จนตายเธอก็หนีไม่พ้นฉันหรอก รู้ไว้ด้วยเป็นเมียฉันแล้วรอดยาก ที่สำคัญยิ่งเกลียดฉันมากเท่าไหร่เธอก็จะเจ็บตัวมากเท่านั้นนะสาวน้อย หึหึ”
“ฉันไปทำอะไรไว้ให้คุณ ทำไมถึงต้องเป็นฉัน ทำไมต้องมาทำแบบนี้กับฉัน ฮือๆๆๆ” ชลินดาปิดหน้าร้องไห้อย่างคนเสียสติ เมื่อคิดว่าอนาคตที่ฝันไว้คงจบลงแล้ว จบทุกอย่างเพราะผู้ชายสารเลวคนนี้
“ไม่ได้ทำ แต่ฉันอยากทำเธอมีปัญหาอะไรไหม คนอย่างขุนพลอยากได้ก็ต้องได้จำใส่หัวใสๆ เธอไว้ด้วย”
“ฮือๆๆๆๆ” ชลินดาไม่ตอบโต้อะไรแล้ว เธอเหนื่อยเธอเพลีย ไม่รู้ทำเวรทำกรรมอะไรไว้ถึงต้องมาเจอผู้ซาตานร้ายอย่างเขาด้วย ไม่รู้ผุดมาจากนรกขุมไหนกันแน่นถึงมาทำร้ายตน
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบเขาก็เงียบเหมือนกัน เวลาผ่านไปไม่นานขุนพลก็พาชลินดามาถึงบ้านตน
“ลงไป! ” สั่งเสียงแข็ง ก่อนจะตัวเขาจะลงไปรอท่า
“บอกให้ลงมาไง” เมื่อรอเท่าไหร่เด็กน้อยก็ไม่ลงมาสักทีก็เริ่มหงุดหงิดอีกแล้ว จนต้องมาเปิดประตูแล้วกระชากร่างเล็กลงมาจากรถ จนเธอเสียหลักล้มไปกับพื้น
“โอ้ย! เจ็บนะคุณ! ” ชลินดาเงยหน้ามองคนทำด้วยความเครียดแค้น
“เจ็บสิดีจะได้จำว่าครั้งหน้าอย่าดื้อกับฉัน”
“ว้ายยยยยคุณพลของป้าเพ็ญทำไมทำกับคุณหนน้อยแบบนั้นคะ” ป้าเพ็ญทีวิ่งออกมาทันเห็นเหตุการณ์ก็รีบวิ่งมาประครองร่างเล็กขึ้นทันที
“ป้าเพ็ญพาเธอเข้าไปพบผมที่ห้องทำงานด้วย ผมไม่ชอบรออะไรนานๆ ป้าน่าจะรู้นะครับ” ว่าแล้วก็เดินจากไป
“ปิ่นจะกลับบ้านค่ะคุณป้า ปิ่นไม่ไป” เมื่อเหลือกันลำพังสาวเจ้าก็เอ่ยขึ้น
“ไม่ได้นะคุณหนูน้อย จะไปสภาพแบบนี้คุณพ่อคุณแม่ก็เป็นห่วงเอาหรอก เข้าไปล้างหน้าล้างตาในบ้านก่อนนะคะ” ป้าเพ็ญยกเหตุผล
ใช่เธอลืมคิดข้อนี้ไปเลย ถ้าไปในสภาพนี้พ่อกับแม่ต้องสงสัยแน่ๆ
“ก็ได้ค่ะป้า ขอบคุณที่ช่วยหนูนะคะ”
“ป้าว่าเข้าไปหาคุณพลก่อนดีกว่านะคะ ถ้าช้ากว่านี้ป้าซวยแน่ๆ เลยค่ะ”
“หนูไม่อยากไปเลยคุณป้า หนูกลัวเขา”
“ไปเถอะนะคะ สงสารป้าเถอะถ้าหนูไม่ไปป้าตายแน่ๆ เลยค่ะ”
“ก็ได้ค่ะคุณป้า” ว่าแล้วก็เดินตามแม่บ้านไปยังห้องทำงานของคนซาตานร้าย
“ป้าส่งแค่นี้นะคะ คุณเข้าไปเถอะ” เมื่อพามาถึงหน้าห้องแล้วนางก็เดินจากไปทิ้งเหลือแต่ชลินดาที่สองจิตสองใจจะเปิดเข้าไปดีไหม แต่สุดท้ายก็เปิดเข้าไป
“เธอมาช้า” เจ้าของห้องพูดพร้อมกับเดินมาล็อคประตูห้อง แล้วจับร่างเล็กมายืนกลางห้องทำงานของตน
ชลินดายืนตัวง้ออยู่กลางห้องด้วยความกลัว ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรกับตัวเอง แล้วก็สงสัยได้ไม่นานเมื่อ
ว้ายยยยย
ขุนพลกระชากชุดเดรสของคนตัวเล็กขาดออกเป็นสองชิ้น จนเธอเหลือชุดชั้นในติดตัว